I have a capsule system at the end of the world – ผมมีระบบแคปซูลในวันสิ้นโลก - บทที่ 599 เงา!
บทที่ 599 เงา!
SC:บทที่599 เงา!
เมื่อหลินเฉิงผู้ที่ซึ่งไม่ได้ทำทุกอย่างตามสัญชาติญาณขั้นพื้นฐานถูกบังคับให้ต้องหนีออกจากฐานนี้ เธอก็ยินยอมที่จะให้ชิงหยาออกไปด้วยโดยที่ไม่คัดค้านอะไร เพราะในความเห็นของเธอ ถึงแม้ว่าชิงหยาจะไม่มีสติเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่เธอก็สามารถรอดมาได้ ถ้าสามารถพาเธอออกไปจากสถาบันวิจัยนี่ได้ เธอก็เหมือนได้ชดใช้หนี้บาปส่วนหนึ่งที่ได้ก่อขึ้นมาอย่างมากมาย!
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ชิงหยาเป็นคนแรกที่สามารถรอดมาได้หลังจากได้รับสารประกอบX เข้าไปแล้ว ถึงแม้ว่าเธอตั้งใจจะแตกหักกับสถาบันวิจัยแห่งนี้ไปเรียบร้อยแล้ว เป้าหมายของเธอก็ยังคงไม่เปลี่ยน นั่นคือทำอะไรก็ได้ที่มันจะช่วยเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ และชิงหยาก็เป็นกุญแจสำคัญสำหรับสถานการณ์ในตอนนี้! หลังจากที่หลินเฉิงและเหม็งหยี่นั้นง่วนอยู่กับการหาตัวชิงหยาอยู่เฉินชิงก็ได้รับการเยียวยาบาดแผลจากคนอื่นเรียบร้อยแล้ว เขามองไปยังอีกฝ่ายที่ทำให้เขาเจ็บ ที่ซึ่งไม่ได้ตามเข้ามาโจมตีเขาซ้ำแต่เลือกที่จะไปหาอะไรซักอย่างแทน มันก็ทำให้เขารู้สึกโกรธสุดๆจนไม่สามารถทำยืนแบบไม่สนใจได้!
เหตุผลที่หลินเฉิงไม่วิ่งเข้าหาเขาอีกครั้งหลังจากต่อสู้กันไปนิดหน่อยนั่นก็เพราะเขาสามารถระบุพลังของอีกฝ่ายได้แล้วมันไม่ได้โอ้อวดเกินไปหากจะพูดว่า หากเขาต้องการที่จะฆ่า เขาก็สามารถฆ่าพวกการ์ดเหล่านี้ได้ใน 10 นาทีเท่านั้น!
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้หลินเฉิงนั้นสนใจชิงหยามากกว่าสิ่งใด แม้ว่าความลับของเด็กสาวนั้นจะไม่ได้ช่วยอะไรเขา แต่ตาเฒ่าฟ่างซิงเฉิงนั้นอาจจะเป็นกุญแจลับดอกสุดท้ายที่จะช่วยแก้ปัญหาลึกลับเกี่ยวกับวันสิ้นโลกนี่ได้ก็ได้!
และนี่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจที่จะพาสองสาวนี้ไปกับเขาด้วยชิงหยานั้นไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลย เธอนั้นสำคัญสำหรับคนอื่นเพราะงั้นต้องช่วยเธอปลูกจิตสำนักให้ได้ก่อน
ถึงแม้ว่าหลินเฉิงนั้นเป็นพวกเห็นแก่ตัวที่ซึ่งไม่แยแสอะไรทั้งสิ้นแต่เขาก็ยังอยากจะทำสิ่งนี้ นั่นก็เพราะว่าเขาเองก็ยังเป็นมนุษย์ เป็นชายที่อยู่มามากกว่า 20 ปีและเสียบ้านไปในตอนจบ!
ส่วนเหม็งหยี่นั้นก็สำคัญไม่แพ้กันถึงแม้ว่าเธอจะบอกความลับทุกอย่างที่อยู่ในใจไปหมดแล้ว แต่บางอย่างในความทรงจำของเธอนั้นยังมีค่าสำหรับหลินเฉิง ถึงจะโผลผางไปบ้าง แต่ผู้หญิงคนนี้เป็นจุดสำคัญที่ทำให้เขาตัดสินใจได้ว่าเขาจะไปได้ไกลกว่านี้อีกเท่าไหร!
