I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 350 การเปลี่ยนแปลง
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 350 การเปลี่ยนแปลง
หลังจากได้ยินคำอธิบายนั้นหลินเฉิงก็สายหัว และเลิกคิดเรื่องนั้น เขายังคงยืนดูเฉินฉีกับฉางเจียคุยกัน
หยูซานที่ตามเขามาตั้งแต่เริ่มก็กำลังเฝ้ามองอย่างแน่วแน่อยู่ข้างนอกประตู อย่างไรก็ตามผู้คนที่เดินผ่านมานั้นมองไม่เห็นเธอ
“งั้นก็ทำเรืองนั้นก่อนเลยพี่ฉางกองพันจะเริ่มออกตัวแล้ว ตามกฏระเบียบแล้ว ผมเองก็อยู่ที่นี่ไม่ได้ งั้นผมลงไปก่อนนะ! ผมแค่มาขอให้พี่ช่วยดูแลเรื่องทดสอบพลังให้กับเขาด้วย…”
หลังจากนั้นพวกเขาก็เลิกคุยกันมันเกือบจะ 9 โมงแล้ว เฉินฉีจึงต้องรีบจบบทสนทนา และถามอย่างเคารพเกียวกับเรื่อของหลินเฉิง เขาพยักหน้าให้กับหลินเฉิงอีกครั้ง
หลังจากได้ยินคำขอของเสี่ยวฉีพี่ฉางก็ยิ้มให้ “ไม่ต้องห่วงเขาเป็นถึงผู้ใช้พลังระดับ 4 ฉันดูแลเขาอย่างเต็มที่แน่นอน!”
เห็นพี่ใหญพยักหน้าเฉินฉีก็โล่งอกในทันที เขาไม่กล้าที่จะคุยต่อแล้ว เขาจึงรีบเดินออกไปจากห้องทำงานไปยังดานฟ้าเรือเพื่อที่จะกลับออกไป
หลังจากที่เฉินฉีจากไปฉางเจียก็ยิบเอกสารออกมาให้หลินเฉิงเซ็นและกรอกข้อมูลทั่วไป เมื่อเขากรอกเสร็จ ฉางเจียก็พูด “ตามข้อบังคับของเบื้องบน แม้ว่านายจะรับการทดสอบของศูนทดสอบมาแล้ว แต่กองพันที่หนึ่งจะเน้นไปที่การต่อสู้ เพราะฉะนั้นเราจะทดสอบเรื่องการต่อสู้กับนายโดยผู้เชียวชาญพิเศษ เพื่อจะจัดสรรตำแหน่งให้นายอีก….”
“ผมเข้าใจแล้ว…”
เห็นอีกฝ่ายพูดในเรื่องที่เขาเข้าใจอยู่แล้วหลินเฉิงก็พยักหน้าให้ “งั้นเราจะเริ่มการทดสอบเลยไหม?”
“ไม่ต้องรีบร้อนฉันขอติดต่อแผนกทดสอบก่อน ดูว่าคุณหวังอยู่ไหมตอนนี้” เห็นหลินเฉิงพยักหน้าให้พี่ฉางก็ยังไม่พาเขาไปรับบททดสอบในทันที เธอส่งสัญญาณให้เขาใจเย็นลงก่อนและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร
หลังจากที่ปลายสายรับพี่ฉางก็พูดกลับไปในทันที “สวัสดี ฉันฉางเจียจากแผนกจัดหา คุณหวังอยู่ไหม? อยู่สินะ? โอเค โอเค งั้นฉันจะนำตัวเขาไปเดี๋ยวนี้แหละ”
หลังจากที่วางสายเธอก็โบกมือให้หลินเฉิง“ไปกันเถอะ คุณหวังจากแผนกทดสอบมาถึงแล้ว ต้องรีบหละไม่งั้นเราจะมีปัญหาได้ ถ้าเรือออกแล้ว”
หลินเฉิงก็ก้มหัวให้เขาแอบมองไปยังประตูที่หยูซานซ่อนอยู่ ก่อนที่พี่ฉางจะเปิดประตูบานนั้นเดินนำเขาออกไปยังแผนกทดสอบ
“หลินเฉิงทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่หละ?”
