I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 395 คำตำหนิของฉินชูหยี
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 395 คำตำหนิของฉินชูหยี
“ตอนที่ฉันสู้กับชายที่ถูกเรียกว่ามังกรม่วงฉันก็พบว่าพลัังในการต่อสู้และพลังวิเศษของปีศาจรัตติการตนนี้นั้น รับมือได้ยากกว่ามนุษย์ที่เป็นผู้ใช้พลังเยอะมากความสามารถในการฝึกฝนพลังวิเศษนั้นก้าวนำมนุษย์ไปหลายขั้น! ที่หน้าปวดหัวที่สุดคือเผ่าเสน่รัตติการที่มีพลังในการสะกดใจและพลังอีกอย่างที่ตื่นขึ้นมาในตัวอีก มันอาจจะเป็นจุดจบของมนุษย์ชาติเลยก็ว่าได้…”
แม้หลังจากเหตุการณ์นั้นจะไม่มีใครเห็นเผ่าปีศาจรัตติการนั้นอีกเลย แต่ตามที่ฉีเซี่ยวฮันบอกไว้ พวกมันหลายตนควบคุมหรือไม่ก็ติดต่อ กับสมาชิกอาวุโสของฐานทัพนี้ไปแล้วหลายคน ถ้าเดาไม่ผิดพวกมันน่าจะบันทึกและรวมรวบเหยื่อพวกนั้นไว้และเมื่อเวลาเหมาะสมแล้ว พวกมันต้องเปิดฉากแน่ๆ
“งั้นพวกเราจะทำไงดีหละค่ะ?” เมื่อได้ยินแบบนั้นหยูซานก็รู้สึกกังวลขึ้นมา
“ไม่ต้องห่วงถ้าไม่ใช้พลังของพวกปีศาจรัตติการแล้ว ไม่มีใครในฐานทัพแห่งนี้ไล่ตามฉันได้ทันหรอก!”
เห็นความกังวลนั้นหลินเเฉิงก็ยิ้มแล้วตบไหล่ของหยูซานเบาๆ “ฉันไม่กลัวหรอกว่าพวกผู้บริหารระกับสูงของฐานทัพจะว่างอย่างไร แต่ก็ไม่ถึงขั้นให้โคล่ากับเทียนซืออกไปรับมือแทนได้ง่ายๆ ! ที่น่ากังวลที่สุดในตอนนี้คิอหลิงเหมิง เจ้าหญิงแห่งเหมยซู สิ่งที่เธอเก็บไว้เป็นความลับ จนถึงตอนนี้แล้วฉันยังไม่รู้เลยว่ามันคือเรื่องอะไรกันแน่?”
“อะไรนะค่ะ?”
เธอไม่เคยได้ยินชื่อของหลิงเหมิงมาก่อนเธอพึ่งได้ยินจากปากของหลินเฉิงเป็นครั้งแรก ก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดา เพราะเธอคนนั้นดันหนีออกไปได้เสียก่อน หยูซานจึงไม่มีโอกาสได้เห็นด้วย
“ลืมไปเถอะเรื่องมันยาวหนะ มันไม่เกียวกับฉางเหวินฉวนหรอก ถ้ามีโอกาสเจอเธออีกรอบค่อยว่ากัน ตอนนี้เราต้องเผด็จศึกกับฉางเหวินฉวนเสียก่อน!”
ระหว่างที่ตอบกลับไปหลินเฉิงก็คิดขึ้นมาได้ว่า อย่างไงก็ควรจะเครียปัญหาไปทีละเรื่อง เขามักจะสับสนเป็นประจำเมื่อต้องคิดอะไรหลายๆ อย่างไปพร้อมๆ กัน เขาจึงพูดแบบนั้นออกไปเพื่อไม่ให้เธอคิดมาก
“พี่หลินพูดแบบนั้นทำไม?ทำไมไม่บอกเรื่องทั้งหมดกับหนูหละ?”
