I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 362 ภัตตาคารในเรือรบ
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 362 ภัตตาคารในเรือรบ
“พวกเรากองพันที่หนึ่งต้องออกเดินทางเป็นประจำเรื่องกินเราต้องไม่ขาดอยู่แล้ว!”
ได้ยินแบบนั้นฉางเหวินฉวนก็โบกมือให้“ยังไงๆ ก็ถึงเวลาอาหารแล้ว พวกเราไปทานอาหารกันก่อนแล้วค่อยไปแจกแจงงานของการออกล่าในวันนี้แล้วกัน”
“โอเค!”
แม้จะเป็นเพื่อการย้ายเรื่องคุยจากเรื่องที่เขากำลังสนใจแต่ตอนนี้หลินเฉิงเองก็หิวมากแล้ว หลังจากพยักหน้า หลินเฉิงก็เดินตามฉางเหวินฉวนลงไปจากด่านฟ้าเรือ
…
ระหว่างทางไปยังภัตตาคารด้านในของเรือรบผู้คนมากมายที่พบกับฉางเหวินฉวนก็กล่าวคำทักทายอย่างอบอุ่น เหมือนพวกเขาทุกคนจะดูมีความสุขมากที่ได้ติดตามฉางเหวินฉวน หลินเฉิงจึงได้โอกาสของไปห้องน้ำ เพื่อติดต่อกับหยูซาน
“ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นช่างพูดขนาดนี้ฉันว่าถ้าฉันอยากจะจัดการกับเขาต้องรอจนเที่ยงนี้แหละ ไปหาอะไรกินก่อนและเตรียมพร้อมเอาไว้ เธอค่อยตามมาอีกครั้งหลังจากพวกเราทานข้าวเสร็จนะ”
หลังจากเอาอาหารและเครื่องดื่มออกมาจากระบบแคปซูลของเขาเขาก็ยื่นมันให้กับหยูซานก่อนที่จะพูดออกไปอย่างช่วยไม่ได้
หยูซานพยักหน้าเบาๆและรับอาหารมาวางไว้ เธอถามด้วยเสียงเบาเพราะความละอาย “หนูผิดเองแหละที่ไม่ได้รู้จักนิสัยของเขาเลย ทั้งๆ ที่ติดตามเขามาหลายวันแล้ว…”
“ไม่มันไม่ใช่ความผิดของเธอ”
เห็นหยูซานกำลังตำหนิตัวเองหลินเฉิงก็พูดไปตรงๆ “คนอย่างเขาไม่ค่อยเปิดใจคุยกับใครเท่าไหร่นัก ถ้าไม่ได้เป็นเพราะความสัมพันธ์ของฉันกับเสี่ยวเดีย เขาคงไม่เปิดโอกาสให้เขาผ่อนคลายและพูดคุยกันแบบนี้หรอก ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นด้านตลกๆ ของเขาด้วยนี้สิ…”
หลินเฉิงพยักหน้า“ฉันเองก็ไม่ได้หวังให้เธอติดตามเขาหลายวันขนาดนั้นอยู่แล้ว ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเขาจะเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงขนาดนี้ ไม่เหมื่อนกับที่วางมาดแบบที่อยากให้ใครๆ เขาเห็นกัน…”
“ไม่ว่าเขาจะใจเย็นดุจดังน้ำแข็งร้อนราวกับลาวา หรือจะเป็นคนตลกอย่างไง เป้าหมายของเราก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากที่พวกเราคุยกันเรื่องแผนการล่าเสร็จ เธอก็หาจังหวะลงมือได้เลย!”
เขาไม่อยากจะพูดอะไรเล็กๆน้อยๆ แล้ว เขาโบกมือและตัดสินใจที่จะไม่พูดถึงมันอีก พูดจบเขาก็จะออกไปยังภัตตาคาร แต่อยู่ดีๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างออก เขาหันมาพูดก่อนที่จะออกไป “จะว่าไปแล้ว ตอนที่เธอเริ่มลงมือ ไม่ต้องรุนแรงมากก็ได้นะ ถ้าเขาโต้กับมาได้อย่างดุดันหละก็ ให้รีบถอยออกไปเลยนะ เข้าใจไหม?” “ค่ะ….”
ได้ยินแบบนั้นหยูซานก็ไม่เข้าใจทั้งหมด“แต่ถ้าเบาเกินไป เราอาจจะพลาดโอกาสไปเลยก็ได้นะค่ะ?”
“ไม่เป็นอย่างงั้นหรอก!”
