I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 530 นี่คือประโยชน์ของความหล่อเหรอ?
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 530 นี่คือประโยชน์ของความหล่อเหรอ?
SC:บทที่530 นี่คือประโยชน์ของความหล่อเหรอ?
คุณเองก็เพิ่งจะไปดื่มมาไม่ใช่หรือไง?
เมื่อมองไปยังใบหน้าตื่นเต้นของหลี่เฉิงหยี่ฉินซูยี่ก็อดไม่ได้ที่จะกรอกตามองเขาก่อนที่จะขมวดคิ้วและถามหลินเฉิง คืนนี้เหรอ? หรือว่าเธอพร้อมจะออกจากที่นี่ภายในวันสองวันนี้แล้วเหรอ? ว่าไงไอ้ลูกชาย?
นี่…
ฉินซูยี่มองแผนเขาทะลุปรุโปร่งในคราแรกที่มองตาและหลินเฉิงก็ได้แค่เกาหัวด้วยความตื่นตระหนก ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ฉันก็กะจะออกพรุ่งนี้เลย เพราะเวลาน่ะไม่เคยรอใคร ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็จะได้พร้อมรับมือตลอดเวลา
พรุ่งนี้!? ได้ยินหลินเฉิงบอกจะไปพรุ่งนี้ฉินซูยี่ก็ไอออกมาทันที
ทำไมถึงรีบขนาดนี้เนี่ยหือ? ไม่ว่ามันจะสำคัญขนาดไหนก็ตาม ช่วยอยู่ต่ออีกซัก 2 วันไม่ได้เลยเหรอ? ป้าเองจะได้ทำอะไรหารอร่อยๆให้กิน จะได้ฟื้นฟูสภาพร่างกายไปด้วย พอร่างกายพร้อมแล้วผนวกกับพักผ่อนเพียงพอตอนนั้นค่อยไปไม่ดีกว่าหรือไง?
เขายิ้มอย่างฝืนๆและส่ายหน้าหลินเฉิงไม่รู้ว่าจะอธิบายเธออย่างไรดีว่าเขาจำเป็นต้องไปหยางจิงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันเลยทำให้เขาทำได้แค่กระซิบบอกเธอ เชื่อฉันเถอะ ป้าฉิน ถ้าไม่รีบไป ในอีก 5 – 10 ปีข้างหน้า ที่นี่ไม่เหลืออะไรแน่ๆ! แต่ตอนนี้ ฉันเองก็ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่หยางจิงเป็นอย่างไร ถ้าฉันอยากจะรีบจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จเร็วที่สุด นั่นหมายถึงเราก็จะยิ่งปลอดภัยมากขึ้น เพราะงั้นฉันเลยต้องไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อไปตรวจสอบเบื้องต้นก่อน ดังนั้นฉันไม่สามารถอยู่นานกว่านี้ได้… เอาเถอะน่าซูยี่อย่าไปกดดันเด็กมันมากกว่านี้เลย! เขาโตเป็นผู้ใหญ่โดยสมบูรณ์แล้วนะ เพราะงั้นเขาควรเลือกทางเดินเป็นของตัวเอง พวกเราเองก็ควรเลิกทำให้เขาลำบากใจด้วย…
หลี่เฉิงหยี่ลูบไปที่หัวไหล่ของฉินซูยี่ก่อนจะพูดด้วยเสียงอันดัง
คุณคะ!
ถึงแม้ใบหน้าของฉินซูยี่จะไม่ค่อยมีความสุขนักแต่เธอก็ทำได้แค่กลืนคำพูดตัวเองกลับไป จ้องมองหลินเฉิงและหลี่เฉิงหยี่ด้วยความโกรธเกรี้ยวในดวงตาก่อนจะหันหลังให้โดยที่ไม่พูดอะไรเลย
เมื่อเห็นความโกรธที่น่าเอ็นดูของฉินซูยี่นั้นหลี่เฉิงหยี่ก็อดไม่ได้ที่จะมองที่หลินเฉิงแบบช่วยไม่ได้ จากนั้นทั้งสองก็พากันถอนหายใจ
ครั้นเมื่อเวลามาถึงตัวเขาเองก็ไม่มีอารมณ์มาคอยดูแลฉินซูยี่ที่กำลังบูดบึ้ง หลี่เฉิงหยี่โยนบุหรี่ให้หลินเฉิง จากนั้นก็จุดบุหรี่ให้ตัวเอง โอเค ในเมื่อนายจะออกไปวันพรุ่งนี้ เพราะงั้นคืนนี้นายต้องมาอยู่กับพวกเราไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ฉันขอเชิญนายมากินข้าวเย็นกับป้าฉิน! ไหนๆก็จะออกไปพรุ่งนี้แล้ว ให้เราได้ทำอาหารให้นาย…
ป้าบอกลุงไว้หมดแล้ว!
