I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 587 ความจริงของฐานบัญชาการ
- Home
- I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก
- บทที่ 587 ความจริงของฐานบัญชาการ
บทที่ 587 ความจริงของฐานบัญชาการ
SC:บทที่587 ความจริงของฐานบัญชาการ
มันเป็นเรื่องจริงยัยเซ่อ!
ฟังคำพูดของเหม็งหยี่หลินเฉิงก็กรอกตาไปมาอีก ถ้างั้นฉันจะถามเธอเพิ่ม มีนักวิจัยในสถาบันกี่คนที่มีพลังตื่นขึ้นนอกเหนือจากพวกการ์ด?
นักวิจัยของพวกเราที่พลังตื่นขึ้นมางั้นเหรอ?
หญิงสาวกระพริบตาก่อนจะนึกเพียงครู่หนึ่งและตอบเขาไป น่าจะมากกว่า 10 คนนะ? แต่พลังของพวกเขาก็ทั่วไปมากๆเลย ทั่วๆไปขนาดที่ปราบพวกร่างทดลองนั่นยังไม่ได้…
งั้นเหรอ?
มองดูเธอที่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาหลินเฉิงจึงพูดต่อ แล้วถ้าพวกเขาได้รับยาเพิ่มสมรรถนะล่ะ? โอ้ ยังไงก็ตาม ฉันลืมบอกเธอไปเลยเกี่ยวกับผลของยาเพิ่มสมรรถนะว่ายานั่นน่ะ สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของพลังที่ถูกปลุกขึ้นมาของแต่ละคนด้วยนะ ยิ่งได้รับมันมากเท่าไหร่ เธอก็จะแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น!
อ๋า!?
ได้ยินดังนั้นเหม็งหยี่ก็แสดงปฏิกริยาออกมาและถามกลับด้วยตาที่กลมโตเลย นายกำลังจะบอกว่า ฐานใหญ่ต้องการที่จะปิดบังเรื่องที่พวกเขาปลุกพลังให้ตื่นด้วยการแอบใช้ยาเพิ่มสมรรถนะพวกนี้กันแบบลับๆ เพราะงั้นพวกเขาก็เลยปกปิดพวกเราเรื่องการมีอยู่ของยาพวกนี้งั้นเหรอ!?
นั่นแหละๆ~
การแสดงออกของเหม็งหยี่ในตอนท้ายนั้นทำให้หลินเฉิงต้องสูดหายใจเข้าไปลึกๆ เท่าที่ฉันเห็นจากสถานการณ์ในตอนนี้ ดูเหมือนพวกฐานใหญ่เองก็จะไม่ใว้ใจนักวิจัยอย่างพวกเธอซักเท่าไหร่ ไม่งั้นคงจะไม่หาวิธีกักตัวพวกเธอไว้ในที่แบบนี้หรอกนะ ต-แต่นี่มันไม่เห็นมีเหตุผลอะไรเลยนี่!
เหม็งหยี่ขมวดคิ้วในทันทีหลังเธอเข้าใจเจตนารมณ์ของฐานใหญ่พร้อมกับพูดออกมาด้วยความงุนงง แล้วมันจะเป็นยังไงถ้าพวกเราทั้งหมดรู้ถึงการมีอยู่ของยาเพิ่มสมรรถนะ? นายก็จะเข้ามาที่นี่ได้อย่างไม่ง่ายนัก เพราะพวกการ์ดเองก็น่าจะโดนเร่งความสามารถขึ้นด้วย ถ้าเกิดฐานใหญ่ต้องการที่จะกักตัวพวกเราไว้จริงๆ ถ้างั้นตราบใดที่…
เขาโบกมือขัดเหม็งหยี่ไว้ก่อนหลินเฉิงยืนขึ้นและเดินไปหาเหม็งหยี่ เขามองหน้าเธออยู่นานก่อนจะพูด เธอกำลังกลัวหรือสับสนในฐานใหญ่อยู่งั้นเหรอ? ลืมเรื่องที่ฐานใหญ่ส่งการ์ดพวกนี้มากักตัวพวกเธอไว้แล้วหรือไง? พวกเขาไม่ต้องการให้เธอและพวกนักวิจัยรู้ถึงเรื่องการมีอยู่ของยาเพิ่มสมรรถนะ เพราะงั้นเขาจึงกันเธอออกจากความลับนี้ และให้การ์ดพวกนี้คอยดูไว้ว่าเธอกำลังวิจัยอะไรบ้าง!
