I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 268 สถานการณ์ของ ฟาง ชิวเฉิง!
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 268 สถานการณ์ของ ฟาง ชิวเฉิง!
ง!
“แน่นอนนายควรได้รับมัน!”
เธอไม่ใส่ใจท่าทีของเขาอะไรมากมายนักเธอนึกถึงเรื่องราวการต่อสู้ของเขากับเธอ “พลังควบคุมน้ำแข็งของนายนั้นเก่งกาจมาก! แม้ว่าฉันจะยังไม่ได้ใช้พลังของตัวฉันเองเลย แต่ฉันก็รู้ว่ามันยากที่จะต่อกรกับนายแม้ว่าฉันจะสู้อย่างสุดความสามารถแล้วก็ตาม! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมศาสตราจารย์ ฟางชิวเฉิง ต้องขอความช่วยเหลือจากนาย….”
“ฟางชิวเฉิง?”
ได้ยินชื่อนี้หลินเฉิงก็ยกคิ้วขึ้นและถามกลับไป“เธอรู้จักกับตาแก่นั้นขนาดไหนเนีย?”
“ไม่เลย….”
ชูฉิงส่ายหน้า“ฉันรู้จักเขาแต่เขาไม่รู้จักฉันหรอก! ศาสตราจารย์ฟางชิวเฉิงรู้จักกันไปทั่วในหมู่นักชีวะวิทยาของประเทศจีน หรือ แม้แต่บนโลกใบนี้ คนที่ไม่สนใจเรื่องพวกนี้ยังคุ้นชินกับการได้ยินชื่อของเขาเลย! ไม่ใช่แค่นั้นนะ ศาสตราจารย์ฟางชิวเฉิง กำลังทำตัวยาชนิดหนึ่งเรียกว่า “ของเหลวเสริมกำลัง” หลังจากที่โลกล้มสลาย ผลของยาก็ตามชื่อของมันแหละ ได้ยินปุ๊บรู้ปั๊บเลยว่ามันใช้ทำอะไรใช่ไหมหละ?”
ได้ยินคำตอบนี้หลินเฉิงขมวดคิ้วมากกว่าเดิม“ฉันรู้จักยาเสริมแกร่งนั้นดีว่ายานั้นกำลังถูกพัฒนาตอนที่ฉันติดอยู่ในเมืองหยุนหยางกับเขา แต่ปัญหาก็คือไอตัวยานั้นเหมือนจะถูกใช้ในหมูทหารระดับสูงเท่านั้นหนะสิ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ถูกใช้อย่างแพร่หลาย ที่เธอบอกฉันว่าจะเปิดเผยมันให้กับฉันได้ง่ายๆ หมายความว่าอย่างไร?”
“นายรู้จักมันเยอะเลยหนิ!”
ได้ยินสิ่งที่หลินเฉิงพูดชูฉิงก็อดที่จะประหลาดใจไม่ได้ “เพราะว่ามีคนไม่กี่คนที่ขอความช่วยเหลือจากศาสตราจารย์ฟางโดยตรง รวมถึงการสงวนท่าทีของตาเฒ่าที่ต้องการจะปกปิดผู้ที่มีบุณคุณไว้ หลังจากถูกรับตัวมาโดย กองกำลังหยานจิง ฉันว่านายน่าจะรู้และได้รับตัวยานั้นก่อนที่กองกำลังทั้งหลายจะรู้เสียอีก! รวมถึงพลังและความว่องไวของนายที่แสดงต่อหน้าฉัน ฉันว่านายได้รับ ผลของยาเสริมพลัง นี้เข้าไปเต็มๆ เลยหละ!”
“อ่า…”
ชูฉิงคาดการณ์อย่างมั่นใจหลินเฉิงก็ยิ้มและพูด “มันน่าสนใจมาก เหมือนฉันจะประเมินเธอต่ำไปจริงๆ ! อะไรคือความหมายทีพูดมายาวเหยียดนี้? ต่อให้ฉันไดรับการแก้ไขปัญหาเทคโนโลยีของยาเสริมพลัง ทางฐานทัพทะเลน้ำเงินแห่งนี้น่าจะควบคุมเทคโนโลยีนี้ทั้งหมดไปแล้วหนะสิ ฉันจะไปมีค่าอะไรขนาดนั้น!?”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นหนะสิ!”
