I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 542 ใช้กำลังทำลายประตู!
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 542 ใช้กำลังทำลายประตู!
SC:บทที่542 ใช้กำลังทำลายประตู!
อย่าโวยวายไม่มีใครอยู่ที่นี่ทั้งนั้น!
หลินเฉิงเคาะหัวโคล่าไปอีกหนึ่งทีเพื่อให้มันเลิกหอนเขาในตอนนี้ไม่อยากจะเถียงกับเจ้าหมาโง่นี้ซักเท่าไหร่ เขาหันหน้ากลับไปทางประตูห้องนั้นอีกครั้ง ห้องที่ดูเหมือนว่าจาะมีผู้รอดชีวิตมากมายซ่อนอยู่
*ครืน!*
อย่างที่คิดก่อนที่เขาจะได้เข้าใกล้ประตูนั้น แสงสีทองก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ หลินเฉิงผู้ที่ทุกข์ใจกับความพ่ายแพ้นั้นได้เตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว ก่อนที่แสงสีทองจะโผล่ขึ้นมา ร่างกายของเขาก็พุ่งออกไปจนทำให้สามาหลบการจับกุมของแสงสีทองนั้นได้อย่างง่ายดาย
ฉันบอกแล้วว่าฉันมาที่นี่โดยไม่ได้ประสงค์ร้ายอะไรทั้งนั้นถ้านายไม่อยากให้มันกลายเป็นเรื่องก็ ฉันแนะนำให้เปิดประตูแต่โดยดี!
หลังจากที่หลบการจับกุมของแสงสีทองได้แล้วหลินเฉิงก็กลับไปที่ประตูอีกครั้งและพูดด้วยน้ำเสียงเบาแบบอดกลั้นเอาไว้
แต่คำพูดดีๆและคำแนะนำของหลินเฉิงนั้นก็เหมือนโยนน้ำลงหินผู้คนที่อยู่หลังประตูดูเหมือนจะไม่ฟังมันเลย แถมพวกเขาไม่ตอบสนองอะไรเป็นเวลานานอีกด้วย
เห็นดังนั้นหลินเฉิงก็ขมวดคิ้วขึ้นทันทีเขามองไปยังโคล่าที่ซึ่งกำลังสับสน และทันใดนั้นในมือเขาก็ปรากฏเป็นระเบิดประเภท C ขึ้นมา!
พวกนายคิดว่าประตูแตกๆนั่นจะปกป้องพวกนายได้งั้นสินะ?
เขาดึงสลักออกและพูดเย้ยหยั่นมองไปยังประตูที่ยังไม่มีการตอบสนองอะไรกลับมา เขารอมันอีกนิดหน่อยก่อนที่ความอดทนจะหมดลงไป! *ฝุบ*
*ตู้ม!!!*
ระเบิดที่ออกจากมือของหลินเฉิงนั้นปะทะเข้ากับประตูเต็มๆและระเบิดในทันทีความรุนแรงจากแรงระเบิดนั้นทำให้หลินเฉิงต้องปิดหูและเรียกกำแพงน้ำแข็งหนาขึ้นมาปกป้องเขาและโคล่าไว้
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งทุกอย่างเกือบจะเหมือนเดิม หลินเฉิงนำกำแพงน้ำแข็งออก ปัดฝุ่นที่ลอยคลุ้งรอบๆตัวและมองไปยังเศษซากของต่างๆที่แรงระเบิดซัดมาอยู่รอบๆตัวเขา จากนั้นเขาก็ค่อยๆเข้าไปกล้ประตูบานเดิมซึ่งเป็นศูนย์กลางของแรงระเบิดใหม่อีกครั้ง
หือ?
หลังจากที่ฝุ่นเริ่มจางลงและมันทำให้บานประตูนั้นเปิดเผยออกมาหลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วไว้แน่น เขาคิดว่าภายใต้แรงระเบิดของระเบิดประเภท C ถึงแม้ว่าบานประตูจะไม่ถูกทำลายไปเลยก็จริง แต่มันก็ควรจะได้รับความเสียหายบ้าง แต่ประตูที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นกลับไม่มีริ้วรอยอะไรทั้งสิ้นเหมือนมันจะบอกเขาว่า ระเบิดประเภท C นั้นยังแรงไม่พอที่จะพังมันหรอก!
