I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 393 ความสูญเสีย
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 393 ความสูญเสีย
“งั้นฉันต้องไปเจอเธอตอนไหนที่ไหนดีหละ?”
หลินเฉิงพยักหน้าเล็กน้อยและดีดก้อนบุหรี่ลงไปในทะเลพร้อมกับถามเธอออกมา
ได้ยินข้อสงสัยนั้นหลงซงฏ็ยืนคิดอยู่สักพัก และตอบกลับไปว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้มันซับซ้อนมาก ฉันต้องขอเวลาจัดการเรื่องพวกนี้ก่อน! สัก 4 โมงเย็นก็แล้วกันนะ ฉันจะช่วยนายกรอกแบบฟรอมย้ายออกเอง”
หลังจากพูดแบบนั้นไปหลงซงก็ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ความเหนื่อยล้าแสดงออกมาบนใบหน้าของเธอ อย่างปิดบังเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป แม้แต่จิตใจของเธอตอนนี้ก็อ่อนแอ่ลงไปด้วย
เห็นสีหน้าอันเหนื่อยล้านี้หลินเฉิงก็พยักหน้าให้ และเขาก็ไม่อยากจะทำให้เธอเสียเวลาพักผ่อนของเธออีกต่อไปแล้ว เขาโบกมื่อลาพร้อมกับหันหลังและเดินออกไปจากเรือธงที่บากบั่นอยู่บนท้องทะเลมาทั้งวันลำนี้ไป
…
“วี้วี้…”
พระจันลอยตระหง่านท่ามกลางความืดมิดในยามค่ำคืน หลินเฉิงใช้แสงจันน้ำทางและเดินตามทางกลับไปยังบ้านของเขา
ทางด้านหลังของเขามีเสียงเท้าก้าวอย่างรวดเร็วตามมาด้วยแต่ก็ไม่มีร่างของใครให้เห็น ถ้าเป็นคนธรรมดาหละก็ต้องคิดว่ากำลังเจอผีอยู่แน่นๆ
“เป็นอย่างไงบ้างหละวันนี้?”
ระหว่างทางเดินกลับเขานึกขึ้นได้ว่าตอนที่อยู่บนเรือนั้นมีช่วงเวลาที่ต้องนั่งรออย่างหน้าเบื่ออยู่หลายหน เขาจึงถามความรู้สึกของหยูซานที่กำลังเดินตามเขามาเหมือนทุกที
“หนู….รู้สึกอย่างไงหรอ…?”
อยู่ดีๆหลินเฉิงก็ถามคำถามนี้กับเธอ เธอก็ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามอันคลุมเคลือนี้อย่างไรดี หยูซานจึงทวนคำถามไปอย่างไม่รู้ตัว
“นั้นแหละฉันอยากรู้ว่าเธอคิดอย่างไรบ้าง!”
เห็นหยูซานที่กำลังสับสนหลินเฉิงก็พ่นควันบุหรี่ออกมา “วันนี้ไม่ใช่แค่เธอได้ทักทายฉางเหวินฉวนอย่างเดียวนะ ไหนจะต้องไปเจอไอเต่ายักษ์บ้านั้นอีก เธอไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรอ?”
“นั้นสินะคะ…”
หยูซานพยักหน้าว่าเธอได้ยินคำถามนั้นชัดเจนเธอค่อยๆ ออกจากโหมดพรางตัวร่างบางก็โพล่มาให้เห็นและกระทบกับแสงจันทร์สลัว เธอเอียงคอและมองมายังหลินเฉิง “ก็มีอยู่บ้างนะคะ แม้มันจะแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่ได้มากไปกว่ามังกรยักษ์ตัวนั้นนัก หนูก็เลยไม่ได้เป็นห่วงอะไรมากเพราะยังไงพี่หลินก็อยู่ด้วย!”
หยูซานจิบปากและขมวดคิ้วช้าๆ“สำหรับเรืองของฉางเหวินฉวนไม่รู้ว่าหนูตาฝาดไปรึปล่าว ตอนที่เขาสู้กับหนูเหมือนว่าเขาไม่ได้งัดพลังทั้งหมดออกมาเลยสักนิด ถ้าทำงั้นหนูคงเสร็จเขาก่อนแน่ๆ…”
“ใช่แล้วหละ”
หลินเฉิงมองไปยังหยูซานอย่างไม่คาดคิดอีกครั้ง“เธอนี่น่าประทับใจมากเลยนะในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ ตอนนี้เธอรู้แม้กระทั่งขีดจำกัดของอีกฝ่ายแล้ว…”
“อ๊ะ!”
