I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 583 หลี่ซี
บทที่ 583 หลี่ซี
มานี่มาพูดถึงเรื่องแผน A นั่นก่อน! เธอบอกว่าเธอเข้ามาที่นี่ประมาณครึ่งเดือนก่อนจะเกิดวันสิ้นโลกสินะ และแผนนี่มันก็เริ่มมาประมาณ 1 เดือนก่อนวันสิ้นโลก เพราะงั้นแสดงว่าเธอน่ะ ได้เรียนรู้และศึกษาเจ้านักล่าพวกนี้มาก่อนที่ทุกคนจะรู้ถึงการมีตัวตนของมัน ถูกมั้ย?
ได้ยินดังนั้นเหม็งหยี่ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาและพูด ใช่แล้ว พวกเรารู้ถึงการมีอยู่ของพวกนักล่าพวกนี้ก่อนที่คนอื่นๆจะรู้! แต่ต่อให้รู้มานานกว่าพวกเขามันก็เปล่าประโยชน์ การป้องกันความลับรั่วไหนจากปากของนักวิจัยทั้งหลายน่ะ อยู่ในสัญญาที่พวกเราเซ็นเป็นข้อตกลงกับทางสถาบันก่อนที่เราจะเข้ามาที่นี่ด้วยนะ ข้อตกลงนั่นกำหนดไว้ว่า ตราบใดที่ข้อมูลไม่ว่าจะส่วนใดของสถาบันก็ตาม เล็ดรอดออกไป นักวิจัยทั้งหมดภายในสถาบัน รวมถึงผู้เกี่ยวข้องด้วย จะถูกฆ่าตายจนหมดเลยล่ะ! เพราะงั้นภายใต้กฏที่โหดร้ายนี้ จึงไม่มีใครกล้าที่จะฝ่าฝืนกฎใดๆทั้งสิ้น!
พยักหน้ารับหลินเฉิงเข้าใจถึงเรื่องที่เหล่านักวิจัยพวกนี้กังวลกัน บางทีพวกนั้นอาจจะอยากหนีออกมาและเตือนคนทั้งโลกว่าพวกเขาเจอนักล่าที่น่ากลัวเหล่านี้ พวกมันมีอยู่จริง และไม่มีใครกล้าเท่าเฉินเจี่ยเจี้ย เหล่านักวิจัยพวกนี้เองก็คงมีเพื่อนและญาติของพวกเขาอยู่ ดังนั้นแล้วเพื่อปกป้องญาติพี่น้องเอาไว้ พวกเขาต้องใช้สมอง ไม่ใช่น้ำใจ ทำยังไงก็ได้ เพื่อไม่ให้ถูกแบนออกจากสถาบัน!
เมื่อสรุปได้แล้วว่าพวกคนระดับสูงเหล่านี้รู้ถึงการมีอยู่ของเหล่านักล่าเป็นเวลานานก่อนวันสิ้นโลกจะมาถึงหลินเฉิงก็เย้ยหยั่นพวกเขาอยู่ในจิตใจ ถ้าตอนนั้นเขาอยู่ที่หยางจิงล่ะก็ คงได้เห็นดีกันไปแล้ว!
หลังจากที่คิดเรื่องนี้หลินเฉิงก็เอ่ยถามขึ้น แล้วต้นกำเนิดนักล่าพวกนี้มาจากอะไรล่ะ? ในเมื่อพวกเธอเซ็นต์สัญญาแล้วพวกนั้นก็ต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง ถูกต้องหรือเปล่า?
