I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 391 ราชินีแห่งฐานทัพทะเลน้ำเงิน!
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 391 ราชินีแห่งฐานทัพทะเลน้ำเงิน!
เมื่อเขาถูกประชดโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรผิด หลินเฉิงก้ไม่พอใจ ก่อนที่จะมองไปหาเธอด้วยสีหน้าจริงจัง “หยุดพูดนอกเรื่องได้แล้ว บอกฉันสักทีว่ายัยนั้นถูกตั้งฉายาไว้ว่าอะไร!”
“รีบจังนะ!”
เมื่อถูกกหลินเฉิงเร่งแบบสุดจะทนชูฉิงก็บ่นอย่างไม่พอใจ “ ราชินีแห่งฐานทัพ”
“อุ๊ฟฟฟ!!!”
ได้ยินฉายาสุดเฉิ่มนั้นหลินเฉิงก็พ่นน้ำแร่ที่พึ่งจะกระดกเข้าไปเต็มปากออกมา ก่อนที่จะพูดทั้งน้ำตาว่า “ราชินีแห่งฐานทัพ? ฉันว่านะไอพวกผู้ชายกระร่อนพวกนั้นน่าจะปล่อยวางลงไปบ้างนะ? ฉายาแบบนี้เนี่ยนะ? ฉายาแบบนี้เหมือนกับเด็กๆ ตั้งอย่างไงอย่างงั้นไม่เข้ากับยัยนั้นเลยสักนิด!!”
“แม้มันจะฟังดูไม่ดีนักแต่มันก็เข้าเคร้าอยู่บ้างนะ เพราะยัยนั้นเป็นคนที่ทำตัวแข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับราชินี ไอคนพวกนั้นที่ตั้งฉายานี้ให้ยัยนั้น เจอหน้าเธอทีไรต้องรีบหนียังกับแมวไล่หนูยังไงยังงั้นเลยนะ!”
เห็นหลินเฉิงพูดไม่ออกชูฉิงก็เอามือปิดปากหัวเราะไม่หยุดอยู่นาน ก่อนที่จะกลับไปคุยกันต่อ
“แล้วถ้าเธอเป็นราชินีแล้วมันยังไงหละ?ฉันไม่ได้เป็นเหมือนไอคนพวกนั้นแล้วก็ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องด้วย เหมือนจะไม่มีเหตุผลอะไรที่ยัยนั้นต้องมายุ่งกับฉันนะ?”
“นายเข้าใจผิดแล้ว!”
เห็นหลินเฉิงไม่สบอารมณ์นักชูฉิงก็ชูนิ้วชี้ขึ้นมาแล้วส่ายไปส่ายมา ข้างหน้าของหลินเฉิง
“เนื่องจากนายเป็นสมาชิกใหม่ไหนจะได้รับความสนใจจากฉางเหวินฉวนตั้งแต่วันแรกที่มารายงานตัว แถมตอนนี้นายกำลังคุยกับเลขาใหญ่สุดของที่นี่ ต่อหน้าคนอื่นๆ อีก เท่ากับว่าถ้านับเรื่องความสัมพันกับผู้คนแล้ว นายก็สนิทกับตัวเต็งของฐานทัพตั้งหลายคนแล้ว ตอนนี้นะเหมือนกับมีคำว่า ‘ฉันนี้แหละเจ๋งสุด’ จารึกอยู่บนหัวของนายแล้ว ทำไมหลงซงจะไม่สนใจในตัวนายหละ? ถ้านี้ยังอธิบายอะไรให้นายเข้าใจไม่ได้อีก ก็ขอให้นายมีความสุขกับฐานทัพแห่งนี้แล้วกันนะ..”
