I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี - ตอนที่ 157
Chapter 157 – การสลายของพายุ
ในวันพุธหัวข้อใหม่ของรายการ Sophia Talk Show ก็ได้ออกอากาศอย่างเป็นทางการ แขกรับเชิญเดิมคือนักรักบี้ที่โด่งดัง แฟนรักบี้หลายคนนั่งอยู่ทีวีและตั้งตารอให้ไอดอลของตัวเองโผล่มา เมื่อพบว่าแขกรับเชิญนั้นถูกแทนที่ด้วยผู้กำกับหนุ่ม เอริควิลเลียม แฟนบางคนถึงกับโทรมาที่สถานีเพื่อสอบถามเรื่องนี้
แต่พวกคนดูอื่นไม่ได้เรื่องมากนักและพวกเขาก็พอใจกับเรื่องน่าแปลกใจนี้ ยังไงซะชื่อเสียงของ เอริค ก็เอานักรักบี้มาเทียบไม่ได้
“ ว๊าว ฉันคิดว่ามันเหมือนกับการดวลปืนเลย มันดีชะมัด “
……
“ มุขของ เอริค นี่ตลกจริงๆ โจรเล่นโปกเกอร์กับทีมสวาท ฮาฮา ….”
…… STOLEN FROM FIZZHAZ
“ ดรูวส์ นี่ไม่ได้โผล่มาตั้งแต่ 17 Again สื่อเองก็ไม่ค่อยให้ข่าวเธอเท่าไหร่ด้วย “
……
“ เอริค นี่น่ากลัวจริงๆตอนเขาโกรธ เขาไม่ได้ดูเหมือนคนเดียวกันเลยสักนิด “
“ มันไม่น่าแปลกใจหรอกเพราะเขายังเด็กและเขาต้องการให้ลูกน้องของเขาเชื่อฟัง เขาไม่ได้ผิด “
…
การพูดคุยแบบนั้นเกิดขึ้นที่หน้าทีวีของบ้านนับหมื่นหลัง จำนวนผู้ชมที่เป็นวัยรุ่นเพิ่มขึ้นอย่างมากเพราะนี่เป็นวันหยุดช่วงหน้าร้อนและชื่อเสียงของ เอริค ในหมู่วัยรุ่นก็สูงกว่าดาราหลายคน ยังไงซะเพราะเป็นรุ่นเดียวกัน ถ้าพวกเขาอยู่ใกล้กันมันอาจจะมีความอิจฉาและเกลียดอยู่บ้างแต่เพราะอยู่ไกลกันสิ่งที่ เอริค ได้รับคือความเคารพ ดังนั้นวัยรุ่นหลายคนจึงมาดูรายการทีวีที่ เอริค ออกรายการและพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะบอกเรื่องนี้ต่อกับเพื่อนตัวเองเพื่อให้ดูรายการนี้
ชื่อเสียงของ Sophia Talk Show นั้นเทียบกับ Oprah Talk Show ไม่ได้ซึ่งรายการนี้คงอยู่ได้แค่ไม่กี่ปีแต่รายการหลังในแต่ละตอนก็มีคนดูโดยเฉลี่ยที่ 11 ล้านคนและฮิตติดลมไป รายการแรกนั้นมีคนดูเฉลี่ยแค่ 4 ล้านคน
ตอนเริ่มต้นรายการคนดูอยู่ที่ 4.2 ล้านแต่เมื่อออกอากาศไปคนดูก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจากจบรายการ 40 นาที จำนวนคนดูก็หยุดอยู่ที่ 7.5 ล้านคน เกือบสองเท่าจากเดิม หลังจากที่รายการจบ โทรศัพท์ของสถานีนั้นแทบระเบิด
“ ถ้าโปรโมตก่อนหนึ่งอาทิตย์ เรตติ้งแน่นอนว่าต้องเกิน 10 ล้าน “ – หลังจากที่ดูสถิติแล้ว ผู้บริหารของสถานี CBS ก็พูดด้วยความเสียดาย
ผู้ชมกว่า 70% ที่โทรเข้ามาอยากให้ฉายรายการซ้ำให้เร็วที่สุด ส่วนคนอื่นให้เหตุผลต่างๆนาๆอีก 30% บางคนหวังว่าทีมงาน Running Out of Time จะมาออกรายการด้วยกันและบางคนอยากเห็น ดรูวส์ กับ เอริค มารายการด้วยกันและคนจำนวนมากขอให้ปล่อยวิดิโอนั้นวางขายสู่ท้องตลาด
ฝ่ายจัดของ CBS ได้รับข้อเสนอของผู้ชมและส่งข้อมูลนี้ให้กับ Columbia และ Firefly ในเวลาเดียวกันก็บอกกับสื่อว่าส่งคำร้องให้กับ เอริค, ดรูวส์ และทางหนังแล้ว ทาง Columbia ดีใจกับผลของมันอย่างมากแต่สุดท้าย เอริค และคนอื่นๆก็ปฏิเสธข้อเสนอนี้
ถ้าไม่ใช่เพราะกำจัดข่าวลือ เอริค คงไม่โผล่ไปในรายการทีวี เมื่อ เอริค ปฏิเสธ แน่นอนว่า ดรูวส์ คงไม่ไปออกรายการแน่
