I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 575 แล็บชีวภาพ
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 575 แล็บชีวภาพ
บทที่ 575 แล็บชีวภาพ
SC:บทที่575 แล็บชีวภาพ
พูดถึงเรื่องนี้จู่ๆผอ.เหม็งก็หยุดไป ตาเธอมองไปยังเหล่านักวิจัยทั้ง 4 อยู่หลายรอบเพื่อตรวจสอบ ก่อนจะถอนหายใจออกมาและไม่พูดอะไรอีก
เมื่อรู้สึกได้ว่าผอ.เหม็งนั้นดูไม่ปกติหลินเฉิงก็เลิกคิ้วขึ้นช้าๆและพูดกับตัวเอง มันเคยมีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นภายในแล็บทดลองภายในมาก่อนหรือไงน่ะ?
นี่ไม่ใช่การคาดเดาลอยๆของเขาเมื่อเขาเดินผ่านทางเดินกระจกมาจนถึงตอนนี้ เขาก็พบว่าห้องแล็บส่วนใหญ่ทั้งสองฝั่งนั้นเป็นแล็บว่างเปล่า หลินเฉิงไม่ได้คิดว่าคนที่ขุดชั้นใต้ดินนี่ขึ้นมาจะสร้างแล็บสำรองไว้ขนาดนี้ เพราะงั้นสิ่งเดียวที่จะอธิบายได้นั่นคือ สถาบันวิจัยแห่งนี้ ก่อนหน้านั้นเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นมา และพวกนักวิจัยที่เคยอยู่ในห้องแล็บเหล่านั้นก็น่าจะตายเพราะอุบัติเหตุนั้นด้วย!
พวกนี้สามารถใช้อธิบายได้ว่าทำไมพวกร่างทดลองดัดแปลงตรงหน้า ถึงได้ดูไม่ได้ดุร้ายเหมือนที่อื่น มันทำได้แค่คำรามนิดหน่อย ที่ซึ่งข่มขู่ได้แค่นักวิจัยไม่ให้พวกเขาเข้ามาในห้องนี้ได้เท่านั้น พวกนักวิจัยคนอื่นที่ผอ.เหม็งพูดถึงก็เช่นกัน พวกเขาเองก็น่าจะมีความคิดแบบนี้ด้วย เพราะงั้นเธอจึงไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ถ้าหากเรื่องนี้มันตรงกับที่หลินเฉิงคาดไว้ แสดงว่าเธอนั้นน่าจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับอุบัติเหตุก่อนหน้านี้ รวมถึงเธอเองก็น่าจะเข้าใจความคิดของพวกนักวิจัยคนอื่นในตอนนี้ด้วย
มานี่เลิกพูดถึงเรื่องนี้ ฉันมาที่นี่เพื่อจะช่วย เพราะงั้นรีบย้ายร่างทดลองนี้ไปแล็บชีวภาพก่อน
เธอส่ายหัวก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงหดหู่จากนั้นเธอก็เดินไปยังกำแพงเหล็กข้างๆ และหยิบเอาเข็มฉีดยาเหล็กออกมาจากช่องที่อยู่ด้านในกำแพงนั้น เมื่อได้เข็มฉีดยาแล้วเธอก็เดินไปข้างๆร่างทดลอง E001 และรีบฉีดยาเข้าไปอย่างรวดเร็วเมื่อร่างทดลองนั้นไม่ได้สนใจมือเธอ
เอาล่ะตอนนี้ฉันฉีดยารักษาสเถียรภาพเข้าไปใหม่แล้ว คราวนี้วางใจได้หรือยัง?
หลังจากวางเข็มฉีดยาลงไปข้างๆผอ.เหม็งก็ค่อยๆหายใจจากนั้นก็พูดกับนักวิจัยทั้ง 4 ที่อยู่ด้านหลังเธอ
ไม่ต้องกังวลๆ!
ผอ.เหม็งอยู่นี่แล้วพวกนายจะกังวลอะไรอีก…
ถ้างั้นพวกเราเริ่มขนย้ายกันเลยมั้ย?