ได้ยินคำอธิบายนั้นหลินเฉิงก็เข้าใจทุกอย่างมากขึ้นแล้ว เขาได้แต่รู้สึกเศร้าและอบอุ่นไปพร้อมๆ กัน
ที่เขาไม่เข้าใจในตอนแรกก็น่าจะเป็นเพราะเขาเห็นใบหน้าที่มีน้ำตาปริออกมาตอนที่เธออยู่ข้างๆ เขามาแล้วครั้งนึง นั้นทำให้เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นราชินีของฐานทัพแห่งนี้ ที่มีชื่อเสียงมากคนนึง ไอพวกไม่เอาพวกนั้นก็คงจะโดนเธอซัดมาหลายครั้งแล้วก็เป็นไปได้ และที่เขารู้สึกอบอุ่นก็เพราะชูฉิงอุส่าบอกเรื่องนี้กับเขาทั้งที่อยู่ในสถานที่ ที่ไม่ควรพูดเรื่องนี้อย่างยิ่ง!
แม้ว่าเขาจะต่อรองกับหลงซงเรื่องใบสมัครใหม่อีกครั้งไปแล้วซึ่งชูฉิงก็ไม่รู้เรื่องนี้เลยสักนิด ผู้หญิงคนนี้คงอยากจะปกป้องเขาโดยที่ไม่รู้ตัว น่าจะเกียวกับความรู้สึกที่เธอมีต่อหลีเหมิงด้วย พูดได้เลยว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ใจดีมากๆ คนนึงเลย แม้ว่าจะโกรธง่ายและปากมากไปหน่อยก็ตาม
“ยัยนั้นมีอำนาจมากขนาดไหนกัน?”
หลังจากที่พยักหน้าให้หลินเฉิงก็บอกกับเธอทันที “แต่เธอไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เพราะหลังจากวันนี้ฉันก็ไม่มาที่กองพันอีกแล้วหละ!”
“ห๊ะ!?”
ชูฉิงถึงกับนิ่งไป“ทำไมหละ? นายก็ใช้เวลากับเรื่องที่ต้องทำก่อนจะเข้ามาที่นี่ได้อยู่หลายวันแล้วนะ? ทำไมวันเดียวก็เลิกแล้วหละ?” “ก็แค่กลัวหนะไม่มีเหตุผลอื่นหรอก วันแรกมาก็ต้องมาเจออะไรแบบนี้แล้ว ถ้ายังอยูต่อไปชีวิตก็จะเสี่เอา สักวันคงตายอยู่ในทะเลอันไร้จุดสิ้นสุดนี้เช้าให้สักวัน ถ้าฉันไม่ระวังตัวเข้า…”
เห็นชูฉิงมองมาที่เขาเป็นตาเดียวหลินเฉิงก็ยักไหล่หนึ่งที และจะคุยเรื่องหลงซงกับเธอต่อ
หลังจากที่ยืนคิดอยู่นานชูฉิงก็บ่นนิดหน่อย ก่อนที่จะดึงคอเสื้อของหลินเฉิงมาถามด้วยเสียงเบาๆ “นายกลัวหรอก? บ้าไปแล้วรึไง? คนอย่างนายกลัวเป็นด้วยหรอเนี่ย หรือมันพึ่งผุดมาในหัวนายเป็นครั้งแรกจริงๆ ?”
“ยัยบ้า!ทำไมหละฉันก็เป็นคนนะ ทำไมจะกลัวไม่ได้? เธอนั้นแหละบ้า!”
ได้ยินแบบนั้นเธอก็ไม่ได้ปล่อยมือแต่อย่างไรหลินเฉิงเมื่อยหลังนิดๆ จึงต้องย่อตัวลงมา พร้อมกับพูดออกมาอย่างอดไม่ได้
“นายนั้นแหละบ้า!” เห็นว่าหลินเฉิงยังไม่ยอมบอกแผนนั้นกับเธออีกชูฉิงก็บ่นขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่จะปล่อยมือไปพร้อมกับแสดงสีหน้าที่ไม่พอใจ “อย่ามาพูดว่าไม่เป็นไรเลย ถ้าเกิดอะไรหลังจากนี้อย่าหาว่าฉันไม่ได้เตือนหละ นายเป็นแบบนี้อีกแล้ว ฉันหละสงสัยจริงๆ ว่า IQ นายมันเท่าไหร่กันแน่!”