เมื่อพูดไปแบบนี้หลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ฉันบอกไปแล้วว่าไอ้ฐานใหญ่ที่โคตรจะลึกลับของเธอน่ะ ระวังตัวเองมากๆ พวกนั้นน่ะรักษาความลับไปด้วยพร้อมๆกับปล่อยให้เธอทำงานวิจัยไปด้วยความซื่อสัตย์ มีความพยายามกันไม่น้อยเลยล่ะ…
หลังจากที่ได้ฟังหลินเฉิงวิเคราะห์เหม็งหยี่ก็รู้สึกโง่ขึ้นมาทันที เธอไม่คาดคิดเลยว่าการที่เธอยอมทำงานอย่างหนักอยู่ภายในศูนย์วิจัยใต้ดินแห่งนี้กว่าครึ่งปีนั้นจะได้รับผลตอบแทนเป็นการหลอกลวงเช่นนี้!
จิตใจของเหม็งหยี่นั้นเหมือนตายไปแล้วเพราะงั้นหลินเฉิงจึงรู้สึกว่าตัวเองพูดอะไรมากไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้เสียใจอะไรหรอก เขาจำเป็นต้องบอกเรื่องพวกนี้กับเธอ เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าเธอจะไม่ใส่ถ้อยคำลวงลงมาในบทสนทนา นี่น่ะ สำคัญมากๆเลยสำหรับแผนในอนาคตของเขา!
อ่า….
หลังจากที่นั่งเก้าอี้อยู่นานเหม็งหยี่ก็รีบสลัดทุกอย่างออกและยิ้มแบบน่าเกลียดออกมา เธอมองหลินเฉิงและถาม นายเป็นใครกันแน่? ทำไมนายถึงรู้ไปซะทุกเรื่องแบบนี้?
ฉันเหรอ?…
ได้ยินดังนั้นหลินเฉิงก็จุดบุหรี่และเอ่ยตอบ ก็แค่คนที่ผ่านทางมาเพื่อหาความจริง…
ความจริง…
ฟังคำตอบของหลินเฉิงเหม็งหยี่ก็บ่นงึมงัมก่อนจะยกมือขึ้นและสางผมที่ยุ่งเหยิงของเธอนั้น จากนั้นก็มองไปยังหลินเฉิงอีกเพื่อจะพูด ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ฉันจะบอกนายทุกๆสิ่งที่ฉันรู้ แต่ฉันก็หวังว่านายจะช่วยฉันหลังจากที่ฟังเรื่องของฉันจบ!
ช่วย?
มองหญิงสาวที่จิตใจตายไปแล้วและสลับกลับมามีชีวิตใหม่หลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เขาไม่ได้แม้แต่จะถามต่อแต่รีบพยักหน้าให้เธอโดยตรง ไม่มีปัญหา! ตราบใดที่เธอซื่อสัตย์ ฉันก็ช่วยเธอได้!
เมื่อเห็นหลินเฉิงพยักหน้าเหม็งหยี่ก็ไม่ได้สนใจนักว่าเขาจะโกหกเธอหรือไม่ แต่เธอก็พูดออกไปเลย อย่างที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ ปราศจาก A ที่เป็นตัวต้นแบบ แผนพัฒนาร่างทดลองใหม่ของเราไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่น แต่ไม่ว่ามันจะแย่ขนาดไหน ภายใต้การนำทัพของผู้อาวุโสเหม็ง พวกเรายังคงสนับสนุนการฝืนสร้างร่างทดลองจำนวนมากจนกว่าพวกมันสามารถอยู่รอดได้ในท้ายที่สุด!