นี่มัน…บังคับให้ฉันต้องใช้จรวดB สินะ?
เมื่อพบว่าประตูนั้นประตูที่ซึ่งดูเหมือนกับประตูทั่วๆไปแต่กลับมีความแข็งแกร่งมากกว่าทั่วๆไป หลินเฉิงก็ตื่นเต้นแบบสุดๆ แต่ไม่ว่าเขาจะตื่นเต้นขนาดไหน เขาก็ไม่สามารถจัดการประตูนั้นได้ มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
หลังจากคิดอยู่นานพร้อมกับบีบแก้มตัวเองไปด้วยหลินเฉิงก็ตัดสินใจแลกอะไรมาเพิ่ม! เหล่าคนที่อยู่หลังประตูนั้นเป็นผู้รอดชีวิตกลุ่มแรกที่เขาได้เห็นใน 2 วันที่ผ่านมา ดังนั้นแล้ว เขาต้องจับพวกคนที่อยู่ข้างในออกมาให้ได้ ไม่งั้นแล้ว จะให้เขากลับไปค้นหาที่ตั้งของค่ายทหารในหยางจิงและตามรอยเฉินเจียเจี้ยแบบไร้เป้าหมายต่อไปงั้นเหรอ?
ยามที่คิดว่าตลอด2 วันที่ผ่านมานั้น เขาต้องบินอย่างไร้จุดหมายมาตลอด แถมยังไม่ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ใดๆกลับมาเลยด้วย หลินเฉิงจึงตัดสินใจเรียกเมนูระบบขึ้นมาและเลือกเอาจรวดประเภท B ขนาดเล็กออกมาทันที!
นายจะทำอะไรกันแน่น่ะ!?
ด้วยจรวดขนาดเล็กลูกใหม่หลินเฉิงนั้นกำลังหาที่จัดการระเบิดนี่อยู่แต่กระนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเบาๆที่แสดงออกถึงความสั่นกลัวเอ่ยถามออกมาจากในประตูนั้นเสียก่อน!
ถึงแม้ว่าระเบิดก่อนหน้านี้จะไม่ได้ทำความเสียหายใดๆกับประตูแต่ในจังหวะที่ระเบิดประเภท C นั้นระเบิดออกมา ทุกๆคนที่อยู่ในประตูต่างก็หูวิ้งกันไปตามๆกันชั่วขณะหนึ่ง พวกเขาเริ่มกลัวแล้วว่าประตูนั้นจะถูกระเบิดออกมาจริงๆในท้ายสุด
ในตอนนั้นเขาเห็นคนที่อยู่นอกประตูกำลังถือจรวดขนาดเล็กไว้ซึ่งพวกเขาทำได้แค่มองดูรูปร่างของมัน แต่กระนั้นก็รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย พี่ใหญ่หลินนั้นไม่สามารถทำอะไรได้เลย เขากลัวว่าประตูจะเปิดออกจริงๆในครั้งนี้ เพราะงั้นจึงรีบตะโกนถามหลินเฉิงไปก่อน!
โย่ก็ไม่โง่นี่นา?
เมื่อเห็นพี่หลินผู้ที่เงียบอยู่พักใหญ่ๆในท้ายที่สุดก็ยอมเปิดปากพูดหลินเฉิงก็มองตามเสียงนั้นไป เข้าไม่ได้มองหาที่ๆจะทิ้งระเบิดต่อแล้ว จากนั้นก็ถามพวกเขาไปผ่านบานประตูในขณะที่มือก็ถือจรวดลูกเล็กอยู่
ในเมื่อหลินเฉิงยอมหยุดพี่หลินของน้องๆก็กลืนน้ำลายและเปิดปากถามไปต่อ พวกนายมาจากไหนกันน่ะ? ฉันเคยเห็นระเบิดก็จริง แต่ฉันไม่เคยเห็นระเบิดที่ทรงพลังขนาดนั้นมาก่อนเลย!
ได้ยินดังนั้นหลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย ในโลกใบนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่พวกนายยังไม่เคยเห็น ให้ฉันอธิบายให้ฟังไหมล่ะ?