“ยัยโรคจิต…”
หลินเฉิงหันหลังกลับไปพร้อมกับจัดปกเสื้อที่โดนดึงก่อนที่จะบ่นเบาๆ กับตัวเอง ก่อนที่จะหันกลับไปพูดกับเธอว่า “โอเค ฉันต้องไปช่วยคนเจ็บต่อ หลังจากที่เรือกู้ภัยกลับมาแล้ว เธอก็ไปทำเรื่องของเธอต่อเถอะ อย่าพึ่งมารบกวนฉันนะ โอเค?”
เขาเดินออกไปพร้อมกับโบกมือให้โดยที่ไม่หันหลังกลับมาเป็นสัญญาณว่าให้แยกย้ายกันไปก่อน
แม้ว่าเธอจะโกรธแต่เธอก็เริ่มจะชินกับผู้ชายคนนี้แล้ว ผู้ชายคนนี้กับเธอเหมือนกับน้ำและไฟ เธอได้แต่กระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิดพร้อมเดินจากไปเช่นกัน
…
กว่า4 ชั่วโมง การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนก็จบลง ผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บต่างถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาที่ตรงกับอาการที่สุด ทันทีที่เรือรบกลับถึงท่า ตอนนี้หน่วยเก็บกวาดก็เริ่มออกมาทำงานแล้ว พวกเขาต้องทำความสะอาดเรือทั้งลำอีกนานนอกจากพวกเขาแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ทีมวิศวกรที่กำลังขนอุปกรณ์ซ่อมแซมฉุกเฉินออกมาจากห้องเครืองของเรือ
แม้วันนี้จะเกิดเหตุการที่ยากเกินกว่าจะลืมได้ลงสำหรับทุกๆคน แต่ก็มีอีกกว่า 1 แสนชีวิตที่ต้องเอาตัวรอดกันต่อไปอยู่ในฐานทัพ วันนี้กองพันที่หนึ่งโดนไปหนักมาก เรือรบแต่ละลำก็ต้องการ การบำรุงรักษาทันที เพื่อที่จะทันและพร้อมสำหรับการออกล่าครั้งต่อไป เนื้อของเต่ายักจำนวนมากที่ถูก รุมแล่โดยทีมงานจำนวนหนึ่งเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว กำลังค่อยๆ ถูกลำเรียงไปยังที่รองรับแห่งต่างๆ ในฐานทัพ ในที่สุดรางวัลใหญ่ก็ถูกตอบแทนให้กับฐานทัพทั้งฐานในทันที ฉางเหวินฉวนออกคำสั่งให้แจกจ่ายไปยังครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบทุกครอบครัวก่อนเลยเป็นอันดับแรก
“ฟู…”
หลังจากที่พ่นควันบุหรี่ออกมาช้าๆหลินเฉิงที่กำลังยืนอยู่บนด่านฟ้าด้านท้ายเรือ กำลังรับลมทำเลที่พัดมาจากแดนไกล แม้ทะเลจะไร้ขอบเขต แต่เขาก็ยังคงหลงใหลมันด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างก่อนหน้า เขามันใจอย่างยิ่งว่าสัตว์ยักษ์ตัวนั้นตามล่าเขามา แต่ก็ถูกชายผู้มากด้วยพลังจัดการได้อย่างอยู่หมัด
ผู้ที่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นอะไรกลับต้องมาบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก นั้นทำให้เขารู้สึกแย่มาก
“ขอโทษด้วยนะทุกๆคน…”
เสียงกระซิบร่องลอยออกไปตามกระแสของลมบกที่พัดสู่ทะเลได้เแต่หวังว่าลมนั้นจะพัดพาคำขอขมานี้ไปให้วิญญาณของผู้ร่วงลับได้ยินและไปสู่สุขติในที่สุด หลินเฉิงทิ้งก้อนบุหรี่ลงไปก่อนที่จะหนักหลังกลับไปพร้อมที่ลงไปจากเรือ แต่เขาก็เห็นหลงซงที่เหนื่อยกับงานทั้งวันกำลังเดินมาหาเขา
“รีบจังนะ!”