เห็นหลินเฉิงไม่ยอมบอกเรื่องทั้งหมดกับเธอหยูซานก็ได้แต่บ่นอย่างอดไม่ได้ หลินเฉิงจึงยิ้มแห้งๆ ให้ ก่อนที่จะพูดกลับไปว่า “ฉันยังไม่อยากพูดเรื่องของผู้หญิงคนนั้นมากนัก ตอนนี้ฉันอยากที่จะวิเคราะห์แผนการขั้นต่อไปกับเธอก่อน ถ้าให้ฉันพูดเรื่องนี้ทั้งหมดก็คงไม่ต้องนอนกันพอดี ไหนจะเรื่องภาระกิจที่ต้องทำวันพรุ่งนี้อีกหละ? ตั้งแต่ที่พวกเรากลับมาก็ได้นอนเต็มอิ่มแค่ไม่กี่ครั้งเองนะ พรุ่งนี้ก็ต้องรับศึกหนักอีก เราจะปล่อยให้โอกาสสำคัญนี้หลุดไปไม่ได้…”
“ฮึ่ม!ก็ได้ค่ะ…”
ได้ยินคำแก้ตัวนั้นหยูซานก็ยังไม่พอใจนัก แต่ก็ไม่รบกวนหลินเฉิงอีกต่อไปแล้ว เธอเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของหลินเฉิงจริงๆ จึงพอเข้าใจได้บ้าง แม้ว่าเขาจะอยู่ในฐานทัพทะเลน้ำเงินอันสงบสุข แต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยเนื้อปล่อยตัวเลยแม้แต่วินาทีเดียว!
หลังจากวางแผนเรียบร้อยแล้วหลินเฉิงที่นั่งชิวอยู่บนเก้าอี้ม้าหินอ่อน ก็พลิกข้อมือขึ้นมาดูเวลา ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่อง เขาก็พบว่ามันเกือบจะ 4 ทุ่มแล้ว เขาจึงหยุดคุยกับหยูซานแล้วรีบนำเธอกลับบ้านมาด้วยทันที
กว่า20 นาที ในที่สุดเขาก็มาถึงหน้าคฤหาสน์ของตัวเองจนได้ ขณะที่ง้างมือที่กำลังถือลูกกุญแจแล้วจะเสียบเข้าไปยังกอนประตู เขาก็สังเกตุเห็นไฟห้องนั่งเล่นข้างในบ้านกำลังเปิดอยู่!
หลินเฉิงขมวดคิ้วทันทีก่อนที่จะเช็คประตูที่กำลังจะเปิดนี้อย่างระมัดระวัง เขาก็โล่งอกเพราะไม่มีร่องรอยงัดแงะแต่อย่างใด เขาจึงเดินเข้าไปทันทีอย่างไม่รอช้า
“กลับมาแล้วหรอ?”
หยูซานเดินเข้าไปยังห้องนั่งเล่นหลินเฉิงก็ได้ยินเสียงของฉินชูหยี ที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาทักทายมาทันที
“ครับ…”
เห็นว่าคนที่เข้ามาในบ้างก่อนเขาคือฉินชูหยี เขาก็เลิกระแวงทันที และยิ้มให้กับอีกฝ่ายเป็นคำตอบ
“นี่ก็จะ4 ทุ่มแล้วนะ ป้าฉินยังไม่ไปพักผ่อนหรอครับ?”
“ฮึ่ม!เธอรู้เวลาด้วยหรอ?”
เห็นรอยยิ้มของหลินเฉิงฉินชูหยีก็พ่นลมออกมาอย่างไม่พอใจ ก่อนที่จะลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินเข้ามาหาหลินเฉิง ก่อนที่จะเริ่มดุ “ถ้าไม่ใช่เพราะป้าไปเจอกับเลขาชูตอนออกไปจ่ายตลาดเมื่อเย็นนี้เข้า ป้าก็ไม่รู้เลยนะว่ากองพันที่หนึ่งเจออะไรมาบ้างวันนี้! บ้าจริง! เห็นไหมว่ามันอันตรายขนาดไหน!?”
เมื่อรู้ว่าป้าฉินรอการกลับมาของเขาอยู่ตั้งหลายชั่วโมงแล้วเขาก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้ ก่อนที่จะพูดขึ้นหลังจากที่ถูกดุไปแล้ว “ป้าครับ! วันนี้ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าหรอกครับว่าจะเกิดอะไรแบบนั้นเข้า! กองพันเองก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ตั้งแต่ก็ตั้งขึ้นมาด้วยซ้ำ มันก็แค่อุบัติเหตุครับ ป้าไม่ต้องกังวลมาก็ได้ครับ โอเคไหม?”
“จะมาโอคงโอเคอะไรอีกหละ?ห๊ะ!”
