I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 576 ผู้อาวุโส
บทที่ 576 ผู้อาวุโส
SC:บทที่576 ผู้อาวุโส
ไม่ใช่แบบที่ฉันเดาไว้ใช่ไหม?น่าสนใจ…
เมื่อรับรู้แล้วว่านักวิจัยทั้งสองนั้นดูแตกต่างออกไปมากๆหลินเฉิงก็คิดกับตัวเอง ก่อนหน้านั้น ท่าทีนักวิจัยทั้ง 4 และผอ.เหม็งทำเอาเขาสับสนอยู่มากเหมือนกัน แต่เมื่อเห็นนักวิจัยทั้งสองที่ทำงานอยู่ในแล็บชีวภาพนี้ดูจะกลัวมากๆเมื่อได้ยินชื่อของ E001 แสดงว่านี่แหละปัญหา หลินเฉิงสามารถมั่นใจได้เลยว่ามันต้องมีอุบัติเหตุร้ายแรงซักอย่างเกิดขึ้นภายในสถาบันวิจัยใต้ดินนี้มาก่อนแน่ๆ และมันต้องเกี่ยวข้องกับร่างทดลองพวกนี้แน่ๆ!
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วถึงสาเหตุที่ผอ.เหม็งได้เข้ามาทำงานส่วนนี้ มันไม่ใช่เพราะเธอนั้นเด็ดขาดหรือว่ามีวิสัยทัศน์ดีอะไรหรอก แต่เพราะว่าภายในสถาบันวิจัยใต้ดินแห่งนี้นั้นขาดคนเอาเสียมากๆ โดยเฉพาะภายในแล็บทดลองส่วนในที่คอยศึกษาเกี่ยวกับนักล่าพวกนี้ ถ้ายึดจากจำนวนคนที่เขาสังเกตได้ตอนนี้ เขาคาดคะเนไว้ว่า หากไม่มีใครมาทำส่วนนี้เพิ่ม แล็บด้านในนี้คงจะไม่มีคนอยู่เยอะจนเหมือนว่ามันหยุดทำงานมานานแล้วแน่ๆ!
ยังไงก็ตามB001 เป็นยังไงบ้าง? ยังเหมือนเดิมไหม?
ผอ.เหม็งนั้นไม่ได้มีพลังในการสังเกตเหมือนหลินเฉิงเพราะงั้นแล้วเธอจึงไม่สามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของนักวิจัยทั้งสองที่ซ่อนเอาไว้ เมื่อเห็นทั้งสองพยักหน้า เธอก็ถามขึ้น
ได้ยินดังนั้นทั้งสองก็ฝืนยิ้มออกมาและพูด ยังเหมือนเดิมครับ นี่ก็ผ่านมา 5 เดือนแล้วที่มันเกิดขึ้นมา มันไม่ทำอะไรเลยนอกจากกินเรื่อยๆ บางทีพวกเราอาจจะล้มเหลว!
มันเร็วเกินไปที่จะพูดว่าล้มเหลวในเมื่อมันยังมีชีวิตอยู่รอดมาได้ พวกเราไม่สามารถยอมแพ้ได้ง่ายๆ เพราะไม่ว่ายังไง มันถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากๆที่เหล่าร่างทดลองพวกนี้สามารถมีชีวิตอยู่ได้สำเร็จ ดังนั้นปล่อยให้พวกมันพักซักหน่อย ตราบใดที่เราไม่ยอมแพ้ พวกเราอาจจะเห็นความหวังเร็วๆนี้…
ฟังคำตอบหงอยๆของนักวิจัยทั้งสองผอ.เหม็งก็รู้สึกดิ่งลึกลงไปในใจ หากแต่เธอก็ยังพยายามปลอบเขา
B001?
