I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 400 ห้องย้อนยุค
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 400 ห้องย้อนยุค
พลังของหยูซานอยู่ในระดับ4 ต้นๆ ก็เพราะเธอได้รับตัวยาเสริมกำลังขั้นสมบรูณ์ที่หลินเฉิงให้มา ตอนนี้ก็ยังพูดได้ไม่เต็มปากว่าเธอสามารถไปที่ไหนก็ได้โดยที่ไม่มีใครเห็น แต่โดยทั่วไปแล้วไม่มีใครเห็นเธออย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามทุกสิ่งย้อมมีข้อแม้เสมอโดยเฉพาะในยุคที่ทุกสิ่งกำลังล่มสลายแบบนี้ มีผู้ใช้พลังมากมายอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง จนถึงตอนนี้หลินเฉิงยังไม่สามารถรับปากได้เลยว่าในฐานทัพแห่งนี้จะมีผู้ใช้วิชาพรางตัวอยู่อีกหรือไม่ แม้แต่ผู้ใช้พลังที่แข็งแกร่งพอๆ กับผู้ใช้ลาวาคนนั้นก็อาจจะมีซ่อนตัวอยู่ก็ได้ ฉางเหวินฉวนที่ถูกหยูซานลอบโจมตีมาแล้วครั้งนึง ย่อมเตรียมพร้อมรับการโจมตีครั้งต่อไปอยู่แล้ว!
แม้ว่าระดับ4 นั้นจะไปถึงได้ยาก ผู้ใช้พลังจิตเองที่มีความสามารถในการรับรู้สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว ต้องเป็นที่ต้องการของฉางเหวินฉวนอยู่แล้ว ถ้าเขามีผู้ใช้พลังจิตระดับสูงมาคุ้มกันเขาตลอด 24 ชม. หยูซานเองก็อาจจะถูกพบก็เป็นไปได้!
แล้วถ้าเขาไปช่วยไม่ทันเวลาหละก็อาจจะเกิดการสูญเสียก็เป็นได้!
เมื่อหลินเฉิงคิดแบบนั้นเขาก็ไม่อยากจะเสียเวลากับตรงนี้แล้ว เขาจึงถามกลับไปตรงๆ “แล้วระดับการป้องกันระดับ 3 นั้นมีอะไรบ้างหละครับ?”
ได้ยินแบบนั้นผู้เฒ่าก็พูดออกมาอย่างสุดทน“เป็นยังไงหนะหรอ? ตอนนี้ ก็พอๆ กับเกิดสงครามขึ้นเลยหละ!”
“ให้ตายเถอะ!”
ได้ยินการตอบรับของตาเฒ่าเหลียงแม้ว่าหลินเฉิงจะไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา แต่ใจของเขาก็หายวาบ ทันทีที่ได้ยิน แม้ว่าฉางเหวินฉวนจะเก่ง แต่เพื่อป้องกันการถูกลอบโจมตีอีกครั้ง ถึงขั้นให้คนทั้งฐานทัพมาปกป้องเขาเลยหรอ?!
แม้ว่าหลินเฉิงจะไม่ได้แสดงความเครียดใดๆ ออกมาทางสีหน้าเลยแม้แต่น้อย แต่ผู้เฒ่าเหลียงที่มากประสบการณ์ก็มองเห็นความเปลี่ยนแปลงนั้นของหลินเฉิงได้ เขาจึงถามต่อว่า “ฉันได้ยินมาจากเซี่ยวฮันว่านายถามเธอเรื่องฉางเหวินฉวนหนิ ใช่ไหม?”
“ใช่แล้วมีอะไรหรอครับ?”
หลินเฉิงยอมรับตรงๆ“กลุ่มของผู้เฒ่าน่าจะรู้ดีเรื่องความสัมพันของผมกับหลีเหมิงเดีย ความสัมพันของเธอกับฉางเหวินฉวนนั้นเป็นอะไรที่ไม่แน่นอนมากๆ ผมที่เป็นพี่ย่อมอยากที่จะเข้าใจในตัวของเขาอยู่แล้ว…”
“เป็นแบบนั้นหรอ?”
