I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 333 เฉิงเล้อ
“ขออภัยจริงๆครับที่ยังไม่ได้แนะนำตัว ผมชื่อ เฉิงเล้อ เป็นผู้จัดการฝ่ายลูกค้าครับ!”
เมื่อถูกมองอย่างเคืองแค้นชายสวมชุดสูทชื่อเฉิงเล้อก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรเลยสักนิด เขาแนะนำตัวเองให้กับหลินเฉิงแล้วฉีเซี่ยวฮันอย่างเป็นทางการ
หลังจากที่แนะนำตัวเสร็จแล้วเฉิงเล้อก็หันไปถามกับหลินเฉิง “คุณคือหลินเฉิงใช่ไหม? คุณฟางบอกให้เรารอรับคุณเป็นกรณีพิเศษอยู่กลัวว่าคุณจะหาห้องไม่เจอเพราะมาที่นี่เป็นครั้งแรก”
“เลาฟาง….”
เขาก็ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ก่อนที่จะพยักหน้าให้กับเฉิงเล้อ “งั้นไปกันเถอะ ตาลุงฟางกับพวกนายคงรอพวกเราจนทนไม่ไหวแล้วสินะ?” “ไม่ครับไม่ พวกเราเป็นโรงแรมหมายเลข 1 ของฐานทัพทะเลน้ำเงิน พวกเราไม่มีวันขัดใจอะไรเล็กๆ น้อยๆ หรอกครับ!”
โดยไม่คาดคิดสิ่งที่หลินเฉิงพูดทำให้เฉิงเล้อเก็บไปคิด โรงแรมอันดับหนึ่งแห่งนี้พร้อมตอนรับเขาทุกเวลาอยู่แล้ว
ท่ามกลางเสียงพูดคุยกันของทั้งสองฝ่ายพวกเขาก็มาถึงเขตห้องรับรองหมายเลข 1 เฉิงเล้อโบกมือให้พนักงานต้อนรับสาวสวยกลับไปประจำที่ ส่วนเขาก็เปิดประตูอย่างนุ่มนวลให้กับหลินเฉิง เมื่อเขาก้าวเท้าเข้าไปความอบอุ่นก็แพร่เข้ามาใส่หน้าของเขาทันที!
“หนะ….นี้มันอะไรกัน…”
หลังจากที่ไออุ่นพุ่งเข้ามาแสงสีเสียงก็ตามมาทันที เสียงหัวเราะของชายและหญิงก็ดังเข้ามาถึงหูของเขา สิ่งที่หลินเฉิงเห็นทำให้เขารู้สึกถึงความเป็นผู้ใหญ่ และฟุ่มเฟือยอย่างมากในทันที
ก่อนที่จะเดินเข้าไปเขาขมวดคิ้วแน่น ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยกลิ่นยาสูบ ไวน์ และไฟสลัวๆทำให้เขาอึดอัดมาก เขาแทบอยากจะหันหลังแล้วเดินหนีออกไปทันที
อย่างไรก็ตามเลาฟางและเซี่ยวฉีไม่ปล่อยเขาไปแน่ๆพวกเขาร้องเพลงอยู่กับสาวสวยที่อยู่ในอ้อมแขนของพวกเขาทั้งสองข้าง เมื่อเห็นหลินเฉิงเดินเข้ามา พวกเขาก็ทิ้งสาวๆ เอาไว้แล้วลุกขึ้นมาให้เขาในทันที!
“น้องหลินแน่ใจนะว่าไปหาที่อยู่ให้สาวสวยคนนั้นอย่างเดียว? กลัวเตียงไม่อุ่นรึยังไงไปซะนานเชียว เข้าเรื่องเลยนะ นี้มัน 4 ทุ่มแล้ว!”