หลังจากที่เลี้ยวตามพี่ฉางอยู่หลายครั้งหลินเฉิงก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ถามหาเขาอย่างแปลกใจ นั้นคือเสียงของชูฉิงที่ไม่ได้เจอกันวันสองวันที่ผ่านมา“อ่าว! ทำไมเธอถึงมาอยู่นี่ด้วยหละ?”
หลังจากที่เห็นหน้าชูฉิงหลินเฉิงก็สงสัยไม่แพ้กัน เธอเป็นเลขา ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอต้องมาอยู่ในสถานที่ที่อันตรายแบบนี้
เห็นสีหน้าของหลินเฉิงชูฉิงก็หัวเราะคิ๊กคั๊ก “แปลกจริงๆ หลินเฉิงคนนี้แปลกใจเป็นด้วย สุดยอดไปเลย!”
เห็นชูฉิงแหย่เขาหลินเฉิงก็ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่แถวนี้หละ? ไม่ใช่ว่าเธอต้องนั่งอยู่แต่ในออฟฟิศหรอ ทำไมต้องมาอยู่ในที่แบบนี้ให้ตัวเองไม่สบายใจด้วยหละ?”
“อ้าวน้องหลิน กับ ท่านเลขาชูรู้จักกันด้วยหรอ?”
เห็นอยู่ดีๆทั้งสองก็คุยกัน ฉางเจียก็ถามอย่างประหลาดใจ
ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็ยักไหล่“น้องสาวของผม มีความสัมพันอันดีกับเธอหนะครับ”
“โฮ่…”
ได้ยินคำอธิบายของหลินเฉิงฉางเจียก็รุ้สึกขายหน้าที่ขัดจังหวะการคุยกันของคนสำคัญ
“อ๋อใช่!”
เห็นสีหน้าเป็นทุกข์ของฉางเจียหลินเฉิงก็เข้าใจ เขาหันไปหาชูฉิง “พี่ฉางกับฉันจะไปที่แผนกทดสอบหนะ ไปวัดระดับเพื่อแยกเรือ ไว้เสร็จแล้วค่อยว่ากันนะ”
พูดจบหลินเฉิงก็เดินนำออกไป
“เลขาชูพวกเราขอตัวก่อนนะ!”
เห็นหลินเฉิงเดินนำออกไปฉางเจียก็โล่งอกขึ้นมามาก เธอก้มหัวให้อย่างนอบน้อม ก่อนที่จะเดินตามหลินเฉิงออกไป
มองไปยังแผ่นหลังของคนทั้งสองชูฉิงก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ ตั้งแต่เธอมาเป็นเลขาของรองผู้บังคับบัญชา ทุกคนก็ให้ความเคารพกับเธอมากเมื่อเห็นหน้าเธอ แต่หลินเฉิงไม่เก็บเรื่องพวกนั้นมาคิดเลย ไม่รอแม้กับทั้งให้เธอตอบกลับไปบ้าง เธอจึงอดที่จะโมโหไม่ได้ เธอบ่นพึมพัมก่อนที่จะกลับไปยังห้องของตน
…
“ฉันเข้าใจไม่ผิดหรอกนายรู้จักกับเลขาชูใช่ไหม ถ้านายยังคงความสัมพันธ์นั้นไว้อนาคตของนายต้องรุ่งมากแน่ๆ”
กว่าสองนาทีบนทางเดินแคบๆเมื่อออกห่างจากชูฉิง ดูเหมือนว่าฉางเจียจะผ่อนคลายขึ้นมากๆ เธอเองก็อิจฉาความสัมพันธ์นั้นของหลินเฉิง
ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็ขมวดคิ้วและถามอย่างสงสัย“ผมว่านะพี่ฉาง ชูฉิงเป็นเลขาที่มีตำแหน่งสูง อย่างไรก็ตามเธอก็เป็นแค่เลขานะ เธอชอบทำตัวไม่ดีหรอ?”
“นายไม่เข้าใจหรอก!”
