I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 470: กุญแจเพชร
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 470: กุญแจเพชร
SC:บทที่470: กุญแจเพชร
เมื่อได้ยินคำต่อว่าของหลิงเหมิงหลินเฉิงก็อ้าปากและเอาไฟฉายออกและพูด เธอเป็นคนเดียวที่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ในที่มืดแบบนี้ ฉันเป็นคนปกติไม่ใช่รึไง? มันแน่นออยู่แล้วว่าฉันต้องช้าๆ ถ้ามันไม่มีไฟ ฉันก็คงลงไปนอนกับพื้นแล้ว!
เมื่อได้ยินที่หลินเฉิงพูดหลิงเหมิงก็ตกตะลึง นายหมายความว่ามนุษย์อย่างพวกนายมองไม่เห็นในเวลากลางคืนอย่างนั้นหรอ?
ไร้สาระ!
เมื่อได้ยินว่าหลิงเหมิงถามคำถามปัญญาอ่อนหลินเฉิงก็กลอกตาและพูด เธอซุ่มอยู่ที่ฐานทัพสมุทรสีครามอยู่ช่วงนึง แต่ยังไม่รู้ข้อแตกต่างระหว่างมนุษย์กับปีศาจรัตติกาลเนี่ยนะ? นี่ไปแฝงตัวหรือหน้าตาดีไปวันๆ? ว่าไงนะ!
เมื่อได้ยินคำแหย่ของหลินเฉิงหลิงเหมิงก็สบถออกมาอย่างอดไม่ได้ จากนั้นเธอก็ไม่สนใจเขาอีก เธอหมุนตัวและเดินไปตามโพรง
โครงสร้างของถ้ำตรงหน้าหลินเฉิงแทบไม่ได้แตกต่างจากถ้ำที่ภูเขาฟินิกซ์เลยสักนิดมันเริ่มจากทางลงแนวดิ่งลึกลงไปหลายร้อยเมตรต่ำกว่าพื้นดิน จากนั้นก็หักเลี้ยว90องศา และสามารถลอดผ่านมันไปได้ด้วยการงอตัวเล็กน้อย
หลังจากอยู่ในทางมืดๆมาสองถึงสามนาทีประตูหินก็ปรากฏขึ้นด้านหน้าของคนทั้งสาม พวกเขาจึงต้องหยุดอีกครั้ง
ทั้งสองคนรอตรงนี้ฉันจะไปเปิดประตู
เมื่อเห็นประตูหินหลิงฉงไม่ได้ประหลาดใจเลยสักนิดหลังจากทำสัญญาณมือให้กับหลินเฉิงและหลิงเหมิงที่อยู่ข้างหลัง เขาเดินไปที่ประตู จากนั้นก็หยิบกุญแจเพชรออกมาจากกระเป๋าและเสียบมันเข้าไปในช่องกุญแจเพชรที่อยู่บนประตูหิน ครืด…
เพียงแค่เสียบกุญแจเข้าไปในช่องหลินเฉิงก็รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนใต้เท้าของเขา และบานประตูหินทั้งซ้ายและขวาที่อยู่ตรงหน้าก็เปิดออกหลังจากที่ส่งเสียงครืดออกมา!
ทางออกนี้ไม่ได้ใช้มานานแล้วหรือก็คือมันถูกยกเลิกนั่นแหละ เพราะฉะนั้นมันเลยไม่มีใครประจำอยู่จุดนี้
หลังจากเปิดประตูหลิงฉงก็หันกลับไปกวักมือเรียกหลินเฉิง จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในประตูอันมืดมิด
เดี๋ยว!
แต่ก่อนที่หลิงฉงจะเดินเข้าไปด้านในจู่ๆหลินเฉิงก็หยุดเขา และเมื่อหลิงฉงหันกลับมามองด้วยใบหน้าสงสัย หลินเฉิงก็ขมวดคิ้วและถามหลิงฉงเรื่องกุญแจเพชร กุญแจดอกนี้ คุณทำเองรึเปล่า?
ถามทำไม?
เมื่อได้ยินคำถามหลิงฉงก็ตกตะลึง เขาไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆหลินเฉิงถึงสนใจกุญแจดอกนี้
หลินเฉิงไม่ได้ตอบอีกฝ่ายเขาส่ายหน้าเบาๆและบอกให้ทุกคนเดินต่อ หลังจากที่ประตูหินปิดลงอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็ปรับให้ความสว่างของไฟฉายไประดับสูงสุด และส่องไปที่โครงสร้างภายในของประตู!
คลิ๊ก…แปลก!
ภายใต้แสงสว่างของไฟฉายด้านหลังของประตูหินได้ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของหลินเฉิง ที่จริงแล้ว เขามีความสามารถในการมองในที่มืดตอนที่เขาทำการเพิ่มความหนาของกระจกตารูปแบบC แต่มันก็แย่กว่าความสามารถในการมองในที่มืดที่ได้มาโดยธรรมชาติของกลุ่มปีศาจรัตติกาลมาก นอกจากนี้ การเห็นสิ่งตรงหน้านั้นสำคัญต่อเขามาก เพราะฉะนั้นเขาเลยใช้ไฟฉายเพื่อไม่ให้พลาดรายละเอียดบางอย่างไป
แต่เขาก็ต้องผิดหวังเมื่อพบว่าประตูหินนี้ไม่ได้สลักเครื่องหมายแปลกๆอะไรไว้ยกเว้นที่ว่ามันคล้ายกับประตูหินที่หญิงลึกลับที่อยู่ที่ภูเขาฟีนิกซ์อยากเปิด
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงดูไม่ค่อยปกติตั้งแต่ที่เห็นกุญแจเปิดประตูในมือของตนในใจของหลิงฉงก็รู้สึกทันทีว่าชายหนุ่มจะต้องมีความลับอะไรที่เชื่อมโยงกับเผ่ารัตติกาลแน่ เขาจึงเอ่ยถามออกไปอย่างไม่แน่ใจ กุญแจนี่มันทำไม? แล้วประตูหินนี่…
แต่ก่อนที่หลิงฉงจะพูดจบประโยคหลินเฉิงก็ทำมือขัดเขาทันที ช่างเถอะ มันแค่คล้ายกับที่ที่ผมเคยเห็นเท่านั้น มันก็แค่คล้าย…..
