I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 256 เซ็นชื่อ
บทที่256 เซ็นชื่อ
“ปัญหาหรอ?เรื่องอะไรหละ?”
ฉินชูหยีที่ถูกหลินเฉิงจับไหลไว้กำลังจะไปทำอาหารในครัวหยุดและถามเขาอย่างสงสัย
หลินเฉิงคิดอยู่สักแปปก่อนที่จะถามออกไป“ป้าบอกว่าครั้งแรกที่เจอฉางเหวินฉวน ป้ารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้องใช่ไหมครับ?”
หลินเฉิงพูดยืนยันอีกครั้งป้าฉินไม่อยากตอบออกมา แต่เธอก็ไม่อยากปล่อยไปทั้งๆ แบบนี้ เธอพยักหน้าและบอก “ใช่แล้ว! มันเหมือนกับถูกจ้องมองโดยงูอสรพิษ ป้าไม่สบายใจมากๆเลย…”
“เธอก็ไม่ทำอะไรกับเรื่องนี้อยุ่แล้วหนิ!ฉันเป็นคนที่ติดต่อกับฉางเหวินฉวนมากกว่าเธอ ฉันไม่เห็นจะรู้สึกแบบนั้นเลย?” เห็นฉินชูหยีตอบแบบนั้น หลินเฉิงกำลังจะตอบอะไรบางอย่าง แต่หลีเฉิงหยีที่นั่งเงียบอยู่นานก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงก่อนที่จะพูดสิ่งที่เขาคิดออกมา
“หลีแกจะเอาอีกหรอ?”
แม้ว่าเขาจะทำตัวเยือกเย็นแต่ฉินชูหยีก็มองกลับมาด้วยสายตาอันแฝงไปด้วยความโกรธพับแขนเสื้อขึ้น ตั้งท่าต่อสู้!
“ก็ได้ก็ได้! ถ้าเธอไม่แครความรู้สึกของฉัน อย่างน้อยก็ช่วยนึกถึงความรู้สึกของเสี่ยวเดียหน่อยก็ได้?”
เมื่อเห็นทั้งสองคนทำท่าจะสู้กันอีกแต่ก็เลิกลากันไปหัวของหลินเฉิงแทบจะระเบิดแต่ก็ยังไม่ระเบิดมันเป็นอย่างไร เขาได้แค่ขอบคุณ
ตอนนี้หลินเฉิงไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะถามป้าฉินเกียวกับความสามารถในการทำนายของป้าเขาดันป้ากลับไปยังห้องครัวให้เธอใจเย็นลงก่อน เขาจึงหันกลับมาหาหลีเฉิงหยีด้วยรอยยิ้มแห้งๆ เมื่อเขาเห็นรอยยิมแห้งๆของหลินเฉิงและความลำบากใจของหยูซาน หลีเฉิงหยีที่กลับมาจากความโกรธแล้วก็ยิ้มกลับไป เขาจะขอตัวไปทำอย่างอื่นแล้ว
เมือเห็นหลีเฉิงหยีกำลังจะเดินออกไปหลินเฉิงก็ห้ามไว้
“ลุงลีอย่าไปไหนก่อน! เรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว ผมจะพูดตรงๆ นะครับ!”
หลีเฉิงหยีถูกห้ามเอาไว้ก็ตกลึงสักแปปเขาไม่รู้จริงๆ ว่าหลานของเขาจะพูดเรื่องอะไร อย่างไรก็ตามก่อนที่หลินเฉิงจะได้พูดต่อ เขาก็ส่ายหัวและนั่งกลับไป
“ผมจะไม่ถามต่่อเรื่องความขัดแย้งของลุงกับป้าเรื่องฉางหวินฉวนแล้วนะผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เท่าไร และก็ไม่มีอะไรให้ผมพูดด้วย….อย่างไรก็ตามถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเสียก่อน ผมก็ต้องอยู่ที่นี่สักพักผมต้องเข้าใจเรื่องพวกนี้ให้มากกว่านี้ เรื่องอิธิพลของฉางเหวินฉวนในฐานทัพทะเลน้ำเงินแห่งนี้…”
หลีเฉิงหยีพยักหน้าเข้าใจ“มันก็จริง เธอต้องอยู่ในที่แห่งนี้ต่อไปในอนาคต เธอต้องตามเหตุการภายในให้ทันจริงๆ นั้นแหละ ถ้ามีคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี่ถามลุงได้เลย ลุงจะบอกทุกอย่างที่ลุงรู้ให้เลย!”