ได้ยินคำชมแบบนั้นของหลินเฉิงหยูซานก็ทำตัวไม่ถูก “พี่หลิน ฉางเหวินฉวนแค่ไม่ระวังตัวก็เท่านั้นเองค่ะ!”
“ถูกต้อง!”
เห็นหยูซานมองมาด้วยความแปลกใจหลินเฉิงก็พยักหน้าอีกครั้ง แต่ก็ไม่อยากจะกดดันเธอมากเกินไป “นอกจากพลังด้านกายภาพแล้ว เขายังสามารถเรียกสายฟ้าได้ด้วยนะ!”
“มะ…เหมือนมังกรยักษ์นั้นนะหรอค่ะ?” เมื่อได้ยินชื่อของสายฟ้าหยูซานก็นึกย้อนไปถึงต่อที่ต้องสู้กับมังกรยักษ์นั้นอีกครั้ง พลังการทำลายร้างของสายฟ้านั้นเหมือนกับฝันร้ายของเธอเลยก็ว่าได้
“ไม่รู้สินะ”
หลินเฉิงส่ายหน้าเบาๆ“พลังของมังกรยักษ์นั้นน่าจะเป็นพลังควบคุมลมฟ้ามากกว่า ตอนที่มันปรากฏกายท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยเมฆฝนและพายุทันทีทันใดเลย ส่วนพลังของฉางเหวินฉวนนั้นเหมือนกับจะเรียกแค่สายฟ้าสีม่วงเท่านั้น อาจะคล้ายๆ กันอยู่ แต่ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นพลังรูปแบบเดียวกันได้นะ…”
“งั้นก็เยี่ยมไปเลยค่ะ!”
เมื่อรู้ว่าพลังของฉางเหวินฉวนนั้นแตกต่างกันออกไปหยูซานก็โล่งอกขึ้นมาหน่อยแล้ว เพราะสายฟ้าสีดำเข้มของมังกรเจียวนั้น กดดันพวกเธออย่างมากในการต่อสู้คราวนั้น โดนเข้าไปจังๆ ทีเดียวอาจจะน็อคไปเลยก็เป็นไปได้!
แม้หยูซานจะโล่งอกลงแล้วแต่หลินเฉิงก็ไม่ได้ทำตัวสบายๆ ไปซะทีเดียว เพราะจากการประสบการณ์การต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วนนั้นบอกกับเขาว่า ไม่ว่าจะเป็นพลังใบรูปแบบได้ก็ไม่สามารถมองข้ามไปได้แม้แต่นิดเดียว!
ด้วยข้อจำกัดของความรู้แหละความสามารถของคนที่แตกต่างกันนั้นแหละที่เป็นข้อควรระวังมากที่สุด
แม้ว่าขั้นตอนการฝึกฝนพลังที่แตกต่างกันและไม่ชัดเจนอย่างเช่น พลังการควบคุมเสียงนั้นถ้าเป็นคนธรรมดาๆ ก็ทำได้แค่ทำให้คู่ต่อสู้สับสน แต่สำหรับเต่ายักษ์ที่ใช้วิชานี้อย่างช่ำชองแล้วนั้น มันเป็นคนละเรื่องกันเลย!
เพราะงั้นแม้ฉางเหวินฉวนจะมีพลังควบคุมสายฟ้านั้นจะแตกต่างกับมังกรยักษ์ด้วยพลังและความรู้ของฉางเหวินฉวนน่าจะยังไม่สามารถสร้างสายฟ้าทมิฬแบบนั้นมาได้!
“แม้เธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บอย่างไงซะปฏิบัติการในวันนี้จะเป็นความคิดของฉัน ถ้าทุกอย่างไม่ได้อยู่ในการควบคุมหละก็ เธออาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสก็เป็นไปได้ เพราะงั้น ฉัน…ขอโทษนะ!”
เมื่อนึกถึงความผิดพลาดของเขาในวันนี้แล้วสีหน้าของหลินเฉิงก็แย่ลงไปมาก เขาหันมาและขอโทษหยูซานทันที
“พะ…พี่ทำอะไรหนะ!”
