I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 569 กรน
บทที่ 569 กรน
SC:บทที่569 กรน
คร่อก…คร่อก…
เมื่อหลินเฉิงนั้นเตรียมจะหันหลังและกลับไปยังช่องทางอื่นเผื่อว่าจะโชคดีเสียงกรนก็ดังขึ้นมาจากด้านล่างของเขา ซึ่งนั่นทำเอาทั่วทั้งตัวของหลินเฉิงหนาวขึ้นมาเลย!
มีอะไรผิดพลาดหรือไงน่ะ?นี่มันแค่ 3 ไม่ก็ 4 โมงเองนะ มีคนนอนแล้วงั้นเหรอ?
ได้ยินเสียงกรนนั้นแล้วหลินเฉิงก็เผลอหัวเราะทั้งน้ำตาออกมาเขาคิดว่าเขาคงจะเจออะไรที่ไม่คาดคิดเข้าเสียแล้ว ไม่คิดเลยว่านอกจากจะได้เจอคนแล้ว ยังได้เจอตอนพวกเขาอยู่ในช่วงเวลาดีๆกันเสียด้วย
เมื่อรู้แล้วว่ามีคนอยู่ที่นี่หลินเฉิงก็เลิกกังวล เขาเอาหูเข้าไปจ่อใกล้ๆและฟังเสียงกรนที่อยู่ด้านล่างอย่างระมัดระวังอยู่ครู่หนึ่ง และไม่นานนักเขาก็ได้ตำแหน่งและระยะทางที่ชัดเจนของผู้ที่กำลังหลับและกรนอยู่นี้
ข้างล่างด้านขวา ประมาณ 10 เมตรห่างออกไป ผู้ชาย
หลังจากที่บันทึกข้อมูลที่หายากนี่ลงไปในหัวแล้วหลินเฉิงก็ยื่นมือไปสัมผัสบนทางที่ต้องไปต่อที่ซึ่งตรงจุดนั้นเป็นตาข่ายเหล็กที่เขาต้องเอามันออกก่อน เขารอจังหวะที่คนที่นอนอยู่นั้นกรนขึ้นมาอีกก็จัดการดึงตะแกรงเหล็กขึ้นมาเลย!
เขาค่อยๆวางตะแกรงเหล็กนั้นลงไปข้างๆเบาๆหลินเฉิงค่อยๆยื่นหัวออกไปผ่านช่องลมเพื่อตรวจดูในห้องด้วย ไนท์วิชชั่น
ที่นี่เป็นห้องนอนแบบเรียบง่ายไม่มีอะไรนอกเสียจากเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็น บนโต๊ะใกล้ๆประตูนั้นมีกองเอกสารวางซ้อนกันไว้อยู่คู่กับที่เขี่ยบุหรี่ที่มีก้นบุหรี่วางอยู่จนล้น จากการตกแต่งเช่นนี้ เจ้าของห้องน่าจะเป็นพวกบ้างานมากๆแน่ๆ
ไม่ไกลนักจากด้านหน้ามีเตียงอยู่ชายคนหนึ่งกำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนนนั้น หลับลึกและกรนเสียงดัง เขาไม่รู้สึกเลยว่าภายในห้องนอนของเขานั้น ได้มีตัวอันตรายกำลังซุ่มอยู่แล้ว!
เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังนอนหลับลึกอยู่เช่นนั้นหลินเฉิงก็ไม่อยากจะปลุกหรือกำจัดเขานัก กลับกันเขากระโดดลงจากช่องลมและไปยังโต๊ะเพื่อเช็คดูเอกสารเหล่านั้นก่อน
จริงๆเขาไม่ได้ตั้งใจจะอ่านเอกสารพวกนั้นแต่เพราะอยากรู้ว่าคนข้างล่างนี้กำลังศึกษาวิจัยอะไรกันอยู่มันจึงอดไม่ได้
บ้าเอ้ยมันไม่มีอะไรเลย!
ถึงเขาจะไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้วแต่การที่ได้เห็นตัวอักษรที่ยึกยือจนเหมือนสัญลักษณ์อะไรซักอย่างที่อ่านได้ไม่เป็นภาษา เขาก็อดที่จะกร่นด่าไม่ได้ ลืมเรื่องที่จะหาว่าพวกนี้กำลังศึกษาอะไรกันไปก่อน เพราะเขายังไม่สามารถบอกได้ว่าไอ้คำหรือกราฟิตี้บนเอกสารเหล่านี้ ตั้งใจจะสื่อถึงอะไรกันแน่!
หลังจากที่พยายามหาเอกสารที่อื่นที่น่าจะอ่านง่ายกว่าแล้วมันก็ทำให้หลินเฉิงพบว่านอกจากพวกเอกสารบนโต๊ะแล้วมันก็ไม่มีที่อื่นอีกเลย! เพราะงั้นเขาจึงยอมแพ้และปล่อยเอกสารพวกนั้นไปก่อนจะเดินไปทางเตียงแทน
เห้ยตื่น!
เขาจุดบุหรี่สูบและสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะปัดฝุ่นควันออกและผลักให้คนที่หลับอยู่นั้นให้ตื่นขึ้นมา
แต่ชายผู้นี้ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยแม้แต่หลินเฉิงดูดบุหรี่อยู่ข้างๆเตียงหรือแม้แต่หลินเฉิงจะผลักเขาก็ตาม ไม่มีอะไรทำให้เขาตื่นได้ สิ่งที่ตอบสนองนั้นมีเพียงการหันหนีและกรนอัดเท่านั้น
นี่ขี้เซาขนาดนี้เลยเหรอ?
เมื่อเห็นว่าชายที่อยู่บนเตียงนั้นดูจะไม่ยอมตื่นจริงๆหลินเฉิงก็ประหลาดใจมากๆแต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเรื่องนี้นัก เขาผลักอีกฝ่ายอีกครั้งจากนั้นก็เอาเก้าอี้จากตรงโต๊ะมานั่งรอข้างๆเตียง ดี…
หลังจากที่ผลักไปแล้วถึง2 รอบรวมถึงสูบบุหรี่ในห้องก็แล้ว ชายหนุ่มที่ดูอายุราวๆ 30 ปีนี้ก็เริ่มมีปฏิกริยาตอบสนองบ้างแล้ว เขาหันมาทางหลินเฉิงก่อนจะบ่นงึมงำ นั่นใครน่ะ? เวรของฉันมันจบลงแล้ว! ช่วยออกไปแล้วปล่อยฉันนอนดีๆได้มั้ย! พูดจบเขาก็กลับไปนอนเหมือนเดิมเลย
แน่นอนว่าหลินเฉิงนั้นไม่ยอมให้เขากลับไปนอนอีกแน่เขายืนขึ้นและดึงผ้าห่มออกจากอีกฝ่ายทันที!
ถ้าฉันเป็นนายฉันจะไม่กลับไปนอนอีกครั้งหรอกนะ!
หลังจากที่เอาผ้าห่มของเขาออกไปแล้วหลินเฉิงก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างเลือดเย็น ในขณะเดียวกันก็นำดาบยาวออกมาและพาดไปที่คอของอีกฝ่ายด้วยเพื่อยอมตื่นขึ้นมาเสียที!