ผู้เฒ่าพยักหน้าให้และพูดต่อ “งั้นนายก็ควรที่จะไปคุยกับน้องสาวของอีกฝ่ายหน่อยแล้ว…”
พูดจบผูเฒ่าก็สูบไปฟ์อีกครั้งก่อนที่จะถอนหายใจออกมายาวๆ “งั้นหลังจากที่นายคุยกับฉีเซี่ยวฮันแล้ว นายมีอะไรที่ต้องพูดกับฉันอีกหละ?”
ก่อนที่เขาจะตอบคำถามนั้นไปเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เขามองไปรอบๆ ก่อนที่จะถามอีกคำถามออกไป “ที่นี่ปลอดภัยจริงๆ หรอ?”
“ที่นายพูดหมายความอะไร?”
เห็นว่าหลินเฉิงรู้สึกไม่ปลอดภัยในสำนักงานของผู้เเฒ่าเองเขาก็ขมวดคิ้วสงสัย “นายจะทำอะไรอย่างงั้นหรอ!”
“อย่าพึ่งตกใจไปครับ!”
หลินเฉิงรีบโบกปัด“แค่อยากรู้ว่าที่นี่ปลอดภัยพอที่จะพูดได้ทุกเรื่องรึปล่าว แค่นั้นเองครับ”
“ฮึ่ม!”
ได้ยินแบบนั้นเผู้เฒ่าหลียงก็วางมาดเหมือนเดิมอีกครั้งเขามองไปด้วยความโมโหและพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่านายจะทำอะไรหรอกนะ แต่สิ่งที่นายจจะพูดต้องไม่ดีแน่ๆ งั้นตามฉันมาที่ห้องนั้น!”
เห็นผู้เฒ่าเดินออกไปหลินเฉิงก็รีบตามไปในทันที
“ตาเฒ่าจะไปข้างนอกหรอ?”
เซี่ยวหงที่กำลังจัดเล็บอยุ่ก็หันขึ้นมามองพวกเขาทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตู เธอมองไปยังหลินฉิงที่เดินตามมาก่อนที่จะหันกลับไปทักทายผู้อาวุโสกว่า
“ก็นะ…”
ชายแก่ที่รีบเดินออกมาจากห้องก็หยุดแล้วหันไปหาเซี่ยวหง“วันนี้ฉันจะไม่กลับเข้ามาแล้ว ถ้าเธอจะทำอะไรก็บอกกับตาแก่หวังไปก็แล้วกันนะ! อย่างลืมยกเลิกนัดของวันนี้และวันพรุ่งนี้ให้ด้วยหละ พอดีมีเรื่องด่วนกระทันหัน”
“….”
เห็นท่าทีของตาเฒ่าเซี่ยวหงก็พูดอย่างเอื่อมระอา “แต่ตาเฒ่า ตาเฒ่าเองก็ควรจะรู้นะว่าคนที่ถูกเลื่อนต้องรออีกสองเดือนเลยนะ ฉันกลับว่า”
“เธอจะกลัวอะไร?”
เห็นเซี่ยวหงหน้าเสียตาเฒ่าก็มองมากด้วยหางตา “ฉันมาอยู่ที่นี่ก็เพื่อฆ่าเวลาเท่านั้น เธอก็รู้ว่าฉันมีอะไรที่สำคัญกว่าที่ต้องทำตั้งเยอะแยะ ถ้าเธออยากจะร้องเรียนเรื่องอะไรก็ยื่นเรื่องไปที่สำนักงานใหญ่เลยไป!”