เห็นอยู่ดีๆหลินเฉิงก็มาขอโทษ หยูซานก็รู้สึกแย่ไปด้วย “มันเป็นหน้าที่ของหนูเองที่ต้องเขาใกล้เป้าหมาย ต่อให้หนูบาดเจ็บหรือตายไป ก็เป็นปัญหาของหนู พี่หลินไม่ได้มีส่วนอะไรสักหน่อย จะขอโทษทำไม?”
หลินเฉิงยังคงส่ายหน้าและพูดกับเธอ “การส่งสายลับย่อมมีสิ่งที่ต้องจ่ายไปด้วยอยู่แล้ว แน่นอนว่าฉันเองก็ต้องเตรียมใจให้พร้อม ! แต่ความผิดในวันนี้เป็นเพราะฉันคาดไม่ถึงพลังของอีกฝ้าย และพลังที่เขาแสดงให้เห็นกลางทะเลนั้น ถ้าเขาต้องการจะเอาชีวิตเธอจริงๆ แล้วหละก็ ฉันแก้ไขอะไรไม่ได้เลย”
หลินเฉิงโดยนก้นบุหรี่ทิ้งไปและยิบมวนต่อไปขึ้นมาสูบ “เราอยู่ที่ฐานทัพทะเลน้ำเงินมากว่า 1 อาทิตย์แล้ว . ในช่วงเวลานี้โดยทั่วไปแล้วเราไม่ได้พักผ่อนมากนักก่อนทำการอีกครั้งในวันนี้ เรายังไม่เคยมีการประชุมกันจริงจังหรือพูดคุยกัน ตอนนี้ดูเหมือนว่าทางฝ่ายเราเองก็เริ่มมีความสูญเสียให้เห็นแล้ว …”
“ความสูญเสีย?ไม่ขนาดนั้นมั้งค่ะ?”
เห็นหลินเฉิงจริงจังมากหยูซานก็รู้สึกใจสั่น
เห็นท่าทีเป็นกังวลของหยูซานหลินเฉิงก็ยิ้มและโบกมือ “ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอก มันก็มีทั้งส่วนที่จริงจัง และไม่จริงจัง ยังไงซะเราก็ได้สิ่งที่สำคัญมาด้วย ที่สำคัญคือการวางแผนและการเคลื่อนไหวต่อไปของเรา นั้นจะทำให้เรามัดตัวฉางเหวินฉวนได้ง่ายขึ้นไปอีก!”
————-SC: บทที่ 394 หนทางใหม่!
หลินเฉิงพยักหน้าเล็กน้อยและดีดก้อนบุหรี่ลงไปในทะเลพร้อมกับถามเธอออกมา
ได้ยินข้อสงสัยนั้นหลงซงฏ็ยืนคิดอยู่สักพัก และตอบกลับไปว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้มันซับซ้อนมาก ฉันต้องขอเวลาจัดการเรื่องพวกนี้ก่อน! สัก 4 โมงเย็นก็แล้วกันนะ ฉันจะช่วยนายกรอกแบบฟรอมย้ายออกเอง”
หลังจากพูดแบบนั้นไปหลงซงก็ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ความเหนื่อยล้าแสดงออกมาบนใบหน้าของเธอ อย่างปิดบังเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป แม้แต่จิตใจของเธอตอนนี้ก็อ่อนแอ่ลงไปด้วย
เห็นสีหน้าอันเหนื่อยล้านี้หลินเฉิงก็พยักหน้าให้ และเขาก็ไม่อยากจะทำให้เธอเสียเวลาพักผ่อนของเธออีกต่อไปแล้ว เขาโบกมื่อลาพร้อมกับหันหลังและเดินออกไปจากเรือธงที่บากบั่นอยู่บนท้องทะเลมาทั้งวันลำนี้ไป
…
“วี้วี้…”
พระจันลอยตระหง่านท่ามกลางความืดมิดในยามค่ำคืน หลินเฉิงใช้แสงจันน้ำทางและเดินตามทางกลับไปยังบ้านของเขา
ทางด้านหลังของเขามีเสียงเท้าก้าวอย่างรวดเร็วตามมาด้วยแต่ก็ไม่มีร่างของใครให้เห็น ถ้าเป็นคนธรรมดาหละก็ต้องคิดว่ากำลังเจอผีอยู่แน่นๆ
“เป็นอย่างไงบ้างหละวันนี้?”
ระหว่างทางเดินกลับเขานึกขึ้นได้ว่าตอนที่อยู่บนเรือนั้นมีช่วงเวลาที่ต้องนั่งรออย่างหน้าเบื่ออยู่หลายหน เขาจึงถามความรู้สึกของหยูซานที่กำลังเดินตามเขามาเหมือนทุกที
“หนู….รู้สึกอย่างไงหรอ…?”
