I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 534 ห้อมล้อม
SC:บทที่534 ห้อมล้อม
ดีถ้างั้นก็ขอให้เป็นมื้อที่ดี!
ตอนนี้ชูฉิงได้บอกเขาไปหมดแล้วเกี่ยวกับทุกเรื่องที่เธอรู้หลินเฉิงเองก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่ม ถึงแม้เธอจะมีอีกหลายเรื่องที่ยังอยู่ในใจ แต่เขาก็เชื่อว่าเธอจะไม่หลอกเขา ถ้าเธอบอกว่าไม่ก็คือไม่
ระหว่างที่กำลังทานอาหารหยูซานก็ช่วยตักอาหารให้เขาด้วย หลินเฉิงนั้นชนแก้วกับหลี่เฉิงหยี่นับครั้งไม่ถ้วน พวกเขากินและพูดกันอยู่แบบนี้จนมันกินเวลาไปมากกว่า 3 ถึง 4 ชั่วโมงถึงจะเสร็จมื้อนี้
เขาแบกหลี่เฉิงหยี่ผู้ที่ดื่มมากเกินไปเอาไว้ในขณะที่กำลังจะเดินไปเช็คบิล เขาก็นึกขึ้นได้ว่า ถ้าไปต้องโดนอีกฝ่ายชวนให้มาอีกแน่ๆ และเขาเองก็คงยากที่จะปัดไป เพราะงั้นเขาจึงไปบอกให้ชูฉิงจัดการเรื่องนี้แทน จากนั้นตัวเขาเองก็พาครอบครัวของเขาเดินกลับบ้านช้าๆ
ชูฉิงนั้นไม่ได้กลับไปกับพวกเขาเธอนั้นเข้าใจดีว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะขอให้หลินเฉิงอยู่กับเธอ เพราะงั้นเธอจึงเลิกที่จะตามตื้อเขา แต่กระนั้นเธอก็สัญญาว่าพรุ่งนี้เช้าเธอจะไปส่งเขาเพราะงั้นคืนนี้เธอจึงกลับบ้านด้วยตัวเอง
กว่า10 นาทีผ่านมา หลินเฉิงที่แบกหลี่เฉิงหยี่ผู้ที่ซึ่งเมาหนักไปยังเตียงของเขาจนได้ในที่สุด จากนั้นก็บอกฉินซูยี่อีกครั้งว่าเขาพร้อมที่จะไปในเช้าวันพรุ่งนี้แล้วก่อนจะเดินกลับบ้านของเขาไป
ฟู่…
เมื่อกลับถึงบ้านหลินเฉิงตรงไปนั่งที่โซฟาพร้อมกับสูดหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อเขามองไปที่พื้น เขาก็พบว่าโคล่านั้นกำลังหมอบคลานเล่นอยู่กับเทียนซือใกล้ๆกับเขา ดวงตาสีดำของเจ้าหมานั้นดูไม่กระพริบเลย
เป็นอะไรไปพ่อหนุ่ม? หลังจากรู้สึกว่าเจ้าหมานั้นดูจะแปลกไปหลินเฉิงก็ยิ้มออกมาจากนั้นก็ลุกไปลูบหัวมันและเอ่ยถาม
ได้ยินเสียงหลินเฉิงเอ่ยถามเทียนซือก็เข้ามาเลียฝ่ามือเขาทันทีพร้อมกับร้อง บา บา ออกมาจากปาก
หนุ่มน้อยไม่ใช่ว่าเราคุยเรื่องนี้กันก่อนหน้าแล้วเหรอ? นายจะต้องอยู่ที่นี่นะ เข้าใจไหม?