หลินเฉิงดูไม่แคร์ชูฉิงมากขนาดนั้นฉางเจียก็รีบอธิบายให้หลินเฉิงฟัง “แม้เธอจะเป็นเลขาของผู้บังคับบัญชา แต่เธอก็มีสิทธิอยู่มาก แม้แต่ท่าน ผบ. และ รอง ผบ. ยังไม่ลดอำนาจเธอมากมายนัก! เพราะเธอทำงานกับผู้บัญชาการดิงมานานหลายปี เหมือนพวกเขาจะไว้ใจเธอมาก!”
“งั้นเธอก็ดูมีอำนาจมาเลยสินะ…”
เมื่อได้ยินข้อมูลนี้หลินเฉิงได้แต่แปลกใจแม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าชูฉิงนั้นไม่ใช่คนธรรมดา แต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ แม้แต่ฉางเหวินฉวนที่เรียกลมเรียกฝนให้กับฐานทัพแห่งนี้ได้ ยังไม่กล้ายุ่งกับเธอง่ายๆ เลย
หลินเฉิงเข้าใจสิ่งที่พี่ฉางคิดเธอจึงพูดต่อ“ก็อย่างงั้นแหละ ตราบใดที่นายยังคงความสัมพันธ์กับท่านเลขา อนาคตนายต้องดีขึ้นแน่ๆ นายยังคุยกับเลขาอย่างเป็นกันเองในที่ทำงานได้เลยนะ ถึงตอนนั้นอย่าลืมฉันคนนี้เสียหละ!”
“แน่นอนครับ!”
หลินเฉิงไม่ได้จริงจังอะไรมากเขาตอบกลับอย่างสุภาพไป ตอนที่เขาพึ่งมาถึงฐานทัพแห่งนี้เขาก็คิดว่านี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะเปลี่ยนตัวเองเหมือนกัน ตอนแรกเขาก็ไม่ใช่คนพูดเก่งอะไร หลังจากมาถึงที่นี่เขาก็ดีขึ้นมาก น่าจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่สะดวกเกินไปของเขา ความโกรธของเขาลดลงอย่างน่าอัศจรรย์มาก!
————————-SC: บทที่ 351 หวังเหลา
หยูซานที่ตามเขามาตั้งแต่เริ่มก็กำลังเฝ้ามองอย่างแน่วแน่อยู่ข้างนอกประตู อย่างไรก็ตามผู้คนที่เดินผ่านมานั้นมองไม่เห็นเธอ
“งั้นก็ทำเรืองนั้นก่อนเลยพี่ฉางกองพันจะเริ่มออกตัวแล้ว ตามกฏระเบียบแล้ว ผมเองก็อยู่ที่นี่ไม่ได้ งั้นผมลงไปก่อนนะ! ผมแค่มาขอให้พี่ช่วยดูแลเรื่องทดสอบพลังให้กับเขาด้วย…”
หลังจากนั้นพวกเขาก็เลิกคุยกันมันเกือบจะ 9 โมงแล้ว เฉินฉีจึงต้องรีบจบบทสนทนา และถามอย่างเคารพเกียวกับเรื่อของหลินเฉิง เขาพยักหน้าให้กับหลินเฉิงอีกครั้ง
หลังจากได้ยินคำขอของเสี่ยวฉีพี่ฉางก็ยิ้มให้ “ไม่ต้องห่วงเขาเป็นถึงผู้ใช้พลังระดับ 4 ฉันดูแลเขาอย่างเต็มที่แน่นอน!”
เห็นพี่ใหญพยักหน้าเฉินฉีก็โล่งอกในทันที เขาไม่กล้าที่จะคุยต่อแล้ว เขาจึงรีบเดินออกไปจากห้องทำงานไปยังดานฟ้าเรือเพื่อที่จะกลับออกไป
หลังจากที่เฉินฉีจากไปฉางเจียก็ยิบเอกสารออกมาให้หลินเฉิงเซ็นและกรอกข้อมูลทั่วไป เมื่อเขากรอกเสร็จ ฉางเจียก็พูด “ตามข้อบังคับของเบื้องบน แม้ว่านายจะรับการทดสอบของศูนทดสอบมาแล้ว แต่กองพันที่หนึ่งจะเน้นไปที่การต่อสู้ เพราะฉะนั้นเราจะทดสอบเรื่องการต่อสู้กับนายโดยผู้เชียวชาญพิเศษ เพื่อจะจัดสรรตำแหน่งให้นายอีก….”