อยู่ดีๆหลินเฉิงก็ถามคำถามนี้กับเธอ เธอก็ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามอันคลุมเคลือนี้อย่างไรดี หยูซานจึงทวนคำถามไปอย่างไม่รู้ตัว
“นั้นแหละฉันอยากรู้ว่าเธอคิดอย่างไรบ้าง!”
เห็นหยูซานที่กำลังสับสนหลินเฉิงก็พ่นควันบุหรี่ออกมา “วันนี้ไม่ใช่แค่เธอได้ทักทายฉางเหวินฉวนอย่างเดียวนะ ไหนจะต้องไปเจอไอเต่ายักษ์บ้านั้นอีก เธอไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรอ?”
“นั้นสินะคะ…”
หยูซานพยักหน้าว่าเธอได้ยินคำถามนั้นชัดเจนเธอค่อยๆ ออกจากโหมดพรางตัวร่างบางก็โพล่มาให้เห็นและกระทบกับแสงจันทร์สลัว เธอเอียงคอและมองมายังหลินเฉิง “ก็มีอยู่บ้างนะคะ แม้มันจะแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่ได้มากไปกว่ามังกรยักษ์ตัวนั้นนัก หนูก็เลยไม่ได้เป็นห่วงอะไรมากเพราะยังไงพี่หลินก็อยู่ด้วย!”
หยูซานจิบปากและขมวดคิ้วช้าๆ“สำหรับเรืองของฉางเหวินฉวนไม่รู้ว่าหนูตาฝาดไปรึปล่าว ตอนที่เขาสู้กับหนูเหมือนว่าเขาไม่ได้งัดพลังทั้งหมดออกมาเลยสักนิด ถ้าทำงั้นหนูคงเสร็จเขาก่อนแน่ๆ…”
“ใช่แล้วหละ”
หลินเฉิงมองไปยังหยูซานอย่างไม่คาดคิดอีกครั้ง“เธอนี่น่าประทับใจมากเลยนะในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ ตอนนี้เธอรู้แม้กระทั่งขีดจำกัดของอีกฝ่ายแล้ว…”
“อ๊ะ!”
ได้ยินคำชมแบบนั้นของหลินเฉิงหยูซานก็ทำตัวไม่ถูก “พี่หลิน ฉางเหวินฉวนแค่ไม่ระวังตัวก็เท่านั้นเองค่ะ!”
“ถูกต้อง!”
เห็นหยูซานมองมาด้วยความแปลกใจหลินเฉิงก็พยักหน้าอีกครั้ง แต่ก็ไม่อยากจะกดดันเธอมากเกินไป “นอกจากพลังด้านกายภาพแล้ว เขายังสามารถเรียกสายฟ้าได้ด้วยนะ!”
“มะ…เหมือนมังกรยักษ์นั้นนะหรอค่ะ?” เมื่อได้ยินชื่อของสายฟ้าหยูซานก็นึกย้อนไปถึงต่อที่ต้องสู้กับมังกรยักษ์นั้นอีกครั้ง พลังการทำลายร้างของสายฟ้านั้นเหมือนกับฝันร้ายของเธอเลยก็ว่าได้
“ไม่รู้สินะ”
หลินเฉิงส่ายหน้าเบาๆ“พลังของมังกรยักษ์นั้นน่าจะเป็นพลังควบคุมลมฟ้ามากกว่า ตอนที่มันปรากฏกายท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยเมฆฝนและพายุทันทีทันใดเลย ส่วนพลังของฉางเหวินฉวนนั้นเหมือนกับจะเรียกแค่สายฟ้าสีม่วงเท่านั้น อาจะคล้ายๆ กันอยู่ แต่ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นพลังรูปแบบเดียวกันได้นะ…”
“งั้นก็เยี่ยมไปเลยค่ะ!”
เมื่อรู้ว่าพลังของฉางเหวินฉวนนั้นแตกต่างกันออกไปหยูซานก็โล่งอกขึ้นมาหน่อยแล้ว เพราะสายฟ้าสีดำเข้มของมังกรเจียวนั้น กดดันพวกเธออย่างมากในการต่อสู้คราวนั้น โดนเข้าไปจังๆ ทีเดียวอาจจะน็อคไปเลยก็เป็นไปได้!