เอาล่ะไม่ต้องรีบหานักหรอก ดูเหมือนว่าจะต้องจัดการศัตรนี่ก่อน!
เมื่อเห็นเหม็งหยี่ที่ซึ่งกำลังมีสภาพกระวนกระวายเหมือนแม่ที่พลัดหลงกับลูกหลินเฉิงก็ช่วยไม่ได้ เขาถอนหายใจและดึงเธอมาพูด
แต่…แต่…
หลังจากที่เธอโดนหลินเฉิงดึงมาเหม็งหยี่ก็ไม่สามารถต่อต้านเขาได้แม้เธอจะอยากไปหาอีกรอบก็ตาม เธอทำได้แค่มองเขาอย่างกระวนกระวายและเอ่ยถาม ในเมื่อนายตัดสินใจที่จะพาเธอออกมาแล้ว แสดงว่านายต้องมีเหตุผลสำคัญบางอย่างใช่มั้ย? แล้ว เอ่อ…ไม่ใช่ว่านายกำลังรีบเหรอ?
รีบที่ว่านั่นหมายถึงอะไรน่ะ?อีกอย่างที่นี่เองก็ออกจะกว้างใหญ่ เธอจะวิ่งไปไหนก็ได้
ได้ยินดังนั้นหลินเฉิงก็ส่ายหน้าแบบไม่สนใจอะไรอย่างที่เขาพูด ถึงแม้ว่ากำแพงแก้วรอบๆนี้จะถุกกระแทกจนแตก แต่แล็บทดลองด้านในก็ปิดสนิทกันหมด เว้นแต่สำนักงานของเหม็งหยี่ที่ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะออกไปทางนั้น
อย่าให้ฉันได้ยินเสียงของไอ้หมาติดสัดทั้งสองตัวนี้อีกจับพวกมันมาให้ฉันให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็ตาม!
เมื่อเห็นหลินเฉิงไม่ได้สนใจพวกเขาในตอนนี้เฉินชิงก็สะบัดแขนข้างที่เจ็บเพื่อดูว่าอาการดีขึ้นไหม เมื่อเขาคิดว่ามันโอเคแล้วเขาจึงยืนขึ้นและสั่งการให้พวกคนที่อยู่ฝั่งเขาจัดการอีกฝ่าย!
ไปเร็วไปเร็ว!
ไอ้พวกเด็กเวรนี่คิดว่าจะทำอะไรพวกเราได้หรือไง! ต้องสั่งสอนกันหน่อยแล้ว!
2กับ 3 ไปจัดการคนที่อยู่ทางขวา ส่วนฉันจะไปจัดการคนทางซ้ายเอง ห้ามปล่อยให้มันรอดไปได้นะ!
ฟังเฉินชิงสั่งเหล่าคนที่โกรธแค้นจากการโดนฝนน้ำแข็งมาก่อนหน้าก็พยักหน้าพร้อมๆกันก่อนจะวิ่งจัดขบวนไปยังหลินเฉิงทันที!
*ซูม!-*
*ฉั้ว!*
ในตอนที่การ์ดนั้นกำลังจะเข้าถึงหลินเฉิงเสียงของอะไรที่บางเบาก่อนจะตามด้วยบางสิ่งบางอย่างที่หนักหน่วงก็ดังขึ้นรอบๆตัวพวกเขา จากนั้นการ์ดที่อยู่ซ้ายสุดก็รู้สึกว่าข้อมือของเขามันเย็นลง และเมื่อก้มลงไปก็พบว่ามือซ้ายของเขานั้นขาดและร่วงลงไปกองกับพื้นแล้ว!
อ๊ากกกกกกกกกกกก!!
เสียงกรีดร้องจากความเจ็บปวดนั้นทำเอาทุกคนต้องหันไปมอง
ขบวนการ์ดที่จัดกันไว้นั้นหยุดชะงักลงอีกครั้งเมื่อเห็น1 ในพวกพ้องล้มลงไปนอนกองกับพื้น พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงทำได้แค่มองไปยังหลินเฉิงที่ซึ่งกำลังมองมายังการ์ดที่ล้มลงไปนอนกับพื้นอยู่ และนั่นทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าต่อแม้แต่ก้าวเดียว!
