I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 545 ปราการยืดหยุ่น
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 545 ปราการยืดหยุ่น
SC:บทที่545 ปราการยืดหยุ่น
เหวอ—
เพียงแค่เดินออกมาจากประตูขณะที่หลินหยงเจี่ยนกำลังจะเดินต่อไปข้างนอก แขนของเขาก็ถูกดึงไว้ทันที!
พี่หลินฉันจะไปกับพี่ด้วย
เมื่อเขามองกลับมาก็พบว่าผู้ที่ดึงแขนเขานั้นคือเด็กสาวที่กล้าเผชิญหน้ากับหลินเฉิงเมื่อครู่เธอพูดด้วยสีหน้าจริงจังและมั่นใจสุดๆ
ฉันจะไปกับพี่!
ในขณะเดียวกันเด็กหนุ่มที่ดูผอมมากๆอีกคนก็เดินออกมากับเขาด้วย ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าคนๆนั้นจะเรียกพี่หลินไปทำไม แต่ฉันคงทนดูพี่ออกไปคนเดียวกับเสี่ยวชิงไม่ได้!
กลับไปทั้งคู่นั่นแหละ
แต่เพราะหลินหยงเจี่ยนไม่สามารถให้ทั้งสองไปกับเขาได้ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าหลินเฉิงนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน แต่เขาก็พอจะรู้ว่า ไม่ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งเท่ากับหรือมากกว่าสิ่งที่ทำเมื่อครู่ ยังไงเสียด้วยความแข็งแกร่งระดับนั้น มันก็ฆ่าพวกเขาได้ง่ายๆเลย!
พวกนายจะทะเลาะกันไปทำไมน่ะ?
เมื่อเห็นทั้งสามกำลังเริ่มที่จะทะเลาะกันหลินเฉิงที่ยืนรออยู่ที่สุดทางเดินมานานแล้ว ท้ายสุดเขาก็หมดความอดทนและเดินตรงกลับมาหาทั้งสาม ถ้าฉันจะฆ่าพวกนาย ฉันจำเป็นต้องเรียกมาฆ่าทีละคนด้วยเหรอ? ไม่รู้สึกว่าจะได้ประโยชน์อะไรกับการทำแบบนั้นเลย!
พูดเสร็จเขาก็ชี้ไปทางเด็กสาวที่ตามมาด้วย เธออีกแล้วเหรอสาวน้อย? เธอคิดว่าฉันไม่กล้าที่จะทำร้ายเธอหรือว่าอะไร? ชอบเสนอหน้าอยู่เรื่อยสร้างปัญหาไม่หยุดหย่อน สนุกหรือไง? ฉันจะพูดแบบนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะ ถ้าเธอรวมถึงไอ้หนุ่มนั่นด้วย ถ้ายังทำให้ฉันเสียเวลาอีก ฉันจะรุนแรงใส่ทั้งคู่เลย! หลังจากนั้นเขาก็เหลือบไปมองหลินหยงเจี่ยนและเดินกลับไปที่สุดทางเดินอีกครั้ง
ได้ยินที่หมอนั่นพูดแล้วไม่ใช่หรือไง?รีบๆกลับไปได้แล้ว ถ้าหมอนั่นอยากจะฆ่าฉันจริงๆก็คงไม่ต้องทำถึงขนาดนี้หรอก!
หัวใจหลินหยงเจี่ยนเกิดหนาวเย็นขึ้นมาเขาไม่กล้าที่จะเสียเวลาไปมากกว่านี้ เขารีบอธิบายให้กับพวกเขาก่อนจะรีบเดินไปหาหลินเฉิงที่อยู่อีกฟากหนึ่งทันที
มาแล้วเหรอ?
เขาพ่นควันออกมาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลังหลินเฉิงหันกลับไป ก่อนอื่นเลยเขามองไปยังหลินหยงเจี่ยนที่อยู่ด้านหลัง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครตามมาจึงพูดขึ้น พวกนายน่ะมีฝีมือนะ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากมายแต่ก็สามารถมีชีวิตรอดอยู่จนถึงตอนนี้ได้! ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าพวกนายจะอยู่รวมๆกันในนี้ใช่มั้ย?