ฉินชูหยีก็โมโหทันทีที่ได้ยินแบบนั้น“ป้าได้ยินมาว่าวันนี้คนตายเป็นร้อยๆ ไหนจะคนเจ็บอีกนับไม่ถ้วน! เรื่องใหญ่ขนาดนี้จะไม่ให้เป็นห่วงได้ไง!?”
“ป้าไม่ต้องโกรธขนาดนี้ก็ได้ครับดื่มน้ำอุ่นๆ ก่อนเถอะครับ…”
เมื่อรู้ว่าป้าฉินช็อคมากที่ได้ยินข่าวนั้นหยูซานได้ยินแบบนั้นก็รีบเข้าไปในครัวนำน้ำอุ่นๆ มาให้กับป้าฉิน เธอก็ส่งเเสียงไม่พอใจขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะรับน้ำดื่มมา
“เหมือนจะมีแต่หยูซานนะที่ไม่ได้ดื้อเหมือนเธอที่ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่ทุกวี้ทุกวัน!”
หลังจากที่รับน้ำมาเธอก็ดื่มเข้าไปรวดเดียวก่อนที่จะหันไปมองหยูซานอย่างมีความสุข แล้วหันกลับไปด่าหลินเฉิงต่อ “ไหนๆ แล้วป้าก็ยังเห็นเธอเป็นเด็กที่ไม่เชื่อฟังเหมือนเดิม! พรุ่งนี้ป้าจะไปยื่นใบลาออกกับเธอที่กองพันเอง!”
แค็ก!ๆ
หลินเฉิงที่กำลังถูกด่าได้ยินแบบนั้นก็สำลักน้ำลายตัวเอง ก่อนที่จะบอกกับป้าฉินไปว่า “ไม่เป็นไรครับ ยังไงๆ ผมก็จะไปลาออกเองอยู่แล้ว ป้าไม่ต้องมาหรอกครับ เดี๋ยวเรื่องมันจะยุ่งยากเอา แต่ผมก็จะไม่อยู่เฉยๆ ที่บ้านนะครับมันเสียเกียรติ!”
“ธะ…เธอจะยอมออกจากตำแหน่งนั้นจริงๆหรอ?” ป้าฉินแปลกใจมากที่ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงยอมเธอง่ายๆ แบบไม่เคยเป็นมาก่อน เธอได้แต่แอบขอบคุณพระเจ้าอยู่ในใจที่ทำให้เรื่องที่เป็นไปไม่ได้แบบนี้เกิดขึ้นมา!
———————–SC: บทที่ 396 รายงานพิเศษ
แม้หลังจากเหตุการณ์นั้นจะไม่มีใครเห็นเผ่าปีศาจรัตติการนั้นอีกเลย แต่ตามที่ฉีเซี่ยวฮันบอกไว้ พวกมันหลายตนควบคุมหรือไม่ก็ติดต่อ กับสมาชิกอาวุโสของฐานทัพนี้ไปแล้วหลายคน ถ้าเดาไม่ผิดพวกมันน่าจะบันทึกและรวมรวบเหยื่อพวกนั้นไว้และเมื่อเวลาเหมาะสมแล้ว พวกมันต้องเปิดฉากแน่ๆ
“งั้นพวกเราจะทำไงดีหละค่ะ?” เมื่อได้ยินแบบนั้นหยูซานก็รู้สึกกังวลขึ้นมา
“ไม่ต้องห่วงถ้าไม่ใช้พลังของพวกปีศาจรัตติการแล้ว ไม่มีใครในฐานทัพแห่งนี้ไล่ตามฉันได้ทันหรอก!”
เห็นความกังวลนั้นหลินเเฉิงก็ยิ้มแล้วตบไหล่ของหยูซานเบาๆ “ฉันไม่กลัวหรอกว่าพวกผู้บริหารระกับสูงของฐานทัพจะว่างอย่างไร แต่ก็ไม่ถึงขั้นให้โคล่ากับเทียนซืออกไปรับมือแทนได้ง่ายๆ ! ที่น่ากังวลที่สุดในตอนนี้คิอหลิงเหมิง เจ้าหญิงแห่งเหมยซู สิ่งที่เธอเก็บไว้เป็นความลับ จนถึงตอนนี้แล้วฉันยังไม่รู้เลยว่ามันคือเรื่องอะไรกันแน่?”