ในขณะเดียวกันหลินเฉิงนั้นก็งุนงงไม่แพ้กัน หลังจากที่เห็นท่าทีของพวกการ์ด เขาก็พร้อมที่จะจัดการคนเหล่านี้โดยตรงแล้ว แต่เพียงแค่คิด ยังไม่ได้ทำ 1 ในการ์ดเหล่านั้นก็ลงไปนอนกับพื้นพร้อมกับแขนซ้ายที่ขาดออกมาแล้ว!
บรรยากาศรอบๆนั้นเริ่มเปลี่ยนไปมันดูแปลกนิดๆหน่อยๆ พวกการ์ดเหล่านั้นต่างยังคงคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นฝีมือของหลินเฉิง เพราะงั้นตอนนี้พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรง่ายๆ ส่วนหลินเฉิงเองก็ยังขมวดคิ้วและคิดตามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
*ฟู่ว-*
*ฟู่ว-*
ขณะที่หลินเฉิงกำลังทำสมาธิบางสิ่งบางอย่างก็ขัดความคิดเขาขึ้นมา ในขณะเดียวกันเขาก็เข้าใจทุกๆอย่าง!
เอาจริงดิ?
หลังจากที่คิดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้หลินเฉิงก็เดินไปรอบๆอย่างแปลกใจอยู่หลายครั้ง เขาไม่เคยเห็นความเร็วระดับนี้มาก่อน แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่ได้เร็วถึงขนาดนี้ ในตอนที่สถาบันวิจัยจับเอาคนที่มีความสารมารถเกี่ยวกับความเร็วมา มันเป็นไปได้ที่เธอนั้นปลุกความสามารถนี้มาได้ตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกของวันสิ้นโลกแล้ว ใช่! เธอนั่นแหละ! ชิงหยา เด็กสาวผู้ที่มีความสามารถในเรื่องความเร็วผู้ที่ซึ่งได้รับสารประกอบ X เข้าไปในภายหลัง!
เกิดอะไรขึ้นน่ะ?
เมื่อรับรู้ได้ถึงความแปลกประหลาดบนสีหน้าของหลินเฉิงเหม็งหยี่ก็อดที่จะถามออกไปไม่ได้ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับคนพวกนี้? ทำไมพวกเขามองมาที่นายแบบนั้น?
พูดออกไปก่อนจะมองห่างออกไปไม่กี่เมตรจากหลินเฉิงบนใบหน้าของผู้คนที่กำลังตื่นกลัว
เขาส่ายหัวช้าๆโดยที่ไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงแค่ขมวดคิ้วและใช้สัมผัสที่ 6 แบบถึงขั้นสุดเพื่อที่จะลองจับตำแหน่งชองชิงหยาดู
หือ!?
ครู่หนึ่งต่อจากนั้นหลินเฉิงผู้ที่ท้ายสุดก็สามารถรู้ตำแหน่งของชิงหยาก็ได้ก็ต้องตกใจเพราะเมื่อเขาจับตำแหน่งเธอได้ เขาก็พบว่าเฉินชิงคือ 1 ในคนที่โดนชิงหยาโจมตีด้วย!
ในตอนนี้เฉินชิงไม่ได้รู้เลยว่าตัวเขานั้นกำลังจะเผชิญหน้ากับหายนะครั้งใหญ่เขานั้นโกรธมากๆและตะโกนออกไปท่ามกลางความวุ่นวาย ทำบ้าอะไรกันอยู่วะเนี่ย! ก็แค่แขนขาดจะกลัวอะไรกันนักหน้า! รีบๆไปเอาตัวมันมา…
เฉินชิงรู้สึกได้ถึงหัวใจที่กำลังหนาวสั่นจากนั้นเขาก็รีบพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและหันมองไปรอบๆ เพื่อที่จะหาตัวการและจ้องตาเจ้าสิ่งนั้นไว้
แต่พอเหลือบมองแล้วเฉินชิงก็พบว่าไม่มีอะไรอยู่ในนั้นทั้งสิ้น นั่นจึงทำให้เขาเริ่มประหลาดใจแล้วว่า หรือสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นภาพลวงตา?