เขาและเทียนซือนั้นอยู่ด้วยกันมานานถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะพูดไม่ได้ แต่หลินเฉิงก็ยังคงสามารถเข้าใจได้จากเสียงร้องนั่นแหละ ในตอนนี้ เสียงที่เปล่งออกมานั้นต่างออกไป เขาเข้าใจได้ทันทีเลยว่าอีกฝ่ายคงจะอยาก พูด ดีๆกับเขา
มองไปยังเวลาเขาก็พบว่านี่ก็ 4 ทุ่มแล้ว หลินเฉิงนั้นพร้อมที่จะพักผ่อนเต็มที่แล้ว แต่ทันใดนั้นขาเขาก็ตกไปข้างล่าง เทียนซือนั้นกระโดดขึ้นมาบนตัวเขาหลังจากที่พบว่าหลินเฉิงตั้งใจจะไปจริงๆ! โอเคๆ
หลังจากที่โดนทับโดยเทียนซือหลินเฉิงก็ตัดสินใจยอมแพ้ให้กับแผนก่อนหน้าและลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆพร้อมกระซิบ ฉันอยากจะพานายไปด้วยนะ เพราะเหนือสิ่งอื่นใด นายคือมือขวาของฉัน! แต่ว่านายต้องเข้าใจ ตราบใดที่ฉันมีโคล่าคอยปกป้อง ฉันจะรู้สึกปลอดภัยมากๆ แต่กลับกัน ถ้าไม่มีใครคอยปกป้องหยูซานเลย เธอจะเจอปัญหาที่แก้ไม่ได้อีกเยอะ ฉันไม่คิดว่านายจะอ่อนแอเกินไปที่จะอยู่ที่นี่หรอกนะ แต่เพราะนายแข็งแกร่งพอ ฉันจึงอยากให้นายอยู่และปกป้องครอบครัวของฉัน…ที่ซึ่งสำคัญที่สุดในชีวิตของฉันแล้ว…
บา….บา…
ฟังคำโน้มน้าวของหลินเฉิงเทียนซือก็บ่นประมาณ 2-3 ประโยค และหลังจากที่ได้ยินเสียงร้องของเทียนซือ หลินเฉิงก็รู้สึกผ่อนคลายและยิ้มออกมา แบบนั้นแหละ! พวกเรายังคงเป็นคู่หูที่ดีต่อกัน ด้วยเหตุผลนี้ เราก็ยังถือว่าทำงานร่วมกันอยู่… โฮ่ง!
ดูเหมือนว่าการอธิบายของหลินเฉิงจะได้ผลทั้งสองนั้นยกหัวขึ้นก่อนจะส่งเสียงร้องออกมา จากนั้นเทียนซือก็ดีดตัวเองออกจากตัวหลินเฉิงลงไปข้างล่างและไปเล่นกับโคล่าต่อในทันที
พวกนายยังคงเป็นเด็กดีเสมอ…
หลินเฉิงส่ายหน้าก่อนจะหัวเราะกับพวก2 สายพันธุ์ที่กำลังวิ่งเล่นและพากันออกไปจนไม่เห็นกระทั่งเงา แต่จริงจังเลย เขาเองก็ไม่เต็มใจที่จะทิ้งทั้งสองหรือแม้แต่หยูซานไว้ที่นี่หรอก หยูซานนั้นไม่ต้องพูดถึง เธอนั้นถูกฝึกมาอย่างดีเพื่อให้เป็นสายลับสำหรับงานที่ซับซ้อนรวมถึงเข้าหาศัตรูที่มีการป้องกันไว้อยู่ ในขณะที่เทียนซือเองก็ปลุก ร่างพิเศษ ขึ้นมาได้แม้จะไม่ได้ใช้ยาเสริมสมรรถนะรูปแบบ D แต่เพราะตอนที่สู้กับโคล่าในครั้งนั้น ถึงแม้ว่าท้ายสุดเขาจะต้องสูญเสียมันไป แต่ประสิทธิภาพในการต่อสู้ก็ยังคงทำให้หลินเฉิงประทับใจอยู่ดี เขาโยนทุกอย่างในหัวทิ้งพร้อมกับถอนหายใจมันจำเป็นต้องมีสิ่งให้กังวลเกี่ยวกับชีวิตให้คิดเรื่อยๆเลยแฮะ ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบจะให้อวด ในเมื่อเขาอยากจะปกป้องครอบครัวป้าฉิน เขาต้องเลือกหนทางให้ถูกต้อง!
