I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 462: ฉี เหลา
SC:บทที่462: ฉี เหลา
ทำไมคุณกลัวเสียหน้างั้นหรอ?
เมื่อได้ยินคำพูดของเจ้าหน้าที่หนุ่มชายชรา ผู้ที่ถูกเรียกว่าผู้เฒ่าฉีก็แสยะยิ้มออกมา ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงต้องบอกนายเหมือนกันว่าฉันจะทำมันวันนี้นี่แหละ! ฉันก็อยากเห็นเหมือนกันว่ากลุ่มแมลงเม่าต่อสู้ภายในจะทำลายชื่อเสียงของฉันได้ยังไง!
หลังจากถูกฉีเลายั่วยุเจ้าหน้าที่หนุ่มก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาหันกลับไปหาเลขาที่สวมใส่แว่นตาและพูดออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว ไปเรียกพวกทหารทั้งหมดและบอกพวกเขาว่าหากพบอุปสรรคอะไรให้พวกเขาทำตามใจชอบได้เลย!
เรียกใคร…
นายด้วย!
เห้อ..ท้ายที่สุดพวกเราก็มาถึงจุดๆนี้… ในวลาเดียวกันกับที่เจ้าหน้าที่หนุ่มเอ่ยสั่งพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่นั่งอยู่ข้างๆเขาและไม่ได้พูดอะไรเลยมาตั้งแต่ต้นก็ดูเหมือนว่าจะได้รับสัญญาณบางอย่าง ทันใดนั้น พวกเขาก็เริ่มสั่งให้เลขาของตัวเองเดินลงไปด้านล่างทีละคน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้พูดถึงเรื่องวิธีการรับมือไว้แล้ว
คุณฉีถ้าไม่ว่าอะไร รบกวนคุณกลับไปก่อนได้รึเปล่า?
เมื่อเห็นว่าจู่ๆกลุ่มเจ้าหน้าที่ระดับสูงฉีกหน้าตนเหลียงก็ไม่รอให้ฉีเซี่ยวฮันมารายงานเขาอีกต่อไป หน้าของเขาดูน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันเขาก็กลัวว่าความวุ่นวายอันผิดปกติที่จะเปลี่ยนอนาคตจะทำร้ายฉี ดังนั้นเขาจึงเอ่ยกับอีกฝ่ายอย่างทนไม่ไหว
ไม่!
ใครจะรู้มันดูเหมือนกับว่าคุณฉีไม่ได้กังวลว่าตนจะได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด เขาปฏิเสธคุณเหลียงไป จากนั้นเขาก็คุยๆลุกขึ้น มองหน้าหลังและสั่งให้เลขาลงไปด้านล่างเพื่อเรียกคน จากนั้นก็นั่งลงเหมือนเดิมและไม่พูดอะไร แต่ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะออกมาและเอ่ย ดูเหมือนว่าฉันไม่ได้ลงมือมานานแล้วสินะ นายลืมไปแล้วหรอว่าฉันคือใคร?
เมื่อได้ยินแบบนั้นกลุ่มเจ้าหน้าที่ระดับสูงก็รู้สึกเหมือนถูกแช่แข็งทันที ทันใดนั้นพวกเขาก็นึกได้ทันทีว่าคนที่ดูเหมือนชายสูงอายุธรรมดาๆตรงหน้าไม่เหมือนกับเหลียงเหลาที่มีพลังพิเศษแต่ไม่มีกำลังรบ แต่เป็นผู้ที่มีระยะเวลาการตื่นขึ้นของพลังยาวนานที่สุด!
หึ!
แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันมีปฏิกิริยาอะไรฉีเหลาก็คำรามออกมา ในขณะเดียวกันเขาก็ยกไม้เท้าขึ้นและเคาะลงบนพื้น จากนั้นก็เกิดเสียงดัง ตู้ม ห้องประชุมที่มีพื้นที่ประมาณ400-500ตารางเมตรก็สั่นสะเทือนและทำให้พวกระดับสูงร่วงลงจากเก้าอี้ของพวกเขาทันที
ผมรู้มากกว่าที่พวกคุณคิดผมอายุมากแล้ว ผมจะไม่พูดถึงเรื่องของความกตัญญูและความแค้นในฐานทัพนี้ ตราบใดที่พวกคุณมีความสามารถ ไม่ว่าใครก็สามารถมาแทนทีตำแหน่งผู้บัญชาการของดิงเฮาหยวนได้! แต่….!
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ฉีก็มองหน้าผู้ที่ชะงักและมองมาที่ตนด้วยสีหน้าหวาดกลัวและพูดเสียงต่ำ ผมจะไม่ยอมทนพวกผู้ร้ายที่ทำตามใจตัวเองและทรยศเพื่อบรรลุเป้าหมายของตนเด็ดขาด! การต่อสู้เมื่อวานรุนแรงมาก และผลของมัน นอกจากสำนักงานใหญ่และหน่วยดาบรัตติกาลแล้ว พวกคุณทุกคน ไม่มีใครออกไปช่วยสนับสนุนเลยแม้แต่คนเดียว เพราะกลัวว่ามันจะทำลายอำนาจของตัวเองและส่งผลเสียต่อการแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ที่จะตามมา ไอ้ความเห็นแก่ตัวพวกนี้จะทำให้ผมเชื่อได้ยังไงว่าพวกคุณจะสามารถเป็นผู้น้ำของฐานทัพสมุทรสีครามของพวกเราให้พัฒนาก้าวหน้าได้?
แต่มันก็ดูเหมือนว่าเหลียงเลาแห่งกลุ่มดาบรัตติกาลจะไม่ได้จับตัวฆาตกรที่ชื่อหลินเฉิงกลับมาได้ไม่ใช่หรอครับ?ไม่ใช่แค่นั้น ตามที่ทหารผู้รอดชีวิตได้บอกมา หลังจากที่คุยกับหลินเฉิงอยู่สองสามคำ เขาก็สั่งห้ามไม่ให้คนของดาบรัตติกาลทั้งหมดเข้าไปยุ่งในการต่อสู้! แล้วเรื่องนนี่จะว่ายังไง?
หลังจากที่ฉีพูดจนพวกระดับสูงพูดอะไรไม่ออกชายสูงอายุตาเดียวที่สวมเครื่องแบบทหารก็พูดออกมาเสียงเย็น เขาเป็นคนเดียวที่ไม่ล้มลงเมื่อฉีประกาศอำนาจของตัวเอง ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในที่ของตัวเอง มองหน้าเหลียงที่ก้มหน้า ไม่พูดอะไรและถามฉี
เดี๋ยวผมบอกคุณเองว่าทำไม!
แต่ก่อนที่ฉีจะได้เอ่ยตอบทันใดนั้นประตูของห้องประชุมก็ถูกถีบจนหลุดออกไป จากนั้นหลินเฉิงก็เดินเข้ามาในห้องและเอ่ยกับชายชราในชุดเครื่องแบบโดยที่คาบบุหรีอยู่ในปาก!
นายเป็นใคร?!
เมื่อจู่ๆหลินเฉิงก็เข้ามาขัดการสนทนา ชายชราในเครื่องแบบก็ตกตะลึง จากนั้นจึงถามอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง
เมื่อได้ยินคำถามหลินเฉิงก็หัวเราะออกมา คุณไม่รู้จักผมจริงๆหรอ?
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงมองมาที่ตนชายชราสวมเครื่องแบบก็ขมวดคิ้วและคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นมา นายคือหลินเฉิงงั้นหรอ?
อืม~
เมื่อเห็นว่าในที่สุดชายชราก็เดาชื่อของเขาออกมาหลินเฉิงก็ยักไหล่อย่างสบายๆและยอมรับมันอย่างลูกผู้ชาย
อะไรนะ?เขาคือหลินเฉิงที่เอาชนะสำนักงานใหญ่และกลุ่มปีศาจรัตติกาลเมื่อวานงั้นหรอ?
