I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 392 คำเตือนของหลงซง
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 392 คำเตือนของหลงซง
“วันนี้นายทำงานหนักมากเลยนะ…”
เมื่อเธอเดินออกมาจากตัวเรือเธอก็เห็นหลินเฉิงที่กำลังจะเดินออกไปพอดิบพอดี เธอจึงเรียกเขา
หลังจากที่ทักทายกันไปอีกรอบหลินเฉิงก็เอามือนวดท้ายทอยก่อนที่จะพูดออกมาว่า “ไม่หรอก วันนี้ฉันยังเป็นสมาชิกของกองพันอยู่ ฉันก็ต้องรับผิดชอบงานของฉัน…”
“แต่นายทำมากพอๆกับคน 5-6 คนเลยนะ! ”
“หรือว่านนายจะทำงานหนักขนาดนี้เพื่อชดเชยกับการที่จะลาออกหละจะได้รู้สึกผิดน้อยลงสินะ?”
“เธอก็คิดมากไป!”
ได้ยินหลงซงพูดแหย่หลินเฉิงก็มองไปยังเธออย่างไร้ซึ่งคำพูด เธอจะเป็นผู้หญิงที่ชอบความเป็นธรรมอะไรขนาดนั้นกันนะ?
เห็นหลินเฉิงเริ่มเซ็งๆหลงซงก็แบมือและพูด “เอาหน่า อย่าคิดมาก ฉันก็แค่แปลกใจที่ยังเห็นนายอยู่เท่านั้นเอง ตอนนี้ทุกคนก็ทยอยกันกลับไปพักผ่อนหมดแล้ว แม้แต่ทีมทำความสะอาดเองก็ใกล้จะจบงานแล้วด้วยนะ?”
“อ่อก็แค่มารอทักทายเธอก่อนกลับก็แค่นั้น”
“ทักมายหรออย่ามาโกหกกันเลย!”
ได้ยินแบบนั้นหลงซงก็พูดสวนกลับมาทันที“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ลืมเรื่องที่นายขอเอาไว้หรอก เมื่อฉันสัญญาไปแล้วฉันไม่กลับคำหรอกนะ!”
พูดจบหลงซงก็มีท่าทีที่นิ่งไปก่อนที่จะขมวดคิ้วและมองมายังเขาอย่างจริงจัง “แต่ไม่คิดเลยนะว่านายจะรู้จักกับเลขาชูด้วย ทำไมไม่ขอให้เธอหางานที่ดีกว่านี้ให้หละ? ทำไมต้องมาอยู่กับดินกับโคลนแบบนี้ด้วย?”
ได้ยินข้อสงสัยนั้นหลินเฉิงก็ตอบไปอย่างช่วยไม่ได้ “อย่างแรกก็เพราะ ฉันไม่ได้สนิทกับเธอมากมายนัก และฉันไม่ถนัดงานประเภทอื่นด้วย ฉันไม่ใช่พวกขี้อายนะ ก็แค่ทำสิ่งที่ตัวเองทำได้ก็เท่านั้น”
“อ่อ…”
หลงซงก็หัวเราะนิดหน่อย“แน่ใจนะว่านายไม่ได้สนิทกับเธอมาก?”
“ฉันก็ไม่แน่ใจนักว่าแต่เธอแน่ใจหรอ?”
รู้สึกถึงความหมายที่หลงซงพยายามจะสื่อหลินเฉิงก็ขมวดคิ้วบ้าง
“ฉันไปรู้ได้ยังไงหละนั้นมันความสัมพันของพวกนายฉันก็แค่….”
