I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 540 ข้อยกเว้น
SC:บทที่540 ข้อยกเว้น
หลินเฉิงรู้สึกพูดไม่ออกในเวลานี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเสียท่าให้กับระบบแคปซูลนี้ เหมือนกับตอนที่ระบบส่งระเบิดมาเพื่อช่วยให้เขาได้มาซึ่งค่าพลังงานที่หุบเขาฟินิกส์ แต่ในตอนนี้มันคือจรวดลูกเล็กที่ซึ่งทรงพลังกว่าแต่ก็แลกมาด้วยราคาที่สูงกว่ามากๆ
ฟู่…
เขาหายใจนิดหน่อยและหยุดที่จะกังวลเรื่องนี้มองไปยังไอเย็นขาวๆที่ออกมาจากลมหายใจตรงหน้าเขา หลินเฉิงก็รู้สึกหนักขึ้นมานิดหน่อย ทุกๆอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ในเกาะหนานซือนั้นมันเกิดขึ้นจริงๆ ฐานสมุทรสีครามกำลังจะเข้าฤดูหนาวอีกครั้งก่อนที่จะหมดฤดูใบไม้ผลิเสียอีก!
มันไม่ดีแน่ๆสำหรับผู้รอดชีวิตหากสภาพอากาศมันเย็นลงอีกครั้งขั้นแรกเลยอาหารจะลดลงไปอย่างรวดเร็วเหมือนเมื่อหน้าหนาวครั้งสุดท้าย มันยากมากสำหรับทีมที่ต้องออกไปเก็บเกี่ยวหาอาหาร
อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านการวิวัฒนาการมาหลายครั้ง สัตว์ประหลาดที่ไม่เคยโจมตีระลอกใหญ่ท่ามกลางหิมะ ก็จะเตรียมตัวที่จะเริ่มต้นเหมือนกัน เมื่ออุณหภูมิกลับมาหนาวเย็นจริงๆ นั่นหมายถึงหายนะจะไปเยือนเหล่าผู้รอดชีวิตแล้ว!
บ้าเอ้ยนี่มันบีบบังคับให้มนุษยชาติสูญพันธุ์ชัดๆ!
มองขึ้นไปยังท้องฟ้าที่ดูเศร้าสร้อยหลินเฉิงก็บ่นทุกอย่างที่เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่วันสิ้นโลก ยกเว้นมวลมนุษยชาติบางส่วนที่มีพลังตื่นขึ้นมา นอกนั้นก็ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงแล้วเป็นประโยชน์กับมนุษย์เลยทั้งสิ้น!
หลังจากที่เตะพวกซากที่ขวางทางอยู่ให้ออกไปหลินเฉิงก็เรียกโคล่า จากนั้นพวกเขาก็พากันขึ้นไปใน SUV อีกครั้งก่อนจะค่อยๆขับออกไปตามถนนที่ทอดยาว เหตุผลที่เขาต้องเริ่มทำการใหญ่ในตอนนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าเพื่อจะได้ทดสอบพลังของรถศึกนี้รวมถึงสะสมพลังงานไปด้วย แต่เหตุผลหนึ่งก็เพราะว่าต้องการที่จะหาผู้รอดชีวิตที่เหลือ
นี่มันก็2 วันเข้าไปแล้วตั้งแต่เขามาถึงหยางจิง หลินเฉิงพาโคล่าไปสำรวจทั้งเขตสีเฉิงแล้วแต่ก็ยังไม่พบผู้รอดชีวิตซึ่งนั้นทำให้เขาเสียใจเล็กน้อย ถ้าเขาไม่สามารถหาผู้รอดชีวิตเพื่อมาถามเรื่องที่เขาอยากรู้ได้ เขาคงต้องเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรหากเขายังต้องการที่จะหาคนที่ชื่อ เฉินเจียเจี้ย ในหยางจิงแห่งนี้!
โฮ่ง!
ขณะที่กำลังขับSUV อยู่บนถนนที่กว้างขวาง หลินเฉิงก็ได้ยินโคล่าที่นั่งข้างๆเรียก มันทำให้เขาต้องหันหน้าไปมอง เขาเห็นว่ามันกำลังมองไปยังตึกระฟ้าที่อยู่ไม่ไกลมากนักจากทางด้านหน้าฝั่งซ้ายมือในตอนนี้!
