I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 387 หลักฐาน
หลังจากเวลาผ่านไปช่วงเวลาหนึ่งเต่ายักษ์ก็สิ้นฤถธิ์แล้ว มันกระอักเลือดจำนวนมากออกมา หัวของมันงอลงและลอยอยู่เฉยๆ กลางท้องทะเล ลมหายใจของมันค่อยๆ แผ่วเบาลง!
มองไปยังร่างของเต่ายักษ์อันไร้ชีวิตใต้ฝ่าเท้าของเขา สีหน้าของฉางเหวินฉวนก็ไม่ค่อยแย่เท่าไรนัก แต่คนอีกสองคนที่ค่อยเฝ้ามองอยู่ห่างออกไปก็โล่งอก เพราะการจากไปของเต่าทะเลนั้น หมายความว่าพวกเขาสามารถกลับบ้านไปพักผ่อนได้เสียที
หลังจากที่ยืนนิ่งอยู่บนหลังของเต่ายักษ์อยู่นานฉางเหวินฉวนก็ปีนกลับลงมา แล้วตะโกนไปทืศที่ทั้งสองรออยู่ ไปแจ้งกับกองพันให้เอาผู้ใช้พลังมาช่วยเก็บกวาดที…
แล้วนายไม่มาด้วยหรอ? เมื่อได้ยินคำพูดนั้นของฉางเหวินฉวนหลงซงก็ถามกลับไปทันทีด้วยท่าทางที่ไม่พอใจ
ฉางเหวินฉวนพยักษ์หน้ากลับมาให้ ฉันรออยู่ตรงนี้แหละ ศพของเจ้านี้อาจจะล่อปีศาจตัวอื่นๆ เข้ามาอีกก็ได้…
โอเค…
หลงซงไม่สงสัยว่าทำไมเขาถึงยืนกรานที่จะอยู่ที่นั้นเธอไม่พูดอะไรไร้สาระและไปนั่งตรงที่นั่งคนขับพร้อมกับขับกลับไปยังกอพันทันที
แม้ข้ออ้างของฉางเหวินฉวนจะดูสมเหตุสมผลมากแต่หลินเฉิงก็รู้ถึงเหตุผลลับๆ ของการกระทำนั้นทันที ที่ฉางเหวินฉวนจะเฝ้าร่างของเต่ายักษ์เพื่อไม่ให้มีสัตว์น้อยใหญ่เข้ามากินนั้น จริงๆ แล้วเขาต้องการที่จะทำลายหลักฐานต่างหาก!
สำหรับเรื่องหลักฐานนั้นมุมปากของหลินเฉิงก็กระตุกขึ้น เขากำมือของตัวเอง แล้วก้อนน้ำแข็งในตัวของเต่ายักษ์ก็ขยับอีกครั้ง! ตอนที่ฉางเหวินฉวนยังไม่ยอมปิดฉากกับเต่ายักษ์นั้นหลินเฉิงได้ทำการควบคุมก้อนน้ำแข็งอย่างลับๆ เขาทำการแช่แข็งส่วนบนของเต่ายักษ์และซ่อนตัวอยู่ในนั้น โดยที่ฉางเหวินฉวนไม่รู้ตัว!
ที่เขาทำอย่างนั้นเพราะว่าตอนที่เขาจัดการกับมังกรยักษ์ เขาบังเอิญไปพบกับอักษรรูนแบบเดียวกับที่เขาเห็นบนประตูหินในหุบเขาฟีนิกส์ และพลังของเต่าตัวนี้ก็ไม่ได้ต่างจากมังกรตัวนั้นเลย แม้ว่าฉางเหวินฉวนจะใช้พลังแปลกๆ ควบคุมมัน แต่เขาก็มั่นใจอย่างยิ่งว่าเขาต้องพบสัญลักษ์เดียวกันนี้บนหน้าผากของเต่ายักษ์แน่ๆ !