เขาไม่กังวลว่าใครจะชวนเขาอย่างไรก็ตาม เงินนั้นถูกส่งต่อไปยังป้าฉินแล้ว หลินเฉิงจึงแค่ยักไหล่และพูด
อืม…
มองหลินเฉิงที่เห็นด้วยหลี่เฉิงหยี่ก็พยักหน้า ฉินซูยี่นั้นไม่ได้พูดอะไรหลังจากมองพวกเขา เธอถอนหายใจเบาๆก่อนจะแสดงท่าทีที่ดูซับซ้่อนออกมาให้หลินเฉิงได้เห็น แล้วพูดขึ้น ลืมมันไปซะ ถ้าจะไปพรุ่งนี้ เธอก็ต้องพักผ่อนให้เพียงพอที่บ้านและดูแลตัวเองให้ดี ป้าจะช่วยเตรียมบางสิ่งบางอย่างที่มันน่าจะมีประโยชน์ระหว่างทางไว้ให้
หลังจากฟังเสร็จเธอก็พยักหน้าให้หลินเฉิงและออกไปพร้อมกับหลี่เฉิงหยี่ ป้าฉินลุงหลี่ ช้าก่อน! ฉันจะไปหาที่บ้านช่วง 1 ทุ่มวันนี้นะ!
ยืนที่หน้าประตูและมองไปยังทั้งสองที่แสดงให้เห็นถึงความผันแปรของชีวิตหลินเฉิงก็อดทนต่อความเจ็บปวดภายในใจไว้และตะโกนออกไป
ป้าเข้าใจแล้วตอนนี้ก็บ้านใครบ้านมันไปก่อน!
ถึงเธอจะไม่ได้พยักหน้าแต่ก็หันมาตอบกลับและค่อยๆเดินหายวับไปทางหัวมุม
อ่า…
ทุกสิ่งทุกอย่างภายในฐานนี้ถูกจัดการหมดแล้วโดยพวกเขาแต่ในเวลานี้ หลินเฉิงกลับรู้สึกเหนื่อยเสียยิ่งกว่าตอนที่จัดการกับพวกคนระดับสูงและพวกเผ่ารัตติกาลอีก เหตุผลก็เพราะคำว่า รัก นั่นแหละ
เขาส่ายหน้าและสลัดความคิดออกไปให้หมดหลินเฉิงเดินกลับเข้าไปในบ้านและทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาภายในห้องนั่งเล่นและหลับไหลไปไม่ลุกขึ้นมาเลย
…
ตอนเย็น
ด้วยความช่วยเหลือของหยูซานหลินเฉิงผู้ที่หลับยาวอยู่บนโซฟามาตลอดช่วงเที่ยงก็ได้ลุกขึ้นยืนต่อหน้ากระจก ดูชุดสูทที่ใส่อย่างระมัดระวัง
ในความจริงถึงยึดตามบุคลิกของหลินเฉิง เขานั้นไม่เคยสนใจเกี่ยวกับการแต่งตัวอะไรเลย
แต่นี่เขายึดตามหยูซานเพราะนี่น่ะเป็นปาร์ตี้อย่างเป็นทางการครั้งแรกกับครอบครัวทั้งหมดของเขาหลังจากที่โลกเข้าสู่วันสิ้นโลกเลย ยิ่งไปกว่านั้น เขาที่กำลังจะออกไปวันพรุ่งนี้ิ มันเลยจำเป็นที่เขาต้องทำตัวให้เป็นทางการด้วยข้อจำกัดของความรู้สึกและเหตุผล
ถึงแม้ว่าหยูซานจะล้มเลิกความคิดที่จะช่วยเขาผูกไทก์เพราะความแข็งแกร่งของเขาแล้วแต่หลินเฉิงก็ยังคงหันคอไปมาด้วยความอึดอัดอยู่ดี ด้วยความดูแลของหยูซาน หลินเฉิงก็เปลี่ยนจากเด็กหนุ่มในหมู่บ้านกลายเป็น ชนชั้นสูงรุ่นสุดท้าย ได้ในเวลาไม่นาน ควบคู่ไปกับใบหน้าที่หล่อเหลาสมชายชาตรี หากหญิงใดในฐานได้เห็น มันอาจจะทำให้ฐานลุกเป็นไฟเลยก็ได้!