เธอหยุดไปก่อนที่จะพูดต่อด้วยรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมา“ตอนที่เดินวิ่งเข้ามาหานายด้วยสีหน้ากังวลมันไม่เหมือนการแสดงเลยนะ…”
“บ้าหน่า!เธอก็แค่หลงรักน้องสาวของฉัน แล้วฉันก็เป็นพี่ชายของน้อง เธอคงจะคิดว่าฉันเองก็เป็นคนใกล้ชิดด้วยหละมั้ง ว่าแต่เธออย่าพูดอะไรแปลกๆ แบบนั้นสิ” เมื่อหลงซงดึงเรื่องนี้ขึ้นมาพูดหลินเฉิงก็ใจเต้น เขาปฏิเสธไปเบาๆ
“เอาเถอะถ้านายไม่ยอมรับฉันก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้ต่อแล้วกันนะ!นายรู้จักคนใหญ่คนโตเยอะ แต่ก็ยังยืนยันที่จะยืนด้วยลำแข้งตัวเองสินะ ฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้นายเองไม่ต้องคิดมาก!”
เห็นหลินเฉิงไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้หลงซงก็ไม่ถามและพูดถึงเรื่องธุระกิจของเขากับเธอ
“แบบนี้สมกับเป็น‘ราชินี’ ของพวกเราหน่อย…”
หลินเฉิงพยักหน้าทันทีอยู่ๆ เขาก็คิดถึงเรื่องฉายาที่ชูฉิงบอก และพูดออกไปพร้อมกับกลั้นขำ
“หุบปากไปเลยนะ!”
ทันทีที่ได้ยินชื่อนั้นหลงซงก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “ฉันไม่รู้นะว่านายได้ยินชื่อนั้นมาจากไหน แต่ถ้านายอยากลงไปจากเรือนี้โดยทียังครบ 32 ฉันแนะนำให้นายหยุดพูดถึงชื่อนั้น!”
“จ้าๆ…”
เห็นเธอไม่ชอบชื่อนี้เอามากๆหลินเฉิงก็ตะลึง หลังจากนั้นเขาก็พยักหน้าและสัญญาว่าจะไม่พูดฉายานั้นออกไปอีก
เห็นหลินเฉิงพยักหน้าหลงซงก็ใจเย็นลงในทันที เธอพูดไปด้วยความเคืองเล็กน้อย ทีมเก็บกวาดก็ขนของกันกลับบ้านแล้ว “ฐานทัพของเราก็เจอปัญหามากขึ้นทุกๆ วัน แต่ที่แย่ที่สุดก็ไปพวกผู้ชายแย่ๆ พวกนั้นแหละ ไอพวกที่ชอบคิดแต่เรื่องแบบนั้น ไอคนพวกนั้นน่าจะรู้ซะบ้างว่างสนิทกันขนาดไหนก็ไม่ควรจะพูดแบบนั้นออกมา แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรนัก หลังจากที่ฉันอัดพวกมันก็ฝากฉางเหวินฉวนจัดการที่เหลือต่อ!”
“แย่นะที่เป็นน้องสาว ที่เสียพ่อแม่ไปโดยท้องทะเล..”
เห็นหลงซงกัดฟันทันทีที่พูดถึงฉางเหวินฉวนหลินเฉิงก็เห็นอกเห็นใจเธอ พร้อมกับยิ้มอย่างแห้งๆ แม้ว่าเขา จะบ่นออกไปเบาๆแต่หลงซงก็ได้ยิน สีหน้าขอเธอก็ดุเศร้าหมองทันที
“ความเห็นแก้ตัวของฉางเหวินฉวนจัดว่าแย่ที่สุดแล้วก็ว่าได้!”
“ฉันก็ไม่รู้นะว่านายกับเขาไปเจอกันที่ไหนแต่ถ้านายยังอยากจะเดินเล่นบนฐานทัพและใช้ชีวิตต่อไปได้หละก็ เลิกยุ่งกับเขาซะ!”
ได้ยินคำเตือนของหลงซงหลินเฉิงก็ตื่นตัวทันที เธอน่าจะกำลังนึกถึงความไม่แฟร์ของฉางเหวินฉวนอยู่รึปล่าวนะ?
“เธอหมายถึงพี่ชายของเธอหนะหรอ?ฉันว่าเขาก็เป็นคนที่เก่งนะ ทั้งความทะเยอทยาน และพลัง แม้ว่าฉันจะเป็นผู้ชาย ฉันก็ยังอิจฉาเขาเลย ทำไมเธอถึงพูดว่าเขาอันตรายนักหละ?”