นาย!?นายเป็นใครน่ะ!? แล้วนายเข้ามาในนี้ได้ยังไงกัน!? เมื่อรู้สึกถึงความเย็นที่คอชายผู้ที่กำลังหลับก็ตื่นขึ้นมาทันที เขาไม่กล้าที่จะขยับไปไหน แม้จะยังไม่ตื่นดีแต่เขาก็ถามไปด้วยความประหลาดใจ
ก่อนที่ฉันจะตอบคำถามนายฉันหวังว่านายต้องตอบคำถามฉันก่อน
เมื่อเห็นชายคนข้างหน้าไม่ได้ตะโกนหลินเฉิงก็ยิ้มด้วยความพอใจ เขาวางผ้าห่มนั้นไว้ที่ปลายเท้าของอีกฝ่ายบนเตียงเป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายใจเย็นๆ
แต่ชายคนนั้นยังคงอยู่ในความสับสนอยู่เพราะเขาจำได้ชัดเจนว่าเขาล็อกประตูไว้แล้วก่อนจะนอน แต่คนๆนี้ คนที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนกลับมาปรากฏตัวในห้องเขาได้โดยไม่มีสัญญาณอะไรเลย ซึ่งนั่นทำให้เขาทั้งกลัวและไม่รู้ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือเปล่า
หลังจากวางผ้าห่มให้อีกฝ่ายแล้วหลินเฉิงก็ทำให้อีกฝ่ายเห็นว่าเขาไม่ได้ต้องการที่จะทำร้ายอีกฝ่าย ชายหนุ่มวัย 30 ค่อยๆหยิบแว่นจากข้างๆเตียงมาสวมก่อนจะถาม สรุปนายเป็นใคร? ฉันไม่เคยขัดใจกับใครนะ หรือเคย? ทำไมนาย…
หุบปากแล้วฟังฉัน!
ก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบหลินเฉิงก็ขัดเขาไว้ก่อน หลินเฉิงโยนก้นบุหรี่ไปยังที่เขี่ยบุหรี่ก่อนจะเข้าเรื่อง ฉันแค่อยากจะถามนาย เกี่ยวกับฐานใต้ดินนี้ เพราะงั้นนายต้องเลิกสติแตก ปล่อยเรื่องไร้สาระไป ตราบใดที่นายร่วมมือกับฉัน ฉันจะไม่ทำร้า่ยนาย
ฟังคำของหลินเฉิงชายหนุ่มก็จ้องเขม็งเลย หา!? นายหมายความว่า นายไม่ใช่คนของสถาบันงั้นเหรอ!?
ใช่แล้วมีปัญหาอะไร?
มองสีหน้าของชายคนตรงหน้าหลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
นี่มัน…
ฟังคำตอบที่ดูธรรมชาติของหลินเฉิงชายหนุ่มก็ไม่รู้จะพูดอะไรทั้งสิ้น ตั้งแต่การสร้างฐานใต้ดินนี้ที่ซึ่งมีไม่กี่คนที่รู้เรื่อง เพราะงั้นเขาจึงคิดว่าหลินเฉิงเป็นบุคลากรภายในของฐานนี้ที่กำลังหาคนล้างแค้นหรืออะไรซักอย่าง แต่เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่า คนตรงหน้าจะมาจากด้านนอก!
เมื่อเห็นชายหนุ่มตรงหน้าดูจะเล่นใหญ่ขึ้นมาหลินเฉิงก็ขมวดคิ้วแล้วก็ถามกลับไป ดูท่าทีของนายสิ ไม่ใช่ว่านายอยู่ในฐานใต้ดินนี่มานานแล้วหรือไง?
ชายหนุ่มถอนหายใจหลังได้ยินคำถามของหลินเฉิง แน่นอน! ตอนนี้มันเป็นช่วงของวันสิ้นโลก ถ้าไม่ติดว่าเป็นสถานการณ์จำเป็น นายคิดว่าจะมีใครอยากมาอยู่ที่นี่…
สถานการณ์จำเป็นเหรอ?ยกตัวอย่างหน่อยสิ?
อย่างไรก็ตามหลินเฉิงที่ได้ยินอะไรบางอย่างสะกินหูจากคำตอบของอีกฝ่าย เขาก็รีบถามก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบ
มัน…
แต่ชายหนุ่มนั้นดูอึดอัดมากๆในเวลานี้เขายังคงไม่รู้ว่าคนนอกอย่างหลินเฉิงนั้นเข้ามาได้อย่างไร หรือมีจุดประสงค์อะไรที่เข้ามายังที่นี่ เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะบอกข้อมูลอีกฝ่ายมากขนาดไหน แต่ก็ยังสับสนว่าถ้าไม่ตอบเลยจะเป็นยังไง บางทีเขาอาจจะมีอันตรายถึงชีวิตเลยก็ได้!