I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 347 ภาระกิจใหม่?
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 347 ภาระกิจใหม่?
/
ได้ยินเสียงกระซิบของเฉิงเล้อหลินเฉิงที่กำลังรีบอ่านเอกสารก็พยักหน้าและโบกมือเรียกหลินเหยาเหว่ย
“จะรออะไรอยู่อีกหละ?รีบไปสิ!”
“ค…ค่ะฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
เห็นหลินเฉิงรีบร้อนจะไปทำอย่างอื่นต่อหลินเหยาเหว่ย ก็พยักหน้าและรีบวิ่งตามเฉิงเล้อไปติดๆ
….
เวลาเที่ยงคืนตรงเช้าวันใหม่
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาหลินเฉิงและคณะก็เดินออกมาจากเขตอยู่อาศัยหมายเลข 1 เขตที่พักของเฉิงเล้ออยู่คนละฟากกับเขตของเลาฟาง และหลินเฉิง เขาจึงขอตัวแยกกลับไปก่อน หลินเหยาเหว่ยกำลังสะพายกระเป๋าเดินทางที่บวมจนเหมือนจะระเบิดออกมา เดินตามพวกเขาจนถึงเขตที่ 7
“น้องหลินนายแน่ใตนะว่าจะให้จัดหาที่อยู่ให้กับเธอ?”
เมื่อถึงทางแยกเลาฟางก็หยุดและหันกลับมาหาหลินเฉิงอีกครั้ง
ได้ยินคำถามนั้นหลินเฉิงที่กำลังเดินสูบบุหรี่อยู่ก็พ่นควันออกมาและตอบคำถามนั้น “จะมีอะไรอีกหละ? ช่วงสองวันต่อจากนี้ฉันจะวุ่นมาก จนไม่มีเวลาจัดหาให้เห็นนายนั่งว่างอยู่ช่วงนี้ นายจะได้มีอะไรทำด้วยไงหละ”
“ให้ตายสิ!ใครว่าฉันว่างหละ?”
เมื่อหลินเฉิงพูดเหมือนเขาเป็นคนขี้เกียจเขาก็ไม่แฮปปี้และพูดกลับไป “ยังไงๆ ต่อให้ฉันขี้เกียจนายก็ผลักทุกอย่างให้ฉันไม่ได้นะ”
“โฮ่?”
เห็นสีหน้าไม่พอใจของเลาฟางหลินเฉิงก็ยกคิ้วขึ้นและถามกลับไป “สรุปนายจะยอมช่วยไหมเนี่ย?”
“ช่วยสิแน่นอน!” เลาฟางหันมาทางพวกเขาหลินเฉิงพยายามพูดเพื่อไม่ให้หลินเหยาเหว่ยเสียหน้า “งั้นนายก็นำไปสิ!”
“ตาแก่บ้า….”
เห็นเลาฟางทำตัวไม่เอาไหนหลินเฉิงก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างไร้ซึ่งคำพูด เขาไม่อยากพูดกับคนที่มีความเห็นต่างกันเท่าไหร่นัก “ลืมมันไปเถอะ นายแค่ต้องช่วย! พรุ่งนี้ฉันจะไปรายงานตัวที่กองพันแล้ว ถ้ามีเวลาจะไปด้วยกันไหม?”
เลาฟางพยักหน้า “โอเคงั้นเจอกันที่ประตูทางเข้าศูนย์รับสมัครตอนแปดโมงเช้านะ ว่าไง?”.
“8โมงเช้า ตามนั้นเลย!”
หลังจากที่นัดหมายกันแล้วหลินเฉิงก็นวดหลังคอตัวเอง แล้วพยักหน้าให้หลินเหยาเหว่ยที่ยืนอยู่ข้างหลังของเขา “งั้นก็ตามนั้น! เมื่อเธอออกมาแล้ว ก็ต้องทำงานตั้งตัวในฐานทัพแห่งนี้ ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกตาแก่นั้นได้เลย! วันนี้ก็ดึกมากแล้ว รีบกลับบ้านไปพักผ่อนกันเถอะ!”