หลินเฉิงตอบอย่างมั่นใจ“เธอรู้ไหมว่าตอนนี้เขาเป็นรองผบ. ของฐานทัพแห่งนี้แล้ว ชีวิตของผู้มีตำแหน่งสูงย่อมมีค่ามากๆ ! และสิ่งที่พวกเขากลัวมากที่สุดคือการถูกลอบสังหารหรือซุ่มโจมตี! เธอแค่ต้องเปิดฉากเท่านั้น ไม่ว่ามันจะโดนหรือไม่ มันก็เหมือนๆ กัน ฉันกลัวว่าเธอจะเผลอฆ่าเขาเอาได้ ข้อมูลที่เขามีตอนนี้มันล้ำค่ามาก!”
ได้ยินคำอธิบายของหลินเฉิงแล้วหยูซานก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ “เข้าใจแล้วค่ะ! งั้นหนูจะไม่ใช่อาวุธตอนเริ่มลงมือ!”
“ดีมาก!”
เห็นหยูซานยอมเข้าใจหลินเฉิงก็พยักหน้า ก่อนที่จะโบกมือให้และเดินจากไป ตามเวลารับประทานอาหารแล้วมันก็ใก้ลถึงเวลานั้นเต็มที พวกเขารีบเดินเข้าไปยังภัตตาคารหลังจากที่หลินเฉิงแยกกับหยูซาน หลินเฉิงค่อยๆ ผ่าฟูงชนเข้าไปหาที่ ที่ฉางเหวินฉวนจองเอาไว้ให้ที่ละนิดๆ
เนื่องจากเป็นเรือธงของกองพันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบอำนวยความสะดวกหรือขนาดของห้องแต่ละห้อง เรือลำนี้ก็เป็นสัญลักษณ์ของผู้มีอำนาจและคนชั้นสูง แม้ว่าจะเป็นในเวลาออกปฏิบัติการแบบนี้ก็ตามที ห้องอาหารแห่งนี้ตกแต่งด้วยความหรูหรา แม้ว่าจะเป็นชั้นหนึ่งของภัตตาคารอาหาร แต่มันก็เหมือนกับร้านขายไวน์ราคาแพงดีๆ นี่เอง!
หลังจากที่แหวกผู้คนที่ขวางทางออกไปหลินเฉิงก็รีบวิ่งต่อไปยังห้อง VIP บนชั้นสองทันที อาศัยจังหวะที่คนไม่ค่อยมี ในที่สุดเข้าก็ไปถึงชั้นสอง ก่อนที่ทางเดินนั้นจะเต็มไปด้วยผู้คนเหมือนเดิม
“โฮ่….” หลินเฉิงมองไปยังกลุ่มคนที่หนาแน่นอยู่ในชั้นล่างของภัตตาคารเขาก็อดที่จะถอนหายใจและใจเต้นตึกตักไปพร้อมๆ กันไม่ได้ “ทำไมคนถึงมาเยอะเอาตอนนี้ได้นะ?”
“สวัสดีครับท่านมาเพื่อรับประทานอาหารหรือมาพบใครรึปล่าวครับ?”
เมื่อเขาเดินช้าลงเพราะสำรวจสถานการณ์รอบตัวอยู่ก็มีพนักงานต้อนรับสวมชุดอย่างดีเข้ามาถามอย่างสุภาพ
“มาหาใครหนะหรอ….ฉางเหวินฉวนไง ห้อง 201!”
หลินเฉิงตอบไปตามตรง
“201….อ่อ คุณหลินใช่ไหมครับ? ตามมาทางนี้เลยครับ!”