มาเร็วสาวน้อยมันไม่มีอะไรหรอก อย่ามาถูกครอบงำเอาซะที่นี่!
เธอส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้หลินเฉิงละสายตาจากกระจกและพบว่าหยูซานนั้นยังดูไม่พอใจกับร่างกายของเขา มือของเธอนั้นแทบจะเปลี่ยนเป็นเตารีดเพื่อมารีดชุดเพิ่มให้แล้ว แต่ท้ายสุดก็แค่แนะนำ
ได้ยินเช่นนั้นหยูซานก็ทำได้แค่ละมือออกจากหลินเฉิงจากนั้นก็เดินไปสำรวจมุมต่างๆของเขาอย่างรอบคอบและพยักหน้าให้หลังพอใจแล้ว เกือบแล้วพี่หลิน ที่เหลือพี่ควรจัดการด้วยตัวเองซึ่งมันจะทำให้พี่หล่อขึ้นไปมากกว่านี้อีก! หล่อแล้วมันมีประโยชน์อะไรกันน่ะ?
ฟังหยูซานเยินยอหลินเฉิงก็เปิดปากพูดแบบเยาะเย้ย โลกในวาระสุดท้ายนี่เต็มไปด้วยชีวิตและความตายและความไม่แน่นอนมากมายไปหมด ถ้าเธออยู่ในอันตราย โดยที่ไม่สามารถหนีได้ จะหล่อจะสวยแค่ไหนเธอก็แค่ตายเหมือนกัน!
หลังจากนั้นเขาก็ยืดตัวขึ้นนิดหน่อยและหันไปผิวปากเรียกโคล่าและเทียนซื่อที่หมอบอยู่ข้างๆเพื่อที่จะพาทั้งสองออกไปด้วย
ระหว่างเดินอยู่บนทางหลวงที่จะไปสู่บ้านของป้าฉินหลินเฉิงก็มองไปยังต้นไม้ข้างๆทางและมองกลับมายังหยูซานที่ซึ่งเดินตามมาโดยไม่พูดอะไร ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกหดหู่นิดหน่อย
ในสายตาของคนอื่นเขานั้นคือ ชายผู้เหี้ยมโหด ที่ซึ่งสามารถจัดการทุกอย่างได้โดยไม่สนว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม เป็นชายที่เหมาะสมที่สุดที่จะมีชีวิตรอดอยู่ต่อได้ในวันโลกาวินาศเช่นนี้ แต่เพียงแค่รู้ว่า สิ่งที่เขาโหยหานั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับคนอื่นๆ เขาก็มีความหวังอันแรงกล้าว่าโลกจะกลับมายุคสมัยสงบสุขและงดงามอีกครั้ง ตัวเขานั้นไม่ได้กังวลเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดต่างๆที่ไล่ล่ามนุษย์เลย หรือแม้จะรู้ว่าอนาคตนั้นอันตรายขนาดไหน ยังไงเสียเขาก็ต้องไปหยางจิงเพื่อหาคำตอบนี้ให้ได้
หลังจากผ่านมาระยะหนึ่งหลินเฉิงและพรรคพวกก็ได้มาถึงบ้านป้าฉินแล้ว เมื่อพวกเขาเตรียมจะเคาะประตู พวกเขาก็ได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังขึ้นมาจากประตูก่อนและทันใดนั้นมันก็เปิดออก!
มาแล้วเหรอพี่?
เมื่อประตูเปิดออกหลี่เหมิงเตี๋ยก็โผล่ออกมาพร้อมถุงขยะ 2 ใบในมือของเธอ ยามที่เธอมองตรงออกมา เธอก็พบว่าหลินเฉิงนั้นยืนอยู่ตรงหน้าในชุดสูทสุดเนี๊ยบ เธอนั้นประหลาดใจสุดๆก่อนจะพูด อุ้ยๆ เหลือเชื่อเลย…พี่หลิน…ไม่นะ ฉันไม่อยากเป็นน้องแล้ว! พี่จะหล่อเกินไปแล้วนะ!!!