อ่ะใช่เลย! ได้ยินดังนั้นหลินหยงเจี่ยนก็ยิ้มออกมา จริงๆช่วงที่เพิ่งจะเข้าสู่วันสิ้นโลกใหม่ๆ ผู้คนมากมายต่างก็บาดเจ็บและล้มตายกัน หลังจากนั้น พวกเขาก็ต้องปรับตัวกับมัน เพราะถ้าพวกเขาไม่เริ่มทำอะไรซักอย่างท้ายสุดพวกเขาก็จะทำได้แค่รอวันตาย แล้วก็อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ไม่ว่าจะเป็นใครหรืออ่อนแอขนาดไหน พวกเขาก็สมควรที่จะมีชีวิตรอด ถึงแม้ว่าเมื่อเทียบกับพวกที่มีความสามารถพิเศษแล้วพวกเขาจะต้องเจอกับความทุกข์หนักกว่าก็ตาม…
ดูนายก็เข้าใจจุดนี้ดีนี่แต่ว่าไม่ใช่ผู้รอดชีวิตทุกคนจะเข้าใจหรอกนะ
ฟังหลินหยงเจี่ยนอธิบายเรื่อง ผู้รอดชีวิตโดยสรุป หลินเฉิงก็พยักหน้าเห็นด้วย จริงๆก็เป็นอย่างที่เขาพูดนั่นแหละ ถึงแม้ว่าสภาพแวดล้อมของวันโลกาวินาศนั้นจะอันตรายและซับซ้อนเพียงใด แต่ถ้าก่อนวันโลกาวินาศจะมาถึงพวกเราไม่ได้นอนอู้ไปวันๆแล้วไปขยันเหมือนมดเหมือนตุ่น ยังไงซะชีวิตเราก็ยังพอมีทางรอด แต่ถ้าทำตรงกันข้าม นอกจากจะรอดยากแล้วชีวิตก็จะยังตกต่ำลงไปเรื่อยๆด้วย
ถ้าฉันเดาไม่ผิดไอ้แสงสีทองนั่นคือพลังพิเศษของนายที่ตื่นขึ้นมาสินะ?
หลินหยงเจี่ยนรู้ว่าถึงแม้ว่าความสามารถของเขาจะไม่ได้ดีอะไรนัก แต่เพราะเป็นเช่นนั้นเขาจึงต้องพลิกแพลงมัน หลินเฉิงเองก็เอ่ยชมเขาทันที จากนั้นเขาก็หยิบกล่องบุหรี่ขึ้นมาและโยนให้อีกฝ่ายตัวนึง
เขารีบรับบุหรี่จากหลินเฉิงและมองมันอย่างกระหาย แต่เขาก็เลือกที่จะไม่จุดมันในทันที กลับกันเขาก็ค่อยๆเก็บมันลงกระเป๋าอย่างระมัดระวังด้วยก่อนจะตอบ ใช่ ฉันตั้งชื่อมันว่า ‘ปราการยืดหยุ่น’…
อุ๊ฟ—
ได้ยินชื่อของพลังที่อีกฝ่ายเรียกหลินเฉิงก็เผลอหลุดยิ้มออกมาเลย ฉันจะบอกนายเลยนะไอ้หนุ่ม นายกล้าเรียกตัวเองเป็นเด็กมหาลัยได้ยังไงในเมื่อนายยังตั้งชื่อเจ้านี่ได้หยาบกระด้างชะมัด
ฮ่าๆๆ…
เขาเขินมากๆหลินหยงเจี่ยนเกาหัวและพูดต่อ เป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าพลังของฉันมันทำร้ายใครได้ ฉันคงจะตั้งชื่อให้มันดูดุร้ายและไม่น่าขำแบบนี้ ก็อย่างที่นายเห็นนั่นแหละ เจ้านี่น่ะสามารถรั้งคนๆหนึ่งไว้ได้จนกว่าคนๆนั้นจะตายเลย ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความแข็งแกร่งของฉันในตอนนี้ ฉันสามารถรั้งคนจำนวนมากไว้ได้ถึง 1 นาทีแล้วด้วย แต่มันก็เหนื่อยเอาการเลยล่ะ!
นายเข้าใจผิดแล้ว!