หลังจากที่พาหลินเฉิงมานั่งที่โซฟาเลาฟางก็ดันผู้หญิงใส่ชุดวับๆ แวมๆ ที่อยากจะได้หลินเฉิงออกไปก่อน พวกเขานั่งข้างๆ หลินเฉิง พร้อมกับยื่นขวดเหล้าขวดเบียให้ นั้นทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก
ได้ยินคำถามนั้นหลินเฉิงก็ได้แต่ยิ้มและกล่าวคำขอโทษ อย่างแรกเขาพูดถึงเรื่องที่ยากที่สุดก่อน “อุ่นตงอุ่นเตียงอะไรหละพี่ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ! ก็แค่…พวกนายเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นข้างนอกรึเปล่า?”
“ทำไมพวกเราจะไม่รู้หละ!มันเป็นอะไรที่ดูน่ากลัวมาก!”
เลาฟางไม่ทันจะได้ตอบเฉินฉี(เซี่ยวฉี)ก็รีบออกตัวก่อนเลย
“เห็นด้วยหรอ?ไม่ใช่ว่าพวกนายเอาแต่เล่นกับสาวๆ อยู่ตลอดเลยรึยังไง? รู้เรื่องที่เกิดข้างนอกได้ยังไง?”
เห็นชายทั้งสองรู้เรื่องสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอกเป็นอย่างดีเขาก็อดที่จะสงสัยไม่ได้
“การดื่มและนั่งคุยกับผู้หญิงเป็นเรื่องสำคัญขนาดไหน?”
เห็นการทาบถามของหลินเฉิงเลาฟางก็โบกมือและพร้อมที่จะอธิบาย “พวกเราจองห้องรับรองนี่ไว้ตั้งแต่ 1 ทุ่ม และจองพนักงานสาวกับไวน์เอาไว้ด้วย ก่อนที่พวกเราจะได้เข้าไปใช้งาน เราก็ได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นเสียก่อน บอกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเกิดขึ้นข้างนอกนั้น! ตอนแรกพวกเราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับมันมาก แม้ฐานทัพแห่งนี้จะปลอดภัยกว่าข้างนอกมาก แต่บางครั้งก็มีบุกคนปริศนาต่อสู้กันในยามค่ำคืน การรบกวนมันไม่ได้น้อยจากรอบนี้สักเท่าไหร่เลย! ตอนนั้นก็เกือบจะสองทุ่มแล้ว พวกเราก็อยู่กับสาวสวยพวกนี้กว่า 2 ช.ม. มันก็ช่วยผ่อนคลายพวกเราไปได้เยอะ ความตรึงเครียดจากการที่ต้องออกไปรบกว่า 300 ครั้ง นั้นหายไปอย่างเป็นปริทิ้งเลยหละ ใช่ไหม?
“แต่ถ้าพวกเราอยู่ด้วยกันไม่ครบขามันจะไปสนุกได้ไงหละพวกเราจึงออกไปตามหานายถึงบ้านแต่ก็ไม่เจอ พวกเราก็กลัวว่าจะคลาดกับนายไปแล้ว นายอาจจะกำลังเดินทางมาอยู่แล้วสวนทางกับพวกเราก็ได้เลยรีบกลับมารอที่นี่ จะว่าไปแล้วหลิงเหมิงเป็นอย่างไรบ้างหละ?”
เมื่อนึกถึงสิ่งที่ชายทั้งสองทำพวกเขาเคยช่วยเขาไว้ เขาก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจทันที แม้ว่าถ้าคนพวกนั้นเป็นเขา เขาก็จะทำเหมือนๆ กัน มันยากที่เขาจะหาเพื่อนแบบนี้ได้ในโลกที่กำลังเกิดหายนะแบบนี้
“ครอบครัวของฉันก็มีผู้หญิงอยู่จำได้ไหม? สมองฉันคงตื่อมากถ้าเอาหลิงเหมิงกลับมาที่บ้านฉันจริงๆ ฉันไปทำเรื่องหาบ้านหลังใหม่ให้กับเธอ ก็เลยกลับมาช้าหน่อย…”
หลังจากที่หาข้อแก้ตัวเกี่ยวกับเรื่องของหลิงเหมิงได้หลินเฉิงก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก เขาโบกมือให้กับเฉิงเล้อที่ยืนอยู่ข้างๆ ประตูด้วยความเคารพ “ไม่เป็นไรครับผู้จัดการเฉิง ถ้ามีอะไรต้องทำก็ไปได้เลยครับ ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราหรอกครับ!”