แม้หยูซานจะโล่งอกลงแล้วแต่หลินเฉิงก็ไม่ได้ทำตัวสบายๆ ไปซะทีเดียว เพราะจากการประสบการณ์การต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วนนั้นบอกกับเขาว่า ไม่ว่าจะเป็นพลังใบรูปแบบได้ก็ไม่สามารถมองข้ามไปได้แม้แต่นิดเดียว!
ด้วยข้อจำกัดของความรู้แหละความสามารถของคนที่แตกต่างกันนั้นแหละที่เป็นข้อควรระวังมากที่สุด
แม้ว่าขั้นตอนการฝึกฝนพลังที่แตกต่างกันและไม่ชัดเจนอย่างเช่น พลังการควบคุมเสียงนั้นถ้าเป็นคนธรรมดาๆ ก็ทำได้แค่ทำให้คู่ต่อสู้สับสน แต่สำหรับเต่ายักษ์ที่ใช้วิชานี้อย่างช่ำชองแล้วนั้น มันเป็นคนละเรื่องกันเลย!
เพราะงั้นแม้ฉางเหวินฉวนจะมีพลังควบคุมสายฟ้านั้นจะแตกต่างกับมังกรยักษ์ด้วยพลังและความรู้ของฉางเหวินฉวนน่าจะยังไม่สามารถสร้างสายฟ้าทมิฬแบบนั้นมาได้!
“แม้เธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บอย่างไงซะปฏิบัติการในวันนี้จะเป็นความคิดของฉัน ถ้าทุกอย่างไม่ได้อยู่ในการควบคุมหละก็ เธออาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสก็เป็นไปได้ เพราะงั้น ฉัน…ขอโทษนะ!”
เมื่อนึกถึงความผิดพลาดของเขาในวันนี้แล้วสีหน้าของหลินเฉิงก็แย่ลงไปมาก เขาหันมาและขอโทษหยูซานทันที
“พะ…พี่ทำอะไรหนะ!”
เห็นอยู่ดีๆหลินเฉิงก็มาขอโทษ หยูซานก็รู้สึกแย่ไปด้วย “มันเป็นหน้าที่ของหนูเองที่ต้องเขาใกล้เป้าหมาย ต่อให้หนูบาดเจ็บหรือตายไป ก็เป็นปัญหาของหนู พี่หลินไม่ได้มีส่วนอะไรสักหน่อย จะขอโทษทำไม?”
หลินเฉิงยังคงส่ายหน้าและพูดกับเธอ “การส่งสายลับย่อมมีสิ่งที่ต้องจ่ายไปด้วยอยู่แล้ว แน่นอนว่าฉันเองก็ต้องเตรียมใจให้พร้อม ! แต่ความผิดในวันนี้เป็นเพราะฉันคาดไม่ถึงพลังของอีกฝ้าย และพลังที่เขาแสดงให้เห็นกลางทะเลนั้น ถ้าเขาต้องการจะเอาชีวิตเธอจริงๆ แล้วหละก็ ฉันแก้ไขอะไรไม่ได้เลย”
หลินเฉิงโดยนก้นบุหรี่ทิ้งไปและยิบมวนต่อไปขึ้นมาสูบ “เราอยู่ที่ฐานทัพทะเลน้ำเงินมากว่า 1 อาทิตย์แล้ว . ในช่วงเวลานี้โดยทั่วไปแล้วเราไม่ได้พักผ่อนมากนักก่อนทำการอีกครั้งในวันนี้ เรายังไม่เคยมีการประชุมกันจริงจังหรือพูดคุยกัน ตอนนี้ดูเหมือนว่าทางฝ่ายเราเองก็เริ่มมีความสูญเสียให้เห็นแล้ว …”
“ความสูญเสีย?ไม่ขนาดนั้นมั้งค่ะ?”
เห็นหลินเฉิงจริงจังมากหยูซานก็รู้สึกใจสั่น
เห็นท่าทีเป็นกังวลของหยูซานหลินเฉิงก็ยิ้มและโบกมือ “ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอก มันก็มีทั้งส่วนที่จริงจัง และไม่จริงจัง ยังไงซะเราก็ได้สิ่งที่สำคัญมาด้วย ที่สำคัญคือการวางแผนและการเคลื่อนไหวต่อไปของเรา นั้นจะทำให้เรามัดตัวฉางเหวินฉวนได้ง่ายขึ้นไปอีก!”
————-SC: บทที่ 394 หนทางใหม่!