หลินเฉิงยิ้มและพูด“ ของคุณครับลงุหลี อย่างแรก! บอกผมมาก่อนว่าพลังของฉางเหวินฉวนคืออะไร? เป็นถึงรองผู้บังคับบัญชาของฐานทัพและเป็นผู้บังคับบัญชาของกองพันที่หนึ่ง นำคนที่มีความสามารถไปออกทะเลมาแล้วหลายครั้งและกลับมาอย่างประสบความสำเร็จ พลังที่ตื่นขึ้นมาในตัวของเขาคงจะยิ่งใหญ่มากเลยสิครับ ใช่ไหม?” ไอลีนโนเวล
หลีเฉิงหยีส่ายหน้า“เอาจริงๆ นะ ฉันก็ไม่รู้ว่าเขามีพลังอะไรและก็ไม่น่าจะมีใครเคยรู้! ทั้งฐานทัพรวมถึงคนที่ออกทะเลไปกับเขาไม่รู้เรื่องนี้มาก…แต่สิ่งที่ทุกครู้คือมันแข็งแกร่งมากแม้ว่าคนที่มีพลังเกียวกับร่างกายและความเร็วก็ไม่สามารถชนะเขาได้ในการต่อสู้ระยะประชิด ลุงว่าพลังของเขาน่าจะเป็นเรื่องการต่อสู้นี่แหละนะ….” หลินเฉิงได้ยินก็ได้แต่ขมวดคิ้วแม้ว่าเหวินฉวนจะอยู่ในฐานทัพนี้มานานแสนนานแต่ก็ไม่มีใครเคยรู้ถึงพลังของเขาจนถึงตอนนี้ แม้ว่าหลีเฉิงหยีจะเดาไว้ว่าเป็นพลังความแข็งแแรงแต่หลินเฉิงก็ไม่คิดแบบนั้นเลย!
หลินเฉิงที่เคยพบเจอพลังหลายรูปแบบมากกว่าเขาเข้าใจถึงพลังอันแปลกประหลาดนั้นได้บ้าง แต่ก็มีอย่างหนึ่งที่ยากจะเข้าใจ ร่างกายาเปล่าๆ ที่ใช่แค่การเสริมพลังจากความสามารถที่ตื่นขึ้นมานั้นไม่น่าจะแข็งแกร่งขนาดนั้นได้
เหตุผลนั้นง่ายนิดเดียวอิทธิพลของพลังประเภทนี้ในการสู้รบและทำสงครามนั้นมีขีดจำกัด มันอาจจะแข็งแกร่งมากถ้าเป็นการต่อสู้ด้วยตัวคนเดียว แต่มันกระจอกมากเมื่อสู้กันแบบยิ่งใหญ่กว้างขวาง!
และฉางเหวินฉวนสามารถนั่งอยู่บนบัลลังเฉยๆในตำแหน่งรองผู้บังคับบัญชา และออกมาต่อสู้เมื่อมีคนมาท้าอย่างเดียวก็คงเป็นไปไม่ได้! หลีเฉิงหยีให้ข้อมูลได้เพียงเท่านี้แหละกำลังจะถามกลับไปบ้างแต่ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา!
“กำลังไปครับ!”