มีอะไรงั้นเหรอ? เมื่อเห็นท่าทีของโคล่าหลินเฉิงก็เริ่มเอะใจอะไรบางอย่าง เขาเหยียบคนเร่งและมุ่งตรงไปทางนั้น จากนั้นก็หยิบไฟขึ้นมาและถามโคล่า
หงิงหงิง…
ได้ยินหลินเฉิงถามโคล่าก็พยักหน้ารัวๆพร้อมกับทำท่าทางที่ดูจะรีบร้อนนิดๆออกมาด้วย เจ้าหมาวางมือไปบนที่เปิดประตูก่อนจะเปิดมันออกและกระโดดออกไปทันที!
นายจะรีบไปไหนน่ะ!
เมื่อเห็นโคล่านั้นรีบวิ่งออกไปหลินเฉิงก็อดที่จะดุไม่ได้จากนั้นเขาก็ไม่รอช้าที่จะกระโดดตามลงไปและไม่ลืมที่จะเก็บเจ้ารถ SUV นี้กลับไปเป็นแคปซูลเหมือนเดิมก่อนที่จะวิ่งตามโคล่าไปทางตึกนั้นแบบติดๆ
เพียงแค่วิ่งเข้ามาที่ตึกหลินเฉิงก็ขมวดคิ้วขึ้นมาและมองไปยังสิ่งนั้น มันเหมือนกับว่าชั้นหนึ่งของที่นี่ไม่มีใครเคยเข้ามาก่อน ซึ่งมันเลยดูทรุดโทรมนิดหน่อย ฝุ่นที่อยู่ตามพื้นนั้นเกาะตัวกันเป็นชั้นหนาก้าวแต่ละก้าวที่ประทับลงไปนั้นมันก็เหมือนเขากดแป้นประทับรอยเท้าลงไปด้วย
ตั้งแต่เดินเข้ามาเขาก็ยังไม่พบประตูเลยถ้านี่ไม่มีโต๊ะแผนกต้อนรับตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ หลินเฉิงคงคิดว่านี่เป็นตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จ
นายแน่ใจนะว่าเห็นคนอยู่ที่นี่?
บรรยากาศที่นี่นั้นพบเจอได้ทั่วๆไปในโลกที่ล่มสลายนี้หลินเฉิงขมวดคิ้วและก้มมองโคล่าที่กำลังวิ่งไปทั่วตั้งแต่เข้ามาในนี้
โฮ่งโฮ่ง…
ดูเหมือนว่ามันจะรู้ว่าหลินเฉิงไม่เชื่อใจมันโคล่าเห่าสองครั้งด้วยความเสียใจ มันเองก็พยายามจะพิสูจน์ให้เขาเชื่อ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะว่า ถึงแม้ว่ามันจะรู้สึกถึงการมีอยู่ของลมหายใจของคนเป็นภายในตึกนี้ แต่พอมันวิ่งเข้ามา ลมหายใจนั้นก็หายไปในทันที!
สถานการณ์แปลกๆพวกนี้ทำให้โคล่ารู้สึกสับสนเล็กน้อยอยู่พักใหญ่เพราะงั้นมันจึงทำได้แค่ไล่ดมเพื่อหาเบาะแสเพื่อในสถานการณ์แบบนี้เท่านั้น
ถึงแม้ว่าหลินเฉิงจะใช้น้ำเสียงเหมือนสงสัยแต่ตัวเขานั้นก็เชื่อใจโคล่ามากๆอยู่ในใจ เมื่อเขาเห็นโคล่าดูจะรีบร้อน เขาก็รีบจับโคล่าไว้และปิดปาก ก่อนจะส่งสัญญาณให้โคล่าตามเขาไปและค่อยๆเดินขึ้นบันไดช้าๆ
หลังจากพักใหญ่ๆหลินเฉิงก็มองไปยังปล่องบันไดสีเทาที่อยู่บริเวณปากทางของทางขึ้นบันได โดยไม่ลังเล เขาพาโคล่าขึ้นไปยังข้างบนทันที
มันยังไม่ชัดเจนนักว่าระหว่างทางที่ขึ้นมานั้นจะเจออันตรายใดๆหรือเปล่าแต่ไม่ว่าจะเจอเขี้ยวมังกรหรือถ้ำเสือ ยังไงซะเขาก็ต้องฝ่ามันไปให้ได้เพื่อหยุดยั้งสถานการณ์แย่ๆนี้ไว้ หลังจากที่มาอยู่ที่หยางจิงถึง 2 วันแล้วยังไม่ได้อะไรกลับมา เพราะงั้นตอนนี้เขาต้องหาเบาะแสอะไรซักอย่างให้ได้!