เธอส่ายหน้าอีกครั้งก่อนจะรู้สึกตัวว่าตัวเองนั้นส่ายหน้าเยอะไปแล้วดังนั้นเธอจึงแอบมองหลินเฉิง ดูว่าเขาโกรธอะไรหรือเปล่า เมื่อเห็นแล้วว่าเขาไม่มีท่าทีโกรธอะไรเธอจึงค่อยๆเปิดปากพูด ฉันไม่รู้รายละเอียดตั้งแต่ต้นหรอก รู้แค่นักล่าพวกนี้ถูกส่งมาจากกองทัพ และพวกเราที่เป็นนักวิจัยนั้นมีหน้าที่ในการวิเคราะห์โครงสร้างของพวกมันเท่านั้น โดยที่ตัวพวกเราเองก็ไม่ได้สนใจเลยว่าต้นกำเนิดมันมาจากไหน จริงๆมันคือการเสียเวลาที่จะใส่ใจนั่นแหละ ไม่มีใครสนใจจะบอกพวกเรา…
เมื่อเห็นเหม็งหยี่ส่ายหน้าอีกครั้งหลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับตัวเอง ตอนนี้เขารู้แล้วว่าดูเหมือนเขาจะเลือกเป้าหมายผิด ถึงแม้ว่าเหม็งหยี่จะดูเหมือนว่าอยู่ในระดับสูงในครั้งแรกที่มอง แต่เธอเองก็เป็นแค่เครื่องมือของพวกที่ปรึกษาระดับสูงที่คอยสั่งให้เธอวิจัยและทดลองเกี่ยวกับนักล่าพวกนี้ต่อไป ในเมื่อเธอเป็นเครื่องมือ คุณคิดว่าเครื่องมือจะรู้อะไรเยอะแยะหรือไง?
หลังจากรู้ดังนั้นหลินเฉิงก็ส่ายหน้าแบบช่วยไม่ได้ก่อนจะตัดสินใจที่จะไม่ฝืนเสาะหาข้อมูลใดๆเกี่ยวกับพวกระดับสูงจากเธอแล้ว นั่นเพราะว่าบทสนทนาจนถึงตอนนี้นั้นทำให้เขาเข้าใจเธอทั้งหมด นั่นคือ ในหัวของเธอนั้นมีงานวิจัยนับไม่ถ้วน เพราะงั้นเธอเองก็ไม่ได้รู้อะไรมากมายไปกว่างานวิจัยของเธอหรอก
คำถามเกี่ยวกับพวกผู้บริหารระดับสูงถูกปล่อยออกไปจากในหัวหลินเฉิงตัดสิตใจถามเธออีกครั้ง แล้วเกิดอะไรขึ้นต่อ? มันเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่เธอเซ็นต์สัญญาร่วมงานกับทางสถาบันวิจัยและได้เป็นผู้ควบคุมแผน A นี่?
เมื่อเห็นว่าหลินเฉิงเลิกที่จะถามคำถามที่ตอบยากๆแล้วเหม็งหยี่ก็โล่งอกและรีบตอบกลับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในครึ่งเดือนนั้น พวกเราแค่คอยดูแลให้ขั้นตอนต่างๆมันเป็นไปตามแผนที่วางไว้จนกระทั่งวันสิ้นโลกมาถึง… พูดออกไปดังนั้นแล้วสีหน้าของเหม็งหยี่ก็ดูน่าเกลียดขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะวันสิ้นโลกดันเกิดขึ้นมาจริงๆแล้วล่ะก็ เหล่านักวิจัยทั้งหมดภายในสถาบันวิจัยก็คงจะไม่รู้เลยว่า พวกสัตว์ประหลาดที่พวกเราต้องคอยวิจัยอยู่ทุกๆวันจนนับไม่ถ้วนนั้น คือตัวร้ายภายในวันสิ้นโลกแบบนี้!
ในตอนนั้นสถานการณ์มันวุ่นวายมากๆไม่มีใครคาดการณ์หรอกว่าวันสิ้นโลกจะจู่ๆก็เกิดขึ้นเลยแบบนี้ แน่นอนว่าแม้แต่นักวิจัยอย่างพวกเราก็ไม่ได้เตรียมตัวไว้ ยิ่งตอนนั้น ที่ซึี่งหมอกลงหนัก พวกสัตว์ประหลาดข้างนอกใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ทะลายแนวป้องกันของสถาบันเข้ามาได้แล้ว การ์ดเกือบทั้งหมดนั้นถูกฆ่าแทบจะทันที ถ้าไม่ใช่เพราะหลี่ชี่ที่นำกองกำลังมาสนับสนุนได้ทันเวลา สถาบันของเราเองก็อาจจะไม่ได้อยู่มาจนถึงตอนนี้ และการมาของหลี่ชี่นั้นก็ทำให้เรารู้ด้วยว่า มันยังมีสถาบันวิจัยลับอยู่ภายใต้สถาบันวิจัยหลักอีก! หลี่ชี่?ใครล่ะนั่น?