เป็นไปได้ยังไงเขาเด็กขนาดนี้เนี่ยนะ?
เขามาทำอะไรที่นี่?!
ฉันก็ไม่รู้แต่ฉันรู้สึกว่ามันกำลังจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น…
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงพยักหน้ายืนยันตัวตนทั้งห้องประชุมก็แตกตื่นทันที พวกระดับสูงที่ตกตะลึงเพราะฉีที่ยังไม่สามารถหลุดจากความกลัวได้ก็ตกอยู่ในหวาดกลัวเพราะหลินเฉิงอีกครั้ง เทพเจ้าแห่งการฆ่าคนที่เริ่มเปิดประตูแห่งการสังหาร!
นายมาทำอะไรที่นี้?นายคงไม่คิดหรอกนะว่าการพ่ายแพ้ของสำนักงานใหญ่เมื่อวาน จะทำให้ฐานทัพสมุทรสีครามของพวกเราหมดอนาคต
เมื่อเห็นหลินเฉิงยืนยันตัวเองเขาก็ทำให้พวกระดับสูงหลายคนหวาดกลัวได้โดยไม่แม้แต่จะต้องโจมตี ถึงแม้ว่าชายชราที่สวมเครื่องแบบจะรู้สึกตกใจน้อยเหมือนกัน พวกเขาก็ทำได้แค่ไอออกมาสองสามครั้งและเอ่ยถามหลินเฉิงว่าครั้งนี้เขาต้องการจะทำอะไร
ผมกลัวว่าฐานทัพสมุทรสีครามของพวกคุณจะน่าเบื่อถ้าหากไม่มีแผนน่ะสิ!
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็ยิ้มออกมาทันที แต่ผมหวังว่าพวกทหารข้างล่างคงไม่ใช่ไม้ตายสุดท้ายของพวกคุณหรอกนะ ไม่อย่างนั้นมันคงน่าสิ้นหวังแย่…. ทันทีที่เสียงเงียบลงชายชราในชุดเครื่องแบบก็เห็นเลขาที่พวกเขาสั่งให้ไปเรียกคงอื่นเดินกลับมาทีละคนด้วยสีหน้าลำบากใจ เลขาของชายชราในชุดเครื่องแบบมองมาที่หลินเฉิงด้วยสายตาหวาดกลัวและรายงานออกมา อย่าโทษผู้บัญชาการเฉินเลยครับ พวกเราเจอผู้ชายคนนี้ที่ชั้นหนึ่ง เขาฆ่าคนไปสองคน ส่วนคนที่เหลือถูกบังคับให้ถอยกลับไปครับท่าน…
หะ?!
เมื่อได้ยินคำของเลขาชายชราในชุดเครื่องแบบ ผู้บัญชาการเฉิน ก็มองไปที่หลินเฉิงอย่างเดือดดาล แล้วทหารพวกนั้นทำอะไรอยู่? ทำไมถึงปล่อยให้ผู้ชายคนนี้มาฆ่าคนในสำนักงานใหญ่ได้
เขาพวกเขา…
ผู้บัญชาการเฉินมองคนทั้งหมด
เลขาคนนั้นกลืนน้ำลายเขาไม่กล้าที่จะมองหน้าหลินเฉิงด้วยซ้ำ เขาก้มหน้าลงและพูดต่อ พวกเขาถูกกำแพงน้ำแข็งสูงกว่าสิบเมตรที่ล้อมรอบสำนักงานใหญ่กันอยู่ครับ!
กำแพงน้ำแข็ง?!
เมื่อได้ยินแบบนั้นผู้บัญชาการเฉินตกตะลึง ในที่สุดเขาก็เข้าใจสิ่งที่หลินเฉิงเพิ่งพูดไปแล้ว เขาชี้ไปที่หลินเฉิงด้วยสีหน้านึกไม่ถึงและถามออกไป นายกักทหารทั้งหมดไว้ข้างล่างด้วยตัวตนเดียวงั้นหรอ?
———————————–