เมื่อถูกกหลินเฉิงเร่งแบบสุดจะทนชูฉิงก็บ่นอย่างไม่พอใจ “ ราชินีแห่งฐานทัพ”
“อุ๊ฟฟฟ!!!”
ได้ยินฉายาสุดเฉิ่มนั้นหลินเฉิงก็พ่นน้ำแร่ที่พึ่งจะกระดกเข้าไปเต็มปากออกมา ก่อนที่จะพูดทั้งน้ำตาว่า “ราชินีแห่งฐานทัพ? ฉันว่านะไอพวกผู้ชายกระร่อนพวกนั้นน่าจะปล่อยวางลงไปบ้างนะ? ฉายาแบบนี้เนี่ยนะ? ฉายาแบบนี้เหมือนกับเด็กๆ ตั้งอย่างไงอย่างงั้นไม่เข้ากับยัยนั้นเลยสักนิด!!”
“แม้มันจะฟังดูไม่ดีนักแต่มันก็เข้าเคร้าอยู่บ้างนะ เพราะยัยนั้นเป็นคนที่ทำตัวแข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับราชินี ไอคนพวกนั้นที่ตั้งฉายานี้ให้ยัยนั้น เจอหน้าเธอทีไรต้องรีบหนียังกับแมวไล่หนูยังไงยังงั้นเลยนะ!”
เห็นหลินเฉิงพูดไม่ออกชูฉิงก็เอามือปิดปากหัวเราะไม่หยุดอยู่นาน ก่อนที่จะกลับไปคุยกันต่อ
“แล้วถ้าเธอเป็นราชินีแล้วมันยังไงหละ?ฉันไม่ได้เป็นเหมือนไอคนพวกนั้นแล้วก็ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องด้วย เหมือนจะไม่มีเหตุผลอะไรที่ยัยนั้นต้องมายุ่งกับฉันนะ?”
“นายเข้าใจผิดแล้ว!”
เห็นหลินเฉิงไม่สบอารมณ์นักชูฉิงก็ชูนิ้วชี้ขึ้นมาแล้วส่ายไปส่ายมา ข้างหน้าของหลินเฉิง
“เนื่องจากนายเป็นสมาชิกใหม่ไหนจะได้รับความสนใจจากฉางเหวินฉวนตั้งแต่วันแรกที่มารายงานตัว แถมตอนนี้นายกำลังคุยกับเลขาใหญ่สุดของที่นี่ ต่อหน้าคนอื่นๆ อีก เท่ากับว่าถ้านับเรื่องความสัมพันกับผู้คนแล้ว นายก็สนิทกับตัวเต็งของฐานทัพตั้งหลายคนแล้ว ตอนนี้นะเหมือนกับมีคำว่า ‘ฉันนี้แหละเจ๋งสุด’ จารึกอยู่บนหัวของนายแล้ว ทำไมหลงซงจะไม่สนใจในตัวนายหละ? ถ้านี้ยังอธิบายอะไรให้นายเข้าใจไม่ได้อีก ก็ขอให้นายมีความสุขกับฐานทัพแห่งนี้แล้วกันนะ..”
ได้ยินคำอธิบายนั้นหลินเฉิงก็เข้าใจทุกอย่างมากขึ้นแล้ว เขาได้แต่รู้สึกเศร้าและอบอุ่นไปพร้อมๆ กัน
ที่เขาไม่เข้าใจในตอนแรกก็น่าจะเป็นเพราะเขาเห็นใบหน้าที่มีน้ำตาปริออกมาตอนที่เธออยู่ข้างๆ เขามาแล้วครั้งนึง นั้นทำให้เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นราชินีของฐานทัพแห่งนี้ ที่มีชื่อเสียงมากคนนึง ไอพวกไม่เอาพวกนั้นก็คงจะโดนเธอซัดมาหลายครั้งแล้วก็เป็นไปได้ และที่เขารู้สึกอบอุ่นก็เพราะชูฉิงอุส่าบอกเรื่องนี้กับเขาทั้งที่อยู่ในสถานที่ ที่ไม่ควรพูดเรื่องนี้อย่างยิ่ง!