โดยที่ไม่แปลกใจเลยหลินเฉิงก็ย้ายจิตไปยังน้ำแข็งก้อนนั้น และแล้วเขาก็พบกับอักษรรูนที่คุ้นตา ประตูของปริศนาในตอนนี้เปิดรับเขาแล้ว!
หัวเราะอะไรของนายหนะ?
หลินเฉิงกำลังคิดถึงข้อมูลที่ได้มาแล้วสิ่งที่เขาอยากจะถามฉางเหวินฉวนตรงๆ อยู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงเรียกของหลงซงลอยมา เขาหันไปหาเจ้าของเสียง และเห็นว่าเธอกำลังกุมพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียวอยู่ พร้อมกับหันมาหาเขาด้วยสายตาอันสงสัย
เขาส่ายหน้าเบาๆแต่เขานึกถึงอะไรบางอย่างที่อยากจะถามได้พอดี!
ฉันเคยได้ยินมาว่าความสัมพันของเธอกับเขาไปได้ไม่สวยนักหนิ?แต่ที่ฉันเห็นมาในวันนี้ เหมือนทุกอย่างจะไม่ได้เป็นเหมือนที่ใครๆ เขาพูดกันนะ…
โดยที่ไม่ได้ตอบคำถามของหลงซงหลินเฉิงก็นั่งคิดอยู่นาน ก่อนที่จะถามเธอเกียวกับความสัมพันกับฉางเหวินฉวนแแทน
ได้ยินคำถามนั้นท่าทีของหลงซงก็แปลกไปเขาเห็นใบหน้าของเธอค่อยๆ นิ่งลง มันไม่สำคัญอะไรกับนายสักหน่อยใช่ไหม?
ก็แค่สงสัยแหละนะ…
หลิงเฉิงพยักหน้า แต่พอมาคิดดูดีๆ แล้ว อย่างไงๆ เธอกับเขาก็เป็นพี่ชายน้องสาวกัน ก็ไม่แปลกนะที่บ้างครั้งจะกลับมาคุยกันอย่างมีเยื่อใยบ้างแบบนี้….
ใครจะไปรู้หลังจากที่หลินเฉิงพูดไปแบบนั้น สีหน้าของหลงซงก็เยือกเย็นขึ้นมาทันที ฉันขอเตือนไว้ก่อนเลยนะ สำหรับความสัมพันที่แล้วๆ มาของฉันกับเขาก่อนหน้านี้มันไม่มีอะไรสำคัญกับฉันทั้งนั้น! ฉันขอบอก
เอ….
อยู่ดีๆผู้หญิงคนนี้ก็ดูอยากจะกินเลือดกินเนื้อขึ้นมา หลินเฉิงก็แปลกใจ และเพื่อที่จะไม่ให้บาดหมางกับเธอแล้ว เขาก็พยักหน้า เป็นสัญญาณบอกกับเธอ ไปว่าเขาจะไม่ถามเรื่องนี้อีก
เห็นหลินเฉิงแอบตกใจในท่าทีที่เปลี่ยนไปของเธอหลงซงก็พ่นลมออกมา ฉันรู้นะว่าทำไมนายถึงถามแบบนี้ นายก็ถามมาตรงๆ เลยสิ นายอยากรู้ใช่ไหมว่าทำไมฉันต้องไปหาฉางเหวินฉวนหลังจากที่เต่ายักษ์มันอาละวาด
เห็นทุกอย่างมันเข้าล็อกแบบนี้หลินเฉิงก็แอบดีใจอยู่ลึกๆ ในใจ เขาพยักหน้ารับ ถูกแล้วหละ…
ฮึ่ม!
เห็นหลินเฉิงพยักหน้าหลงซงก็พูด ฉันทำแบบนี้ก็เพราะกองพันถูกโจมตีโดยสัตว์ทะเลที่ร้ายกาจขนาดนี้เท่านั้นแหละ ฉางเหวินฉวนจะเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ที่ลำบากแบบนี้ทุกครั้งไป! ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพลังของเขาถึงแข็งแกร่งแบบนี้ ในกรณีแบบนี้ฉันต้องปกปกชีวิตน้อยๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าทีเป็นไปได้ ไม่งั้นฉันจะไปทนเจอหน้าเขาทำไมหละ!