ได้ยินแบบนั้นเฉิงเล้อก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว“งั้นถ้าต้องการอะไรก็บอกสาวงามคนไหนก็ได้ให้มาตามผมครับ ผมจะรีบมาทันทีเลย!”
หลังจากพูดจบเขาก็บอกกับสาวๆในห้องให้ดูแลพวกเขาอย่างดีและหันหลังเดินออกไป เขาค่อยปิดประตูอย่างนุ่มนวล
เมื่อเขาออกไปเลาฟางก็เริ่มลุย เขาโบกมือเรืยกสาวชุดกระต่ายสีดำสองคนมา แล้วชี้ไปยังหลินเฉิง“ฉันบอกแล้วว่าไอหมอนี้มันหล่อจริงๆ ฉันไม่ได้โกหกพวกเธอสักหน่อย!”
หลังจากที่พูดถึงเรื่องหลินเฉิงเขาจ้องหน้าหลินเฉิงและพูด “ฉันก็ไม่รู้ว่านายจะกลับมาไหม ฉันเห็นความงดงามของพวกเธอ ฉันก็เลยสั่งเพิ่มอย่างอดไม่ได้…”
“พี่ฟางสั่งไปกี่คนกัน?”
มองไปยังรอบๆเขาเห็นแต่เหล่านกกระจิบนกกระจอก และนกนางแอ่นร่างงามเต็มไปหมด หลินเฉิงก็ถามอย่างช่วยไม่ได้
เลาฟางกฌยิ้มและตอบอย่างเขินอายด้วยเสียงเบาๆ“10ไง 10 เจ๋งไหมหละ?”
“ให้ตายเถอะ!”
เห็นรายงานของงานปาตี้นี้หลินเฉิงก็พูดหยาบๆ อย่างอดไม่ได้ “นายจะขุนฉันให้อ้วนแล้วเฉือดทิ้งจริงๆ ใช่ไหม!? นายจะเล่นกับผู้หญิงทั้งหมดนี้ไหมหรอ เป็นฉันก็หมดแรงตายพอดี!”
“อย่ากังวลอย่ากังวลไปเลยไอน้องชายฟังฉันนะ”
เมื่อเห็นสีหน้าหมดคำพูดของหลินเฉิงเลาฟางก็ปลอบใจเขา “ก่อนหน้านี้ที่นายพูดในบ้านประมูล แม้ว่านายจะเก่งและมากความสามารถ นายก็เห็นฉันเป็นพี่ที่ไม่มีอะไรเลยไม่ได้นะ แม้วันนี้ฉันจะเป็นคนชวนนายมาฉันก็อยากให้ได้เล่นด้วยเหมือนกัน!”
“ฮึ่ม!เจ้าพวกโง่!”
ก่อนที่หลินเฉิงจะได้ตอบกลับอะไรฉีเซี่ยวฮัน ที่ซ่อนอยู่หลังขาของหลินเฉิงก็เดินออกมาอย่างช่วยไม่ได้ และด่าเลาฟางด้วยสีหน้าดูถูก!
“แกเป็นคะ…ใคร…”
ทันใดนั้นเขาก็ด่ากลับไปแต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อเขาก็หยุดไปเขาลุกขึ้นและเห็นปัญหาในงานเลี้ยงของเขา เมื่อสติของเขาที่ไปจากการเมาเริ่มกลับมา เข่าของเขาก็อ่อนทันทีและทิ้งตัวไปบนโซฟา ดัง ฟลุ้บ!
———————-SC: บทที่ 334 รังของงูและหนู?