ชูฉิงส่ายหัวเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง “นายคือพี่ชายของเสี่ยวเดีย และเป็นคนที่ช่วยศาสตราจารย์ฟางเอาไว้จากนรกแห่งนั้นถ้าไม่มีนายศาสตราจารย์ฟาง คงจะไม่รอดถึงตอนที่ทีมช่วยเหลือไปถึงหรอก ฉันจะปล่อยเรื่องยาเสริมพลังไป ฉันจะบอกนายถึงเรื่องศาสตราจารย์ไป นายอย่าไปบอกคนอื่นหละ!”
หลินเฉิงก็อดถามด้วยความสงสัยเสียไม่ได้“ทำไมหละ?”
แต่สมองเขาก็ตอบสนองทันทีที่ถามออกไป“เธอหมายความว่า ถ้าใครมารู้เข้าว่าฉันมีเทคโนโลยียาเสริมพลังนี้อยู่ในตัว มันจะเป็นผลเสียต่อฉันใช่ไหม?”
“แน่นอนที่สุด!”
ชูฉิงพยักหน้าอย่างหนักแน่น“จนถึงตอนนี้ เรื่องของยาเสริมแกร่ง ก็ถูกกระจายอยู่ในหมูทหารระดับสูงด้วยเหตุผลบางอย่าง นายต้องรู้ไว้! ผู้บริหารระดับสูงจะทำอย่างไรกับคนที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกมัน และยังมีพลังอันสุดยอดของยาเสริมกำลังนี้อีก?”
“เลวมาก!” ได้ยินแบบนี้เขาก็ขึ้นเสียงใส่เลขาสาวด้วยสีหน้าที่ดูไม่ได้ “พวกของเธอบ้าไปแล้วหรอ? นี้มันเรื่องอะไรกัน? ฉันไม่อยากกลับไปในดินแดนรกร้างนั้นเร็วแบบนี้ ทุกวันนี้ฉันต้องทำทุกอย่างเพื่อมีวันนี้ ฉันต้องรอจนกว่ามนุษยชาติจะสูญสิ้นเลยรึยังไง?!” Aileen-novel
“อย่าโกรธอย่างนั้นสิ…”
ชูฉิงเข้าใจความโกรธภายในใจของเขาเธอทำได้แค่ปลอบใจเขา “พวกเขาก็ไม่เข้าใจความคิดของไอพวกผู้อาวุโสนั้น แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของนาย รวมถึง ลุง ป้า และครอบครัวของนาย ตราบใดที่นายไม่พูดถึงเรื่องที่นายตกลงไว้กับศาสตราจารย์ฟาง นายก็จะไม่เจอกับปัญหาอย่างแน่นอน…”
“ฮึ่ม!”