หลินเฉิงนั้นเอะใจกับบทสนทนาเหล่านี้มากๆเขาวิเคราะห์เกี่ยวกับการเรียงลำดับของร่างทดลองเหล่านี้ที่น่าจะเป็น ตัวเลข ตามหลังตัวอักษรภาษาอังกฤษ ตัวเลขของร่างทดลองที่เขาช่วยขนย้ายนั้นคือ E001 งั้นมันน่าจะมี E002 E003 รวมไปถึงตัวอื่นๆอีกที่อยู่เป็นรุ่นถัดๆไป แล้วถ้าเอาทฤษฏีเมื่อครู่มาใช้ต่อ B001 ที่อีกฝ่ายเพิ่งจะพูดถึงนั้น น่าจะเป็นพวก มาตรฐานเก่า เป็นพวกร่างทดลองรุ่นก่อนๆแน่ๆ!
แต่กระนั้นหลินเฉิงก็ยังไม่เข้าใจความหมายของ ล้มเหลว ที่นักวิจัยทั้งสองพูดอยู่ดีเพราะถ้าดูจากผลลัพธ์ผ่านการต่อสู้ที่ด้านบนระหว่างเขากับร่างทดลองเมื่อไม่นานมานี้ มันแสดงให้เห็นเลยว่าผลงานชิ้นนั้นสมบูรณ์เสียยิ่งกว่าสมบูรณ์เสียอีก! ไม่เพียงแค่พลังที่สูงเกินมนุษย์ หากแต่ความฉลาดที่ซึ่งเป็นส่วนสำคัญนั้นก็ยังสูงกว่าพวกนักล่าทั่วๆไปอีกด้วย
B001นี่ต่างจากร่างทดลองตัวอื่นเหรอ?
เมื่อคิดถึง ร่างทดลองพิเศษ ที่ผอ.เหม็งพูดถึงนี่ หลินเฉิงก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า B001 น่าจะเป็นร่างทดลองที่นักวิจัยเหล่านี้พยายามทำมันขึ้นมาอีกรอบ แต่ดูเหมือนว่าผลลัพธ์มันจะไม่ค่อยดีเท่าไร่ เดาจากสถานการณ์นะ
นี่มันวันของฉันจริงๆ!!
เขาได้ข้อมูลสำคัญมามากมายโดยที่ไม่ต้องพยายามเลยแม้แต่นาทีเดียวหลินเฉิงมีความสุขมากๆ
ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ถึงแก่นแท้ของความลับในตอนนี้แต่ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาน่าจะสามารถควบคุมทุกอย่างภายในสถาบันวิจัยใต้ดินนี้ได้เลยในเวลาไม่นานนี้ ตราบใดที่เขายังคงไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม
อืมพวกเรามาที่นี่เพียงแค่เพื่อจะช่วยขนย้ายร่างทดลอง ฉันยังมีงานอื่นต้องทำอีก เพราะงั้นขอตัวก่อนนะ
ผอ.เหม็งไม่ได้พูดอะไรกับนักวิจัยทั้งสองมากไปกว่านี้หลังจากแน่ใจแล้วว่า E001 นั้นยังสงบเรียบร้อยดี เธอก็สั่งให้นักวิจัยทั้ง 4 อยู่ที่นี่เพื่อเก็บตัวอย่างการทดลองจาก E001 จากนั้นเธอก็โบกมือเรียกหลินเฉิงและเดินไปยังประตู
ถึงแม้ว่าเขาอยากจะอยู่ที่นี่เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ของทางร่างทดลองแต่หลินเฉิงก็ตัดสินใจที่จะรักษาสถานภาพของเขาในตอนนี้ไว้ก่อน ถึงจะเสียใจแต่ก็ยังเดินตามผอ.เหม็งไปอย่างซื่อตรง
คงมีเรื่องให้สงสัยมากมายเลยสินะในหัวนายตอนนี้น่ะ?
หลังจากที่ออกมาจากแล็บชีวภาพแล้วผอ.เหม็งก็เอ่ยถามหลินเฉิงขึ้นมาทันที
ได้ยินเธอถามหลินเฉิงก็เกิดงงขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะตอบเบาๆ ก็มีบ้าง…
เมื่อเห็นหลินเฉิงตอบมาตรงๆผอ.เหม็งก็ยิ้มออกมา มันเป็นเรื่องปกติที่จะมีข้อสงสัย เพราะยังไงก็ตาม นายเคยทำงานด้านนอกมาตลอด ไม่เคยได้เห็นงานในส่วนอื่นของสถาบัน แต่…
พูดถึงสิ่งนี้ความรู้สึกของผอ.เหม็งก็เริ่มที่จะจริงจังขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่ว่ายังไงก็ตาม นายได้เข้ามายังส่วนหลักของสถาบันวิจัยแล้วในวันนี้ เพราะงั้นเดี๋ยวข้อสงสัยทั้งหลายก็คงจะได้รู้ด้วยตัวเองเร็วๆนี้ แต่ก่อนหน้านั้น ฉันต้องการให้นายช่วยในกระบวนการต่างๆ ไม่งั้นแล้วถ้าเบื้องบนรู้ว่าฉันเรียกคนของฉันเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนายและฉันได้จบไม่สวยกันแน่!