เห็นหลินเฉิงแจ้งชื่อของฉางเหวินฉวนพนักงานก็ตกใจในตอนแรก ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่าทีอันสุขุมเหมือนเดิม ก่อนที่จะกวักมือนำทางให้หลินเฉิง
ระหว่างที่เดินตามพนักงานหลินเฉิงก็เริ่มเบื่อการตกแต่งห้องแบบนี้ มันแตกต่างจากชั้นล่างอย่างสิ้นเชิง ห้องส่วนตัวนั้นอยู่ในที่ลับตาอย่างสิ้นเชิง ฉางเหวินฉวนเองก็ชวนเขามาทานอาหารด้วยแค่คนเดียว ห้องอื่นๆ น่าจะไม่มีใครใช้ในตอนนี้
หลังจากที่คิดอยู่นานก็เลิกคิดมากถึงเหตุผลว่าทำไมห้องส่วนตัวถึงต้องมาอยู่ในสถาพแบบนี้ ยังไงซะมันก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของภัตตาคาร อย่างไงก็น่าจะมีพนักงานระดับสูงคนอื่นๆ ใช้อยู่บ้างนั้นแหละนะ ชั้นล่างเต็มไปด้วยผู้ใช้พลังมากมายกำลังนั่งเตรียมรับประทานอาหารกันอยู่เต็มไปหมด เสียงมันก็ย่อมดังเป็นธรรมดาหยูซานไม่ตามมาด้วยเป็นเรื่องที่ดีแล้ว อาจจะมีคนที่สามารถตรวจจับเธอได้ปนอยู่ในห้องอาหารนี้ก็เป็นไปได้
หลังจากที่คิดเรื่องหน้าเบื่อๆเสร็จ เขาก็เดินมาถึงหน้าห้องแล้ว เขาได้ยินพนักงานกล่าวทักทายกับคนหลายคนนั้นทำให้เขาแปลกใจ !
“ดีเลยครับท่านผบ.!” ตอนแรกเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมฉางเหวินฉวนถึงกับจองห้องทั้งๆที่มาทานอาหารแค่แปปเดียว แต่เมื่อเขาเข้ามาในห้องแล้วเขาก็เห็นหน้าชูฉิงทันที!
“อ่าวว่าไง หลินเฉิงมาถึงแล้ว!”
ขณะที่กำลังคุยกับชูฉิงอยู่เขาก็เห็นหลินเฉิงเดินเข้ามาพอดี เขาลุกขึ้นและกล่าวทักทายอีกครั้ง ก่อนที่อธิบายให้ฟัง “ก่อนที่คุณเลขาชูฉิงจะขึ้นมาบนเรือ ท่านผู้บังคับบัญชาสูงสุดบอกให้ผมดูแลเธอเป็นอย่างดี ผมบังเอิญเจอกับเธอพอดีเลยชวนให้มาทานอาหารด้วยกันว่าไงครับ?”
ฉางเหวินฉวนอธิบายเสร็จหลินเฉิงก็พยักหน้าให้ เขาอยากจะสาปแช่งผู้หญิงคนนี้จริงๆ เลยวันนี้เป็นวันสำคัญของเขาแต่ผู้หญิงคนนี้ต้องโพล่มายุ่งตลอดเลย!
———————SC: บทที่ 363 กระต่ายขาเดียว!
ได้ยินแบบนั้นฉางเหวินฉวนก็โบกมือให้“ยังไงๆ ก็ถึงเวลาอาหารแล้ว พวกเราไปทานอาหารกันก่อนแล้วค่อยไปแจกแจงงานของการออกล่าในวันนี้แล้วกัน”
“โอเค!”
แม้จะเป็นเพื่อการย้ายเรื่องคุยจากเรื่องที่เขากำลังสนใจแต่ตอนนี้หลินเฉิงเองก็หิวมากแล้ว หลังจากพยักหน้า หลินเฉิงก็เดินตามฉางเหวินฉวนลงไปจากด่านฟ้าเรือ
…
ระหว่างทางไปยังภัตตาคารด้านในของเรือรบผู้คนมากมายที่พบกับฉางเหวินฉวนก็กล่าวคำทักทายอย่างอบอุ่น เหมือนพวกเขาทุกคนจะดูมีความสุขมากที่ได้ติดตามฉางเหวินฉวน หลินเฉิงจึงได้โอกาสของไปห้องน้ำ เพื่อติดต่อกับหยูซาน
“ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นช่างพูดขนาดนี้ฉันว่าถ้าฉันอยากจะจัดการกับเขาต้องรอจนเที่ยงนี้แหละ ไปหาอะไรกินก่อนและเตรียมพร้อมเอาไว้ เธอค่อยตามมาอีกครั้งหลังจากพวกเราทานข้าวเสร็จนะ”
หลังจากเอาอาหารและเครื่องดื่มออกมาจากระบบแคปซูลของเขาเขาก็ยื่นมันให้กับหยูซานก่อนที่จะพูดออกไปอย่างช่วยไม่ได้
หยูซานพยักหน้าเบาๆและรับอาหารมาวางไว้ เธอถามด้วยเสียงเบาเพราะความละอาย “หนูผิดเองแหละที่ไม่ได้รู้จักนิสัยของเขาเลย ทั้งๆ ที่ติดตามเขามาหลายวันแล้ว…”
“ไม่มันไม่ใช่ความผิดของเธอ”
เห็นหยูซานกำลังตำหนิตัวเองหลินเฉิงก็พูดไปตรงๆ “คนอย่างเขาไม่ค่อยเปิดใจคุยกับใครเท่าไหร่นัก ถ้าไม่ได้เป็นเพราะความสัมพันธ์ของฉันกับเสี่ยวเดีย เขาคงไม่เปิดโอกาสให้เขาผ่อนคลายและพูดคุยกันแบบนี้หรอก ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นด้านตลกๆ ของเขาด้วยนี้สิ…”
หลินเฉิงพยักหน้า“ฉันเองก็ไม่ได้หวังให้เธอติดตามเขาหลายวันขนาดนั้นอยู่แล้ว ก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเขาจะเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูงขนาดนี้ ไม่เหมื่อนกับที่วางมาดแบบที่อยากให้ใครๆ เขาเห็นกัน…”
“ไม่ว่าเขาจะใจเย็นดุจดังน้ำแข็งร้อนราวกับลาวา หรือจะเป็นคนตลกอย่างไง เป้าหมายของเราก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากที่พวกเราคุยกันเรื่องแผนการล่าเสร็จ เธอก็หาจังหวะลงมือได้เลย!”
