I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 276 เลา ฟาง
SC:บทที่276 เลา ฟาง
เพียงแค่หนึ่งวินาทีต่อจากนั้นหลินเฉิงก็สติหลุดไป ภายใต้การเร่งเร้าของชายวัยกลางคนผู้เป็นเจ้าของแผงขายปลา หลินเฉิงดึงสติกลับมา หลังจากมองไปยังตู้ปลาแซลม่อนข้างหลัง เขาเอ่ยขึ้นมา “ฉันจะซื้อทั้งตัวเลย แต่ก่อนหน้านั้นตอบคำถามฉันมาสองข้อก่อน…”
“ถ้ามีคำถามอะไรอย่าลังเลเลยถามมาฉันจะบอกที่อย่างที่ฉันรู้!”
เห็นหลินเฉิงตัดสินใจจะซื้อปลาแซลมอนของเขาที่เขาเองก็เกือบปล่อยโอกาศนั้นหลุดมือไปแล้ว เลาฟางก็ระเบิดความยินดีออกมาและบอกอย่างร้อนรน
เห็นสีหน้าที่ทนต่อไปไมไหวของเลาฟางหลินเฉิงก็พยักหน้า “อย่างแรกคือแถวนี้มีแผงที่กำลังลดราคาอยู่บ้างไหม อย่างที่สองคือศูนย์รับสมัคของกองพันที่หนึ่งอยู่ไหน?” ได้ยินแบบนั้นเลาฟางก็ตะลึงเล็กน้อยถามหลินเฉิงกลับไปด้วยสีหน้าไม่แน่ใจ “นี้…น้องชาย นายพึ่งจะมาถึงฐานทัพแห่งนี้ใช่ไหม?”
“ใช่แล้วมันทำไมหละ?”
หลินเฉิงไม่แปลกใจอะไรกับคำถามเขาเดาว่าตอนนี้เขาคือเด็กใหม่ไม่รู้อะไรในสายตาของเลาฟาง คำถามสองข้อที่เขาถามก็เป็นสคำถามของพวกหน้าใหม่ แม้เขาจะเป็นแค่คนขายปลา เด็กใหม่ย่อมเห็นรูปลักษณ์ภายนอกของเขาเป็นผู้อาวุโสกว่าอยู่แล้ว
“ไม่มีอะไร….”
เมื่อเห็นความสงบนิ่งของหลินเฉิงตาแก่ฟางก็ยิ้มอย่างขมขื่นก่อนที่จะพูด “แต่นายเป็นเด็กใหม่นายก็ควรจะมีตั๋วทะเลน้ำเงินไม่มากใช่ไหม? แถวนี้มีสำนักงานแลกเปลี่ยนของมีค่าอยู่ แต่ถ้านายยังไม่มีของมีค่าอีก ตั๋วที่นายแลกมาได้ก็คงไม่พอหรอก…”
“จะเป็นแบบนั้นหรอ?” ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็หัวเราะคิ๊กคั๊กก่อนที่จะหยิบบุหรี่เทียนยี่ทั้งกล่องขึ้นมา จากกระเป๋ากางเกงของเขาและโบกมันข้างหน้าตาแก่
เมื่อเห็นบุหรี่เทียนยี่อยู่ตรงหน้าดวงตาของตาแก่ก็เป็นประกายทันทีทันใด หลินเฉิงไม่อยากล่าช้ามากไปกว่านี้แล้ว เขาโยนบุหรี่ราคาแพงทั้งกล่องให้ตาแก่นั้นรับไป “ฉันไม่มีอย่างอื่นหละ มีแค่บุหรี่นี้อีกหลายกล่อง แม้ว่าจะเป็นฐานทัพทะเลน้ำเงินที่ร่ำรวย แต่ฉันก็กลัวว่าของแบบนี้ก็คงจะขาดอยู่ดี”
“มันเป็นสิ่งจำเป็นนะเว้ย!” Aileen-novel
เขาจับมันไว้แน่นตาแก่รีบหยิบขึ้นมาหนึ่งมวลแล้วสูบทันทีและพูดอย่างตื่นเต้น “น้องชาย นายควรจะเอาพวกมันไปให้แผนกจัดเก็บนะ มันแทบจะไม่มีคลังเก็บของพวกนี้อยู่ในฐานทัพด้วยซ้ำ เพราะบุหรี่มันแทบจะหมดสต็อกตลอดเวลา แม้บางครั้งจะมีพวกมันเข้ามาเก็บ คนธรรมดาแบบพวกเราก็ไม่มีวันที่จะได้มันมาครองหรอก! ถ้านายมีไอเจ้านี้สักสองกล่องและไปขายมันในตลาดมืดนะ มันจะได้ราคาประมาณตั๋ว 450,000 ใบเลย!”
