I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 404 อุดมการของดาบรัตติการ
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 404 อุดมการของดาบรัตติการ
หลังจากปัดเรื่องไม่สำคัญออกไปแล้วหลินเฉิงก็เริ่มจริงจังขึ้นมาทันที อย่างแรกเขาเปลี่ยนไปนั่งท่าทีสบายเนื่อสบายตัวมาที่สุด ก่อนที่จะมองไปยังฉีเซี่ยวฮันที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ เขา “แล้วผู้หญิงคนนี้หละ?”
“นายหมายความว่าอย่างไง?”
หลังจากที่ไม่รู้ความหมายของหลินเฉิงฉีเซี่ยวฮันก็ตกใจและโกรธขึ้นมาในทันที “นายคิดว่าฉันจะใส่ใจเรื่องที่นายจะถามตาเฒ่าเกียวกับฉางเหวินฉวนรึยังไง ห๊ะ? หรือนายอยากจะไล่ฉันออกไปกันแน่? ไม่มีทางฉันไม่ยอมหรอก!”
ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็ไม่ใส่ใจอะไรเขาหันไปคุยกับเหลียงต่อ
เห็นหลินเฉิงมองมาตาเฒ่าก็ยิ้มแห้งๆ “ไม่เป็นไรหนะ ยังไงซะเธอก็เป็นสมาชิกของดาบรัตติการ ถ้ามีอะไรก็พูดมาเลยเธอไม่ก่อปัญหาให้หรอก”
“ครับดีเลยครับ”
ได้ยินคำยืนยันนั้นหลินเฉิงก็พยักหน้าเข้าใจ เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด และพูดต่อไปว่า “อย่างแรกสุดเลย ผมอยากรู้เกี่ยวกับว่าทีมของผู้เฒ่าคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องของฉางเหวินฉวนเป็นพิเศษรึเปล่า!”
“ความคิดเห็นหรอ?เรื่องอะไรหละ?”
หลินเฉิงพูดในสิ่งที่เขาไม่ได้เดาไว้เขาจึงเริ่มจริงจังพร้อมกับขมวดคิ้วและถามกลับไปตรงๆ
ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็พ่นควันออกมาก่อนที่จะพูดออกไป “อย่างเช่น ถ้าไอหมอนั้นทำผิดกฏของฐานทัพ พวกคุณจะกล้าจับเขาเข้าคุกใช่ไหม หรือว่าจะทำเป็นตาบอดแล้วปล่อยเขาทำเรื่องของเขาต่อไป เพราะกังวลเรื่องตำแหน่งของเขาหละ?”
“ไม่ว่าจะเป็นเทพหรือเทวดาถ้าทำความผิดก็ต้องรับผิดเหมือนมนุษย์ธรรมดาเนี่ยแหละ! ถ้าฉางเหวินฉวนเป็นภัยกับฐานทัพแห่งนี้จริงๆ หละก็ พวกเราจะยอมนั่งเฉยๆ อย่างแน่นอน ต่อให้ผบ.สูงสุดขอเอาไว้ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจพวกเราได้อย่างแน่นอน นายไว้ใจพวกเราได้!”
หลังจากที่ได้ยินข้อสงสัยนั้นตาเฒ่าก็พูดยืนยันจุดยืนของตัวเองอย่างหนักแน่น!
เห็นอีกฝ่ายมั่นใจขนาดนั้นหลินเฉิงก็มองด้วยสายตาที่ประหลาดใจ “แน่ใจนะ? ฉางเหวินฉวนเป็นถึงรองผบ. และผู้บังคับบัญชาของกองพันที่หนึ่งเลยนะ!”
“นายต้องการจะสื่อถึงอะไรกันแน่?”
เหลียงขมวดคิ้วและถามกลับไป“นายถามว่าดาบรัตติการจะอ่อนข้อให้กับเขาไม่ แล้วเราก็บอกว่าไม่ แต่นายไม่เชื่อเนี่ยนะ? ฉันต้องพิสูจน์ให้นายรู้อย่างไรดีหละ?”