“นายมัน…”
เห็นหลินเฉิงกล่าวชื่นชมฉางเหวินฉวนหลงซงก็รีบเข้าไปใกล้ๆ เขา เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนในฐานทัพ หรือแม้แค่ไอคนโง่ที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอ ถึงคิดว่าฉางเหวินฉวนนั้นเลิศเรอเพอร์เฟ็คนัก น่าจะเป็นเพราะเธอโตมาพร้อมๆ กันฉางเหวินฉวน เธอจึงเห็นจุดๆ นั้น ได้ชัดกว่าคนนอกหลายขุมมั้ง? เขาเป็นลูกชายที่แย่มาก!
“ฉัน?…ทำไม?…”
เห็นหลงซงชี้หน้าโดยที่ไม่พูดอะไรหลินเฉิงก็ยิ้มอยู่ในใจ และเร่งให้เธอพูดออกมา “เธอบอกมาตลอดว่าพี่ชายของเธอไม่ดีนัก งั้นเธอน่าจะบอกได้นะว่ามันเรื่องอะไรกันแน่? เธอจะป้ายสีอะไรเขารึปล่าว?”
“ฮึ่ม!ลืมไปซะเถอะ! ฉันไม่อยากจะพูดกับคนที่สิ้นหวังแบบนายแล้ว!”
เมื่อถูกเร่งหลงซงก็เปิดปากออกมา เธอกำลังจะพูดอะไรสักอย่างออกมา แต่ก็ล้มเลิกความคิดนั้นไป เธอส่ายหน้าและเปลี่ยนเรื่องทันทีเธอหันข้อมือขึ้นมาดูนาฬากาและพูดออกไปว่า “นี้ก็ยังไม่ดึกมากนะ! รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ” “จุ๊…”
เห็นผู้หญิงคนนี้พยายามจะไล่เขาออกไปหลินเฉิงก็หยุดคุย และจุ๊ปากหนึ่งที พร้อมกับรู้สึกผิดหวังกับเธอเอามากๆ
—————————–SC: บทที่ 393 ความสูญเสีย
เมื่อเธอเดินออกมาจากตัวเรือเธอก็เห็นหลินเฉิงที่กำลังจะเดินออกไปพอดิบพอดี เธอจึงเรียกเขา
หลังจากที่ทักทายกันไปอีกรอบหลินเฉิงก็เอามือนวดท้ายทอยก่อนที่จะพูดออกมาว่า “ไม่หรอก วันนี้ฉันยังเป็นสมาชิกของกองพันอยู่ ฉันก็ต้องรับผิดชอบงานของฉัน…”
“แต่นายทำมากพอๆกับคน 5-6 คนเลยนะ! ”
“หรือว่านนายจะทำงานหนักขนาดนี้เพื่อชดเชยกับการที่จะลาออกหละจะได้รู้สึกผิดน้อยลงสินะ?”
“เธอก็คิดมากไป!”
ได้ยินหลงซงพูดแหย่หลินเฉิงก็มองไปยังเธออย่างไร้ซึ่งคำพูด เธอจะเป็นผู้หญิงที่ชอบความเป็นธรรมอะไรขนาดนั้นกันนะ?
เห็นหลินเฉิงเริ่มเซ็งๆหลงซงก็แบมือและพูด “เอาหน่า อย่าคิดมาก ฉันก็แค่แปลกใจที่ยังเห็นนายอยู่เท่านั้นเอง ตอนนี้ทุกคนก็ทยอยกันกลับไปพักผ่อนหมดแล้ว แม้แต่ทีมทำความสะอาดเองก็ใกล้จะจบงานแล้วด้วยนะ?”
“อ่อก็แค่มารอทักทายเธอก่อนกลับก็แค่นั้น”
“ทักมายหรออย่ามาโกหกกันเลย!”
ได้ยินแบบนั้นหลงซงก็พูดสวนกลับมาทันที“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ลืมเรื่องที่นายขอเอาไว้หรอก เมื่อฉันสัญญาไปแล้วฉันไม่กลับคำหรอกนะ!”