ตัวแทนของ ครูส กับ แฮงค์ เองก็รู้สึกว่าชื่อเสียงของรายการนี้ไม่ได้ดีเท่าไหร่และไม่สมกับชื่อเสียงของดาราทั้งสองแต่ บรูกชีลล์ ดีใจอย่างมาก เพราะ Running Out of Time ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนในอาชีพนักแสดงของเธอแต่ CBS ซึ่งถูก เอริค และ ทอม ทั้งสองปฏิเสธนั้นรไม่ได้น่าสนใจ ดาราคนอื่นๆไม่ได้ไปด้วยและการที่ บรูก ได้รับเชิญนั้นก็ทำให้เธอคึกขึ้นมาเล็กน้อย ยังไงซะ บรูก ก็ได้เล่นในหนังนี้ไม่กี่นาที ดังนั้นแม้ว่าชื่อเสียงของรายการนี้ไม่ได้สูงกว่า Oprah Show แต่ทาง CBS ก็ถือว่าเป็นสถานีทั่วประเทศและพวกเขาก็ยังไม่ได้อยู่ในจุดที่หมดหนทางด้วย
แม้ว่าคำเชิญจะถูกปฏิเสธแต่ CBS ก็รีบหาทางอื่นทันที เมื่อ เอริค ถ่ายทำรายการ พวกเขาก็มีเนื้อหากว่า 2 ชม.ทั้งๆที่รายการออกอากาศแค่เพียง 40 นาทีเท่านั้น
ผลก็คือ CBS ได้ทำการตัดต่อเนื้อหาสองชั่วโมงที่ว่าให้กลายเป็นตอนที่หนึ่งและสองซึ่งเอาไว้เล่นระหว่างสองวันต่อไป เพราะความสนใจในคืนนั้น วันต่อมาเรตติ้งของตอนตัดต่อใหม่ก็สูงถึง 9 ล้านและเมื่อตอนสุดท้ายออกฉายในวันศุกร์ เรตติ้งก็เพิ่มข้นกว่า 10 ล้านและสูงขึ้นถึง 12 ล้านด้วย
รายการประจำวันนั้นมีเรตติ้งที่ 10 ล้านซึ่งถือได้ว่าเป็นรายการที่ดีที่สุดของพวกเขา Oprah Talk Show นั้นคือผลลัพธ์ของการทุ่มเทของงานมากกว่า 20 ปี
เพื่อให้ผลลัพธ์นี้คงอยู่ต่อไป CBS ได้ยกเลิกหลายรายการที่ถ่ายทำไปแล้วและใช้เงินไปจำนวนมากเพื่อเชิญแขกรับเชิญชื่อดังเพื่อพยายามแข่งกับ Oprah Show แต่สุดท้ายพวกเขาก็พบกับความผิดหวัง อย่างที่ เอริค ได้ตัดสินเอาไว้ ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของรายการนี้ก็คือตัวพิธีกรเอง เธอไม่ใช่ว่าดีไม่พอแต่บุคลิกของเธอนั้นไม่เหมาะกับการเป็นพิธีกรในรายการแบบนี้
ดังนั้นหลังจากอาทิตย์ที่สอง เรตติ้งของรายการที่เคยสูงราวกับเวทย์มนต์ก็ต่อยๆลดลงช้าๆ สุดท้าย CBS ก็ต้องยอมแพ้ ตอนรายการที่ เอริค เข้าร่วมกลายเป็นตอนที่มีคนดูมากที่สุด โซเฟียร์ เองก็พยายามในตอนต่อไปแต่สุดท้ายเรตติ้งก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมาอีก
เรื่องพวกนี้คงจะเป็นที่พูดถึงในภายหลัง พายุสำหรับคำถามที่เอาผู้กำกับคนอื่นมากำกับ Running Out of Time ได้หายไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่รายการของ CBS ออกฉาย ยังไงซะรายการก็ออกอาการไปแล้วโดยเฉพาะสองตอนที่ตัดต่อไปซึ่งได้ฉายวิดิโอของเขากว่า 20 นาทีจากที่ เอริค อยู่ในฉากกับนักแสดงและรายละเอียดการถ่ายทำต่างๆ หลังจากที่แสดงองค์ประกอบต่างๆของหนังให้กับทุกคนได้ดู มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะตัดต่อวิดิโอนี้ขึ้นมา ดังนั้นคำถามตอนนี้คือผู้ชมจะมีความฉลาดกันแค่ไหน
สำหรับ จอร์จนอร์ทเทิน หลังจากที่รายการ Sophia Talk Show ออกอากาศ เขาก็ไม่ได้โผล่หน้าออกมาอีกเพราะทาง Columbia ได้กดดันนิตยาสาร Premiere และทำให้เขาต้องโดนไล่ออก ยังไงซะหัวข้อของ จอร์จ ก็เกือบทำให้ทาง Columbia ต้องขาดทุน ถ้า Columbia ไม่ทำอะไร มันก็เหมือนกับพวกเขายอมให้โดนรังแกง่ายๆ
แม้ว่าค่ายหนังอื่นๆจะแอบชมหัวข้อของ จอร์จ ที่โจมตี Columbia แต่พวกเขาไม่ต้องการให้ผลของมันมาตกที่ตัวพวกเขาเองในอนาคต ดังนั้น จอร์จ จึงถูกแบนจากค่ายหนังใหญ่ทั้งหก