เห็นตาเฒ่าไม่พอใจนักหลินเฉิงก็รีบโบกมือ “ไม่ ผมไม่เชื่อในสิงทีคุณพูด เพราะเรื่องต่อจากนี้นั้นสำคัญมากๆ ซึ่งผมจะพูดต่อไปโดยไม่ระมัดระวังไม่ได้!”
พูดจบหลินเฉิงก็สูบสุหรี่เข้าไปเฮือกใหญ่ก่อนที่จะดับบุหรี่นั้นลง “ผมเคยคุยกับเซี่ยวฮันเรื่องของฉางเหวินฉวนมาแล้ว เธอบอกว่าฉางเหวินฉวนเองก็เป็นเป้าหมายการสังเกตุการณ์ของดาบรัตติการเหมือนกันใช่ไหม? ถ้าเดาไม่ผิดพวกคุณเองก็เป็นปรปักษ์กับฉางเหวินฉวนอยู่บ้างใช่ไหม”
“ใช่แล้ว!ไอหมอนั้นมันน่ารำคาญมาก ไหนจะเป็นพวกกระร่อนอีก ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น หน้าขยะแขยง…”
ได้ยินคำพูดของหลินเฉิงฉีเซี่ยวฮันที่นั่งเงียบก็พูดตำหนิอย่างรุนแรง แต่ก่อนที่จะได้พูดจนจบผู้เฒ่าก็ขัดจังหวะของเธอลงเสียก่อน
“ไอเด็กดื่อ!อย่าลืมว่าตัวเองรับหน้าที่อะไรอยู่สิ! เธอเป็นสมาชิกของดาบรัตติการ พวกเราจะไม่ตั้งตนเป็นศัตรูกับใครโดยที่ไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลมายืนยันหรอกนะ!” เหลียงลุกขึ้นมาดุด่าฉีเซี่ยวฮันที่พูดมากก่อนที่จะกลับไปนั่งลงเหมือนเดิม พร้อมหันกลับไปคุยกับหลินเฉิง “พ่อหนุ่มหลิน ถ้าอยากจะได้ผลลัพดีๆ ก็พูดออกมาให้ชัดกว่านี้หน่อยสิ ไม่งั้นหละก็…”
พูดถึงตรงนี้ตาแก่ก็โอดอวยออกมาแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดคำต่อไปออกมา เขาก็ทำให้หลินเฉิงรู้สึกตัวแล้ว
แม้เหลียงจะไม่พอใจกับท่าทีของเขามากหลินเฉิงก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้น ชายแก่ยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง มองออกเลยว่าชายแก่เองก็เห็นด้วยกับสิ่งที่ฉีเซี่ยวฮันพูดในตอนแรกมากอยู่พอตัวเลยทีเดียว
หลินเฉิงหัวเราะเบาๆส่ายหน้าและพูดออกมาอย่างอดไม่ได้ “ยังไงซะตอนนี้พวกเราก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ผมก็จะพูดสิ่งที่ผมอยากจะพูดแล้วนะ”
เขาเองก็คิดว่าตาเฒ่านั่นกังวลเรื่องนั้นมากเกินไปเพราะเขาจงใจที่จะรักษามาดของตัวเองเอาไว้ “นายก็รู้หนิว่ามันเป็นมายังไง!”
ได้ยินแบบนั้นเหลียงก็พูดอย่างดูแคลนออกมา
เมื่อเห็นชายแก่พยายามพูดให้ไม่เข้าตัวเองหลินเฉิงก็ไม่อยากพูดมา เขาขี้เกียจเล่นลิ้นกับชายคนนี้แล้ว เขาจึงพูดออกไปตรงๆ “เนื่องจากฉางเหวินฉวนอยู่ในแผนสังเกตุการณ์ระยะยาวของดาบรัตติการ นั้นหมายความว่าเขาเองก็เป็นเป้าหมายสำคัญของดาบรัติการเหมือนกันใช่ไหมหละ!?”