เมื่อถูกมองอย่างเคืองแค้นชายสวมชุดสูทชื่อเฉิงเล้อก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรเลยสักนิด เขาแนะนำตัวเองให้กับหลินเฉิงแล้วฉีเซี่ยวฮันอย่างเป็นทางการ
หลังจากที่แนะนำตัวเสร็จแล้วเฉิงเล้อก็หันไปถามกับหลินเฉิง “คุณคือหลินเฉิงใช่ไหม? คุณฟางบอกให้เรารอรับคุณเป็นกรณีพิเศษอยู่กลัวว่าคุณจะหาห้องไม่เจอเพราะมาที่นี่เป็นครั้งแรก”
“เลาฟาง….”
เขาก็ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ก่อนที่จะพยักหน้าให้กับเฉิงเล้อ “งั้นไปกันเถอะ ตาลุงฟางกับพวกนายคงรอพวกเราจนทนไม่ไหวแล้วสินะ?” “ไม่ครับไม่ พวกเราเป็นโรงแรมหมายเลข 1 ของฐานทัพทะเลน้ำเงิน พวกเราไม่มีวันขัดใจอะไรเล็กๆ น้อยๆ หรอกครับ!”
โดยไม่คาดคิดสิ่งที่หลินเฉิงพูดทำให้เฉิงเล้อเก็บไปคิด โรงแรมอันดับหนึ่งแห่งนี้พร้อมตอนรับเขาทุกเวลาอยู่แล้ว
ท่ามกลางเสียงพูดคุยกันของทั้งสองฝ่ายพวกเขาก็มาถึงเขตห้องรับรองหมายเลข 1 เฉิงเล้อโบกมือให้พนักงานต้อนรับสาวสวยกลับไปประจำที่ ส่วนเขาก็เปิดประตูอย่างนุ่มนวลให้กับหลินเฉิง เมื่อเขาก้าวเท้าเข้าไปความอบอุ่นก็แพร่เข้ามาใส่หน้าของเขาทันที!
“หนะ….นี้มันอะไรกัน…”
หลังจากที่ไออุ่นพุ่งเข้ามาแสงสีเสียงก็ตามมาทันที เสียงหัวเราะของชายและหญิงก็ดังเข้ามาถึงหูของเขา สิ่งที่หลินเฉิงเห็นทำให้เขารู้สึกถึงความเป็นผู้ใหญ่ และฟุ่มเฟือยอย่างมากในทันที
ก่อนที่จะเดินเข้าไปเขาขมวดคิ้วแน่น ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยกลิ่นยาสูบ ไวน์ และไฟสลัวๆทำให้เขาอึดอัดมาก เขาแทบอยากจะหันหลังแล้วเดินหนีออกไปทันที
อย่างไรก็ตามเลาฟางและเซี่ยวฉีไม่ปล่อยเขาไปแน่ๆพวกเขาร้องเพลงอยู่กับสาวสวยที่อยู่ในอ้อมแขนของพวกเขาทั้งสองข้าง เมื่อเห็นหลินเฉิงเดินเข้ามา พวกเขาก็ทิ้งสาวๆ เอาไว้แล้วลุกขึ้นมาให้เขาในทันที!
“น้องหลินแน่ใจนะว่าไปหาที่อยู่ให้สาวสวยคนนั้นอย่างเดียว? กลัวเตียงไม่อุ่นรึยังไงไปซะนานเชียว เข้าเรื่องเลยนะ นี้มัน 4 ทุ่มแล้ว!”
หลังจากที่พาหลินเฉิงมานั่งที่โซฟาเลาฟางก็ดันผู้หญิงใส่ชุดวับๆ แวมๆ ที่อยากจะได้หลินเฉิงออกไปก่อน พวกเขานั่งข้างๆ หลินเฉิง พร้อมกับยื่นขวดเหล้าขวดเบียให้ นั้นทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก
ได้ยินคำถามนั้นหลินเฉิงก็ได้แต่ยิ้มและกล่าวคำขอโทษ อย่างแรกเขาพูดถึงเรื่องที่ยากที่สุดก่อน “อุ่นตงอุ่นเตียงอะไรหละพี่ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ! ก็แค่…พวกนายเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นข้างนอกรึเปล่า?”