เมื่อพวกเขาขึ้นมาถึงชั้น2 หลินเฉิงก็ไม่ได้เดินออกจากบันไดในทันที กลับกันเขาหลับตาลงและพยายามสำรวจที่แห่งนั้นด้วยสัมผัสที่ 6 เมื่อพบว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เขาก็โบกมือให้โคล่าที่อยู่ด้านหลังออกไปสำรวจอีกครึ่งชั้นที่เหลือขณะที่เขาเองก็จะสำรวจครึ่งชั้นนี้ด้วย
หลังจากที่ได้รับคำสั่งจากหลินเฉิงโคล่าที่ไหวพริบดีและไม่ได้สร้างความรำคาญใดๆ มันพยักหน้าและแยกทางไปสำรวจตามที่หลินเฉิงบอกมา
มองโคล่าที่ไม่เคยลดละความระมัดระวังลงเลยตั้งแต่อยู่ภายในฐานสมุทรสีครามแล้วมันทำให้เจ้าหมานั้นไม่มีจุดอ่อนใดๆ หลินเฉิงที่เห็นดังนั้นก็ยิ้มออกมาแบบพออกพอใจมากๆ จากนั้นเขาก็เดินเบาๆแยกไปทางขวาเพื่อจะสำรวจ
ก้าวเท้าลงไปบนฝุ่นที่หนาเกรอะหลินเฉิงค่อยๆคลำหาทางไปเรื่อยๆในชั้นสองของตึกระฟ้านี้ เขาไม่รู้สึกถึงอะไรเลยตั้งแต่เข้ามา ในตอนนี้หลังจากที่เขาได้สำรวจ เขาก็พบว่าพื้นที่นี้ของตึกระฟ้า มันช่างกว้างขวางเสียจริง!
เขานั้นอยากจะเดินไปให้ทั่วในตึกนี้เลยแต่สัญชาติญานก็บอกเขาว่า ตึกนี้นั่นไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิด และตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากจะรีบเปิดเผยตัวเองเร็วก่อนไปก่อนที่จะได้เจอกับคนอื่นๆ
กว่า10 นาทีที่แยกย้ายกันไปสำรวจ พวกเขาก็กลับมาเจอกันอีกครั้งที่ปากทางบันได มองไปทางโคล่าที่ดูเหมือนจะไม่เจออะไรเช่นกัน หลินเฉิงก็ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาก็ก้าวขาออกไปเพื่อจะขึ้นไปสำรวจยังชั้นสามต่อ
หลังจากที่ค้นหากันมาเกือบ2 ชั่วโมง หลินเฉิงและโคล่าผู้ที่ซึ่งเกือบจะสำรวจครบทั้งตึกนี้แล้วก็นั่งหายใจกันเฮือกใหญ่ที่ปล่องบันไดของชั้น 36 พร้อมกับกระดกน้ำแร่อึกใหญ่กันทั้งคู่
ฉันจะถามอีกครั้งนายโอเคหรือเปล่า? นายไม่สนุกกับชูฉิงตอนอยู่ที่ฐานสมุทรสีครามมาหลายวัน แล้วนายสนุกกับสัญชาติญาณอันน่าภาคภูมิใจนี้หรือเปล่าล่ะ?
เขาโยนขวดน้ำแร่ที่หมดแล้วใส่หัวโคล่าพร้อมกับถามด้วยความโกรธ
โฮ่ง!
เมื่อขวดน้ำแร่กระแทกโดนหัวโคล่าก็กระโดดขึ้นมาและส่งเสียงโกรธกลับไปใส่หลินเฉิงหลังจากเห่าสองครั้งด้วยเลย! มันค่อยๆยกหัวขึ้นและจ้องมองหลินเฉิงอย่างดูถูก!
กล้ากับฉันงั้นเหรอ!?
เมื่อเห็นโคล่าที่อารมณ์พุ่งพล่านหลินเฉิงก็มองอย่างโกรธและเข้าไปเปิดหูเจ้าหมาพร้อมกระซิบ เจ้าหมาโง่ นายอยากจะทำให้โลกนี้มันกลับตาลปัตรมากกว่าเดิมหรือไง? นี่นายกล้าหือกับพลังของเจ้าของนายอย่างงั้นเหรอ?