แม้ว่าเขาจะต่อรองกับหลงซงเรื่องใบสมัครใหม่อีกครั้งไปแล้วซึ่งชูฉิงก็ไม่รู้เรื่องนี้เลยสักนิด ผู้หญิงคนนี้คงอยากจะปกป้องเขาโดยที่ไม่รู้ตัว น่าจะเกียวกับความรู้สึกที่เธอมีต่อหลีเหมิงด้วย พูดได้เลยว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ใจดีมากๆ คนนึงเลย แม้ว่าจะโกรธง่ายและปากมากไปหน่อยก็ตาม
“ยัยนั้นมีอำนาจมากขนาดไหนกัน?”
หลังจากที่พยักหน้าให้หลินเฉิงก็บอกกับเธอทันที “แต่เธอไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เพราะหลังจากวันนี้ฉันก็ไม่มาที่กองพันอีกแล้วหละ!”
“ห๊ะ!?”
ชูฉิงถึงกับนิ่งไป“ทำไมหละ? นายก็ใช้เวลากับเรื่องที่ต้องทำก่อนจะเข้ามาที่นี่ได้อยู่หลายวันแล้วนะ? ทำไมวันเดียวก็เลิกแล้วหละ?” “ก็แค่กลัวหนะไม่มีเหตุผลอื่นหรอก วันแรกมาก็ต้องมาเจออะไรแบบนี้แล้ว ถ้ายังอยูต่อไปชีวิตก็จะเสี่เอา สักวันคงตายอยู่ในทะเลอันไร้จุดสิ้นสุดนี้เช้าให้สักวัน ถ้าฉันไม่ระวังตัวเข้า…”
เห็นชูฉิงมองมาที่เขาเป็นตาเดียวหลินเฉิงก็ยักไหล่หนึ่งที และจะคุยเรื่องหลงซงกับเธอต่อ
หลังจากที่ยืนคิดอยู่นานชูฉิงก็บ่นนิดหน่อย ก่อนที่จะดึงคอเสื้อของหลินเฉิงมาถามด้วยเสียงเบาๆ “นายกลัวหรอก? บ้าไปแล้วรึไง? คนอย่างนายกลัวเป็นด้วยหรอเนี่ย หรือมันพึ่งผุดมาในหัวนายเป็นครั้งแรกจริงๆ ?”
“ยัยบ้า!ทำไมหละฉันก็เป็นคนนะ ทำไมจะกลัวไม่ได้? เธอนั้นแหละบ้า!”
ได้ยินแบบนั้นเธอก็ไม่ได้ปล่อยมือแต่อย่างไรหลินเฉิงเมื่อยหลังนิดๆ จึงต้องย่อตัวลงมา พร้อมกับพูดออกมาอย่างอดไม่ได้
“นายนั้นแหละบ้า!” เห็นว่าหลินเฉิงยังไม่ยอมบอกแผนนั้นกับเธออีกชูฉิงก็บ่นขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่จะปล่อยมือไปพร้อมกับแสดงสีหน้าที่ไม่พอใจ “อย่ามาพูดว่าไม่เป็นไรเลย ถ้าเกิดอะไรหลังจากนี้อย่าหาว่าฉันไม่ได้เตือนหละ นายเป็นแบบนี้อีกแล้ว ฉันหละสงสัยจริงๆ ว่า IQ นายมันเท่าไหร่กันแน่!”