หลังจากนั้นเขาก็ไม่สนสิ่งที่เซี่ยวหงต้องจัดการต่อแล้วเขาเดินออกไปพร้อมกับหลินเฉิงที่รีบเดินตาม จากที่ได้ฟังบทสนทนาก่อนหน้านี้เหมือนว่า ตาเฒ่าเหลียงจะเป็นคนที่หน้าสนใจกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก นอกจากจะมีสติที่ฉับไวแล้ว ก็ยังมีอำนาจและหน้าหนาอีกต่างหาก ไม่แปลกเลยที่จะคุมลูกน้องที่สุดโต่งแบบฉีเซี่ยวฮันได้
เขาพยายามเรียบเรียงคำพูดขณะที่กำลังเดินตามผู้เฒ่าไปตามโถงทางเดินมายังชั้นล่าง และเดินออกไปยังป่าทางด้านหลังศูนย์ฝึกอย่างต่อเนื่อง
ฝ่านไปสักระยะที่ต้องเดินผ่านป่าอันมืดมิดก็เห็นตึกแบบย้อนยุคสองชั้นอยู่ข้างหน้า ในป่าที่มีแต่ต้นไม้สูงใหญ่นับไม่ถ้วน!
“อย่าทำอะไรให้ยามสงสัยหละไม่อยากจะมีปัญหากับยามพวกนี้เท่าไหร่!”
ก่อนที่จะเดินเข้าไปหาอาคารนั้นเขาก็หันกลับมาบอกกับหลินเฉิงก่อน และอธิบายสิ่งที่อีกฝ่ายควรระวังไว้ เขาหยิบบัตรสีขาวขึ้นมาให้ เมื่อไปถึงประตูสีแดงทึบข้างหน้า ก็แตะบัตรนั้นบงไปบนจอ LCD ที่อยู่กลางประตู เสียงปลดล็อคก็ดังขึ้น!
เมื่อประตูเปิดออกตาเฒ่าก็หยิบบัตรสีดำขึ้นมาแล้วหันไปเรียกหลินเฉิง “ตามมานี้เร็ว!”
หลินเฉิงยังยืนนิ้งเขาถามกลับไปอย่างสังสัยก่อน “ที่นี่คือ?”
“อ่อ?”
เห็นหลินเฉิงไม่ยอมเดินตามมาถ้าเขาไม่อธิบายก่อนเขาก็แปลกใจและยกคิ้วขึ้นถาม “ปกติไม่เคยทำอะไรแบบนี้หรอ?”
“บื้อๆอย่างงี้นายจะให้มาเป็นที่ปรึกษาเสียจริง!!”
��SC: บทที่ 401 ศูนย์บัชาการคมดาบแห่งรัตติการ!
อย่างไรก็ตามทุกสิ่งย้อมมีข้อแม้เสมอโดยเฉพาะในยุคที่ทุกสิ่งกำลังล่มสลายแบบนี้ มีผู้ใช้พลังมากมายอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง จนถึงตอนนี้หลินเฉิงยังไม่สามารถรับปากได้เลยว่าในฐานทัพแห่งนี้จะมีผู้ใช้วิชาพรางตัวอยู่อีกหรือไม่ แม้แต่ผู้ใช้พลังที่แข็งแกร่งพอๆ กับผู้ใช้ลาวาคนนั้นก็อาจจะมีซ่อนตัวอยู่ก็ได้ ฉางเหวินฉวนที่ถูกหยูซานลอบโจมตีมาแล้วครั้งนึง ย่อมเตรียมพร้อมรับการโจมตีครั้งต่อไปอยู่แล้ว!
แม้ว่าระดับ4 นั้นจะไปถึงได้ยาก ผู้ใช้พลังจิตเองที่มีความสามารถในการรับรู้สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว ต้องเป็นที่ต้องการของฉางเหวินฉวนอยู่แล้ว ถ้าเขามีผู้ใช้พลังจิตระดับสูงมาคุ้มกันเขาตลอด 24 ชม. หยูซานเองก็อาจจะถูกพบก็เป็นไปได้!
แล้วถ้าเขาไปช่วยไม่ทันเวลาหละก็อาจจะเกิดการสูญเสียก็เป็นได้!
เมื่อหลินเฉิงคิดแบบนั้นเขาก็ไม่อยากจะเสียเวลากับตรงนี้แล้ว เขาจึงถามกลับไปตรงๆ “แล้วระดับการป้องกันระดับ 3 นั้นมีอะไรบ้างหละครับ?”