หลินเฉิงพูดออกมาแบบนี้แม้ว่าตาแก่ยังขัดใจสิ่งที่เชาพูดก่อนหน้านี้ เขาก็ยังพยักหน้าด้วยความชื่นชมอยู่ดี
แต่เมื่อเขายิ่มหลินเฉิงก็ยิ้มกลับมาให้พร้อมกับถาม “จากการสังเกตุกาณ์ เกาะติดเป้าหมายเป็นตาเดียว ดาบรัตติการได้ข้อมูลสำคัญอะไรจากเขาบ้างไหมหละ?”
แค๊กๆ!
อยู่ดีๆหลินเฉิงก็ถามถึงผลการทำงานของพวกเขาในเรื่องของฉางเหวินฉวนแล้ว ตาเฒ่าก็ได้แต่ไอออกมาสองสามครั้ง และสีหน้าก็กลับเป็นมืดครึ้มอีกครั้ง หลังจากที่เขาใจเย็นลงแล้วเขาก็ถามขึ้นมา “มันสำคัญอะไรกับนายหละ? นายจะถามทำไม?”
“อะไรกันหละมันก็เป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่หรอ!”
เห็นตาเฒ่าเหลียงอับอายกับผลลัพที่ตัวเองรู้อยู่แก่ใจ หลังจากที่ได้ยินคำถามนั้นไปแล้ว หลินเฉิงก็แสะยิ้มทันทีพร้อมกับพูดออกไปว่า “ผมว่าใครๆ ในที่แห่งนี้ก็รู้นะ ว่าไอหมอนั้นหมายปองน้องสาวของผม หลีเหมิงเดีย เพราะผมเป็นพี่ใหญ่ของเธอ ผมก็มีเหตุผลที่จติดตามเรื่องของฉางเหวินฉวนแล้ว! แต่เท่าที่ผมรู้ ทีมดาบรัตติการเองก็ยังไม่ได้ข้อมูลสำคัญอะไรสักอย่างมาจากฉางเหวินฉวนเลยนะ!”
“เห้ย…ไอเด็กนี่!!”
ถูกพูดเยาะเยิ้ยแบบนี้ตาเฒ่าก็กลับไปนั่งหน้ามืดเหมือนเดิม เขาเหลือบตาไปมองร่างเล็กๆ ที่นั่งอยู่ข้างๆ หลินเฉิงแทน พร้อมกับกัดฟันแน่!
แม้ว่าฉีเซี่ยวฮันกับหลินเฉิงจะมารายงานกับเขาทันทีหลังจากเรื่องที่ทั้งสองคุยกันเมื่อสองคืนก่อนพวกเขาจะรู้ไหมว่าการพูดเรื่องแบบนี้ข้างนอกนั้นเสี่ยงต่อการที่ข้อมูลจะรั่วไหลออกไปขนาดไหน!
“ตะ…แต่ฉันก็แจ้งกับตาเฒ่าทันทีที่กลับมาเลยนะฉันไม่เกี่ยวอะไรด้วยนะเรื่องนี้!”
แม้เห็นสายตาอันเอาเรื่องของตาแก่เธอก็ยังพยายามปกป้องตัวของเธอเองอยู่
“ฮึ่ม!เธอจงใจเปิดเผยข้อมูลสำคัญของทีมบริหารของเรา ฉันจะหักเงินเดือนขอเธอตลอดครึ่งปีนี้!”
แม้จะรู้ว่าเธอเปิดเผยข้อมูลนี้เพื่อจะดึงหลินเฉิงเข้ามาร่วมทีมในคืนนั้นเหลียงที่กำลังเดือดหลังจากคุยกับหลินเฉิงก็จะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว ถ้าตาแก่คนนี้เหมือนกับพายุ ตอนนี้ฉีเซี่ยวฮันก็ถูกดูดเข้าไปแล้วอย่างช่วยไม่ได้ ———————-SC: บทที่ 405 ความจริงใจในการร่วมมือกัน!