เขาไม่อยากจะพูดอะไรเล็กๆน้อยๆ แล้ว เขาโบกมือและตัดสินใจที่จะไม่พูดถึงมันอีก พูดจบเขาก็จะออกไปยังภัตตาคาร แต่อยู่ดีๆ เขาก็นึกอะไรบางอย่างออก เขาหันมาพูดก่อนที่จะออกไป “จะว่าไปแล้ว ตอนที่เธอเริ่มลงมือ ไม่ต้องรุนแรงมากก็ได้นะ ถ้าเขาโต้กับมาได้อย่างดุดันหละก็ ให้รีบถอยออกไปเลยนะ เข้าใจไหม?” “ค่ะ….”
ได้ยินแบบนั้นหยูซานก็ไม่เข้าใจทั้งหมด“แต่ถ้าเบาเกินไป เราอาจจะพลาดโอกาสไปเลยก็ได้นะค่ะ?”
“ไม่เป็นอย่างงั้นหรอก!”
หลินเฉิงตอบอย่างมั่นใจ“เธอรู้ไหมว่าตอนนี้เขาเป็นรองผบ. ของฐานทัพแห่งนี้แล้ว ชีวิตของผู้มีตำแหน่งสูงย่อมมีค่ามากๆ ! และสิ่งที่พวกเขากลัวมากที่สุดคือการถูกลอบสังหารหรือซุ่มโจมตี! เธอแค่ต้องเปิดฉากเท่านั้น ไม่ว่ามันจะโดนหรือไม่ มันก็เหมือนๆ กัน ฉันกลัวว่าเธอจะเผลอฆ่าเขาเอาได้ ข้อมูลที่เขามีตอนนี้มันล้ำค่ามาก!”
ได้ยินคำอธิบายของหลินเฉิงแล้วหยูซานก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ “เข้าใจแล้วค่ะ! งั้นหนูจะไม่ใช่อาวุธตอนเริ่มลงมือ!”
“ดีมาก!”
เห็นหยูซานยอมเข้าใจหลินเฉิงก็พยักหน้า ก่อนที่จะโบกมือให้และเดินจากไป ตามเวลารับประทานอาหารแล้วมันก็ใก้ลถึงเวลานั้นเต็มที พวกเขารีบเดินเข้าไปยังภัตตาคารหลังจากที่หลินเฉิงแยกกับหยูซาน หลินเฉิงค่อยๆ ผ่าฟูงชนเข้าไปหาที่ ที่ฉางเหวินฉวนจองเอาไว้ให้ที่ละนิดๆ
เนื่องจากเป็นเรือธงของกองพันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบอำนวยความสะดวกหรือขนาดของห้องแต่ละห้อง เรือลำนี้ก็เป็นสัญลักษณ์ของผู้มีอำนาจและคนชั้นสูง แม้ว่าจะเป็นในเวลาออกปฏิบัติการแบบนี้ก็ตามที ห้องอาหารแห่งนี้ตกแต่งด้วยความหรูหรา แม้ว่าจะเป็นชั้นหนึ่งของภัตตาคารอาหาร แต่มันก็เหมือนกับร้านขายไวน์ราคาแพงดีๆ นี่เอง!
