I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 595 แขก
บทที่ 595 แขก
SC:บทที่595 แขก
ในขณะที่ประตูเปิดเหม็งหยี่ผู้ที่อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆและหนาวสั่นไปทั้งตัวเมื่อเห็นสถานการณ์ด้านนอก ช่องว่างที่ควรจะว่างเปล่านั้น ตอนนี้เต็มไปด้วยน้ำแข็งและไอเย็น นักวิจัย 2 คนที่สวมชุดสีขาวนั้นตอนนี้กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูแล้ว 1 ในนั้นถือบัตรสีดำไว้ ซึ่งเขาและประตูอยู่ห่างกันเพียงครึ่งเมตรเท่านั้นบัตรก็จะสัมผัสประตูได้แล้ว แต่ตอนนี้เขาคงไม่มีโอกาสได้แตะบัตรนั่นอีกแล้ว
อย่ามองในเมื่อมีใครเริ่มจะเอะใจแล้วว่ามีอะไรผิดปกติ เดี๋ยวคงต้องมีใครซักคนไปที่สำนักงานของเธอเพื่อหาตัวเธอแน่ๆ ถ้าเกิดเขาหาเธอไม่เจอ และมาเจอทั้งสองคนที่อยู่ในสภาพนี้ เธอคิดว่าคนพวกนั้นจะทำยังไงล่ะ?
โดยที่ไม่มองทั้งสองที่กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งหลินเฉิงเดินไปยังประตูและเดินนำอีกฝ่ายออกไปตามทางเดินด้านนอก เขาแนบหูไปกับประตูอีกครั้งและฟังเสียงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดกับเหม็งหยี่
ได้ยินหลินเฉิงคาดเดาเหม็งหยี่ก็ช็อก นั่นก็เพราะว่ามันมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมาก่อนหน้า เธอนั้นไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนี้มาก่อนเลย ตอนนี้หลังจากเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ มันก็เป็นไปได้ว่าด้านนอกนั้นจะถูกห้อมล้อมด้วยการ์ดไปแล้ว!
เธอขมวดคิ้วและคิดหาวิธีรับมือเหม็งหยี่ที่คิดอะไรไม่ออกเอ่ยถามหลินเฉิงแบบหมดทางช่วยอีกครั้ง เราจะทำยังไงกันดี? พวกการ์ดนั่นก็แกร่งพอๆกับเจ้าหน้าที่สองคนก่อนหน้าเลยนะ พวกนี้น่าจะเก่งกว่าด้วยเพราะพวกเขาทำงานด้วยกันมานาน แล้วไหนจะจำนวน…
นั่นไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องคิด!
หลังจากที่โบกมือหลินเฉิงก็ขัดและไม่รอให้เหม็งหยี่พูดจบ สิ่งที่เธอต้องตัดสินใจตอนนี้คือ มันยังมีอะไรบ้างที่เธอต้องเอามันออกไปด้วย อย่างพวกเอกสารลับอะไรพวกนี้ ส่วนเรื่องอื่นๆเธอไม่ต้องไปคิดถึงมัน เข้าใจมั้ย?!
ของจำเป็น…ของจำเป็น…
ฟังคำพูดของหลินเฉิงแล้วเหม็งหยี่ก็พยักหน้าช้าๆก่อนจะเริ่มคิดว่าเธอมีอะไรบ้างที่จำเป็นต้องเอาออกไปด้วย
หลังจากที่คิดอยู่ครู่หนึ่งเหม็งหยี่ก็พูดขึ้นมา อ๊า! ไม่จำเป็นที่ต้องเอาอะไรไปหรอก เพราะว่าความลับทุกอย่างนั้นอยู่ในหัวฉันหมดแล้ว แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่พวกเราควรเอาไปด้วย ไม่งั้นแล้วต่อให้เราออกจากที่นี่ได้ก็จริง แต่เราจะไม่สามารถอยู่ภายในหยางจิงได้อีกต่อไป!
ได้ยินดังนั้นหลินเฉิงก็ถามด้วยความไม่เชื่อ ไอ้สิ่งที่ดูเกินจริงนั่นมันคืออะไรน่ะ?
โทรศัพท์ดาวเทียม!