“นายหมายความว่าอย่างไง?”
หลังจากที่ไม่รู้ความหมายของหลินเฉิงฉีเซี่ยวฮันก็ตกใจและโกรธขึ้นมาในทันที “นายคิดว่าฉันจะใส่ใจเรื่องที่นายจะถามตาเฒ่าเกียวกับฉางเหวินฉวนรึยังไง ห๊ะ? หรือนายอยากจะไล่ฉันออกไปกันแน่? ไม่มีทางฉันไม่ยอมหรอก!”
ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็ไม่ใส่ใจอะไรเขาหันไปคุยกับเหลียงต่อ
เห็นหลินเฉิงมองมาตาเฒ่าก็ยิ้มแห้งๆ “ไม่เป็นไรหนะ ยังไงซะเธอก็เป็นสมาชิกของดาบรัตติการ ถ้ามีอะไรก็พูดมาเลยเธอไม่ก่อปัญหาให้หรอก”
“ครับดีเลยครับ”
ได้ยินคำยืนยันนั้นหลินเฉิงก็พยักหน้าเข้าใจ เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด และพูดต่อไปว่า “อย่างแรกสุดเลย ผมอยากรู้เกี่ยวกับว่าทีมของผู้เฒ่าคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องของฉางเหวินฉวนเป็นพิเศษรึเปล่า!”
“ความคิดเห็นหรอ?เรื่องอะไรหละ?”
หลินเฉิงพูดในสิ่งที่เขาไม่ได้เดาไว้เขาจึงเริ่มจริงจังพร้อมกับขมวดคิ้วและถามกลับไปตรงๆ
ได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็พ่นควันออกมาก่อนที่จะพูดออกไป “อย่างเช่น ถ้าไอหมอนั้นทำผิดกฏของฐานทัพ พวกคุณจะกล้าจับเขาเข้าคุกใช่ไหม หรือว่าจะทำเป็นตาบอดแล้วปล่อยเขาทำเรื่องของเขาต่อไป เพราะกังวลเรื่องตำแหน่งของเขาหละ?”
“ไม่ว่าจะเป็นเทพหรือเทวดาถ้าทำความผิดก็ต้องรับผิดเหมือนมนุษย์ธรรมดาเนี่ยแหละ! ถ้าฉางเหวินฉวนเป็นภัยกับฐานทัพแห่งนี้จริงๆ หละก็ พวกเราจะยอมนั่งเฉยๆ อย่างแน่นอน ต่อให้ผบ.สูงสุดขอเอาไว้ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจพวกเราได้อย่างแน่นอน นายไว้ใจพวกเราได้!”
หลังจากที่ได้ยินข้อสงสัยนั้นตาเฒ่าก็พูดยืนยันจุดยืนของตัวเองอย่างหนักแน่น!
เห็นอีกฝ่ายมั่นใจขนาดนั้นหลินเฉิงก็มองด้วยสายตาที่ประหลาดใจ “แน่ใจนะ? ฉางเหวินฉวนเป็นถึงรองผบ. และผู้บังคับบัญชาของกองพันที่หนึ่งเลยนะ!”
“นายต้องการจะสื่อถึงอะไรกันแน่?”
เหลียงขมวดคิ้วและถามกลับไป“นายถามว่าดาบรัตติการจะอ่อนข้อให้กับเขาไม่ แล้วเราก็บอกว่าไม่ แต่นายไม่เชื่อเนี่ยนะ? ฉันต้องพิสูจน์ให้นายรู้อย่างไรดีหละ?”