หลังจากนั้นเชาก็โบกมือให้กับเลาฟางและแยกทางไปทางฝั่งซ้ายที่จะนำไปสู่บ้านของเขา แม้จะเลยเวลาเที่ยงตืนมาแล้ว หลินเฉิงก็ยังพบผู้คนอยู่ประปลายระหว่างทางกลับบ้าน น่าจะเป็นเพราะความเอะอะที่เขาทำระหว่างต่อสู้กับมังกรม่วง ยังคงดึนดูความสนใจจากผู้คนได้จนถึงตอนนี้ ยังไงๆ ตอนนี้ผู้คนในฐานทัพก็ใช้ชีวิตกันอย่างน่าเบื่อหน่าย ถ้ามีความวุ่นวายเกิดขึ้นพวกเขาก็จะแห่กันมาดูเหมือนดูโรงหนังเลยหละ
กว่าครึ่งชั่วโมงของการเดินทางกลับเขาก็มาถึงคฤหาสน์ของเขาแล้วมองไปยังแสงไฟที่ยังคงเปิดอยู่ สัญชาตญาณความระแวดระหวังของเขาก็หายไป
ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่สำหรับเรื่องความสะดวกสบายแล้ว หลินเฉิงแทบจะได้รับมาทุกวิธีแล้ว แม้เลาฟางและเพื่อนใหม่ของเขาร่วมแบ่งปันกันมาไม่น้อย เทียบกับหยูซาน โคล่า และครอบครัวของเขา ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมานาน ก็ยังต่างชั้นกันอยู่มาก
เขาคิดมาตลอดว่าตัวเองแข็งแกร่งมาแล้วไม่ต้องการพวกพ้องหรือคู่หู แต่หลังจากเหตุการในวันนี้เขากลับรู้สึกคิดถึงหยูซานกับโคล่าเสียไม่ได้
แม้ว่าโคล่าจะชอบสร้างปัญหาและกล้าแย่งอาหารไปกินเองแต่เมื่อถึงเวลาคับขัน มันก็กลายเป็นมือขวาที่แข็งแกร่งให้กับเขาได้ นั้นทำให้ศัตรูของเขาไม่มีโอกาสใดๆ ให้เห็นได้เลย
หลังจากการออกตัวของเขาในวันนี้ตอนนี้เขาก็ได้พักแล้ว แต่เมื่อเขาพบข้อสงสัยเขาต้องการปรึกษาหยูซานที่คอยช่วยกันวางแผนมาโดยตลอด หญิงสาวที่ไม่ต่างอะไรจากเขาและขาดกันไม่ได้ทั้งในยามพักแล้วยามต่อสู้ วันนี้เขาได้รู้แล้วว่า 1 คน กับ 1 ตัว นี้สำคัญกับเขาขนาดไหน โคล่า และ เทียนซือเองก็มีบทบาทไม่น้อยในแนวหน้า!
หลังจากที่ส่ายหัวแรงๆเพื่อขจัดสิ่งต่างๆ ที่ไม่สำคัญออกไป หลินเฉิงก็ซูดหายใจลึกและเปิดประตูเข้าไป
“โฮกโฮก! ”
เมื่อเปิดประตูออกหลินเแฉิงก็เดินเข้าไปโดยลืมถอดรองเท้า เขาก็ได้ยินเสียงเรียกมาจากชั้นสอง เจ้าก้อนปุยสีขาวดำกำลังพุ่งมาทางเขา
“เจ้าโง่!แกฆ่าฉันไม่ได้หรอก?”
เมื่อเจ้าหมีแพนด้าพุ่งเข้าใส่เขาจังๆหลินเฉิงก็แทบจะกระอักเลือดออกมา เขาลัดคอมันและโยนออกไป พร้อมกับตะโกนด้วยความดุดัน
“หลังจากที่ด่าเทียนซือไปหลินเฉิงก็ฉวยโอกาสโต้กลับ ตอนแรกเขากะจะไปเปลี่ยนรองเท้าและซักผ้า แต่ก็ได้ยินเสียงของโคล่ากำลังวิ่งอยู่ในบ้าน
“พี่หลินกลับมาแล้วหรอ!?”เมื่อได้ยินเสียงร้องดีใจของโคล่า หยูซานก็วิ่งนำมันมาถึงชั้นล่างก่อน เห็นสีหน้าของหลินเฉิง เธอรู้สึกแฮปปี้มากก่อนที่จะเข้ามาช่วยเปลี่ยนรองเท้า
“กลับมาตอนไหนหละนั้นกินอะไรมาแล้วรึยัง?”