หลังจากที่แหวกผู้คนที่ขวางทางออกไปหลินเฉิงก็รีบวิ่งต่อไปยังห้อง VIP บนชั้นสองทันที อาศัยจังหวะที่คนไม่ค่อยมี ในที่สุดเข้าก็ไปถึงชั้นสอง ก่อนที่ทางเดินนั้นจะเต็มไปด้วยผู้คนเหมือนเดิม
“โฮ่….” หลินเฉิงมองไปยังกลุ่มคนที่หนาแน่นอยู่ในชั้นล่างของภัตตาคารเขาก็อดที่จะถอนหายใจและใจเต้นตึกตักไปพร้อมๆ กันไม่ได้ “ทำไมคนถึงมาเยอะเอาตอนนี้ได้นะ?”
“สวัสดีครับท่านมาเพื่อรับประทานอาหารหรือมาพบใครรึปล่าวครับ?”
เมื่อเขาเดินช้าลงเพราะสำรวจสถานการณ์รอบตัวอยู่ก็มีพนักงานต้อนรับสวมชุดอย่างดีเข้ามาถามอย่างสุภาพ
“มาหาใครหนะหรอ….ฉางเหวินฉวนไง ห้อง 201!”
หลินเฉิงตอบไปตามตรง
“201….อ่อ คุณหลินใช่ไหมครับ? ตามมาทางนี้เลยครับ!”
เห็นหลินเฉิงแจ้งชื่อของฉางเหวินฉวนพนักงานก็ตกใจในตอนแรก ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่าทีอันสุขุมเหมือนเดิม ก่อนที่จะกวักมือนำทางให้หลินเฉิง
ระหว่างที่เดินตามพนักงานหลินเฉิงก็เริ่มเบื่อการตกแต่งห้องแบบนี้ มันแตกต่างจากชั้นล่างอย่างสิ้นเชิง ห้องส่วนตัวนั้นอยู่ในที่ลับตาอย่างสิ้นเชิง ฉางเหวินฉวนเองก็ชวนเขามาทานอาหารด้วยแค่คนเดียว ห้องอื่นๆ น่าจะไม่มีใครใช้ในตอนนี้
หลังจากที่คิดอยู่นานก็เลิกคิดมากถึงเหตุผลว่าทำไมห้องส่วนตัวถึงต้องมาอยู่ในสถาพแบบนี้ ยังไงซะมันก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของภัตตาคาร อย่างไงก็น่าจะมีพนักงานระดับสูงคนอื่นๆ ใช้อยู่บ้างนั้นแหละนะ ชั้นล่างเต็มไปด้วยผู้ใช้พลังมากมายกำลังนั่งเตรียมรับประทานอาหารกันอยู่เต็มไปหมด เสียงมันก็ย่อมดังเป็นธรรมดาหยูซานไม่ตามมาด้วยเป็นเรื่องที่ดีแล้ว อาจจะมีคนที่สามารถตรวจจับเธอได้ปนอยู่ในห้องอาหารนี้ก็เป็นไปได้
หลังจากที่คิดเรื่องหน้าเบื่อๆเสร็จ เขาก็เดินมาถึงหน้าห้องแล้ว เขาได้ยินพนักงานกล่าวทักทายกับคนหลายคนนั้นทำให้เขาแปลกใจ !
“ดีเลยครับท่านผบ.!” ตอนแรกเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมฉางเหวินฉวนถึงกับจองห้องทั้งๆที่มาทานอาหารแค่แปปเดียว แต่เมื่อเขาเข้ามาในห้องแล้วเขาก็เห็นหน้าชูฉิงทันที!
“อ่าวว่าไง หลินเฉิงมาถึงแล้ว!”
ขณะที่กำลังคุยกับชูฉิงอยู่เขาก็เห็นหลินเฉิงเดินเข้ามาพอดี เขาลุกขึ้นและกล่าวทักทายอีกครั้ง ก่อนที่อธิบายให้ฟัง “ก่อนที่คุณเลขาชูฉิงจะขึ้นมาบนเรือ ท่านผู้บังคับบัญชาสูงสุดบอกให้ผมดูแลเธอเป็นอย่างดี ผมบังเอิญเจอกับเธอพอดีเลยชวนให้มาทานอาหารด้วยกันว่าไงครับ?”
ฉางเหวินฉวนอธิบายเสร็จหลินเฉิงก็พยักหน้าให้ เขาอยากจะสาปแช่งผู้หญิงคนนี้จริงๆ เลยวันนี้เป็นวันสำคัญของเขาแต่ผู้หญิงคนนี้ต้องโพล่มายุ่งตลอดเลย!
———————SC: บทที่ 363 กระต่ายขาเดียว!