โอเค…
ครั้นที่เห็นว่าหลินเฉิงไม่ได้อธิบายให้เขาฟังในทีแรกพี่หลินที่เงียบไปครู่หนึ่งก็ตอบไป นายอยากจะทำอะไร? ถ้ามันไม่มีอะไรที่ฉันต้องการที่จะรู้ พวกเราสามารถคุยกันได้ผ่านบานประตูนี้ มันไม่จำเป็นต้องเห็นหน้ากันก็ได้
ฉันไม่ชอบที่จะคุยกับคนอื่นผ่านประตูโดยเฉพาะเวลาคุยเรื่องสำคัญ
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมคนที่ถูกเรียกว่าพี่หลินจึงต้องทำตัวมีความลับแบบนี้แต่หลินเฉิงก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นขนาดนั้น เขาเพียงแค่ส่ายหัวและปฏิเสธเรื่องที่อีกฝ่ายเสนอให้คุยกันผ่านประตูนั่น
บางอย่างที่สำคัญ?
เมื่อข้อเสนอของเขาถูกหลินเฉิงปฏิเสธพี่หลินก็รู้สึกใจร้อนเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงกลัวจรวดลูกเล็กที่อยู่ในมือของหลินเฉิงอยู่ เพราะงั้นเขาจึงพยายามที่จะไกล่เกลี่ยต่อไป แต่ตอนนี้มันอยู่ในช่วงวันสิ้นโลกแล้วนะ! ธุระอะไรของนายที่ว่ามีค่าน่ะ!?
ครั้งนี้หลินเฉิงเลิกที่จะไม่ตอบคำถามเขากลับกันเขาก็หรี่ตามองประตูที่อยู่ตรงหน้าด้วย ทันใดนั้นเขาก้แสยะยิ้มมุมปากก่อนจะชูจรวดลูกเล็กในมือขึ้นอีกครั้งหนึ่ง!
ดูนายจะมีปัญหามากซะเหลือเกินนะถึงแม้ว่านายจะไม่ได้หยาบคายใส่ แต่ถ้านายปฏิบัติกับฉันด้วยวิธีโง่ๆนั่นอีก ฉันจะให้นายได้ชดใช้หนักๆเลย!
*คลิก*
จรวดลูกเล็กนั้นพร้อมที่จะติดตั้งที่ประตูแล้วหลินเฉิงจุดบุหรี่แบบสบายๆก่อนจะพูดกับพวกที่กำลังหนาวสั่นอยู่หลังประตูนั่น
นายห้ามทำบ้าๆแบบนั้นนะ!
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงหันหน้ามาพี่หลินที่อยู่หลังประตูก็เริ่มวิตกกังวล เขาต้องการที่จะใช้แสงสีทองจับตัวหลินเฉิงอีกครั้ง แต่เขาก็เดาได้เลยว่าคนตรงหน้านั้นต้องสามารถหลบมันได้อีกเช่นเคยแน่ๆ เขาเริ่มกลัวจริงจังเมื่อคนที่ดูเหมือนจะเป็นคนทั่วๆไปตรงหน้าประตูนั้นกลับไม่เหมือนคนทั่วไปเอาเสียเลย!
ฉันจะให้เวลานายพูดคุยใน1 นาที ใน 1นาทีนั้นถ้าไม่ได้ผลลัพธ์อะไร ฉันจะเลือกวิธีที่รุนแรงในการทำลายประตูของพวกนายทิ้งซะ!
เขาไม่ได้สนใจพี่หลินนักหลินเฉิงสูบบุหรี่เข้าไปลึกๆและยื่นคำขาดออกไป!
ฮึ่ม!ฉันก็อยากรู้เหลือเกินว่านายจะทลายเกราะป้องกันของฉันได้ยังไง!
พอได้ฟังหลินเฉิงขู่พี่หลินที่อยู่ในประตูก็ไม่มีเวลาตอบกลับมากนัก เสียงของเด็กชายที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะก็ดังออกมา แต่น้ำเสียงนั้นกลับดูเย้ยหลินเฉิงไม่น้อยเลยทีเดียว