เมื่อเห็นหยูซานเดินลงมาหลินเฉิงก็พยักหน้าให้ก่อน แล้วก็ถามกลับไปอย่างชิวๆ พร้อมกับส่วมรองเท้าแตะ
ได้ยินคำถามของหลินเฉิงหยูซานก็รีบตอบกลับไป“ฉางเหวินฉวนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขากลับบ้านไปตอนประมาณ 3 ทุ่ม แล้วก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย หนูเลยได้ข้อมูลมาไม่มากและกลับมาเฝ้าบ้านหลังจากเฝ้าระวังด้านหน้าประตูของเขากว่า 5 ชม.”
“เฝ้ามา5 ชม. เลยหรอ? เธอคิดอะไรอยู่?”
หลินเฉิงมองมายังสาวน้อยอย่างใจเย็นและไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
หลังจากถูกหลินเฉิงดุหยูซานก็อธิบายด้วยเสียงเบาๆ อย่างขัดใจ “หนูแค่กลัวว่าเขาจะออกมาระหว่างที่หนูไม่ได้สนใจ…” “ไม่เป็นไรไม่เป็นไร…”
เมื่อรุ้ว่าน้ำเสียงของตัวเองหนักแน่นเกินไปหลินเฉิงก็ลดเสียงลงและปลอบใจเธอ “ฉันรู้ว่าเธอมีแนวคิดของเธอเอง แต่ฉันแค่อยากให้เธอเฝ้าดูเขา ไม่จำเป็นต้องจริงจังขนดนั้นก็ได้”
“ค่ะ!…”
เห็นว่าท่าทีของหลินเฉิงในวันนี้ดูนุ่มอบอุ่นกว่าปกติหยูซานก็อดที่จะรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรกลับไป ตอนนี้ก็เกือบตีหนึ่งแล้ว เธอจึงรีบถาม “จะว่าไปแล้วทำไมวันนี้กลับมาดึกจังค่ะ?”
“ฉันไปเจอคนกำลังมีปัญหาหนะเลยช่วยเขาไว้…”
หลินเฉิงตอบคำถามอย่างง่ายๆหลังจากที่เปลี่ยนชุดแล้วเขาก็นั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นแล้วคุยกับเธอต่อ “มานั่งด้วยกันสิ พรุ่งนี่เราจะมีภาระกิจใหม่ และแผนใหม่ด้วย!”
————————– ��SC: บทที่ 348 รายงานตัว
“จะรออะไรอยู่อีกหละ?รีบไปสิ!”
“ค…ค่ะฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
เห็นหลินเฉิงรีบร้อนจะไปทำอย่างอื่นต่อหลินเหยาเหว่ย ก็พยักหน้าและรีบวิ่งตามเฉิงเล้อไปติดๆ
….
เวลาเที่ยงคืนตรงเช้าวันใหม่
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาหลินเฉิงและคณะก็เดินออกมาจากเขตอยู่อาศัยหมายเลข 1 เขตที่พักของเฉิงเล้ออยู่คนละฟากกับเขตของเลาฟาง และหลินเฉิง เขาจึงขอตัวแยกกลับไปก่อน หลินเหยาเหว่ยกำลังสะพายกระเป๋าเดินทางที่บวมจนเหมือนจะระเบิดออกมา เดินตามพวกเขาจนถึงเขตที่ 7
“น้องหลินนายแน่ใตนะว่าจะให้จัดหาที่อยู่ให้กับเธอ?”
เมื่อถึงทางแยกเลาฟางก็หยุดและหันกลับมาหาหลินเฉิงอีกครั้ง
ได้ยินคำถามนั้นหลินเฉิงที่กำลังเดินสูบบุหรี่อยู่ก็พ่นควันออกมาและตอบคำถามนั้น “จะมีอะไรอีกหละ? ช่วงสองวันต่อจากนี้ฉันจะวุ่นมาก จนไม่มีเวลาจัดหาให้เห็นนายนั่งว่างอยู่ช่วงนี้ นายจะได้มีอะไรทำด้วยไงหละ”
“ให้ตายสิ!ใครว่าฉันว่างหละ?”
เมื่อหลินเฉิงพูดเหมือนเขาเป็นคนขี้เกียจเขาก็ไม่แฮปปี้และพูดกลับไป “ยังไงๆ ต่อให้ฉันขี้เกียจนายก็ผลักทุกอย่างให้ฉันไม่ได้นะ”
“โฮ่?”
