I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี - ตอนที่ 161
Chapter 161 – Flower Films
“ เอริค นายต้องการจะบอกอะไรกับฉัน ?” – นิโคล ล้างจานเสร็จแล้วกลับมาที่ห้องนั่งเล่นและพบว่า เอริค นั้นยังไม่ได้ไปทำงานตามปกติแต่ยังคงนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่เดิม เด็กสาวจึงรู้ว่าเขารอเธออยู่
เอริค ส่งสัญญาณให้เธอนั่งลงฝั่งตรงกันข้ามและพูดขึ้นมา – “ Sleepless in Seattle น่าจะเริ่มถ่ายตอนเดือนกันยายนและฉันก็เริ่มีเวลาเหลือไม่มากแล้ว ดังนั้นฉันคิดว่าเราควรที่จะพูดเรื่องเกี่ยวกับหนังกัน “
เธอพยักหน้าแล้วมองไปที่ เอริค รอให้เขาพูดต่อ
“ นี่มันก็ 2 เดือนแล้ว ดังนั้นฉัดคิดว่าเธอก็คงท่องบทหนังได้ขึ้นใจแล้ว มาคุยกันเรื่องความเข้าใจบทกัน “ – เอริค วางหนังสือพิมพ์กลับลงไปที่โต๊ะและแสดงท่าทีผ่อนคลาย เขาเงยหน้าขึ้นมา นิโคล และถามคำถถามที่ปกติมักจะถามตอนออดิชัน
ระหว่างสองเดือนมานี้ นิโคล จำบทของเธอใน Sleepless in Seattle ได้จริงๆและเมื่อได้ยินคำถามของ เอริค เธอก็คิดเล็กน้อยและตอบกลับมา – “ ฉันคิดว่าจุดเด่นของ แอนนี่ คือเธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนไหว นี่คือองค์ประกอบสำคัญของเรื่องนี้ หลังจากที่เธอได้ยินเรื่องของตัวหลักจากรายการวิทยุ เธอก็บินจากซีแอตเทิลมาเพียงลำพังเพื่อมาพบ แซม เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้แต่ในหนังรึความฝัน เธอเลิกกับคู่หมั้นตัวเองและวิ่งขึ้นมาที่ชั้นบนสุดของตึกเอมไพร์สเตรท “
“ มันฟังดูเหมือนเธอไม่ค่อยชอบตัวนางเอกเท่าไหร่นะ ?” – เอริค ยิ้มแล้วถามออกมา
นิโคล เลียปาก ในฐานะคนฉลาด นิโคล นั้นได้แต่หงุดหงิดถ้าเจอคนแบบ แอนนี่รีด เข้าแต่เธอฉลาดพอที่จะตอบคำถามของ เอริค ออกมาตามตรงแทนที่จะใช้อารมณ์ –“ มันไม่ได้เกี่ยวกับการที่ฉันจะเล่นบทนี้ไม่ได้ “
เอริค ยักไหล่แล้วยื่นหนังสือพิมพ์ในหน้าที่เขาอ่านเรื่อง When Harry Met Sally – “ ดูนี่สิ ฉันเห็นดาราหญิงที่ซึ่งเหมาะกับบทมากกว่าเธอ คนที่แสดงคือ เม็กไรอัน “
มือของ นิโคล ที่วางไว้ที่หน้าตักนั้นดูสั่นเล็กน้อยและเธอก็ได้เงยหน้าขึ้นมองสีหน้าของ เอริค มันไม่ได้มีข้อมูลอะไรบ่งบอกออกมาเลย เธอทำได้แค่รับหนังสือพิมพ์ไปและรีบอ่านเรื่อง When Harry Met Sally
จากนั้น เอริค ก็ได้อธิบาย – “ ผลของหนังก็ถือว่าดี รายได้ของ เม็กไรอัน ที่ไม่ค่อยโด่งดังก็เพิ่มมากขึ้น ถ้าฉันเรียกเธอมาเล่นเป็นตัวหลักใน Sleepless in Seattle ได้ มันก็จะเป็นเหมือนการสร้างเนื้อเรื่องโยงกับ When Harry Met Sallly ในปีใหม่และมันก็จะส่งผลต่อรายได้ของหนัง “
“ ฉะ….ฉันเซ็นสัญญาไปแล้ว “ – นิโคล ค้านขึ้นมาแต่ไม่ค่อยมีความมั่นใจมากเท่าไหร่
“ แน่นอน ฉันไม่ได้บอกว่าฉันต้องการจะเปลี่ยน ฉันแค่บอกเธอถึงความเป็นไปได้ “ – เอริค พูดขึ้น – “ ถ้าการแสดงของเธอทำให้ฉันพอใจไม่ได้ มันก็ประกาศชัดในสัญญาแล้วว่าฉันมีอำนาจในการเปลี่ยนตัวหลักได้แต่ฉันเชื่อว่าเธอมีแวว ดังนั้นฉันจะให้โอกาสเธอ “