เหม็งหยี่สูดหายใจแล้วพูดด้วยเสียงดัง โทรศัพท์ดาวเทียมนี้เป็นช่องทางเดียวที่นักวิจัยอย่างพวกเราใช้มันเพื่อติดต่อกับฐานใหญ่ ตราบใดที่เราเอามันไปด้วย ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่จะไม่รู้ไปถึงหูฐานใหญ่ในเวลาสั้นๆ และนั่นจะทำให้เราซื้อเวลาได้เพียงพอที่จะออกไป!
บ้าเอ้ยนี่มันเหมือนแบบเดิมเลยนี่หว่า!
ฟังคำตอบของเหม็งหนี่เสร็จหลินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะบ่นเรื่องนี้เพราะนั่นมันคือเหตุการณ์ที่เขาเกือบจะตายแล้วในตอนที่เขากลับไปช่วยฟ่างซิ่วเฉิงเพื่อหาโทรศัพท์ดาวเทียม สิ่งนี้มันทำให้เขารู้สึกได้ถึงจุดที่เปรียบเสมือนเงามืดในใจตนเอง หลังจากนั้น ไม่ว่าเขาจะเป็นคนที่รุนแรงขนาดไหน แต่เขาก็ไม่สามารถต้านสภาพอากาศที่เลวร้ายได้
เข้าใจแล้ว!
ด้วยความช่วยอะไรไม่ได้ก่อนจะถอนหายใจออกมาหลินเฉิงพยักหน้าและมองตรงไป เขาจับมือจับประตูที่จะพาไปสู่ข้างนอกก่อนจะพูดกับเหม็งหยี่ จากตอนนี้ ตามฉันให้ดีๆ ถ้าเธอล้มอยู่ข้างหลัง ฉันไม่สามารถกลับไปช่วยเธอได้ รู้ใช่มั้ย? ฉันรู้…
สำหรับสิ่งที่หลินเฉิงพูดนั้นเหม็งหยี่ไม่ได้สงสัยอะไรเลย เธอรีบพยักหน้าและพูดออกไปว่าเธอจะตามเขาไป
เมื่อเห็นเหม็งหยี่พยักหน้าหลินเฉิงเองก็พยักหน้าช้าๆ จากนั้นด้วยมือที่แข็งแกร่ง เขาก็เปิดประตูออกไปทันที!
หือ?
หลังจากที่ประตูถูกเปิดดูเหมือนสิ่งที่หลินเฉิงคิดไว้มันจะไม่เกิดขึ้น เส้นทางที่มีกระจกห้อมล้อมสองฝั่งนั้นยังคงโล่ง และพวกนักวิจัยภายในแล็บทั้งสองฝั่งเองก็ยังง่วนกับงานทดลองของตัวเองอยู่ ดูเหมือนว่าคนพวกนี้จะยังไม่รับรู้ถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในสถาบันวิจัยแห่งนี้เลย
เขาไม่คิดหรอกว่านี่มันถูกต้องแล้วหลินเฉิงกระชับเชือกที่คล้องเอวไว้เพื่อจัดให้ชิงหยาอยู่บนหลังเขาอีกครั้ง จากนั้นก็ทำท่าทางให้เหม็งหยี่ตามเขามาและค่อยๆเดินไปยังสำนักงานของเธอ เมื่อมาถึงสำนักงานของเหม็งหยี่ได้หลินเฉิงก็หยุดและยืนอยู่ห่างจากประตูถึง 2 เมตร เขาขมวดคิ้วก่อนจะคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ยิ้มออกมาและพูด มันน่าสนใจไม่น้อยเลยนี่นา…
ทำไมถึงบอกว่าน่าสนใจล่ะ?
รอยยิ้มแปลกๆของหลินเฉิงนั้นทำเอาเหม็งหยี่งงไปหมดแล้วในตอนนั้นจากการที่นักวิจัยทั้งสองปรากฏตัว เขาก็พบแล้วว่าหลายๆอย่างที่คิดไว้มันเบี่ยงไปหมด และกลายเป็นสถานการณ์ที่เดาไม่ได้แทน
เขาไม่ได้ตอบคำถามเธอหลินเฉิงมองซ้ายมองขวาเพื่อสังเกตการณ์ และทันใดนั้นเขาก็ก้าวเท้าเพื่อจะเดินไปยังสำนักงานเลย
รอก่อน!