ได้ยินชื่อแปลกๆหลินเฉิงก็รีบหยุดเหม็งหยี่ไว้ก่อน แต่เธอนั้นก็ยิ้มออกมาและพูด ชายคนที่นายเจอไปนั่นแหละ…
ฉันเคยเห็นเหรอ?
มองรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอหลินเฉิงก็ขมวดคิ้วช้าๆก่อนจะผ่อนลง ใช่เจ้าหน้าที่ที่ออกไปหรือเปล่า?
ใช่!
เห็นหลินเฉิงตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเหม็งหยี่ก็พยักหน้าเบาๆ ตอนนี้นายน่าจะเข้าใจแล้วว่าความผิดพลาดครั้งใหญ่ของนายนั่นก็คือนายปล่อยเขาไปและล็อคฉันไว้ที่นี่
ได้ยินคำประชดจากเธอหลินเฉิงก็หัวเราะแบบเมินเฉย ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ ในเมื่อฉันสามารถจับเธอได้ ฉันก็สามารถจับเขาได้! มันก็แค่เรื่องของใครจะโดนจับเป็นคนแรกเฉยๆ…
หลินเฉิงปรบมือก่อนจะพูด กลับมาเรื่องนี้ก่อน แล้วยังไงต่อ? หลังจากที่เธอถูกพาตัวมาภายในสถาบันวิจัยใต้ดินนี่แล้วโดยหลี่ชี่น่ะ?
แล้วจะให้อะไรอีก?ตามที่ผอ.เหม็งไห่พูดไว้ตั้งแต่เรามาถึงที่สถาบันวิจัย ว่าแม้แต่วันสิ้นโลกจะมาถึง งานของพวกเราก็หยุดไม่ได้เด็ดขาด!
หลินเฉิงที่ดูตั้งใจฟังมากๆนั้นมันทำให้เธอช่วยอะไรไม่ได้แต่เพื่อตัวเธอเองแล้ว เธอจึงทำได้แค่ตอบต่อไป หลังจากที่ลงมายังชั้นใต้ดินนี่ หลี่ชี่ก็ให้พวกเราพักผ่อนเพียง 3 วัน และก็เร่งให้ทุกคนเริ่มแผน A ต่อเพราะว่าการเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวของวันสิ้นโลกในครานั้น ทุกๆคนในสถาบันวิจัยต่างก็พากันหาทางออก เพราะงั้นแล้วพอลงมาข้างล่างได้และเตรียมพร้อมที่จะทำงานต่อสำเร็จ พวกเราได้พบกับร่างทำลอง ‘A’ เป็นครั้งแรกนั้นทำเอาเรามือไม่ว่างกันเกือบเดือนเลย!
เชี่ยเอ้ย…
หลินเฉิงนั้นอดไม่ได้ที่จะกรอกตาไปมาเขาไม่รู้จะพูดอะไรเกี่ยวกับความรับผิดชอบของนักวิจัยพวกนี้
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเหม็งหยี่พูดถึงร่างทดลอง A หลินเฉิงก็คิดถึงนักล่าล่องหนที่อยู่ด้านบนขึ้นมา ในตอนนั้น เขาคิดว่าชายคนนั้นน่าจะเป็นร่างทดลอง และนี่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดถูก!
เขาไม่ได้บอกเหม็งหยี่ในทันทีเกี่ยวกับ‘A’ ที่เคยเจอแต่เลือกที่จะถาม แต่ถึงสถานการณ์จะไม่ได้โผล่พรวดมาแบบฉุกเฉิน ตราบใดที่สภาพแวดล้อมมันมั่นคงและด้วยกองทัพของหลี่ชี่ที่พาพวกเธอลงมา มันไม่ควรจะมีปัญหาใหญ่อะไรเกี่ยวกับการขนย้ายร่างทดลองลงมาให้หมดจากข้างบนนี่อยู่แล้ว