I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 592 กล้อง
บทที่ 592 กล้อง
SC:บทที่592 กล้อง
ไม่ใช่…
ได้ยินหลินเฉิงพูดเหม็งหยี่ก็ถอนหายใจเบา ถึงแม้ว่ามันจะเกี่ยวข้องกับครอบครัวเธอ แต่ฉันก็ได้คุยกับเธอมาบ้างนิดหน่อยก่อนที่เธอจะมาเป็นร่างทดลอง เธอไม่ได้อาสามาเป็นร่างทดลอง แต่เธอโดนบังคับมา…
มันก็แน่อยู่แล้ว
ฟังเหม็งหยี่อธิบายหลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะเย้ยหยั่น ฉันรู้ว่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ถึงแม้ว่านี่จะเป็นวันสิ้นโลก แต่มันก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับกองทัพที่จะหาผู้รอดชีวิตที่แข็งแรงและสุขภาพดี แต่ทำไมถึงใช้เด็กผู้หญิงที่ดูอ่อนแอแบบนี้กัน? มานี่ เด็กคนนี้มีอะไรพิเศษ? ทำไมเธอถึงเอาความด้อยกว่าเด็กสาวมาใช้เป็นเครื่องข่มเหงและหลอกล่อให้เด็กแบบนี้มาอยู่ในที่แบบนี้! พวกเขาก็คือพวกเขาฉันก็คือฉัน ฉันหวังว่านายจะไม่สับสนหรือเอาฉันไปรวมกับคนพวกนั้นนะ!
เหม็งหยี่นั้นก็ไม่ได้มีความสุขที่หลินเฉิงข่มขู่เธอแบบนั้นเสียเท่าไหร่ จะพูดแบบไม่อ้อมค้อมเลยนะ นักวิจัยอย่างเราๆน่ะ ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับร่างทดลองในด้านจิตใจหรอก! เป็นได้เพียงเครื่องมือให้กับฐานใหญ่เท่านั้น!
โอเคๆ…
เขาโบกมืออย่างใจร้อนก่อนจะมองไปยังB001 ที่นั่งเงียบอยู่ตรงมุมนั้นอีกครั้ง ก่อนจะถาม ตอนนี้ไม่มีเวลาที่จะพูดถึงสิ่งนี้แล้ว เธอควรบอกฉันว่าเธอคนนี้มีอะไรพิเศษ
เด็กสาวนั่นดูไม่มีอะไรพิเศษเลยถ้ามองด้วยตาเปล่าแต่กระนั้นเธอก็เป็นผู้รอดชีวิตที่พิเศษมากๆเมื่อวันสิ้นโลกมาถึงช่วงประมาณ 5 เดือนที่แล้ว นั่นเพราะว่าในขณะที่เหล่าผู้รอดชีวิตกำลังดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตรอด เธอก็ได้ปลุกพลังที่เกี่ยวกับความเร็วของเธอให้ตื่นขึ้น! พลังวิ่งเร็วถูกปลุกตื่นเมื่อ5 เดือนที่แล้วเหรอ?
ฟังเหม็งหยี่พูดหลินเฉิงก็พยักหน้า พวกเธอเริ่มที่จะไล่จับคนที่มีพลังตั้งแต่ช่วงต้นๆนั้น ฉันเดาได้เลยว่าพวกเธอตัดสินใจที่จะเริ่มการทดลองครั้งใหม่ด้วยการใช้มนุษย์มาเป็นร่างทดลองหลังพบว่าแผน A นั้นไม่ได้ผล ใช่มั้ย?
เธอไม่ได้ตอบกลับอะไรหลินเฉิงนั้นเดาถูกหมดแล้ว และเหม็งหยี่ก็ได้แต่ถอนหายใจอีกครั้ง หลังจากการต่อสู้มาหลายครั้ง เธอรู้สึกว่าชายตรงหน้านี้ไม่น่าจะเด็กกว่าเธอเลย แถมเธอยังเข้าใจด้วยว่าเธอนั้นเหมือนกำลังเข้าใกล้ความตายมากขึ้นเรื่อยๆขณะที่เขากำลังเล่นกับหัวใจของเธอไปด้วย!
ใช่…
เขาหยักหน้าในตอนนี้ เหม็งหยี่ตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกเล่นต่อหน้าหลินเฉิง แผน A นั้นถึงวาระที่มันเรียกว่า ยากที่จะสำเร็จแล้วตั้งแต่มันเกิดมา นอกจากนี้ พวกเราเองก็รู้เกี่ยวกับนักล่าน้อยมากๆ ในกรณีนี้สถานการณ์มันแน่นอนแล้ว ยิ่งหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ฐานใหญ่ก็ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนปัจจัยหลักให้ไปอยู่ที่ B001 แทน และงานนั้นก็ถูกมอบหมายให้กลุ่ม A เพื่อที่จะทดลองแบบลับๆ ช่างโชคร้ายจริงๆ…
ในจุดนี้เหม็งหยี่นั้นดูช่วยอะไรไม่ได้ B001 นั้นก็ไม่ได้ง่ายไปกว่าแผน A เลย เผลอๆมันจะยุ่งยากกว่าด้วย ถึงเราจะร่วมมือกันพยายามด้วยน้ำมือของนักวิจัยอย่างเราๆ แต่พวกเราก็รู้สึกได้ถึงความหวังที่เบาบางมากๆ แต่กระนั้น B001 ก็ได้กลายเป็นสิ่งที่เชิดชูเกียรติให้กับนักวิจัยทั้งหมดของกลุ่ม A จนถึงตอนนี้ เพราะการทดลองทั้ง 317 ครั้ง มีเพียง B001 เท่านั้นที่รอดชีวิต…
ผู้รอดชีวิตกว่าร้อยคนตายภายใต้การฉีดสารประกอบX เข้าไป และนี่หมายถึงเหล่านักวิจัยในกลุ่ม เป็นคนลงมือฆ่าพวกเขาเอง นักวิจัยเกือบทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาร่างกายมนุษย์ต่างก็ต้องประสบกับสภาวะจิตตกอยู่จริงจังกันถ้วนหน้า แม้แต่การนอน สิ่งที่หลายๆคนทำได้กลับกลายเป็นสิ่งที่พวกเขายากที่จะทำ…
ทำ317 คนตายหมดเลย…
หลังจากฟังเรื่องราวของเหม็งหยี่หลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะหายใจออกมาด้วยความหนาวเย็น ถึงแม้ว่าเขาจะรู้บางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่ฐานใหญ่กำลังทำ แต่เขาก็ยังไม่คิดว่าพวกผู้บริหารระดับสูงเหล่านั้นจะกล้าที่จะทำในสิ่งที่ฆ่ามนุษย์ด้วยกันเองเพื่อจุดประสงค์อันคลุมเครือเช่นนี้!