เห็นตาเฒ่าไม่พอใจนักหลินเฉิงก็รีบโบกมือ “ไม่ ผมไม่เชื่อในสิงทีคุณพูด เพราะเรื่องต่อจากนี้นั้นสำคัญมากๆ ซึ่งผมจะพูดต่อไปโดยไม่ระมัดระวังไม่ได้!”
พูดจบหลินเฉิงก็สูบสุหรี่เข้าไปเฮือกใหญ่ก่อนที่จะดับบุหรี่นั้นลง “ผมเคยคุยกับเซี่ยวฮันเรื่องของฉางเหวินฉวนมาแล้ว เธอบอกว่าฉางเหวินฉวนเองก็เป็นเป้าหมายการสังเกตุการณ์ของดาบรัตติการเหมือนกันใช่ไหม? ถ้าเดาไม่ผิดพวกคุณเองก็เป็นปรปักษ์กับฉางเหวินฉวนอยู่บ้างใช่ไหม”
“ใช่แล้ว!ไอหมอนั้นมันน่ารำคาญมาก ไหนจะเป็นพวกกระร่อนอีก ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น หน้าขยะแขยง…”
ได้ยินคำพูดของหลินเฉิงฉีเซี่ยวฮันที่นั่งเงียบก็พูดตำหนิอย่างรุนแรง แต่ก่อนที่จะได้พูดจนจบผู้เฒ่าก็ขัดจังหวะของเธอลงเสียก่อน
“ไอเด็กดื่อ!อย่าลืมว่าตัวเองรับหน้าที่อะไรอยู่สิ! เธอเป็นสมาชิกของดาบรัตติการ พวกเราจะไม่ตั้งตนเป็นศัตรูกับใครโดยที่ไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลมายืนยันหรอกนะ!” เหลียงลุกขึ้นมาดุด่าฉีเซี่ยวฮันที่พูดมากก่อนที่จะกลับไปนั่งลงเหมือนเดิม พร้อมหันกลับไปคุยกับหลินเฉิง “พ่อหนุ่มหลิน ถ้าอยากจะได้ผลลัพดีๆ ก็พูดออกมาให้ชัดกว่านี้หน่อยสิ ไม่งั้นหละก็…”
พูดถึงตรงนี้ตาแก่ก็โอดอวยออกมาแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดคำต่อไปออกมา เขาก็ทำให้หลินเฉิงรู้สึกตัวแล้ว
แม้เหลียงจะไม่พอใจกับท่าทีของเขามากหลินเฉิงก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้น ชายแก่ยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง มองออกเลยว่าชายแก่เองก็เห็นด้วยกับสิ่งที่ฉีเซี่ยวฮันพูดในตอนแรกมากอยู่พอตัวเลยทีเดียว
หลินเฉิงหัวเราะเบาๆส่ายหน้าและพูดออกมาอย่างอดไม่ได้ “ยังไงซะตอนนี้พวกเราก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ผมก็จะพูดสิ่งที่ผมอยากจะพูดแล้วนะ”
เขาเองก็คิดว่าตาเฒ่านั่นกังวลเรื่องนั้นมากเกินไปเพราะเขาจงใจที่จะรักษามาดของตัวเองเอาไว้ “นายก็รู้หนิว่ามันเป็นมายังไง!”
ได้ยินแบบนั้นเหลียงก็พูดอย่างดูแคลนออกมา
เมื่อเห็นชายแก่พยายามพูดให้ไม่เข้าตัวเองหลินเฉิงก็ไม่อยากพูดมา เขาขี้เกียจเล่นลิ้นกับชายคนนี้แล้ว เขาจึงพูดออกไปตรงๆ “เนื่องจากฉางเหวินฉวนอยู่ในแผนสังเกตุการณ์ระยะยาวของดาบรัตติการ นั้นหมายความว่าเขาเองก็เป็นเป้าหมายสำคัญของดาบรัติการเหมือนกันใช่ไหมหละ!?”