“อะไรนะค่ะ?”
เธอไม่เคยได้ยินชื่อของหลิงเหมิงมาก่อนเธอพึ่งได้ยินจากปากของหลินเฉิงเป็นครั้งแรก ก็ต้องสงสัยเป็นธรรมดา เพราะเธอคนนั้นดันหนีออกไปได้เสียก่อน หยูซานจึงไม่มีโอกาสได้เห็นด้วย
“ลืมไปเถอะเรื่องมันยาวหนะ มันไม่เกียวกับฉางเหวินฉวนหรอก ถ้ามีโอกาสเจอเธออีกรอบค่อยว่ากัน ตอนนี้เราต้องเผด็จศึกกับฉางเหวินฉวนเสียก่อน!”
ระหว่างที่ตอบกลับไปหลินเฉิงก็คิดขึ้นมาได้ว่า อย่างไงก็ควรจะเครียปัญหาไปทีละเรื่อง เขามักจะสับสนเป็นประจำเมื่อต้องคิดอะไรหลายๆ อย่างไปพร้อมๆ กัน เขาจึงพูดแบบนั้นออกไปเพื่อไม่ให้เธอคิดมาก
“พี่หลินพูดแบบนั้นทำไม?ทำไมไม่บอกเรื่องทั้งหมดกับหนูหละ?”
เห็นหลินเฉิงไม่ยอมบอกเรื่องทั้งหมดกับเธอหยูซานก็ได้แต่บ่นอย่างอดไม่ได้ หลินเฉิงจึงยิ้มแห้งๆ ให้ ก่อนที่จะพูดกลับไปว่า “ฉันยังไม่อยากพูดเรื่องของผู้หญิงคนนั้นมากนัก ตอนนี้ฉันอยากที่จะวิเคราะห์แผนการขั้นต่อไปกับเธอก่อน ถ้าให้ฉันพูดเรื่องนี้ทั้งหมดก็คงไม่ต้องนอนกันพอดี ไหนจะเรื่องภาระกิจที่ต้องทำวันพรุ่งนี้อีกหละ? ตั้งแต่ที่พวกเรากลับมาก็ได้นอนเต็มอิ่มแค่ไม่กี่ครั้งเองนะ พรุ่งนี้ก็ต้องรับศึกหนักอีก เราจะปล่อยให้โอกาสสำคัญนี้หลุดไปไม่ได้…”
“ฮึ่ม!ก็ได้ค่ะ…”
ได้ยินคำแก้ตัวนั้นหยูซานก็ยังไม่พอใจนัก แต่ก็ไม่รบกวนหลินเฉิงอีกต่อไปแล้ว เธอเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของหลินเฉิงจริงๆ จึงพอเข้าใจได้บ้าง แม้ว่าเขาจะอยู่ในฐานทัพทะเลน้ำเงินอันสงบสุข แต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยเนื้อปล่อยตัวเลยแม้แต่วินาทีเดียว!
หลังจากวางแผนเรียบร้อยแล้วหลินเฉิงที่นั่งชิวอยู่บนเก้าอี้ม้าหินอ่อน ก็พลิกข้อมือขึ้นมาดูเวลา ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่อง เขาก็พบว่ามันเกือบจะ 4 ทุ่มแล้ว เขาจึงหยุดคุยกับหยูซานแล้วรีบนำเธอกลับบ้านมาด้วยทันที
กว่า20 นาที ในที่สุดเขาก็มาถึงหน้าคฤหาสน์ของตัวเองจนได้ ขณะที่ง้างมือที่กำลังถือลูกกุญแจแล้วจะเสียบเข้าไปยังกอนประตู เขาก็สังเกตุเห็นไฟห้องนั่งเล่นข้างในบ้านกำลังเปิดอยู่!
หลินเฉิงขมวดคิ้วทันทีก่อนที่จะเช็คประตูที่กำลังจะเปิดนี้อย่างระมัดระวัง เขาก็โล่งอกเพราะไม่มีร่องรอยงัดแงะแต่อย่างใด เขาจึงเดินเข้าไปทันทีอย่างไม่รอช้า
“กลับมาแล้วหรอ?”