“ทำไมพวกเราจะไม่รู้หละ!มันเป็นอะไรที่ดูน่ากลัวมาก!”
เลาฟางไม่ทันจะได้ตอบเฉินฉี(เซี่ยวฉี)ก็รีบออกตัวก่อนเลย
“เห็นด้วยหรอ?ไม่ใช่ว่าพวกนายเอาแต่เล่นกับสาวๆ อยู่ตลอดเลยรึยังไง? รู้เรื่องที่เกิดข้างนอกได้ยังไง?”
เห็นชายทั้งสองรู้เรื่องสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอกเป็นอย่างดีเขาก็อดที่จะสงสัยไม่ได้
“การดื่มและนั่งคุยกับผู้หญิงเป็นเรื่องสำคัญขนาดไหน?”
เห็นการทาบถามของหลินเฉิงเลาฟางก็โบกมือและพร้อมที่จะอธิบาย “พวกเราจองห้องรับรองนี่ไว้ตั้งแต่ 1 ทุ่ม และจองพนักงานสาวกับไวน์เอาไว้ด้วย ก่อนที่พวกเราจะได้เข้าไปใช้งาน เราก็ได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นเสียก่อน บอกว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเกิดขึ้นข้างนอกนั้น! ตอนแรกพวกเราก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับมันมาก แม้ฐานทัพแห่งนี้จะปลอดภัยกว่าข้างนอกมาก แต่บางครั้งก็มีบุกคนปริศนาต่อสู้กันในยามค่ำคืน การรบกวนมันไม่ได้น้อยจากรอบนี้สักเท่าไหร่เลย! ตอนนั้นก็เกือบจะสองทุ่มแล้ว พวกเราก็อยู่กับสาวสวยพวกนี้กว่า 2 ช.ม. มันก็ช่วยผ่อนคลายพวกเราไปได้เยอะ ความตรึงเครียดจากการที่ต้องออกไปรบกว่า 300 ครั้ง นั้นหายไปอย่างเป็นปริทิ้งเลยหละ ใช่ไหม?
“แต่ถ้าพวกเราอยู่ด้วยกันไม่ครบขามันจะไปสนุกได้ไงหละพวกเราจึงออกไปตามหานายถึงบ้านแต่ก็ไม่เจอ พวกเราก็กลัวว่าจะคลาดกับนายไปแล้ว นายอาจจะกำลังเดินทางมาอยู่แล้วสวนทางกับพวกเราก็ได้เลยรีบกลับมารอที่นี่ จะว่าไปแล้วหลิงเหมิงเป็นอย่างไรบ้างหละ?”
เมื่อนึกถึงสิ่งที่ชายทั้งสองทำพวกเขาเคยช่วยเขาไว้ เขาก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจทันที แม้ว่าถ้าคนพวกนั้นเป็นเขา เขาก็จะทำเหมือนๆ กัน มันยากที่เขาจะหาเพื่อนแบบนี้ได้ในโลกที่กำลังเกิดหายนะแบบนี้
“ครอบครัวของฉันก็มีผู้หญิงอยู่จำได้ไหม? สมองฉันคงตื่อมากถ้าเอาหลิงเหมิงกลับมาที่บ้านฉันจริงๆ ฉันไปทำเรื่องหาบ้านหลังใหม่ให้กับเธอ ก็เลยกลับมาช้าหน่อย…”
หลังจากที่หาข้อแก้ตัวเกี่ยวกับเรื่องของหลิงเหมิงได้หลินเฉิงก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก เขาโบกมือให้กับเฉิงเล้อที่ยืนอยู่ข้างๆ ประตูด้วยความเคารพ “ไม่เป็นไรครับผู้จัดการเฉิง ถ้ามีอะไรต้องทำก็ไปได้เลยครับ ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราหรอกครับ!”