แก้ไขปัญหา?หมายถึงฆ่าพวกมันหรอ?
ก็ไม่นะ…
เห็นหลงซงส่ายหน้าเบาๆแล้วพูดออกมา พลังของสัตว์ทะเลนั้นไม่เท่ากัน แม้แต่ฉางเหวินฉวนจะแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่เคยฆ่าพวกมันได้เลยสักครั้ง! ที่เขาทำทุกทีก็คือไล่พวกมันออกไป เหมือนกับวันนี้ มีบ้างครั้งบางคราวเท่านั้นที่พวกเราโดนจู่โจมอย่างรุนแรงแบบนี้แต่สำหรับเต่ายักษ์แล้วนับว่าโชคไม่ดีเลย มันคงต้องกลายเป็นมื้อเย็นของใครหลายๆ คน ในกองทัพแล้วหละนะ…
แล้ว…
หลินเฉิงเชื่อเรื่องนี้สัตว์ทะเลพวกนี้ที่หันมาจู่โจมกองพันน่าจะถูกเชื่อมต่อกับฉางเหวินฉวน และหาโอกาสโจมตีกองพันมาโดยตลอด และเมื่อถึงตอนนั้นฉางเหวินฉวนก็จะออกมาจัดการไล่พวกมันออกไปเอง เพื่อซื้อตำแหน่งให้กับตัวเองและกลายเป็นบุคคลที่แตะต้องไม่ได้ในที่สุด!
อย่างไรก็ตามแม้ว่าหลงซงจะเก๋งกาจ แต่โลกใบนี้ก็ยังมีอะไรหลายๆ ที่ไม่ได้คาดคิดเอาไว้ เหมือนกับวันนี้ บางครั้งเธอก็จัดการพวกมันได้โดยไม่ต้องเรียกฉางเหวินฉวน หลินเฉิงมั่นใจมากว่าการที่เต่าทะเลบุกมาในวันนี้ไม่เกียวข้องกับหลงซง ต้องเป็นเพราะเขาถูกลอบสังหารโดยหยูซานก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน วันนี้ก็สายเกินกว่าที่จะจับตัวได้แล้ว เขาจะทำอะไรได้อีกหละ คงต้องทำแบบนี้เท่านั้นแหละ
นั้นเป็นเหตุผลอย่างดีเลยว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมออกมาการที่ต้องควบคุมเต่านั้นทำให้เขาเป็นเป้านิ่ง ถ้าเดาไม่ผิดเขาต้องตั้งใจอย่างมากที่จะหาเหตุผลในการโจมตีครั้งนี้ ในขณะที่ทุกคนกำลังพยายามต้านมันอย่างสุดชีวิต!
นั้นก็อธิบายได้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงโกรธอย่างมากเมื่อปรากฏตัวออกมาไหนจะเรื่องความเสียงที่พลังของตัวเองจะถูกเปิดเพยขณะที่ต่อสู้กับเต่ายักษ์ ถึงว่าทำไมเขาไม่ยอมโจมตีมาที่เรือหมายเลขหนึ่งอย่างจริงๆ จังๆ เพราะเป็นที่ที่เขากำลังซ่อนตัวอยู่นั้นเอง!
แต่มันก็ยังถูกจำกัดอยู่ในบางเรื่องแม้ว่าเขาจะโกรธอยู่แต่เขาก็ไม่จัดการกับเต่ายักษ์นั้นแน่ๆ เขาคงกำลังหาโอกาสที่จะปล่อยมันไป แจ่หลินเฉิงก็แอบจัดการกับเต่ายักษ์อยู่เงียบๆ เสียได้!
———————SC: บทที่ 388 คนหนีทัพ