หลังจากทอดตัวนานอยู่บนโซฟาหยูซานและโคล่าต่างก็พากันหลับไปแล้ว หลินเฉิงก็ลุกขึ้นจากเตียง เดินขึ้นชั้นบนไปอาบน้ำอย่างรวดเร็วก่อนจะไปนอน
…
เช้าวันต่อมา
ยืนหน้าประตูคุกน้ำแข็งที่ซึ่งขังฉางเหวินฉวนไว้หลินเฉิงผู้ที่อาบน้ำเสร็จแล้วและคาบบุหรี่ไว้ในปากยกข้อมือขึ้นเพื่อดูเวลา เขาพบว่านั่นเป็นเวลา 7 โมงเช้าแล้ว เพราะงั้นคงไม่สามารถรอให้หยูซานตื่นและมาทำอาหารให้ได้ ดังนั้นจึงตัดสินใจผลักประตูและเดินเข้าไปภายใน
อุณหภูมิภายในคุกน้ำแข็งนั้นยังคงน่ากลัวเช่นเดิมและเพราะหลินเฉิงไม่ได้ใส่ใจกับที่นี่มากนัก มันเลยทำให้หลังจากตอนนั้น อุณหภูมิภายในคุกน้ำแข็งนี้ก็ต่ำลงกว่าเดิมอีก ซึ่งมันหนาวเย็นจนเขาเองก็ยังต้องลูบมือตัวเองไปมา
เดินผ่านท่ามกลางไอน้ำแข็งและหมอกหลินเฉิงเดินตรงเข้าไปหาเตียงภายในห้อง และตั้งใจจะปลุกฉางเหวินฉวนให้ตื่นขึ้น แต่เมื่อมองดีๆ คิ้วของเขาก็ต้องขมวดขึ้นทันที!
ฉางเหวินฉวนนั้นยังคงนั่งอยู่บนเตียงอยู่แล้วแต่ตาของเขานั้นปิดอยู่ในเวลานี้ ผิวของเขานั้นขาวและซีด ชัดเจนเลยว่าเขานั้นตายมานานแล้ว
นี่คือวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะตายสินะ?
มองร่างของฉางเหวินฉวนที่ถูกแช่แข็งอยู่บนเตียงหลินเฉิงก็ถอนหายใจนิดหน่อย เขาตั้งใจจะมาที่นี่เพื่อฆ่าอีกฝ่ายแท้ๆ แต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายนั้นจะชิงถึงลิมิตร่างกายไปเสียก่อน หลินเฉิงไม่ได้ให้เขาออกไป แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะตายเพราะความหนาวเย็นโดยไม่รอให้หลินเฉิงมาช่วย เป็นการตายที่ราคาถูกจริงๆ
*โครม!*
เพียงแค่ดีดนิ้วน้ำแข็งที่ก่อตัวเป็นคุกน้ำแข็งมานานก็ค่อยๆหลุดออกมาจากกำแพงและละลายหายไปบนพื้นแทบจะทันที เพียงแค่พริบตาเดียว พื้นที่เคยปกคลุมด้วยน้ำแข็งก็กลับไปเป็นพื้นปกติอีกครั้ง!
ในขณะที่ร่างของฉางเหวินฉวนกำลังละลายมันก็แตกสลายกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งเล็กๆ เมื่อห้องนี้กลับเป็นปกติ มันก็กลายเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันหายไปจากโลกนี้โดยสมบูรณ์!
ยืนอยู่ภายในอดีตคุกน้ำแข็งพลางก็คิดถึงพ่อของฉางเหวินฉวนกับลูกชายรวมไปถึงหลิงเหมิง องค์หญิงแห่งเผ่ารัตติกาล มันทำเอาเขาเหม่อลอยไปพักใหญ่ๆเลย เพราะตั้งแต่เขาเดินทางมาถึงฐานสมุทรสีคราม เขาก็ต้องเจอกับหลายสิ่่งหลายอย่างที่ต้องแก้ไข เสร็จ 1 อย่างก็ไปแก้อีกอย่างต่อ มันช่างน่าขันที่จะคิดว่าต้นเหตุของปัญหาทุกๆอย่างนั้นถูกขังไว้ในคุกน้ำแข็งของเขาไปแล้ว
หลังจากที่ยืนอยู่ภายในห้องนั้นพักใหญ่ด้วยเสียงฝีเท้าที่เข้ามาในหัว หลินเฉิงนั้นรู้ได้ทันทีว่าหยูซานนั้นตื่นแล้ว เขาเลิกที่จะยืนงุนงงในห้องนี้และหันเดินออกไป