“เห้ย!บ้าไปแล้วจริงรึปล่าว?”
ได้ยินผู้อาวุโสบอกว่าสิ่งนี้มันมีค่ามากหลินเฉิงก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ “แล้วตลาดมืดมันเป็นยังไง?”
“เออ…”
เห็นสีหน้าสงสัยของหลินเฉิงตาแก่ฟางก็รุ้สึกไร้ซึ้งคำพูดรีบปิดปากตัวเองทันที แต่เขาก็พูดออกมา “สำนักงานแลกเปลี่ยนอยู่ตะวันออกเฉียงใต้ ตรงหัวมุมของซอยที่สองจากถนนใหญ่ตรงไปข้างหน้านนั้น ถ้านายอยากจะซื้อปลานี้ แลกมันมาสักสองกล่องก็พอเหลือแหล่”
ได้ยินคนแก่กว่าเปลี่ยนเรื่องคุยกระทันหันหลินเฉิงก็ไม่ปล่อยโอกาศนี้ให้หลุดมือ “พี่ชายพี่ก็รู้ว่าเรากำลังคุยกันเรื่องอะไร มันแปลกนะที่พี่จะเล่นตุกติกกับผมตอนนี้?”
พูดจบหลินเฉิงก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาอีกสองซองจะโยนให้เลาฟาง“บุหรี่ซองแรกใช้ซื้อปลา ส่วนสองซองนี้ฉันใช้ซื้อข้อมูลจากนายแล้วกัน! ไม่ต้องคิดมากหรอกฉันเป็นแค่เด็กใหม่คนนึงฉันไม่ทำให้พี่มีปัญหาหรอก…”
เห็นหลินเฉิงขยิบตาให้เขาโยนมาอย่างไม่ลังเล บางส่วนของเลาฟางถูกชายหนุ่มคนนี้คุมไปแล้ว เขารีบรับของที่โยนมาและคำนวนถึงมูลค่าที่เขาได้รับเขาก็แทบจะสติหลุด ก่อนที่จะรวมสติทั้งหมดกลับมา
“รอฉันแปป!”
ฟางรีบไปเอาจักยานสามล้อมาและพยายามยกตู้ปลาออกมาด้วยความช่วยเหลือของหลินเฉิงเขาก็แบกตู้ปลาที่มีแซลมอนอยู่ วางไว้บนสามล้อได้สำเร็จ และโบกมือเรียกหลินเฉิง
“ตามมาเลยไอน้องชาย!”
พูดจบเขาก็ขับสามล้อเข้าไปในฝูงชน
หลังจากที่ตามสามล้อคันนั้นไปบนถนนเชิงพาณิช มันแน่นไปด้วยผู้คนอยู่ซักพัก ในที่สุดก็เข้ามาถึงชานเมืองออกมาจากตัวฐานทัพไม่ไกลนัก หลังจากที่เดินทางบนถนนที่เต็มไปด้วยโคลนและเคลื่อนที่ได้อย่างลำบาก พวกเขาก็มาถึงบังกาโลที่ดูทรุดโทรม
“เข้ามาในนี้เลยน้องชาย!”