หลินเฉิงระงับเรื่องที่อีกฝ่ายบ่นไว้ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆและพูดขึ้น ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเห็นอะไรมาบ้าง แต่หลายๆความสามารถที่ฉันได้พบเจอมา ไอ้เจ้านี่น่ะ จะเรียก ของเสีย ก็คงจะยาก แล้วมันก็เหมือนกับที่นายตั้งชื่อ ‘ปราการยืดหยุ่น’ นั่น ฉันคิดว่านั่นเป็นเพราะนายแค่พัฒนามันไม่ถูกเฉยๆ…
เอ๋จริงเหรอ!? ได้ยินหลินเฉิงพูดแบบนั้นดวงตาของหลินหยงเจี่ยก็เป็นประกายขึ้นมาเลย เขามองไปยังเจ้าสิ่งนี้ของเขา ถึงแม้ว่าหลินเฉิงเองจะมีแผนพัฒนาพลังพิเศษหลายแบบสำหรับเจ้า ปราการยืดหยุ่น นี่ แต่เขาก็ไม่ได้อยากจะบอกให้ใครรู้ เพราะงั้นแล้วเขาจึงส่ายหน้าและพูด นี่ไม่ใช่พลังของฉัน นายต้องคิดหาวิธีที่เฉพาะตัวของนายเอง! เอาล่ะ เลิกคุยเรื่องนี้ ที่ฉันเรียกนายออกมาเพราะมีเรื่องจะให้ทำ!
เมื่อเห็นหลินเฉิงเปลี่ยนเรื่องหลินหยงเจี่ยนก็รู้สึกเสียดาย ในฐานะที่เป็นรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จในการเอาตัวรอดมาครึ่งปีตั้งแต่โลกาวินาศ เขารู้ดีเกี่ยวกับผู้รอดชีวิตดีกว่าใครๆ และความอยากที่จะแข็งแกร่งขึ้นอันเป็นธรรมชาตินี้ก็ยังเหนือกว่าใครๆด้วย ตอนนี้เขากำลังคุยกับคนๆนั้น คนที่เขามองว่าเป็นรุ่นพี่ ทั้งๆที่เขาอยากจะติดตามอีกฝ่าย แต่กระนั้นบทสนทนาทุกอย่างก็ถูกตัดจบไป
หลินเฉิงนั้นไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะใส่ใจความรู้สึกของหลินหยงเจี่ยนนั่นเพราะในพจนานุกรมของเขา มันไม่เคยมีคำว่า อาหารกลางวันฟรี หลังจากที่ยืนยันแล้วว่าในรูปนั้นเป็นเขาจริงๆ หลินเฉิงก็เริ่มถามต่อ ในเมื่อนายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยหยาหนาน และนายเองก็เป็นรุ่นพี่ แสดงว่านายก็ต้องมีเรื่องที่เป็นที่น่าจะจบในกิจกรรมต่างๆภายในมหาลัยมาตลอด 4 ปีถูกต้องหรือเปล่า?
คำถามที่เกี่ยวกับโรงเรียนที่หลินเฉิงถามนั้นทำเอาหลินหยงเจี่ยนที่กำลังงุนงงทำได้แค่พยักหน้าแบบมึนๆ แล้วยังไงต่อเหรอ?
อืม…
เห็นหลินหยงเจี่ยนพยกหน้าหลินเฉิงก็ยิ้มและถาม นายมีความประทับใจหรือความทรงจำอะไรเกีย่วกับเฉินเจียเจี้ยหรือเปล่า? เพราะยังไง เฉินเจี่ยเจี้ยก็น่าจะเป็นรุ่นพี่นายอีกทีในโรงเรียนชีวการแพทย์…
เฉินเจี่ยเจี้ยจากโรงเรียนชีวการแพทย์!?
หลินหยงเจี่ยนจ้องมองไปที่หลินเฉิงทันที นายรู้จักชื่อนั้นได้ยังไงน่ะ!? หรือว่านายเองก็เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยหยางหนานงั้นเหรอ!?
แน่นอนว่าไม่ได้เป็น
เมื่อเห็นหลินหยงเจี่ยนตกตะลึงไปเมื่อได้ยินชื่อของเฉินเจี่ยเจี้ยหลินเฉิงก็รู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมาเลยและเริ่มถามไปอีก ดูอารมณ์ของนายตอนนี้สิ ดูเหมือนนายจะมีเรื่องประทับใจมากๆเกี่ยวกับเขาสินะ?