เมื่อเห็นผอ.เหม็งจัดการฉีดยารักษาสเถียรภาพไปยังร่างทดลองด้วยตัวเองแล้วเหล่านักวิจัยที่รู้ตัวว่าตัวเองเผลอถอยหลังไปเรียบร้อยแล้วต่างทำได้เพียงมองดูความจริงนั้น
ดี…
เธอพยักหน้าเบาๆผอ.เหม็งหันกลับไปมองหลินเฉิง จากนั้นเธอก็เดินนำไปยังด้านหน้าของเตียงและจับราวเตียงเอาไว้ หลังจากที่เห็นการกระทำของเธอแล้ว หลินเฉิงก็รีบเดินตามเธอไปที่ด้านขวาและช่วยจับราวอีกแรก
นักวิจัยทั้ง4 เองต่างก็ไม่กล้าชักช้าไปมากกว่านี้ เมื่อเห็นว่าผอ.เหม็งและหลินเฉิงนำไปแล้ว พวกเขารีบเดินเข้าไปและกระจายกันจับราวเหล็กเหล่านั้น ภายใต้การช่วยกันของคนจำนวนมาก เตียงเหล็กที่ล็อกร่างของนักล่าสุดแกร่งเอาไว้ก็เริ่มเคลื่อนที่ช้าๆไปยังประตูที่อยู่ลึกสุดในห้อง
เมื่อพวกเขามาถึงประตูผอ.เหม็งก็ส่งสัญญาณให้คนอื่นๆรอก่อน จากนั้นเธอก็เดินไปที่ประตู หยิบเอาบัตรผ่านที่เป็นโลหะขึ้นมาจากกระเป๋าที่หน้าอก สัมผัสมันลงไปที่ช่องใกล้ๆประตู จากนั้นเมื่อมีเสียง ติ๊ด ประตูก็เปิดออก เธอกลับไปยังเตียงเหล็กอีกครั้งและเริ่มที่จะดันเตียงของร่างทดลองนี้ผ่านประตูไปด้วยกัน หลังจากที่ร่างทดลองนั้นโดนฉีดยารักษาสเถียรภาพไปอีกครั้งโดยผอ.เหม็งมันก็นอนนิ่งๆเงียบๆบนเตียงอีกครั้ง มีบ้างที่คำรามเบาๆออกมาจากปาก แต่กระนั้นก็ไม่ได้แสดงท่าทีอื่นๆออกมา และไม่มีการเอาเขี้ยวมาไล่โจมตีผู้คนแล้ว
ผ่านประตูไฟฟ้าไปทุกๆคนรวมถึงหลินเฉิงต่างช่วยกันผลักเตียงเหล็กนั้นและเดินผ่านประตูแคบๆไปช้าๆ ทางด้านขวานั้นเป็นผนังเหล็กเรียบๆไม่มีอะไร แต่ทางด้านซ้ายนั้นเป็นประตูเหล็กที่ปิดอยู่ หลินเฉิงเดาไว้ว่าด้านหลังประตูเหล็กนั้นน่าจะเป็นพวกร่างทดลองทั้งหลาย
เมื่อเดินผ่านเส้นทางที่เป็นพื้นเหล็กนั้นประมาณ5 นาที ผอ.เหม็งก็ค่อยๆหยุดเมื่อมีประตู 2 บานปรากฏขึ้นด้านหน้า ซึ่งนั้นดูจะใหญ่กว่าประตูบานอื่นๆอยู่มากเลย
อีกครั้งหนึ่งเธอหยิบเอาบัตรผ่านที่หน้าอกไปสัมผัสกับตรงมือจับประตู จากนั้นก็มีเสียง *ตูม* เบาๆดังขึ้น และประตูก็ค่อยๆเปิดช่องแคบจากตรงกลางของทั้งสองฝั่ง และด้วยสถานการณ์นี้ มันเหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะถูกเปิดเผยต่อหน้าหลินเฉิงแล้ว!