“ผมเข้าใจแล้ว…”
เห็นอีกฝ่ายพูดในเรื่องที่เขาเข้าใจอยู่แล้วหลินเฉิงก็พยักหน้าให้ “งั้นเราจะเริ่มการทดสอบเลยไหม?”
“ไม่ต้องรีบร้อนฉันขอติดต่อแผนกทดสอบก่อน ดูว่าคุณหวังอยู่ไหมตอนนี้” เห็นหลินเฉิงพยักหน้าให้พี่ฉางก็ยังไม่พาเขาไปรับบททดสอบในทันที เธอส่งสัญญาณให้เขาใจเย็นลงก่อนและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร
หลังจากที่ปลายสายรับพี่ฉางก็พูดกลับไปในทันที “สวัสดี ฉันฉางเจียจากแผนกจัดหา คุณหวังอยู่ไหม? อยู่สินะ? โอเค โอเค งั้นฉันจะนำตัวเขาไปเดี๋ยวนี้แหละ”
หลังจากที่วางสายเธอก็โบกมือให้หลินเฉิง“ไปกันเถอะ คุณหวังจากแผนกทดสอบมาถึงแล้ว ต้องรีบหละไม่งั้นเราจะมีปัญหาได้ ถ้าเรือออกแล้ว”
หลินเฉิงก็ก้มหัวให้เขาแอบมองไปยังประตูที่หยูซานซ่อนอยู่ ก่อนที่พี่ฉางจะเปิดประตูบานนั้นเดินนำเขาออกไปยังแผนกทดสอบ
“หลินเฉิงทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่หละ?”
หลังจากที่เลี้ยวตามพี่ฉางอยู่หลายครั้งหลินเฉิงก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ถามหาเขาอย่างแปลกใจ นั้นคือเสียงของชูฉิงที่ไม่ได้เจอกันวันสองวันที่ผ่านมา“อ่าว! ทำไมเธอถึงมาอยู่นี่ด้วยหละ?”
หลังจากที่เห็นหน้าชูฉิงหลินเฉิงก็สงสัยไม่แพ้กัน เธอเป็นเลขา ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอต้องมาอยู่ในสถานที่ที่อันตรายแบบนี้
เห็นสีหน้าของหลินเฉิงชูฉิงก็หัวเราะคิ๊กคั๊ก “แปลกจริงๆ หลินเฉิงคนนี้แปลกใจเป็นด้วย สุดยอดไปเลย!”
เห็นชูฉิงแหย่เขาหลินเฉิงก็ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่แถวนี้หละ? ไม่ใช่ว่าเธอต้องนั่งอยู่แต่ในออฟฟิศหรอ ทำไมต้องมาอยู่ในที่แบบนี้ให้ตัวเองไม่สบายใจด้วยหละ?”
“อ้าวน้องหลิน กับ ท่านเลขาชูรู้จักกันด้วยหรอ?”
เห็นอยู่ดีๆทั้งสองก็คุยกัน ฉางเจียก็ถามอย่างประหลาดใจ
ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็ยักไหล่“น้องสาวของผม มีความสัมพันอันดีกับเธอหนะครับ”
“โฮ่…”
ได้ยินคำอธิบายของหลินเฉิงฉางเจียก็รุ้สึกขายหน้าที่ขัดจังหวะการคุยกันของคนสำคัญ
“อ๋อใช่!”
เห็นสีหน้าเป็นทุกข์ของฉางเจียหลินเฉิงก็เข้าใจ เขาหันไปหาชูฉิง “พี่ฉางกับฉันจะไปที่แผนกทดสอบหนะ ไปวัดระดับเพื่อแยกเรือ ไว้เสร็จแล้วค่อยว่ากันนะ”
พูดจบหลินเฉิงก็เดินนำออกไป
“เลขาชูพวกเราขอตัวก่อนนะ!”