เข้าใจแล้วๆ!
ได้ยินผอ.เหม็งพูดหลินเฉิงก็รีบพยักหน้า ผอ.เหม็ง ได้โปรดไว้วางใจว่าฉันนั้นไม่ได้ยินไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้นในวันนี้!
เมื่อพบว่าหลินเฉิงนั้นฉลาดกว่าที่เธอคิดไว้ผอ.เหม็งก็พยักหน้าด้วยความพอใจ เธอพาเขาไปยังสำนักงานของเธออย่างรวดเร็ว
*ติ๊ด*
พักใหญ่ๆหลังจากผอ.เหม็งมาถึงสำนักงานของเธอแล้ว เธอก็แตะบัตรเข้าประตูเหมือนปกติ เมื่อประตูเปิด ในจังหวะที่เธอจะเข้าไปนั้น จู่ๆเธอก็หยุด!
หลินเฉิงที่เดินตามหลังมาเองก็หยุดในทันทีเช่นกันเมื่อเห็นเธอหยุดเขากำลังจะถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เมื่อมองตามเธอ เขาก็เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงหยุดกระทันหันแบบนี้
กลับมาแล้วเหรอผอ.เหม็ง? รอก่อนนะ…
ในจังหวะเดียวกันเขาก็ได้ยินเสียงของผู้ชายทุ้มต่ำเอ่ยออกมาจากสำนักงานที่ควรจะไม่มีคนอยู่ เมื่อมองตามเสียงไป หลินเฉิงก็ได้เห็นสถานการณ์ในห้องนั้น
ชาย3 คนในชุดทหารกำลังนั่งอยู่รออยู่บนโซฟาของสำนักงาน คนที่ดูแก่สุดที่อยู่ตรงกลางนั้นยืนขึ้นและเดินเข้ามาแทบจะทันทีที่เขาเห็นผอ.เหม็ง
ทำไมพวกนายถึงมาอยู่ที่นี่?ถ้ายึดตามกฏแล้วนายควรจะเข้ามาวันมะรืนนี้นี่ ไม่ใช่เหรอ?
เธอขมวดคิ้วช้าๆผอ.เหม็งนั้นเห็นท่าทีของทั้ง 3 เธอก็จำได้ถึงท่าทีที่ดูไม่แยแสก่อนหน้านี้อีกครั้ง หลังจากที่กวักมือให้หลินเฉิงเข้าไป เธอก็ถามพวกเขาขณะที่กำลังปิดประตู
ใช่แล้วเราต้องมาวันมะรืน แต่ว่า…
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ชายในชุดทหารนั้นก็มองไปยังหลินเฉิง
ครั้นรับรู้ได้ว่าทหารกำลังมองเขาอยู่หลินเฉิงก็ใจเต้นแรงและรับรู้เลยว่าทั่วทั้งร่างกำลังหนาวสั่นไปหมด ในตอนนี้สีหน้าของเขานั้นแสดงออกถึงรอยยิ้มถ่อมตนออกมาแทน
อย่างไรก็ตามผอ.เหม็งก็ตระหนักได้หลังจากเห็นสายตาของชายในชุดทหารนั้น เธอหันไปมองและบอกหลินเฉิง ฉันต้องจัดการปัญหาบางอย่างที่นี่ นายออกไปก่อน แล้วเดี๋ยวฉันจะส่งข้อมูลไปให้กลุ่มที่ 3 ของนายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ นายทำได้แค่ต้องอดทนรอเท่านั้น