กำแพงรอบๆนั้นยังคงเป็นเหล็กเรียบๆและพื้นที่ภายในห้องนั้นก็ไม่ได้เล็กเกินไป หลังจากที่คำนวนคร่าวๆ หลินเฉิงก็รู้สึกว่า ที่นี่น่าจะมีพื้นที่ราวๆ 5-600 ตารางเมตรซึ่งทำให้เขารู้สึกว่าพื้นที่นี้ของสถาบันวิจัยใต้ดินนั้นใหญ่กว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก
รอบๆตัวนอกจากจะเป็นกำแพงเหล็กแล้วมันก็ยังมีโต๊ะล้อมรอบเป็นวงกลมอีกด้วยและตรงบริเวณส่วนกลางก็มีโต๊ะที่ใช้สำหรับทำงานอยู่อีก 4 ชุดที่ซึ่งมีไฟและโครงสร้างที่ซับซ้อนวางไว้อยู่
นักวิจัย2 คนผู้ที่เห็นหน้าได้ไม่ชัดนั้นกำลังยุ่งอยู่กับสิ่งมีชีวิตตรงหน้าเขาที่อยู่บนโต๊ะปฏิบัติการซึ่งในตอนนี้มันกำลังโดนผ่าตัดอยู่ และสิ่งมีชีวิตนั้นก็คือนักล่าที่ตอนนี้กำลังโดนศึกษาด้านในอยู่นั่นเอง!
ผอ.เหม็ง?ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ? ทั้งสองนักวิจัยผู้ที่กำลังสำรวจโครงสร้างภายในของนักล่าอยู่นั้นหยุดงานเขาแทบจะทันทีเมื่อเห็นผอ.เหม็งและทีมเดินเข้ามาในห้องนั้น และด้วยการที่เห็นว่าคนที่เข้ามาเป็น ผอ.เหม็ง นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกประหลาดใจขึ้นมาอีก
ไม่มีอะไรแค่ช่วยพวกเขาขนส่ง E001…
เธอไม่ได้บอกอะไรกับทั้งสองมากมายนักจากนั้นก็เดินกลับไปหากลุ่มคนที่อยู่กับเตียงเหล็กพร้อมทั้งช่วยลากเตียงที่มี E001 อยู่นั้นไปยังมุมซ้ายของห้องแล็บด้วย
หลังจากที่จัดแจงวางเตียงเหล็กไว้ในที่ของมันแล้วเธอก็เดินกลับไปหานักวิจัยทั้งสองก่อนจะมองไปยังนักล่าที่พวกเขากำลังศึกษาอยู่ ซึ่งตอนนี้มันเน่าเปื่อยไปแล้วครึ่งหนึ่ง จากนั้นเธอก็พูดขึ้นกับทั้งสอง จู่ๆ E001 ก็เกิดคลั่งขึ้นมา ฉันกลัวว่ามันจะเกิดอาการผิดปกติในอนาคต ถ้ายังไง ช่วยรอจนกว่าพวกเราจะออกไป แล้วช่วยตรวจสอบแบบละเอียดตามปกติ และตรวจสอบย้ำอีกครั้งให้ที นี่เป็นสถานการณ์พิเศษ แล้วก็ถ้ามันมีอะไรที่ผิดปกติจริงๆ ช่วยเรียกฉันเพื่อรายงานผลได้ตลอดเลย โอเคนะ?
หา!?E001 เองก็ด้วยเหรอ…?
เมื่อได้ยินผอ.เหม็งพูดนักวิจัยทั้งสองก็ตกใจมากๆ พวกเขารีบมองไปยังร่างทดลอง E001 ที่อยู่บริเวณมุมห้องแบบอัตโนมัติเลย!
ไม่ต้องกังวลก็แค่อยู่ไม่สุขน่ะ แต่หลังจากที่ฉีดยารักษาสเถียรภาพไปก็ยังไม่มีอาการอะไรกำเริบขึ้นมาอีกนะ เพราะงั้นไม่ต้องกังวล เหมือนที่ฉันพูดนั่นแหละ
ดูสีหน้าตกใจของนักวิจัยทั้งสองผอ.เหม็งก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอีกครั้ง แต่เธอนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรทั้งสองหรอก กลับกันเธอกลับพยายามปลอบพวกเขาให้อยู่ในความสงบด้วย
เข้าใจแล้วในเมื่อผอ.เหม็งบอกว่าโอเค พวกเราก็โอเค งั้นก็มาลุยกันเถอะ! หลังได้ฟังคำปลอบของผอ.เหม็งทั้งสองก็ดูจะผ่อนคลายขึ้นมานิดหน่อย อย่างไรก็ตาม ถึงพวกเขาจะจะบอกทั้งสองไปว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่พูดมันออกไป แต่หลินเฉิงที่มีสำผัสที่ 6 นั้นก็สามารถรับรู้ได้โดยง่าย ถึงความรู้สึกของทั้งสองที่เก็บไว้ใต้หน้ากากนั้น!