I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 288 การทดสอบความสามารถ
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 288 การทดสอบความสามารถ
ได้ยินคำอธิบายของเซียวฉีหลินเฉิงก็มองไปยังตาเฒ่าฟางที่ไว้หนวดเฟิ้ม “ฉันไม่เห็นเลยว่าพี่ฟางจะดูดีมีสไตร์อะไร?”
“ก็ได้ก็ได้! ฉันหมายถึงเราจะทำงานอะไรในตอนเช้านี้?”
หลังจากถูกแหย่โดยรุ่นน้องทั้งสองเขาก็อ่อนแรงแต่ก็ยังมีพลังอยู่ เซียวฉีพูดขึ้นมา
“จะพาหลินเฉิงไปทดสอบวัดระดับพลังกันหนิ?ยังไม่ไปหรอ?”
“ไปสิไปเลย!”
เห็นเลาฟางมีสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เซี่ยวฉีก็ไม่พูดอะไรขึ้นมาอีก เขาหยิบกระเป๋าเอกสารขึ้นมาและเดินตามออกไป
“ขั้นตอนการฝึกก็ง่ายๆตัวอย่างเช่น น้องหลินมีพลังในการควบคุมน้ำแข็งใช่ไหม? เมื่อเข้าไปยังห้องแรกก็ให้น้องปล่อยพลังทั้งหมดที่มีออกมา แต่ที่ควรจำไว้คือปล่อยพลังออกมา ไม่ใช่ใช้ความสามารถในการจู่โจมหรือทำลาย และอย่าทำให้ผู้ทดสอบได้รับบาดเจ็บหละ!”
ผ่านไปสักระยะทั้งสามคนก็มาถึงอาคารที่ดูสง่าผ่าเผยชี้ไปยังป้ายที่หน้าประตู มันเขียนว่า“ศูนย์ทดสอบความสามารถ” เซียวฉีรีบอธิบายให้หลินเฉิงฟังคร่าวๆ
ได้ยินคำอธิบายนั้นหลินเฉิงก็พยักหน้า จริงๆ แล้วแม้ว่าเขาจะไม่แนะนำหลินเฉิง เขาก็ตั้งใจจะปล่อยพลังออกมาไม่ทั้งหมดอยู่แล้ว เพราะยังไงเขาก็ไม่อยากจะเล่นใหญ่จนเด่นเกินไป เพราะยังไงๆ เขาก็มาเพื่อสังเกตการณ์
เห็นหลินเฉิงเข้าใจเขาก็ไม่พูดพล่ำทำเพลง ชายทั้งสองเดินทางขึ้นไปกว่าครึ่งวันก็ถึงชั้นที่ 10 “ศูนย์ทดสอบสมรรถนะ”
“ผู้กำกับฉี?มาทำอะไรที่นี้ก่อนเวลาขนาดนี้?”
หลังจากผ่านประตูกระจกเข้าไปหญิงวัยประมาน 20 สวมชุดผู้เชียวชาญสีเทาที่อยู่โตีะหน้าสุดก็วางที่ตัดเล็บลงและทักทายเซี่ยวฉีด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะชี้ไปยังหลินเฉิงข้างหลังเขา เซี่ยวฉี อธิบายคร่าวๆ “นี้คือน้องชายฉันมารายงานตัวเข้าร่วมกองพันที่หนึ่ง ฉันพาเขามาทำสอบวัดระดับ เหลียง หรือ จาง อยู่ที่นี่นึปล่าว?”
ได้ยินคำอธิบายของเซี่ยวฉีหญิงคนนั้นก็ได้ยินชักแจ๋ว เธอต้องรับหลินเฉิงด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะตอบ “จางยังไม่มาเลยค่ะ แต่เหลียงมาถึงก่อนเวลานัดแล้ว ไปที่ห้องวัดระดับก็จะเจอกับเขาเองค่ะ!”