“ยัยโรคจิต…”
หลินเฉิงหันหลังกลับไปพร้อมกับจัดปกเสื้อที่โดนดึงก่อนที่จะบ่นเบาๆ กับตัวเอง ก่อนที่จะหันกลับไปพูดกับเธอว่า “โอเค ฉันต้องไปช่วยคนเจ็บต่อ หลังจากที่เรือกู้ภัยกลับมาแล้ว เธอก็ไปทำเรื่องของเธอต่อเถอะ อย่าพึ่งมารบกวนฉันนะ โอเค?”
เขาเดินออกไปพร้อมกับโบกมือให้โดยที่ไม่หันหลังกลับมาเป็นสัญญาณว่าให้แยกย้ายกันไปก่อน
แม้ว่าเธอจะโกรธแต่เธอก็เริ่มจะชินกับผู้ชายคนนี้แล้ว ผู้ชายคนนี้กับเธอเหมือนกับน้ำและไฟ เธอได้แต่กระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิดพร้อมเดินจากไปเช่นกัน
…
กว่า4 ชั่วโมง การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนก็จบลง ผู้คนที่ได้รับบาดเจ็บต่างถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาที่ตรงกับอาการที่สุด ทันทีที่เรือรบกลับถึงท่า ตอนนี้หน่วยเก็บกวาดก็เริ่มออกมาทำงานแล้ว พวกเขาต้องทำความสะอาดเรือทั้งลำอีกนานนอกจากพวกเขาแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ทีมวิศวกรที่กำลังขนอุปกรณ์ซ่อมแซมฉุกเฉินออกมาจากห้องเครืองของเรือ
แม้วันนี้จะเกิดเหตุการที่ยากเกินกว่าจะลืมได้ลงสำหรับทุกๆคน แต่ก็มีอีกกว่า 1 แสนชีวิตที่ต้องเอาตัวรอดกันต่อไปอยู่ในฐานทัพ วันนี้กองพันที่หนึ่งโดนไปหนักมาก เรือรบแต่ละลำก็ต้องการ การบำรุงรักษาทันที เพื่อที่จะทันและพร้อมสำหรับการออกล่าครั้งต่อไป เนื้อของเต่ายักจำนวนมากที่ถูก รุมแล่โดยทีมงานจำนวนหนึ่งเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว กำลังค่อยๆ ถูกลำเรียงไปยังที่รองรับแห่งต่างๆ ในฐานทัพ ในที่สุดรางวัลใหญ่ก็ถูกตอบแทนให้กับฐานทัพทั้งฐานในทันที ฉางเหวินฉวนออกคำสั่งให้แจกจ่ายไปยังครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบทุกครอบครัวก่อนเลยเป็นอันดับแรก
“ฟู…”
หลังจากที่พ่นควันบุหรี่ออกมาช้าๆหลินเฉิงที่กำลังยืนอยู่บนด่านฟ้าด้านท้ายเรือ กำลังรับลมทำเลที่พัดมาจากแดนไกล แม้ทะเลจะไร้ขอบเขต แต่เขาก็ยังคงหลงใหลมันด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างก่อนหน้า เขามันใจอย่างยิ่งว่าสัตว์ยักษ์ตัวนั้นตามล่าเขามา แต่ก็ถูกชายผู้มากด้วยพลังจัดการได้อย่างอยู่หมัด
ผู้ที่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นอะไรกลับต้องมาบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก นั้นทำให้เขารู้สึกแย่มาก
“ขอโทษด้วยนะทุกๆคน…”
เสียงกระซิบร่องลอยออกไปตามกระแสของลมบกที่พัดสู่ทะเลได้เแต่หวังว่าลมนั้นจะพัดพาคำขอขมานี้ไปให้วิญญาณของผู้ร่วงลับได้ยินและไปสู่สุขติในที่สุด หลินเฉิงทิ้งก้อนบุหรี่ลงไปก่อนที่จะหนักหลังกลับไปพร้อมที่ลงไปจากเรือ แต่เขาก็เห็นหลงซงที่เหนื่อยกับงานทั้งวันกำลังเดินมาหาเขา