หลินเฉิงพูดออกมาแบบนี้แม้ว่าตาแก่ยังขัดใจสิ่งที่เชาพูดก่อนหน้านี้ เขาก็ยังพยักหน้าด้วยความชื่นชมอยู่ดี
แต่เมื่อเขายิ่มหลินเฉิงก็ยิ้มกลับมาให้พร้อมกับถาม “จากการสังเกตุกาณ์ เกาะติดเป้าหมายเป็นตาเดียว ดาบรัตติการได้ข้อมูลสำคัญอะไรจากเขาบ้างไหมหละ?”
แค๊กๆ!
อยู่ดีๆหลินเฉิงก็ถามถึงผลการทำงานของพวกเขาในเรื่องของฉางเหวินฉวนแล้ว ตาเฒ่าก็ได้แต่ไอออกมาสองสามครั้ง และสีหน้าก็กลับเป็นมืดครึ้มอีกครั้ง หลังจากที่เขาใจเย็นลงแล้วเขาก็ถามขึ้นมา “มันสำคัญอะไรกับนายหละ? นายจะถามทำไม?”
“อะไรกันหละมันก็เป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่หรอ!”
เห็นตาเฒ่าเหลียงอับอายกับผลลัพที่ตัวเองรู้อยู่แก่ใจ หลังจากที่ได้ยินคำถามนั้นไปแล้ว หลินเฉิงก็แสะยิ้มทันทีพร้อมกับพูดออกไปว่า “ผมว่าใครๆ ในที่แห่งนี้ก็รู้นะ ว่าไอหมอนั้นหมายปองน้องสาวของผม หลีเหมิงเดีย เพราะผมเป็นพี่ใหญ่ของเธอ ผมก็มีเหตุผลที่จติดตามเรื่องของฉางเหวินฉวนแล้ว! แต่เท่าที่ผมรู้ ทีมดาบรัตติการเองก็ยังไม่ได้ข้อมูลสำคัญอะไรสักอย่างมาจากฉางเหวินฉวนเลยนะ!”
“เห้ย…ไอเด็กนี่!!”
ถูกพูดเยาะเยิ้ยแบบนี้ตาเฒ่าก็กลับไปนั่งหน้ามืดเหมือนเดิม เขาเหลือบตาไปมองร่างเล็กๆ ที่นั่งอยู่ข้างๆ หลินเฉิงแทน พร้อมกับกัดฟันแน่!
แม้ว่าฉีเซี่ยวฮันกับหลินเฉิงจะมารายงานกับเขาทันทีหลังจากเรื่องที่ทั้งสองคุยกันเมื่อสองคืนก่อนพวกเขาจะรู้ไหมว่าการพูดเรื่องแบบนี้ข้างนอกนั้นเสี่ยงต่อการที่ข้อมูลจะรั่วไหลออกไปขนาดไหน!
“ตะ…แต่ฉันก็แจ้งกับตาเฒ่าทันทีที่กลับมาเลยนะฉันไม่เกี่ยวอะไรด้วยนะเรื่องนี้!”
แม้เห็นสายตาอันเอาเรื่องของตาแก่เธอก็ยังพยายามปกป้องตัวของเธอเองอยู่
“ฮึ่ม!เธอจงใจเปิดเผยข้อมูลสำคัญของทีมบริหารของเรา ฉันจะหักเงินเดือนขอเธอตลอดครึ่งปีนี้!”
แม้จะรู้ว่าเธอเปิดเผยข้อมูลนี้เพื่อจะดึงหลินเฉิงเข้ามาร่วมทีมในคืนนั้นเหลียงที่กำลังเดือดหลังจากคุยกับหลินเฉิงก็จะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว ถ้าตาแก่คนนี้เหมือนกับพายุ ตอนนี้ฉีเซี่ยวฮันก็ถูกดูดเข้าไปแล้วอย่างช่วยไม่ได้ ———————-SC: บทที่ 405 ความจริงใจในการร่วมมือกัน!