เห็นสีหน้าไม่พอใจของเลาฟางหลินเฉิงก็ยกคิ้วขึ้นและถามกลับไป “สรุปนายจะยอมช่วยไหมเนี่ย?”
“ช่วยสิแน่นอน!” เลาฟางหันมาทางพวกเขาหลินเฉิงพยายามพูดเพื่อไม่ให้หลินเหยาเหว่ยเสียหน้า “งั้นนายก็นำไปสิ!”
“ตาแก่บ้า….”
เห็นเลาฟางทำตัวไม่เอาไหนหลินเฉิงก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างไร้ซึ่งคำพูด เขาไม่อยากพูดกับคนที่มีความเห็นต่างกันเท่าไหร่นัก “ลืมมันไปเถอะ นายแค่ต้องช่วย! พรุ่งนี้ฉันจะไปรายงานตัวที่กองพันแล้ว ถ้ามีเวลาจะไปด้วยกันไหม?”
เลาฟางพยักหน้า “โอเคงั้นเจอกันที่ประตูทางเข้าศูนย์รับสมัครตอนแปดโมงเช้านะ ว่าไง?”.
“8โมงเช้า ตามนั้นเลย!”
หลังจากที่นัดหมายกันแล้วหลินเฉิงก็นวดหลังคอตัวเอง แล้วพยักหน้าให้หลินเหยาเหว่ยที่ยืนอยู่ข้างหลังของเขา “งั้นก็ตามนั้น! เมื่อเธอออกมาแล้ว ก็ต้องทำงานตั้งตัวในฐานทัพแห่งนี้ ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกตาแก่นั้นได้เลย! วันนี้ก็ดึกมากแล้ว รีบกลับบ้านไปพักผ่อนกันเถอะ!”
หลังจากนั้นเชาก็โบกมือให้กับเลาฟางและแยกทางไปทางฝั่งซ้ายที่จะนำไปสู่บ้านของเขา แม้จะเลยเวลาเที่ยงตืนมาแล้ว หลินเฉิงก็ยังพบผู้คนอยู่ประปลายระหว่างทางกลับบ้าน น่าจะเป็นเพราะความเอะอะที่เขาทำระหว่างต่อสู้กับมังกรม่วง ยังคงดึนดูความสนใจจากผู้คนได้จนถึงตอนนี้ ยังไงๆ ตอนนี้ผู้คนในฐานทัพก็ใช้ชีวิตกันอย่างน่าเบื่อหน่าย ถ้ามีความวุ่นวายเกิดขึ้นพวกเขาก็จะแห่กันมาดูเหมือนดูโรงหนังเลยหละ
กว่าครึ่งชั่วโมงของการเดินทางกลับเขาก็มาถึงคฤหาสน์ของเขาแล้วมองไปยังแสงไฟที่ยังคงเปิดอยู่ สัญชาตญาณความระแวดระหวังของเขาก็หายไป
ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่สำหรับเรื่องความสะดวกสบายแล้ว หลินเฉิงแทบจะได้รับมาทุกวิธีแล้ว แม้เลาฟางและเพื่อนใหม่ของเขาร่วมแบ่งปันกันมาไม่น้อย เทียบกับหยูซาน โคล่า และครอบครัวของเขา ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมานาน ก็ยังต่างชั้นกันอยู่มาก
เขาคิดมาตลอดว่าตัวเองแข็งแกร่งมาแล้วไม่ต้องการพวกพ้องหรือคู่หู แต่หลังจากเหตุการในวันนี้เขากลับรู้สึกคิดถึงหยูซานกับโคล่าเสียไม่ได้
แม้ว่าโคล่าจะชอบสร้างปัญหาและกล้าแย่งอาหารไปกินเองแต่เมื่อถึงเวลาคับขัน มันก็กลายเป็นมือขวาที่แข็งแกร่งให้กับเขาได้ นั้นทำให้ศัตรูของเขาไม่มีโอกาสใดๆ ให้เห็นได้เลย
หลังจากการออกตัวของเขาในวันนี้ตอนนี้เขาก็ได้พักแล้ว แต่เมื่อเขาพบข้อสงสัยเขาต้องการปรึกษาหยูซานที่คอยช่วยกันวางแผนมาโดยตลอด หญิงสาวที่ไม่ต่างอะไรจากเขาและขาดกันไม่ได้ทั้งในยามพักแล้วยามต่อสู้ วันนี้เขาได้รู้แล้วว่า 1 คน กับ 1 ตัว นี้สำคัญกับเขาขนาดไหน โคล่า และ เทียนซือเองก็มีบทบาทไม่น้อยในแนวหน้า!