หลีเฉิงหยีเลิกคิ้วขึ้นและตอบกลับไปสองครั้งเขายืนอยู่หน้าประตูและกำลังจะเปิดมัน
“ท่านรัฐมนตรีเฉินนี้เอง!เข้ามาเลยครับ!”
หลีเฉิงหยีเห็นชายที่อยู่ข้างนอกเฉินฟู รัฐมนตรีฝ่ายทรัพยากณ์ ที่นำกระเป๋ามาด้วยใบหนึ่ง เขากำลังเช็ดเหงื่อด้วยผ้าเช็ดหน้าอยู่ข้างนอก ก็รีบเปิดประตูให้
“ผมขอโทษด้วยรัฐมนตรีหลี ผมไล่ชายคนนั้นออกไปแล้วผมไม่รู้มาก่อนเลย ผมอยากให้เขามาขอโทษคุณด้วย แต่ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าคุณอาจจะไม่อยากเจอหน้าเขา ผมขอให้เขาเก็บที่นอนและออกไป โปรดเข้าใจด้วยครับ”
เฉินฟูขอโทษขอโพยใหญ่และทำท่าจะพูดต่อ ได้ยินแบบนั้นหลีเฉิงหนียิ่งห้ามเขาเข้าไปใหญ่“ย.ยะ..อย่า อย่า! ทำอย่างนั้นเลยครับไม่ว่าเขาอยู่แผนกไหนก็ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกครับ รัฐมนตรีเฉินไม่ต้องคิดมาไปครับ ผมพอใจแล้วมานั่งคุยกันก่อนดีกว่าครับ นั่งลงเลย! ”
หลีเฉิงหยีไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนั้นแล้วได้ยินคำตอบแบบนี้เฉินฟูก็เข้าใจแต่เข้าก็ยังไม่กล้าที่จะทำอะไรต่อ หลังจากที่เขานั่งลงเขาก็มองไปยังรอบๆ
“ผู้บังคับบัญชาไม่ได้อยู่ด้วยใช่ไหม?”
“ไอหนุ่มเหวินฉวนพึ่งออกไปเอง..”
เฉินฟูถามอย่างกังวลหลีเฉิงหยีก็ตอบด้วยรอยยิ้ม
“งั้นก็ดี…”
ได้ยินคำตอบขอหลีเฉิงหยีว่าฉางเหวินฉวนไม่อยู่แล้วเขาก็ใจเย็นลงอดที่จจะดื่มน้ำดับกระหายไม่ได้ เขาหยิบเอกสารออกมาจะกระเป๋าและวางมันลงบนโต๊ะน้ำชาย “นั้นคงเป็นหลานของท่านใช่ไหม่?รูปหล่อแข็งแรงกำยำ! มานี้เลยพ่อหนุ่มเซ็นตรงนี้แล้วบ้านก็จะเป็นของพ่อหนุ่มเลย!”
หลังจากที่แจกแจงเอกสารเฉินฟูก็ยื่นปากกาให้เขาชื่นชมหลินเฉิงอยูสักพักแล้วใช่ปากกาชี้ไปยังช่องว่างๆ ที่หลินเฉิงต้องเซ็น
ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็พยักหน้าเข้าใจมองไปยังหลีเฉิงหยีเขาก็มองกลับมา หลินเฉิงก็จิ้มปากกาลงไปและเซ็นชื่อของเขาลงไปบนกระดาษนั้นในทันที
หลังจากที่เซ็นเสร็จอย่างรวดเร็วเฉินฟู ก็แยกเอกสารเป็นสองส่วนส่วนนึ่งใส่กระเป๋ากลับไปอีกส่วนหนึ่งวางไว้ให้หลินเฉิง “เก็บเอกสารนี้ไว้ ถ้าอยากจะโอนย้ายในอนาคตสิ่งนี้จะขาดไม่ได้!”
เฉินฟูยืนตรงขึ้นและบอกลาหลังจากเก็บของเสร็จเหมือนกับเขาไม่อยากจะอยู่ที่นี่แม้แต่วินาทีเดียว!
———————