ได้ยินแบบนั้นเฉิงเล้อก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว“งั้นถ้าต้องการอะไรก็บอกสาวงามคนไหนก็ได้ให้มาตามผมครับ ผมจะรีบมาทันทีเลย!”
หลังจากพูดจบเขาก็บอกกับสาวๆในห้องให้ดูแลพวกเขาอย่างดีและหันหลังเดินออกไป เขาค่อยปิดประตูอย่างนุ่มนวล
เมื่อเขาออกไปเลาฟางก็เริ่มลุย เขาโบกมือเรืยกสาวชุดกระต่ายสีดำสองคนมา แล้วชี้ไปยังหลินเฉิง“ฉันบอกแล้วว่าไอหมอนี้มันหล่อจริงๆ ฉันไม่ได้โกหกพวกเธอสักหน่อย!”
หลังจากที่พูดถึงเรื่องหลินเฉิงเขาจ้องหน้าหลินเฉิงและพูด “ฉันก็ไม่รู้ว่านายจะกลับมาไหม ฉันเห็นความงดงามของพวกเธอ ฉันก็เลยสั่งเพิ่มอย่างอดไม่ได้…”
“พี่ฟางสั่งไปกี่คนกัน?”
มองไปยังรอบๆเขาเห็นแต่เหล่านกกระจิบนกกระจอก และนกนางแอ่นร่างงามเต็มไปหมด หลินเฉิงก็ถามอย่างช่วยไม่ได้
เลาฟางกฌยิ้มและตอบอย่างเขินอายด้วยเสียงเบาๆ“10ไง 10 เจ๋งไหมหละ?”
“ให้ตายเถอะ!”
เห็นรายงานของงานปาตี้นี้หลินเฉิงก็พูดหยาบๆ อย่างอดไม่ได้ “นายจะขุนฉันให้อ้วนแล้วเฉือดทิ้งจริงๆ ใช่ไหม!? นายจะเล่นกับผู้หญิงทั้งหมดนี้ไหมหรอ เป็นฉันก็หมดแรงตายพอดี!”
“อย่ากังวลอย่ากังวลไปเลยไอน้องชายฟังฉันนะ”
เมื่อเห็นสีหน้าหมดคำพูดของหลินเฉิงเลาฟางก็ปลอบใจเขา “ก่อนหน้านี้ที่นายพูดในบ้านประมูล แม้ว่านายจะเก่งและมากความสามารถ นายก็เห็นฉันเป็นพี่ที่ไม่มีอะไรเลยไม่ได้นะ แม้วันนี้ฉันจะเป็นคนชวนนายมาฉันก็อยากให้ได้เล่นด้วยเหมือนกัน!”
“ฮึ่ม!เจ้าพวกโง่!”
ก่อนที่หลินเฉิงจะได้ตอบกลับอะไรฉีเซี่ยวฮัน ที่ซ่อนอยู่หลังขาของหลินเฉิงก็เดินออกมาอย่างช่วยไม่ได้ และด่าเลาฟางด้วยสีหน้าดูถูก!
“แกเป็นคะ…ใคร…”
ทันใดนั้นเขาก็ด่ากลับไปแต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อเขาก็หยุดไปเขาลุกขึ้นและเห็นปัญหาในงานเลี้ยงของเขา เมื่อสติของเขาที่ไปจากการเมาเริ่มกลับมา เข่าของเขาก็อ่อนทันทีและทิ้งตัวไปบนโซฟา ดัง ฟลุ้บ!
———————-SC: บทที่ 334 รังของงูและหนู?
เราใช้คุกกี้เพื่อให้แน่ใจว่าเรามอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่คุณบนเว็บไซต์ของเรา หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไป เราจะถือว่าคุณยอมรับและเข้าใจ