หยูซานเดินเข้าไปยังห้องนั่งเล่นหลินเฉิงก็ได้ยินเสียงของฉินชูหยี ที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาทักทายมาทันที
“ครับ…”
เห็นว่าคนที่เข้ามาในบ้างก่อนเขาคือฉินชูหยี เขาก็เลิกระแวงทันที และยิ้มให้กับอีกฝ่ายเป็นคำตอบ
“นี่ก็จะ4 ทุ่มแล้วนะ ป้าฉินยังไม่ไปพักผ่อนหรอครับ?”
“ฮึ่ม!เธอรู้เวลาด้วยหรอ?”
เห็นรอยยิ้มของหลินเฉิงฉินชูหยีก็พ่นลมออกมาอย่างไม่พอใจ ก่อนที่จะลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินเข้ามาหาหลินเฉิง ก่อนที่จะเริ่มดุ “ถ้าไม่ใช่เพราะป้าไปเจอกับเลขาชูตอนออกไปจ่ายตลาดเมื่อเย็นนี้เข้า ป้าก็ไม่รู้เลยนะว่ากองพันที่หนึ่งเจออะไรมาบ้างวันนี้! บ้าจริง! เห็นไหมว่ามันอันตรายขนาดไหน!?”
เมื่อรู้ว่าป้าฉินรอการกลับมาของเขาอยู่ตั้งหลายชั่วโมงแล้วเขาก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้ ก่อนที่จะพูดขึ้นหลังจากที่ถูกดุไปแล้ว “ป้าครับ! วันนี้ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าหรอกครับว่าจะเกิดอะไรแบบนั้นเข้า! กองพันเองก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ตั้งแต่ก็ตั้งขึ้นมาด้วยซ้ำ มันก็แค่อุบัติเหตุครับ ป้าไม่ต้องกังวลมาก็ได้ครับ โอเคไหม?”
“จะมาโอคงโอเคอะไรอีกหละ?ห๊ะ!”
ฉินชูหยีก็โมโหทันทีที่ได้ยินแบบนั้น“ป้าได้ยินมาว่าวันนี้คนตายเป็นร้อยๆ ไหนจะคนเจ็บอีกนับไม่ถ้วน! เรื่องใหญ่ขนาดนี้จะไม่ให้เป็นห่วงได้ไง!?”
“ป้าไม่ต้องโกรธขนาดนี้ก็ได้ครับดื่มน้ำอุ่นๆ ก่อนเถอะครับ…”
เมื่อรู้ว่าป้าฉินช็อคมากที่ได้ยินข่าวนั้นหยูซานได้ยินแบบนั้นก็รีบเข้าไปในครัวนำน้ำอุ่นๆ มาให้กับป้าฉิน เธอก็ส่งเเสียงไม่พอใจขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่จะรับน้ำดื่มมา
“เหมือนจะมีแต่หยูซานนะที่ไม่ได้ดื้อเหมือนเธอที่ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่ทุกวี้ทุกวัน!”
หลังจากที่รับน้ำมาเธอก็ดื่มเข้าไปรวดเดียวก่อนที่จะหันไปมองหยูซานอย่างมีความสุข แล้วหันกลับไปด่าหลินเฉิงต่อ “ไหนๆ แล้วป้าก็ยังเห็นเธอเป็นเด็กที่ไม่เชื่อฟังเหมือนเดิม! พรุ่งนี้ป้าจะไปยื่นใบลาออกกับเธอที่กองพันเอง!”
แค็ก!ๆ
หลินเฉิงที่กำลังถูกด่าได้ยินแบบนั้นก็สำลักน้ำลายตัวเอง ก่อนที่จะบอกกับป้าฉินไปว่า “ไม่เป็นไรครับ ยังไงๆ ผมก็จะไปลาออกเองอยู่แล้ว ป้าไม่ต้องมาหรอกครับ เดี๋ยวเรื่องมันจะยุ่งยากเอา แต่ผมก็จะไม่อยู่เฉยๆ ที่บ้านนะครับมันเสียเกียรติ!”
“ธะ…เธอจะยอมออกจากตำแหน่งนั้นจริงๆหรอ?” ป้าฉินแปลกใจมากที่ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงยอมเธอง่ายๆ แบบไม่เคยเป็นมาก่อน เธอได้แต่แอบขอบคุณพระเจ้าอยู่ในใจที่ทำให้เรื่องที่เป็นไปไม่ได้แบบนี้เกิดขึ้นมา!
———————–SC: บทที่ 396 รายงานพิเศษ