มองหลินเฉิงยกเท้าเหม็งหยี่ก็งงไปหมด เธอรีบวิ่งไปหาเขาและห้ามไว้ก่อนจะถาม นายจะทำอะไรน่ะ? ไม่ใช่ว่านายกำลังระมัดระวังตัวเองอยู่หรือไง? ทำไม… ฉันบอกเธอไปว่าอะไร?
เมื่อโดนเหม็งหยี่หยุดหลินเฉิงก็จ้องไปที่เธอ แค่ตามมาดีๆก็พอ นอกนั้นไม่ต้องทำอะไร! ไปเปิดประตูเร็วๆ อย่าให้แขกของเรารอนาน…
แขก?
ได้ยินดังนั้นเหม็งหยี่ก็ช็อกก่อนจะคิดเรื่องที่หลินเฉิงรู้ว่ามีใครอยู่ในสำนักงานของเธอมานานแล้ว!
เมื่อรู้ว่ามีคนอยู่ในสำนักงานของเธอเหม็งหยี่ก็เกิดกังวลขึ้นมาแบบสุดๆ หลังจากที่หลายสิ่งหลายอย่างมันเกิดขึ้น เธอคิดมาตลอดว่าที่นี่มีเพียงเธอและอีก 2 คนนั้นจนแทบจะลืมไปแล้วว่ายังมีคนอื่นอีกยกเว้นการ์ด!
แต่เมื่อเธอได้คิดว่ามีใครซักคนอยู่ภายในสำนักงานของเธอที่ซึ่งอาจจะเป็นการ์ดเหม็งหยี่ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่รีบที่จะออกมาจับพวกเธอแต่เลือกที่จะอดทนรออยู่ในสำนักงานอย่างใจเย็นแทน?
หลังจากคิดเรื่องนี้เหม็งหยี่ก็เข้าใจในท้ายสุดว่าทำไมหลินเฉิงถึงพูดออกมาแบบนี้ ตลอดมานั้นหลินเฉิงจะแสดงปฏิกริยาเกี่ยวกับการ์ดออกมาด้วยประโยคเดียวตลอด และประโยคนั้นก็คือ ‘น่าสนใจจริงๆ’!
เมื่อรู้ถึงเหตุและผลอย่างชัดเจนแล้วเหม็งหยี่ก็ตัดสินใจ นั่นคือ ไม่ว่าหลินเฉิงจะทำอะไร เธอจะไม่ถามอะไรอีก!
*ติ๊ด*
แตะบัตรผ่านเข้าไปที่ประตูหลังจากที่ได้ยินเสียงประตูเปิด หลินเฉิงก็ประคองชิงหยาที่หลังไว้ให้มั่นก่อนจะเดินเข้าไปในสำนักงานเลย!
นี่อะไรน่ะ?ถ้าฉันมองไม่ผิดนั่นมันผู้ชายไม่ใช่เหรอหัวหน้า!
ใช่แล้วมีผู้หญิงเกาะหลังมาด้วย พ่อหนุ่มนี่เข้ามาช่วยโฉมงามหรือไงน่ะ?
ใช่มั้ย?ในขณะที่พวกเราเข้ามาเพื่อปกป้องสาวงามเข่นกัน แล้วอย่างงี้ตัวตนของผู้อำนวยการเหม็งจะเป็นอะไรกันล่ะ?
น่าสนใจน่าสนใจ…
ทันทีที่เข้าประตูมาหลินเฉิงนั้นไม่ได้สนใจมองสิ่งต่างๆที่อยู่ในนั้นเลย แต่กระนั้นเขาก็ได้ยินเสียงหยอกล้อมากมายอยู่ภายใน!
ได้ยินดังนั้นหลินเฉิงก็ขมวดคิ้วและมองไปยังพวกเขาอยู่ครู่หนึ่งและเขาก็พบเพียงชายรูปร่างแข็งแรงกว่า 10 คนกำลังนั่งอยู่ภายในสำนักงานเล็กๆนี้ พร้อมกับมองมายังเขาด้วยสีหน้าเยาะเย้ยด้วย!