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงไม่ยอมบอกอะไรหลิงฉงรู้สึกผิดหวัง แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไร
ในเมื่อหลินเฉิงไม่อยากพูดมันออกมาแสดงว่ามันต้องมีเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่อยากพูดมันออกมาแน่ ถ้าขืนพูดมากไปกว่านี้ มันก็มีแต่จะเพิ่มความสงสัยมากขึ้น ซึ่งนั่นไม่จำเป็น
ในที่สุดหลังจากที่ตรวจดูประตูหินอยู่หลายครั้ง หลินเฉิงก็ส่ายหัว โยนกุญแจเพชรคืนให้หลิงฉงและเดินลึกเข้าไป
ได้ยินรึเปล่า?เมื่อวานนี้ ท่านผู้อาวุโสทั้งสี่ขึ้นไปบนพื้นดินและจัดการปัญหาเรื่องฉางเหวินฉวน แต่พวกเราไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรขึ้น ตอนกลับมาคนของเราถึงตายสองคนและบาดเจ็บอีกสอง! ตอนนี้ผู้คนกำลังสงสัยกันว่าใครกันที่สามารถทำให้ผู้อาวุโสทั้งสี่เป็นแบบนี้ได้!
จะไม่ได้ยินได้ยังไง!แล้วฉันก็รู้ด้วยว่าเจ้าหญิงหลิงเหมิงเองก็ถูกผู้ชายคนนั้นจับตัวไป ท่านผู้อาวุโสหลิงฉงรีบไปช่วยตั้งแต่เช้า ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บก็เถอะ!
เห้อ….โลกนี้มันไม่เป็นระเบียบเลยจริงๆฉันนึกว่ามันจะไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนในโลกที่แข็งแกร่งเท่าเผ่ารัตติกาลของพวกเราแล้วซะอีก แต่ตอนนี้มันดูเหมือนว่าพวกเราจะดูถูกศักยภาพของมนุษย์มากเกินไปเสียแล้ว…..
ก็คงจะเป็นอย่างงั้น….
ที่มุมหนึ่งก่อนที่หลินเฉิงจะหมุนตัวกลับทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันดังมาจากหัวมุมหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากเขามากนัก!
ในขณะเดียวกันคนทั้งสองที่กำลังคุยกันก็ดูเหมือยว่าจะได้ยินเสียงฝีเท้าของหลินเฉิง พวกเขาหยุดพูด มองหน้ากันและจากนั้นก็มองมาในทิศทางของหลินเฉิง!
ฟึ่บ
เมื่อรู้สึกถึงความผิดปกติหลินเฉิงก็สะบัดข้อมือและสร้างดาบน้ำแข็งขึ้นมาโดยสัญชาติญาณ หลังจากควงดาบในมือ เขาก็พร้อมสู้!
อย่าวู่วามไป!
หลินเฉิงที่จะกำลังจะเดินออกไปตรงหน้าคนทั้งคู่พร้อมดาบน้ำแข็งที่สร้างขึ้นหยุดชะงักทันทีหลิงฉงขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็พบเหตุผลอย่างรวดเร็ว เขาจึงรีบเดินไปหยุดอยู่ด้านหน้าและคว้าข้อมือของหลินฉงและกระซิบเสียงเบา
เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินเฉิงก็เหลือบมองอีกฝ่าย จากนั้นก็สร้างวงแหวนเวทย์ขึ้นมาและดาบน้ำแข็งก็หายไป
หลังจากที่หลินเฉิงสลายดาบน้ำแข็งไปคนของเผ่ารัตติกาลทั้งสองที่กำลังคุยกัน ทันทีที่พวกเขาเห็นหน้าหลินเฉิง รูม่านตาของพวกเขาก็หดตัวอย่างกระทันหัน พวกเขามองเห็นหลิงฉงและเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ทันที!
หยุดเดี๋ยวนี้!
เมื่อเห็นว่าชายสองคนที่ไม่รู้วิธีใช้ชีวิตเตรียมจะสู้กับหลินเฉิงจริงๆหลิงฉงก็ตื่นตระหนกและรีบพูดกับทั้งคู่ด้วยใบหน้าถมึงทึง!
หลังจากได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของหลิงฉงคนของเผ่ารัตติกาลทั้งสองที่กำลังวิ่งเข้าใส่หลินเฉิงก็สั่นสะท้านและหยุดลงทันที เมื่อพวกเขาหันกลับไปมองด้านหลังและเห็นว่าคนที่ตะโกนคือหลิงฉง ทั้งสองก็หน้าตาตื่นและรีบก้มหน้าขอโทษทันที ผมขออภัย พวกเราขออภัยท่านผู้เฒ่าหลิง! ผม…พวกเรามองไม่เห็นคุณ!
———————————— ��