หลังจากที่กระโดดลงมาจากสามล้อเลาฟางก็ลากมันไปจอดไว้ที่โรงรถข้างๆ บังกาโลนั้น และโบกมือเรียกหลินเฉิงก่อนที่จะนำไปยังประตูและเปิดมันออก
“ไปหาอะไรดื่มดับกระหายก่อน”
หลังจากที่หลินเฉิงเดินเข้าไปในบ้านเลาฟางก็เติมน้ำอุ่นไปบนถ้วยน้ำพกพาของเขา และยื่นมันมาให้หลินเฉิง
หลังจากรับมาเขายังไม่ดื่มเขากำลังสำรวจสิ่งที่อยู่รอบๆตัวอยู่แม้มันจะดูเละเทะมากจากข้างนอก แต่ข้างในตกแต่งได้อบอุ่นและสวยงามมาก แม้เครื่องเรือนจะเป็นสินค้ามือสองแต่ก็สะอาดมาก นอกจากรอยตำหนิจากการใช้แล้วทุกส่วนของมันไม่ต่างจากของใหม่เลย หลังจากสำรวจไปได้สักพักเขาก็จิบน้ำอุ่นนั้นและถาม “ที่นี้คือ…?”
ได้ยินแบบนั้นเขาก็ยิบซองบุหรี่ที่แกะแล้วยิบออกมาหนึ่งมวลและยื่นให้หลินเฉิง ก่อนที่จะอธิบาย “นี้คือเขตอยู่อาศัยที่ 7 จากทั้งหมด 8 เขต แน่นอนว่ามันมีเขตสลัมอยู่สองเขตและที่นี่เป็นหนึ่งในนั้น”
“เขตที่อยู่อาศัย?”
หลินเฉิงก็ถามด้วยความแปลกใจ“สลัมเรียกว่าเขตอยู่อาศัยได้ด้วยหรอ?”
“ฮ่าๆ!”
เห็นความไม่อยากจะเชื่อบนหน้าหลินเฉิงชายวัยกลางคนก็หัวเราะขึ้น “ไม่เหมือนที่คิดไว้หรอ? นายแค่ต้องลองไปเห็นสลัมจริงๆ เที่ยบกับสลัมของฐานทัพนี้แล้วมันคือสวรรคชัดๆ !”
หลินเฉิงไม่มีคำพูดเขาส่ายหน้าเบาๆ“ลืมมันไปเถอะ มาคุยกันเรื่องตลาดมืดดีกว่า!”
หลินเฉิงถามเรื่องตลาดมืออีกครั้งรอยยิ้มบนใบหน้าของเลาฟางก็หายไป “ถ้าฉันไม่เห็นบุหรี่พวกนี้ ฉันก็ไม่ผ่านเงื่อนไขที่จะใช้งานตลาดมืดหรอก….”
“ก่อนหน้านี้ฐานทัพทะเลน้ำเงินไม่มีตลาดมืดหรอกเพราะไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องมีมันมาก่อนเลย สินค้าทั้งหมดถูกแลกเปลี่ยนกับทางการ มันสะดวกสบายและปลอดภัยทั้งกับผู้ซื้อและผู้ขาย ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ ก็ไม่มีใครแอบค้าขายเป็นการส่วนตัวกันหรอก! แต่เมื่อสองเดือนที่แล้ว การมาถึงของวัตถุประหลาดทำลายสมดุลของราคาตลาด….”
“วัตถุปริศนา?”
หลินเฉิงรู้สึกถึงอะไรแปลกๆ“มันฟังดูแข็งแกร่งมาก มันคืออะไร?”
สีหน้าของเลาฟางก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงแรงปรารถนาอันบ้าคลั่ง“มันคือยาแขนงหนึ่ง ทีสามารถวิวัฒนาการพลังของมนุษย์ได้อย่างรวดเร็วรวมถึงความสามารถอื่นๆ อีกด้วย ได้ยินคนอื่นพูดกันมันมีชื่อว่ายาเสริมกำลัง! ”
—————————- ��