เมื่อพูดออกไปแบบนี้เธอก็สังเกตเห็นว่าหลินเฉิงเตรียมจะพูด เพราะงั้นเธอจึงยกมือเบรคเขาไว้ก่อน ฟังฉันก่อน! ตอนนี้ทุกๆคนต่างตกใจสุดๆ การที่ร่างทดลองใหม่ตัวปัจจุบันนี้สามารถรอดมาได้ ไม่ถูกนับเป็นความสำเร็จของพวกเรา แต่มันเปรียบเสมือนข่าวจากนรก!
ภายใต้การผ่าตัดอย่างโหดร้ายของร่างทดลอง4 แบบใหม่ พวกเราเหลือนักวิจัยเพียง 100 คนเท่านั้น! พวกการ์ดดั้งเดิมนี่ไม่มีวิธีรับมือกับอุบัติเหตุร้ายแรง ฐานใหญ่นั่นส่งทีม8 คนที่มีพลังแบบทั่วๆไปนี้เข้ามา ซึ่งนั่นมันไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของร่างทดลองที่เข้าสู่ขึ้น 2 ไม่ก็ 3 ได้ทั้งสิ้น! อุบัติเหตุครั้งนั้นทำจบลงที่ทางฐานใหญ่ส่งทีมที่มีระดับสูงขึ้นลงมาแทน แต่สำหรับพวกเรานั้น เรื่องดังกล่าวก็เหมือนฝันร้ายที่มิอาจลืม มันกัดกินลงไปในจิตใจซึ่งไม่สามารถลบเลือนไปได้ตลอดชีวิต!
แต่ถึงกระนั้นแล้วฐานใหญ่ก็ยังไม่ยอมล้มเลิกการวิจัยและทดลองร่างใหม่ หลังจากเพิ่มนักวิจัยเข้ามาประมาณสิบกว่าคน พวกเรานั้นไม่สามารถอดที่จะรอเพื่อดำเนินการแผนต่อ ถึงแม้ว่าพวกเราจะรู้สึกขัดแย้งกับการกระทำของฐานใหญ่ แต่พวกเราก็ไม่ได้มีความสามารถพอขนาดที่จะยื่นข้อเสนอใดๆกับฐานใหญ่ โชคดีที่การพัฒนาของผู้อาวุโสเหม็งนั้นสามารถควบคุมร่างทดลองพวกนั้นได้ทันเวลา เราเรียกยาสำหรับร่างเหล่านั้นว่า ยารักษาสเถียรภาพ อย่างที่นายได้เห็น
รักษาสเถียรภาพที่ว่าหมายถึงพวกนี้เองเหรอ?
ได้ยินดังนั้นหลินเฉิงก็ยกมุมปากพร้อมเล่นกลโดยการหยิบเอาเข็มฉีดยาเหล็กออกมาจากด้านใน!
อ่า…
เหม็งหยี่ที่เห็นเข็มฉีดยาในมือหลินเฉิงเธอก็อมยิ้ม อย่างที่คิดไว้เลย นายคงไม่มองข้ามหลักฐานที่เก็บไปได้หรอกสินะ ตอนนี้ ฉันเชื่อแล้วว่านายน่ะมาตามหาความจริง…
หลังจากที่เล่นเข็มฉีดยาในมืออยู่ครู่หนึ่งหลินเฉิงก็พูดขึ้นมากับเหม็งหยี่ อย่าบอกนะว่าผลของมันคือการควบคุมแบบสมบูรณ์? ด้วยร่างทดลองที่ทรงพลัง มันจะก้าวเข้าสู่ระดับ 3 ได้ด้วยการผลักดันเพียงนิดหน่อย จากมุมมองของฉัน แสดงว่าเพบหนทางที่จะต่อต้านสัตว์ร้ายที่แฝงตัวอยู่ภายในได้แล้ว!
ได้ฟังดังนั้นเหม็งหยี่ก็ส่ายหน้า แต่สิ่งที่เราเข้าใจนั้น คือฐานใหญ่ไม่ได้ต้องการสิ่งนี้ พวกเขาต้องการ ‘กองทัพวันสิ้นโลก’ ที่ซึ่งพวกเขาสามารถขับเคลื่อนมันได้!