หลินเฉิงส่งเสียงไม่สบอารมณ์ออกมา“งั้นฉันก็ออกตัวแรงมากไม่ได้ ฉันกลัวว่า สถานการณ์ตาเฒ่าฟางน่าเป็นห่วงมากกว่าเดิมอีกตอนนี้”
“ฉันก็ไม่แน่ใจ….” ได้ยินแบบนั้นชูฉิงก็ส่ายหน้า“ตั้งแต่ศาสตราจารย์โทรคุยกับนายครั้งล่าสุด ฉันก็ไม่ได้ยินเรื่องของเขามากมายนัก เว้นแต่ผู้บัญชาการดิงให้ข้อมูลเชิงสัญลักษณ์แจ้งกับ พวกพนักงานอาวุโสว่าศาสตราจารย์ฟางคือคนที่คิดค้นยาเสริมกำลัง แต่เมื่อตัดสินจากความลับของตัวยาเสริมพลังในกองกำลังหนานจิง ฉันคิดว่าสภาพแวดล้อมรวมถึงที่อยู่ของตาเฒ่าจะไม่ดีนักแล้วหละ…”
“ไม่น่าเลยตาแก่…”
หลินเฉิงอดรู้สึกเสียใจไม่ได้ต่อศาสตราจารย์เฒ่าที่อุส่าอุทิศงานวิจัยให้แก่เขาฟาง ชิวเฉิง เพื่ออนาคตของมวลมนุษย์ เขาไม่ลังเลที่จะใช้ยานั้นเลย แต่สุดท้ายแล้วมันก็เป็นปัญหากับเขาจนได้…
คิดถึงตรงนี้หลินเฉืงก็ทำอะไรไม่ได้เขาจ้องมองไปยังออฟฟิสที่แสนสะอาดตานี้ เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมากขึ้นเรื่อยๆ โลกภายนอกนั้นอันตราย แต่ที่แห่งนี้เหมือนอยู่ในยุคที่สงบสุขแม้จะอยู่ในวันสิ้นโลก ฟาง ชิวเฉิงนักวิทยศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ไม่ยอมแพ้ต่อโลกใบนี้เขาต้องการที่จะปกป้องมวลมนุษย์ชาติเอาไว้ให้ได้แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่เสียงต่อความสูญพันธ์นี้ก็ตาม ภายใต้สรวงสวรรค์แห่งนี้ ผู้มีอิธิพลกลับยกก้นของตัวเองขึ้นมาปกครองคนอืนเสียแทน ตัดสินชีวิตคนนั้บไม่ถ้วนตามใจตัวเอง!
เขาเข้าใจแนวคิดของคนพวกนี้แต่เขาก็ไม่เห็นด้วยเลยสักนิด ตั้งแต่ยุคโบราณแล้วผู้คนนับไม่ถ้วนต้องพบกับหายนะจากแนวคิดแบบนี้ แต่พวกมันก็ลุกขึ้นจากเศษซากทุกครั้งไป คนพวกนั้นไม่มีใครเคยพบกับความสำเร็จหรอก!
ยิ่งคิดหลินเฉิงก็ยิ่งไม่สบอารมณ์เขาทิ้งตัวลงไปในความหงุดหงิดนี้และจุดบุหรี่ขึ้นมาอีกครั้ง “ลืมไปเถอะ อย่าไปคิดถึงมัน! เรามาหาเธอวันนี้เพื่อขอให้เธอช่วยเรื่องใบแสดงตัวตนระดับสูง มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับเธอใช่ไหม?”
ชูฉิงเห็นท่าทีของหลินเฉิงเปลี่ยนไปก็รีบตอบ“ใช่แล้ว มันง่ายที่สุดแล้วที่พวกนายมาหาฉันก่อน!”
ชูฉิงหันกลับไปหาน้องสาวที่นั่งอึนอยู่แถวนั้น“เสี่ยวเดีย รอที่นี้แป๊ปนะ ฉันจะพาพี่ชายของเธอไปถ่ายรูปเดี๋ยวจะกลับมา!”
หลังจากที่อธิบายไปชูฉิงก็พยักหน้าให้หลินเฉิงนำเขาออกไปจากห้อง
น่าจะอยู่ในเวลางานนอกจากเสียง ตึ๊กๆ ของส้นสูงที่ชูฉิงใส่ ก็ไม่มีเสียงอื่นใดเลยในโถงทางเดิน ความสงสัยนี้ก็ไม่ได้ถามออกไปเพราะพวกเขาทั้งสองก็ไม่ได้คุ้นเคยกันนัก ระหว่างทางก็ไม่ได้พูดอะไรกันเลย ตอนนี้พวกเขามาถึงชั้น 8 แล้ว
“ก็อกๆ”
หลังจากที่เคาะไปบนประตูไม้ที่มีรูปภาพแขวนอยู่มันดูเหมือนห้องสะสมของประตูบานนั้นก็เปิดออกจากด้านใน
“เข้ามาเลย”
——————————–