พูดจบหลงซงก็มีท่าทีที่นิ่งไปก่อนที่จะขมวดคิ้วและมองมายังเขาอย่างจริงจัง “แต่ไม่คิดเลยนะว่านายจะรู้จักกับเลขาชูด้วย ทำไมไม่ขอให้เธอหางานที่ดีกว่านี้ให้หละ? ทำไมต้องมาอยู่กับดินกับโคลนแบบนี้ด้วย?”
ได้ยินข้อสงสัยนั้นหลินเฉิงก็ตอบไปอย่างช่วยไม่ได้ “อย่างแรกก็เพราะ ฉันไม่ได้สนิทกับเธอมากมายนัก และฉันไม่ถนัดงานประเภทอื่นด้วย ฉันไม่ใช่พวกขี้อายนะ ก็แค่ทำสิ่งที่ตัวเองทำได้ก็เท่านั้น”
“อ่อ…”
หลงซงก็หัวเราะนิดหน่อย“แน่ใจนะว่านายไม่ได้สนิทกับเธอมาก?”
“ฉันก็ไม่แน่ใจนักว่าแต่เธอแน่ใจหรอ?”
รู้สึกถึงความหมายที่หลงซงพยายามจะสื่อหลินเฉิงก็ขมวดคิ้วบ้าง
“ฉันไปรู้ได้ยังไงหละนั้นมันความสัมพันของพวกนายฉันก็แค่….”
เธอหยุดไปก่อนที่จะพูดต่อด้วยรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมา“ตอนที่เดินวิ่งเข้ามาหานายด้วยสีหน้ากังวลมันไม่เหมือนการแสดงเลยนะ…”
“บ้าหน่า!เธอก็แค่หลงรักน้องสาวของฉัน แล้วฉันก็เป็นพี่ชายของน้อง เธอคงจะคิดว่าฉันเองก็เป็นคนใกล้ชิดด้วยหละมั้ง ว่าแต่เธออย่าพูดอะไรแปลกๆ แบบนั้นสิ” เมื่อหลงซงดึงเรื่องนี้ขึ้นมาพูดหลินเฉิงก็ใจเต้น เขาปฏิเสธไปเบาๆ
“เอาเถอะถ้านายไม่ยอมรับฉันก็ไม่พูดถึงเรื่องนี้ต่อแล้วกันนะ!นายรู้จักคนใหญ่คนโตเยอะ แต่ก็ยังยืนยันที่จะยืนด้วยลำแข้งตัวเองสินะ ฉันจะจัดการเรื่องนี้ให้นายเองไม่ต้องคิดมาก!”
เห็นหลินเฉิงไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้หลงซงก็ไม่ถามและพูดถึงเรื่องธุระกิจของเขากับเธอ
“แบบนี้สมกับเป็น‘ราชินี’ ของพวกเราหน่อย…”
หลินเฉิงพยักหน้าทันทีอยู่ๆ เขาก็คิดถึงเรื่องฉายาที่ชูฉิงบอก และพูดออกไปพร้อมกับกลั้นขำ
“หุบปากไปเลยนะ!”
ทันทีที่ได้ยินชื่อนั้นหลงซงก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “ฉันไม่รู้นะว่านายได้ยินชื่อนั้นมาจากไหน แต่ถ้านายอยากลงไปจากเรือนี้โดยทียังครบ 32 ฉันแนะนำให้นายหยุดพูดถึงชื่อนั้น!”
“จ้าๆ…”
เห็นเธอไม่ชอบชื่อนี้เอามากๆหลินเฉิงก็ตะลึง หลังจากนั้นเขาก็พยักหน้าและสัญญาว่าจะไม่พูดฉายานั้นออกไปอีก
เห็นหลินเฉิงพยักหน้าหลงซงก็ใจเย็นลงในทันที เธอพูดไปด้วยความเคืองเล็กน้อย ทีมเก็บกวาดก็ขนของกันกลับบ้านแล้ว “ฐานทัพของเราก็เจอปัญหามากขึ้นทุกๆ วัน แต่ที่แย่ที่สุดก็ไปพวกผู้ชายแย่ๆ พวกนั้นแหละ ไอพวกที่ชอบคิดแต่เรื่องแบบนั้น ไอคนพวกนั้นน่าจะรู้ซะบ้างว่างสนิทกันขนาดไหนก็ไม่ควรจะพูดแบบนั้นออกมา แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรนัก หลังจากที่ฉันอัดพวกมันก็ฝากฉางเหวินฉวนจัดการที่เหลือต่อ!”