“ดีเลย…” Aileen-novel
รู้ว่าเหลียงเลาผู้รับผิดชอบหน้าที่ในห้องทดสอบมาถึงแล้ว เซี่ยวฉีก็พยักหน้าและต้องการที่จะนำหลินเฉิงเข้ารับการทดสอบ แต่เมื่อเห็นเสี่ยวหงที่อยู่โต๊ะแรกเขาก็เห็นเลาฟางยืนอยู่ที่เดิม หลินเฉิงลากเขาเข้ามาโดยไม่พูดอะไร
“เมื่อเลาฟางได้สติเขาก็หันไปยังเซี่ยวฉีและหลินเฉิงก่อนที่จะพูดอย่างจริงจัง“ฉันว่า….ฉันมีความรักแล้วหว่ะ!”
“แล้วแต่เลยตาแก่!”
เห็นเลาฟางที่ไม่มีความเขินอายเกิดปัญหาเดิมๆ ขึ้นอีกแล้ว เซี่ยวฉีที่รู้จักเขาดีก็อดที่จะด่าออกไปไม่ได้
หลินเฉิงส่ายหน้าและหัวเราะออกมาอย่างขมขื่นในคราวนี้เมื่อวานเขาเหมือนเป็นคนละคนเลย เขาควรจะเป็นคนที่ใจเย็นคนนึงเลยที่เดียวแต่่วันนี้ดูกระโตกกระตากเป็นพิเศษ…
หลังจากที่ด่าไปสองสามคำเซี่ยวฉีก็ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นชายที่แกร่งกล้าในการต่อสู้แต่กลับไม่ได้เรื่องเรื่องของผู้หญิงเลยสักนิด เขาหันไปบอกกับหลินเฉิง “ลืมมันไปเถอะ….ตอนที่นายไปทดสอบก็ไม่มีใครเข้าไปด้วยได้อยู่แล้ว ฉันจะนำนายไป ส่วนตาแก่นั้นปล่อยให้มันอยู่แล้วก็ตายคาที่นี่ไปเลยแล้วกัน!”
หลังจากที่เขาพาหลินเฉิงมาถึงจุดหมาย“น้องหลินฉันหวังว่านายจะทำสำเร็จตามที่ต้องการนะ!”
เลาฟางโดนเซี่ยวฉีเตะอย่างแรงแต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรเขาจับมือบางๆ ของเสี่ยวหงพร้อมกับพูดจาหวานแหวว ก่อนที่จะหันมาอวยพรหลินเฉิงก่อน
เห็นตาแก่ฟางไม่ลืมที่จะอวยพรหลินเฉิงก็ส่ายหน้าและยิ้มแบบเบี้ยวๆ ก่อนที่จะตอบกลับ “ฉันหวังว่าพี่ฟางจะได้ตามที่หวังเหมือนกันนะครับ”
หลังจากที่เดินตามเซี่ยวฉีมายังอีกห้อง
หลินเฉิงเงยหน้าขึ้นมองแต่ไม่เห็นคนคุมเหลียง เขาเห็นชายหญิงกว่าสิบคนนั่งอยู่บนโซฟาในสำนักงานพูดอย่างประหม่าด้วยมีเสียงเบา
เมื่อหลินเฉิงและเซี่ยวฉีเข้ามากลุ่มที่อยู่ทางขวาจ้องมองอย่างไม่ตั้งใจแล้วก็ก้มหัวลง
อย่างไรก็ตามผู้ใหญ่สองคนทางซ้ายทั้งสองจู่ ๆ ก็ตัวแข็งเมื่อเห็นเซี่ยวฉีเข้ามา
”เซี่ยวฉี?” หลังจากที่เห็นผู้ใหญ่สองคนกล่าวทักทายก่อนพวกเขาก็เห็นเซี่ยวฉีมองมาที่เขาแล้วยิ้มขึ้นมาทันที
”พวกนายเป็นอย่างไงบ้างหละ?”