ได้ยินแบบนั้นผู้เฒ่าก็พูดออกมาอย่างสุดทน“เป็นยังไงหนะหรอ? ตอนนี้ ก็พอๆ กับเกิดสงครามขึ้นเลยหละ!”
“ให้ตายเถอะ!”
ได้ยินการตอบรับของตาเฒ่าเหลียงแม้ว่าหลินเฉิงจะไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา แต่ใจของเขาก็หายวาบ ทันทีที่ได้ยิน แม้ว่าฉางเหวินฉวนจะเก่ง แต่เพื่อป้องกันการถูกลอบโจมตีอีกครั้ง ถึงขั้นให้คนทั้งฐานทัพมาปกป้องเขาเลยหรอ?!
แม้ว่าหลินเฉิงจะไม่ได้แสดงความเครียดใดๆ ออกมาทางสีหน้าเลยแม้แต่น้อย แต่ผู้เฒ่าเหลียงที่มากประสบการณ์ก็มองเห็นความเปลี่ยนแปลงนั้นของหลินเฉิงได้ เขาจึงถามต่อว่า “ฉันได้ยินมาจากเซี่ยวฮันว่านายถามเธอเรื่องฉางเหวินฉวนหนิ ใช่ไหม?”
“ใช่แล้วมีอะไรหรอครับ?”
หลินเฉิงยอมรับตรงๆ“กลุ่มของผู้เฒ่าน่าจะรู้ดีเรื่องความสัมพันของผมกับหลีเหมิงเดีย ความสัมพันของเธอกับฉางเหวินฉวนนั้นเป็นอะไรที่ไม่แน่นอนมากๆ ผมที่เป็นพี่ย่อมอยากที่จะเข้าใจในตัวของเขาอยู่แล้ว…”
“เป็นแบบนั้นหรอ?”
ผู้เฒ่าพยักหน้าให้และพูดต่อ “งั้นนายก็ควรที่จะไปคุยกับน้องสาวของอีกฝ่ายหน่อยแล้ว…”
พูดจบผูเฒ่าก็สูบไปฟ์อีกครั้งก่อนที่จะถอนหายใจออกมายาวๆ “งั้นหลังจากที่นายคุยกับฉีเซี่ยวฮันแล้ว นายมีอะไรที่ต้องพูดกับฉันอีกหละ?”
ก่อนที่เขาจะตอบคำถามนั้นไปเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เขามองไปรอบๆ ก่อนที่จะถามอีกคำถามออกไป “ที่นี่ปลอดภัยจริงๆ หรอ?”
“ที่นายพูดหมายความอะไร?”
เห็นว่าหลินเฉิงรู้สึกไม่ปลอดภัยในสำนักงานของผู้เเฒ่าเองเขาก็ขมวดคิ้วสงสัย “นายจะทำอะไรอย่างงั้นหรอ!”
“อย่าพึ่งตกใจไปครับ!”
หลินเฉิงรีบโบกปัด“แค่อยากรู้ว่าที่นี่ปลอดภัยพอที่จะพูดได้ทุกเรื่องรึปล่าว แค่นั้นเองครับ”
“ฮึ่ม!”
ได้ยินแบบนั้นเผู้เฒ่าหลียงก็วางมาดเหมือนเดิมอีกครั้งเขามองไปด้วยความโมโหและพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่านายจะทำอะไรหรอกนะ แต่สิ่งที่นายจจะพูดต้องไม่ดีแน่ๆ งั้นตามฉันมาที่ห้องนั้น!”
เห็นผู้เฒ่าเดินออกไปหลินเฉิงก็รีบตามไปในทันที
“ตาเฒ่าจะไปข้างนอกหรอ?”