และหลังจากเหม็งหยี่พูดถึงความลับและสิ่งที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของเธอมาอย่างยาวนานเรื่องทุกอย่างที่ได้ฟังพร้อมๆกันมันแทบจะทำให้คนหนึ่งคนแตกสลายได้เลย เขายืนพิงกำแพงและมองไปยัง B001 ที่อยู่หลังกระจกบานหนานี้ เธอไม่รู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไร
กระจกนี่เปิดได้ไหม?อยากจะเข้าไปดูข้างในหน่อย
ยืนอยู่ด้านนอกกระจกหลินเฉิงก็มองไปยังเด็กสาวที่กำลังสั่นเทาจากการโดนทารุณโดยการทดลองมาอย่างเนิ่นนานก่อนจะถามเหม็งหยี่
เธออยากจะพูดแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร หลังจากระบายความลับทุกอย่างในใจออกไปมดแล้ว จิตใจเธอก็ไม่ต่างกับตายไปแล้วเช่นกัน เธอไม่จำเป็นต้องกลัวฐานใหญ่อีกต่อไป เพราะฉะนั้นเธอจึงค่อยๆพยักหน้าและหยิบเอาบัตรสีดำขึ้นมาก่อนจะเดินไปยังหลินเฉิงและแตะไปที่กระจก
*กริ๊ก-*
เพียงแค่แตะเบาๆเสียงรบกวนก็ดังขึ้นตรงหน้ากำแพงกระจกนั้น ถัดไปทางขวาของห้อง หลังจากได้ยินเสียง หลินเฉิงก็เดินตรงไปยังจุดที่มีประตูโผล่ขึ้นมาจากกระจกและเดินเข้าไปด้านใน
เหม็งหยี่นั้นกังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นเพราะงั้นหลังจากหลินเฉิงเดินเข้าไปแล้ว เธอก็ตามเขาเข้าไปติดๆ ในขณะที่เดินอยู่นั้นเธอก็พูดกับเขาด้วยเสียงเบา B001 นั้นไม่ได้พูดอะไรเลยตั้งแต่ได้รับการฉีดสารประกอบ X เข้าไปและตื่นขึ้นมา นอกจากนั้นก็แทบจะไม่ขยับเลยด้วย พวกเราทดสอบเธอไปจนหมดแล้ว และท้ายสุดพวกเราก็มั่นใจว่าเธออยู่รอด แต่ก็เหมือนว่าจะสูญเสียจิตวิญญาณไป เป็นเพียงศพที่เหมือนซอมบี้ด้านนอกนั่นแหละ…
พูดเช่นนั้นแล้วเหม็งหยี่ก็คิดถึงบางอย่างเธอวิ่งออกไปและแตะบัตรสีดำไปที่ส่วนที่ปกปิดไว้บนกำแพงเหล็ก จากนั้นกำแพงนั้นก็มีช่องว่างเล็กๆปรากฏขึ้นมา เธอยื่นมือขวาเข้าไปและกดเข้ากับปุ่มสีแดงที่ซ่อนอยู่ในกำแพงนั้น!
เธอทำอะไรน่ะ!?
เมื่อเห็นเหม็งหยี่เคลื่อนไหวหลินเฉิงผู้ที่กำลังเดินไปหา B001 ก็ขมวคดิ้วและมองตามก่อนจะตะโกนหาเธอ
ไม่ต้องกังวลน่า-
หลังจากที่กดปุ่มสีแดงไปแล้วเหม็งหยี่ก็หายใจเข้าลึกๆ มองหลินเฉิงที่กำลังมองมาที่ที่ด้วยความเครียด เธอโบกมือก่อนจะอธิบาย เพราะ B001 นั้นพิเศษ พวกเราไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานและสังเกตุเธอได้ตลอดเวลา เพราะงั้นพวกเราจึงติดตั้งกล้องไว้หลายตัวเพื่อที่จะสังเกตกาณณ์เธอแทบตลอดเวลา ถ้าเราไม่ปิดกล้องพวกนั้น เพียงไม่กี่นาที เราจะถูกห้อมล้อมโดยการ์ดเอา…
แล้วเธอจะทำแบบนั้นไปทำไมน่ะ?
ฟังเหม็งหยี่อธิบายหลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะมองบนก่อนจะพูด แล้วถ้าเธอปิดกล้องแบบนั้น นักวิจัยคนอื่นจะไม่มาเช็คหลังจากที่พวกเขาไม่สามารถดูผ่านกล้องได้หรือไง? ไม่มีใครสามารถหยุดเพื่อนร่วมทีมสุดแกร่งคนนี้ของเธอได้หรอกน่า