เห็นหลินเฉิงเดินนำออกไปฉางเจียก็โล่งอกขึ้นมามาก เธอก้มหัวให้อย่างนอบน้อม ก่อนที่จะเดินตามหลินเฉิงออกไป
มองไปยังแผ่นหลังของคนทั้งสองชูฉิงก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ ตั้งแต่เธอมาเป็นเลขาของรองผู้บังคับบัญชา ทุกคนก็ให้ความเคารพกับเธอมากเมื่อเห็นหน้าเธอ แต่หลินเฉิงไม่เก็บเรื่องพวกนั้นมาคิดเลย ไม่รอแม้กับทั้งให้เธอตอบกลับไปบ้าง เธอจึงอดที่จะโมโหไม่ได้ เธอบ่นพึมพัมก่อนที่จะกลับไปยังห้องของตน
…
“ฉันเข้าใจไม่ผิดหรอกนายรู้จักกับเลขาชูใช่ไหม ถ้านายยังคงความสัมพันธ์นั้นไว้อนาคตของนายต้องรุ่งมากแน่ๆ”
กว่าสองนาทีบนทางเดินแคบๆเมื่อออกห่างจากชูฉิง ดูเหมือนว่าฉางเจียจะผ่อนคลายขึ้นมากๆ เธอเองก็อิจฉาความสัมพันธ์นั้นของหลินเฉิง
ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็ขมวดคิ้วและถามอย่างสงสัย“ผมว่านะพี่ฉาง ชูฉิงเป็นเลขาที่มีตำแหน่งสูง อย่างไรก็ตามเธอก็เป็นแค่เลขานะ เธอชอบทำตัวไม่ดีหรอ?”
“นายไม่เข้าใจหรอก!”
หลินเฉิงดูไม่แคร์ชูฉิงมากขนาดนั้นฉางเจียก็รีบอธิบายให้หลินเฉิงฟัง “แม้เธอจะเป็นเลขาของผู้บังคับบัญชา แต่เธอก็มีสิทธิอยู่มาก แม้แต่ท่าน ผบ. และ รอง ผบ. ยังไม่ลดอำนาจเธอมากมายนัก! เพราะเธอทำงานกับผู้บัญชาการดิงมานานหลายปี เหมือนพวกเขาจะไว้ใจเธอมาก!”
“งั้นเธอก็ดูมีอำนาจมาเลยสินะ…”
เมื่อได้ยินข้อมูลนี้หลินเฉิงได้แต่แปลกใจแม้ว่าเขาจะรู้อยู่แล้วว่าชูฉิงนั้นไม่ใช่คนธรรมดา แต่ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ แม้แต่ฉางเหวินฉวนที่เรียกลมเรียกฝนให้กับฐานทัพแห่งนี้ได้ ยังไม่กล้ายุ่งกับเธอง่ายๆ เลย
หลินเฉิงเข้าใจสิ่งที่พี่ฉางคิดเธอจึงพูดต่อ“ก็อย่างงั้นแหละ ตราบใดที่นายยังคงความสัมพันธ์กับท่านเลขา อนาคตนายต้องดีขึ้นแน่ๆ นายยังคุยกับเลขาอย่างเป็นกันเองในที่ทำงานได้เลยนะ ถึงตอนนั้นอย่าลืมฉันคนนี้เสียหละ!”
“แน่นอนครับ!”
หลินเฉิงไม่ได้จริงจังอะไรมากเขาตอบกลับอย่างสุภาพไป ตอนที่เขาพึ่งมาถึงฐานทัพแห่งนี้เขาก็คิดว่านี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะเปลี่ยนตัวเองเหมือนกัน ตอนแรกเขาก็ไม่ใช่คนพูดเก่งอะไร หลังจากมาถึงที่นี่เขาก็ดีขึ้นมาก น่าจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมที่สะดวกเกินไปของเขา ความโกรธของเขาลดลงอย่างน่าอัศจรรย์มาก!
————————-SC: บทที่ 351 หวังเหลา