เซี่ยวหงที่กำลังจัดเล็บอยุ่ก็หันขึ้นมามองพวกเขาทันทีที่ได้ยินเสียงเปิดประตู เธอมองไปยังหลินฉิงที่เดินตามมาก่อนที่จะหันกลับไปทักทายผู้อาวุโสกว่า
“ก็นะ…”
ชายแก่ที่รีบเดินออกมาจากห้องก็หยุดแล้วหันไปหาเซี่ยวหง“วันนี้ฉันจะไม่กลับเข้ามาแล้ว ถ้าเธอจะทำอะไรก็บอกกับตาแก่หวังไปก็แล้วกันนะ! อย่างลืมยกเลิกนัดของวันนี้และวันพรุ่งนี้ให้ด้วยหละ พอดีมีเรื่องด่วนกระทันหัน”
“….”
เห็นท่าทีของตาเฒ่าเซี่ยวหงก็พูดอย่างเอื่อมระอา “แต่ตาเฒ่า ตาเฒ่าเองก็ควรจะรู้นะว่าคนที่ถูกเลื่อนต้องรออีกสองเดือนเลยนะ ฉันกลับว่า”
“เธอจะกลัวอะไร?”
เห็นเซี่ยวหงหน้าเสียตาเฒ่าก็มองมากด้วยหางตา “ฉันมาอยู่ที่นี่ก็เพื่อฆ่าเวลาเท่านั้น เธอก็รู้ว่าฉันมีอะไรที่สำคัญกว่าที่ต้องทำตั้งเยอะแยะ ถ้าเธออยากจะร้องเรียนเรื่องอะไรก็ยื่นเรื่องไปที่สำนักงานใหญ่เลยไป!”
หลังจากนั้นเขาก็ไม่สนสิ่งที่เซี่ยวหงต้องจัดการต่อแล้วเขาเดินออกไปพร้อมกับหลินเฉิงที่รีบเดินตาม จากที่ได้ฟังบทสนทนาก่อนหน้านี้เหมือนว่า ตาเฒ่าเหลียงจะเป็นคนที่หน้าสนใจกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก นอกจากจะมีสติที่ฉับไวแล้ว ก็ยังมีอำนาจและหน้าหนาอีกต่างหาก ไม่แปลกเลยที่จะคุมลูกน้องที่สุดโต่งแบบฉีเซี่ยวฮันได้
เขาพยายามเรียบเรียงคำพูดขณะที่กำลังเดินตามผู้เฒ่าไปตามโถงทางเดินมายังชั้นล่าง และเดินออกไปยังป่าทางด้านหลังศูนย์ฝึกอย่างต่อเนื่อง
ฝ่านไปสักระยะที่ต้องเดินผ่านป่าอันมืดมิดก็เห็นตึกแบบย้อนยุคสองชั้นอยู่ข้างหน้า ในป่าที่มีแต่ต้นไม้สูงใหญ่นับไม่ถ้วน!
“อย่าทำอะไรให้ยามสงสัยหละไม่อยากจะมีปัญหากับยามพวกนี้เท่าไหร่!”
ก่อนที่จะเดินเข้าไปหาอาคารนั้นเขาก็หันกลับมาบอกกับหลินเฉิงก่อน และอธิบายสิ่งที่อีกฝ่ายควรระวังไว้ เขาหยิบบัตรสีขาวขึ้นมาให้ เมื่อไปถึงประตูสีแดงทึบข้างหน้า ก็แตะบัตรนั้นบงไปบนจอ LCD ที่อยู่กลางประตู เสียงปลดล็อคก็ดังขึ้น!
เมื่อประตูเปิดออกตาเฒ่าก็หยิบบัตรสีดำขึ้นมาแล้วหันไปเรียกหลินเฉิง “ตามมานี้เร็ว!”
หลินเฉิงยังยืนนิ้งเขาถามกลับไปอย่างสังสัยก่อน “ที่นี่คือ?”
“อ่อ?”
เห็นหลินเฉิงไม่ยอมเดินตามมาถ้าเขาไม่อธิบายก่อนเขาก็แปลกใจและยกคิ้วขึ้นถาม “ปกติไม่เคยทำอะไรแบบนี้หรอ?”
“บื้อๆอย่างงี้นายจะให้มาเป็นที่ปรึกษาเสียจริง!!”
��SC: บทที่ 401 ศูนย์บัชาการคมดาบแห่งรัตติการ!