เมื่อเห็นชายหญิงคู่นี้คิ้วของเซี่ยวฉีก็ย่นลงทันที จากนั้นเขาก็สแกนไปรอบๆ สำนักงานอีกครั้งและพบว่า
เหลียงเลาไม่อยู่ที่นี้เขารู้ทันทีว่าต้องมีการทดสอบเกิดขึ้นในสำนักงานในเวลานี้
เมื่อได้ยินคำถามของเซี่ยวฉีผู้ใหญ่สองคนมองหน้ากันก่อน หนึ่งในนั้นอายุน่าจะน้อยกว่า 20 ปี ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ” จ้าวหลิวของฉัน ต้องไปทำงานในศูนย์บัญชาการ ? ทางศูนย์บัญชาการขอให้เธอทำการทดสอบระดับก่อนเข้าสู่การทำงาน เราเลยพาเธอมาที่นี่เพื่อทดสอบ … ”
จากนั้นเขาก็เหลือบมองหลินเฉิงที่ไร้อารมณ์ข้างๆเซี่ยวฉี “ผู้อำนวยการฉีนี่คือ … ”
”เหมือนกันมาทดสอบ!” ได้ยินเซี่ยวฉีพูดเบาๆด้วยคำตอบที่กระชับและครอบคลุม
เห็นว่าท่าทีของเซี่ยวฉีนั้นค่อนข้างแปลกตั้งแต่เขาพบชายหญิงคู่นั้น หลินเฉิงอดไม่ได้ที่จะสังเกตุคนสองคนนั้นและพบว่าไม่มีอะไรเป็นพิเศษ การแสดงออกของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจ
”ดีหละ… ฉันหวังว่าผู้กำกับฉีจะมีอนาคตที่ดี!”
แม้ท่าทีของเซี่ยวฉีนั้นจะเยือกเย็นแต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้สังเกตเห็นเลยและยังคงพูดคุยอย่างสุภาพด้วยรอยยิ้ม
เซี่ยวฉีฟังน้ำเสียงที่เสแสร้งของทั้งคู่เขาก็อยากจะพาหลินเฉิงไปนั่งไกลๆ แต่เขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงที่ดังชัดมาจากด้านหลังประตูสีดำลึกเข้าไปข้างใน “คนต่อไป!”
เมื่อได้ยินเสียงจากด้านหลังประตูคู่วัยกลางก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ปลุกใจของพวกเขาและผลักหลังจ้าวหลิว ผู้ซึ่งกำลังนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขาด้วยท่าทีเร่งรีบ หลังจากถูกเร่งครั้งสองครั้งจ้าวหลิวก็พูดอย่างหงุดหงิด “หนูรู้แล้ว!”
พูดจบก็ยืนขึ้นและเดินไปที่ห้องประเมินผล เมื่อผ่านเซี่ยวฉี เธอก็ไม่พูดอะไรออกมา
เมื่อเธอมาถึงประตูห้องประเมินจ้าวหลิว กำลังจะผลักประตูเข้าไป แต่เธอเห็นว่าประตูนั้นเปิดออกจากด้านในเสียก่อน จากนั้นเธอก็เห็นโลลิน้อย มีรอยสักสีชมพูและสีหยกเขียวเข้ม เธอมองไปยังผู้คนในห้องก่อน แล้วจึงชี้ไปที่หลินเฉิงซึ่งกำลังงีบหลับอยู่บนเก้าอี้แล้วพูดว่า “นาย! นายเข้ามากับเธอเลย!”
หลังจากนั้นเขาก็ไม่สนใจใบหน้าของหลินเฉิงและหันกลับไปที่ห้องประเมินผล
”รอก่อน!”
แต่ในเวลานี้กลุ่มชายหญิงถูกเธอเมินและไม่สนใจ ก็ไม่พอใจขึ้นมา ผู้หญิงคนหนึ่งไม่พอใจมากและถามขึ้นมาว่า “นี้มันหมายความว่าอะไร ฉันมาที่นี่ตอนหกโมงเช้าเพื่อเข้าแถวและชายคนนี้เพิ่งมาที่นี่ทำไมเขาถึงได้เข้าไปก่อนพวกเรา!” ——————————-SC: บทที่ 289 โลลิทมิฬ