หลังจากที่ส่ายหัวแรงๆเพื่อขจัดสิ่งต่างๆ ที่ไม่สำคัญออกไป หลินเฉิงก็ซูดหายใจลึกและเปิดประตูเข้าไป
“โฮกโฮก! ”
เมื่อเปิดประตูออกหลินเแฉิงก็เดินเข้าไปโดยลืมถอดรองเท้า เขาก็ได้ยินเสียงเรียกมาจากชั้นสอง เจ้าก้อนปุยสีขาวดำกำลังพุ่งมาทางเขา
“เจ้าโง่!แกฆ่าฉันไม่ได้หรอก?”
เมื่อเจ้าหมีแพนด้าพุ่งเข้าใส่เขาจังๆหลินเฉิงก็แทบจะกระอักเลือดออกมา เขาลัดคอมันและโยนออกไป พร้อมกับตะโกนด้วยความดุดัน
“หลังจากที่ด่าเทียนซือไปหลินเฉิงก็ฉวยโอกาสโต้กลับ ตอนแรกเขากะจะไปเปลี่ยนรองเท้าและซักผ้า แต่ก็ได้ยินเสียงของโคล่ากำลังวิ่งอยู่ในบ้าน
“พี่หลินกลับมาแล้วหรอ!?”เมื่อได้ยินเสียงร้องดีใจของโคล่า หยูซานก็วิ่งนำมันมาถึงชั้นล่างก่อน เห็นสีหน้าของหลินเฉิง เธอรู้สึกแฮปปี้มากก่อนที่จะเข้ามาช่วยเปลี่ยนรองเท้า
“กลับมาตอนไหนหละนั้นกินอะไรมาแล้วรึยัง?”
เมื่อเห็นหยูซานเดินลงมาหลินเฉิงก็พยักหน้าให้ก่อน แล้วก็ถามกลับไปอย่างชิวๆ พร้อมกับส่วมรองเท้าแตะ
ได้ยินคำถามของหลินเฉิงหยูซานก็รีบตอบกลับไป“ฉางเหวินฉวนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขากลับบ้านไปตอนประมาณ 3 ทุ่ม แล้วก็ไม่ได้ออกไปไหนเลย หนูเลยได้ข้อมูลมาไม่มากและกลับมาเฝ้าบ้านหลังจากเฝ้าระวังด้านหน้าประตูของเขากว่า 5 ชม.”
“เฝ้ามา5 ชม. เลยหรอ? เธอคิดอะไรอยู่?”
หลินเฉิงมองมายังสาวน้อยอย่างใจเย็นและไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
หลังจากถูกหลินเฉิงดุหยูซานก็อธิบายด้วยเสียงเบาๆ อย่างขัดใจ “หนูแค่กลัวว่าเขาจะออกมาระหว่างที่หนูไม่ได้สนใจ…” “ไม่เป็นไรไม่เป็นไร…”
เมื่อรุ้ว่าน้ำเสียงของตัวเองหนักแน่นเกินไปหลินเฉิงก็ลดเสียงลงและปลอบใจเธอ “ฉันรู้ว่าเธอมีแนวคิดของเธอเอง แต่ฉันแค่อยากให้เธอเฝ้าดูเขา ไม่จำเป็นต้องจริงจังขนดนั้นก็ได้”
“ค่ะ!…”
เห็นว่าท่าทีของหลินเฉิงในวันนี้ดูนุ่มอบอุ่นกว่าปกติหยูซานก็อดที่จะรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้ แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรกลับไป ตอนนี้ก็เกือบตีหนึ่งแล้ว เธอจึงรีบถาม “จะว่าไปแล้วทำไมวันนี้กลับมาดึกจังค่ะ?”
“ฉันไปเจอคนกำลังมีปัญหาหนะเลยช่วยเขาไว้…”
หลินเฉิงตอบคำถามอย่างง่ายๆหลังจากที่เปลี่ยนชุดแล้วเขาก็นั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นแล้วคุยกับเธอต่อ “มานั่งด้วยกันสิ พรุ่งนี่เราจะมีภาระกิจใหม่ และแผนใหม่ด้วย!”
————————– ��SC: บทที่ 348 รายงานตัว