“แย่นะที่เป็นน้องสาว ที่เสียพ่อแม่ไปโดยท้องทะเล..”
เห็นหลงซงกัดฟันทันทีที่พูดถึงฉางเหวินฉวนหลินเฉิงก็เห็นอกเห็นใจเธอ พร้อมกับยิ้มอย่างแห้งๆ แม้ว่าเขา จะบ่นออกไปเบาๆแต่หลงซงก็ได้ยิน สีหน้าขอเธอก็ดุเศร้าหมองทันที
“ความเห็นแก้ตัวของฉางเหวินฉวนจัดว่าแย่ที่สุดแล้วก็ว่าได้!”
“ฉันก็ไม่รู้นะว่านายกับเขาไปเจอกันที่ไหนแต่ถ้านายยังอยากจะเดินเล่นบนฐานทัพและใช้ชีวิตต่อไปได้หละก็ เลิกยุ่งกับเขาซะ!”
ได้ยินคำเตือนของหลงซงหลินเฉิงก็ตื่นตัวทันที เธอน่าจะกำลังนึกถึงความไม่แฟร์ของฉางเหวินฉวนอยู่รึปล่าวนะ?
“เธอหมายถึงพี่ชายของเธอหนะหรอ?ฉันว่าเขาก็เป็นคนที่เก่งนะ ทั้งความทะเยอทยาน และพลัง แม้ว่าฉันจะเป็นผู้ชาย ฉันก็ยังอิจฉาเขาเลย ทำไมเธอถึงพูดว่าเขาอันตรายนักหละ?”
“นายมัน…”
เห็นหลินเฉิงกล่าวชื่นชมฉางเหวินฉวนหลงซงก็รีบเข้าไปใกล้ๆ เขา เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนในฐานทัพ หรือแม้แค่ไอคนโง่ที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอ ถึงคิดว่าฉางเหวินฉวนนั้นเลิศเรอเพอร์เฟ็คนัก น่าจะเป็นเพราะเธอโตมาพร้อมๆ กันฉางเหวินฉวน เธอจึงเห็นจุดๆ นั้น ได้ชัดกว่าคนนอกหลายขุมมั้ง? เขาเป็นลูกชายที่แย่มาก!
“ฉัน?…ทำไม?…”
เห็นหลงซงชี้หน้าโดยที่ไม่พูดอะไรหลินเฉิงก็ยิ้มอยู่ในใจ และเร่งให้เธอพูดออกมา “เธอบอกมาตลอดว่าพี่ชายของเธอไม่ดีนัก งั้นเธอน่าจะบอกได้นะว่ามันเรื่องอะไรกันแน่? เธอจะป้ายสีอะไรเขารึปล่าว?”
“ฮึ่ม!ลืมไปซะเถอะ! ฉันไม่อยากจะพูดกับคนที่สิ้นหวังแบบนายแล้ว!”
เมื่อถูกเร่งหลงซงก็เปิดปากออกมา เธอกำลังจะพูดอะไรสักอย่างออกมา แต่ก็ล้มเลิกความคิดนั้นไป เธอส่ายหน้าและเปลี่ยนเรื่องทันทีเธอหันข้อมือขึ้นมาดูนาฬากาและพูดออกไปว่า “นี้ก็ยังไม่ดึกมากนะ! รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ” “จุ๊…”
เห็นผู้หญิงคนนี้พยายามจะไล่เขาออกไปหลินเฉิงก็หยุดคุย และจุ๊ปากหนึ่งที พร้อมกับรู้สึกผิดหวังกับเธอเอามากๆ
—————————–SC: บทที่ 393 ความสูญเสีย