ในความจำของเขา นิโคล เล่นเป็นผู้หญิงงี่เง่าในหนังเรื่อง Bewitched ในปี 2005 อิสซาเบล ที่ นิโคล เล่นบทนี้ได้รับความสำเร็จอย่างมากและเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเธอมาเป็นสาวสุดเซ็กซี่และมีเสน่ห์แต่บทของหนังนั้นดูซับซ้อนเกินไปและมีช่วงดีๆน้อยด้วยซึ่งสุดท้ายก็ส่งผลให้หนังล้มเหลว ยิ่งกว่านั้นตัวละครหลัก วิลฟาเรล ก็ด้อยกว่า นิโคล มากในการแสดง เดาได้ว่าเขาไม่คิดที่จะเล่นบทนี้อยู่แล้วแต่ตัวแทนของเขาแย่งบทนี้มาจาก ทอมครูส จากที่หลายคนคิดว่ามันมีการทะเลาะกันเพราว่า ครูส เองก็ไปรับบทผู้จัดการใน Sweetheart Mister แม้ว่ามันจะเป็นผุ้จัดการทีมก็ตาม
“ …ขอบคุณ “ – ในตอนที่ได้ยินคำพูดสุดท้ายของ เอริค เธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ มาคุยเรื่องอื่นกัน เธออยู่บ้านฉันมาสองเดือนแล้ว มันได้เวลาที่จะออกไปแล้ว “
“ อ่ะ มัน …ไม่ใช่ว่าต้องอีกเดือนรึไงก่อนที่นายจะไล่ฉันออก ? “ – เธอเงยหน้าขึ้นมาและแม้ว่าเธอจะลบสีหน้าของตัวเองไม่ได้แต่มันก็อึดอัดเล็กน้อยเพราะเธอรู้ว่าการที่เธอได้บทนี้มานั้นเธอต้องทำงานเป็นแม่บ้านให้กับ เอริค สักพัก มันยังมีเวลาอีก 1 เดือน ถ้าอีกฝ่ายไล่เธอออกไป เธออดคิดไม่ได้ว่าจะโดนยึดของที่ได้มากลับคืน
เอริค ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้รู้สึกอึดอัดแต่เขาก็อธิบายออกมา – “ ต้นเดือนหน้า Sleepless in Seattle จะเริ่มเตรียมอย่างเป็นทางการแล้วและยังมีข้อมูลที่เผยออกมาให้สื่ออย่างนักแสดงนำ ถึงเวลานั้นสื่อก็จะสงสัยว่าเธอเป็นใคร เพื่อที่จะเพิ่มกระแส แน่นอนว่าเธอต้องปรากฏตัวอยู่เรื่อยๆ แน่นอนว่ามันคงไม่เหมาะเท่าไหร่กับการที่เธอจะอยู่กับฉัน “
เธอพยักหน้า – “ ฉันเข้าใจ งั้น ฉัน….จะย้ายออกวันนี้เลยมั้ย ?”
“ ไม่ต้องกังวลมากมายอะไร ฉันจะให้คนหาบ้านให้เธอก่อน มีเรื่องหนึ่งที่สำคัญ หลังจากที่เธอย้ายออกไปแล้ว อ่านบทหนัง When Harry Met Sally ด้วย ฉันหวังว่าเธอจะคิดถึงสไตล์การแสดงของ เม็กไรอัน ได้ แอนนี่ ในความคิดฉันน่ะมีภาพลักษณ์คล้ายๆกับในหนังเรื่องนั้น “
“ นายต้องการให้ฉันเลียนแบบมันงั้นเหรอ ?” – ตัวของเธอโน้มมาข้างหน้าเล็กน้อยและถามคำถามนี้ออกมา
เอริค ยื่นมือออกมาและพูดขึ้น – “ ไม่ ฉันไม่ใช่เธอที่เลียนแบบและเธอเลียนแบบมันไม่ได้ ท่าทีของเธอนั้นต่างกันไปเป็นคนละคน เม็กไรอัน เป็นสาวหวานและตัวเลือกในการแสดงของอีกฝ่ายก็มีจำกัดมานานแล้ว ถ้าเธอเลียนแบบมากไป แน่นอนว่าเธอจะได้ชื่อว่าเป็นสาวหวานในอนาคตซึ่งมันจะตัดสินการพัฒนาของเธอ ฉันอยากให้เธอลองคิดดูว่า เม็กไรอัน เป็นแบบไหน ไอ้ประเภท….บทพูดซึ่งแสดงท่าทีที่มีเสน่ห์ออกมา “
ถ้าเธอเข้าวงการได้สำเร็จ นิโคล ก็ไม่รังเกียจที่จะถูกว่าเลียนแบบ ในฮอลลีวูดการเป็นสาวหวานน่ะดีกว่าการเป็นไม้ประดับแต่เธอเองก็เข้าใจว่า เอริค คิดถึงเธอในอนาคต ดังนั้นเธอจึงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
หลังจากที่พูดคุยกันอีกไม่นาน เอริค ก็ลุกขึ้นยืนแล้วใส่เสื้อของเขา – “ เก็บของซะนะ ตอนที่หาบ้านดีๆได้ เธอจะได้ย้ายออกได้ทันที ฉันจะไปบริษัทละ “
นิโคล รีบลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มให้กับ เอริค ต้องการจะไปส่งเขาที่ประตู
เอริค เห็นรอยยิ้มของเธอก็อดไม่ได้ที่จะหยุด – “ นิโคล ยิ้มให้ฉันอีกรอบสิ “
เธอเริ่มสับสนแต่ก็ยิ้มออกมาอย่างเชื่อฟัง ตะกี้มันแค่ยิ้มบางๆแต่ครั้งนี้มันเกินไปจนเผยให้เห็นฟันกระต่ายของเธอ
เอริค ส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง – “ ช่างเถอะ เธอยังยิ้มแบบนั้นไม่ได้ มันรู้สึกว่าเธอเหมือนวางแผนทำเรื่องร้ายๆอยู่ ยิ้มแบบนั้นน่ะดี ฝึกเข้าไว้ “
“ ได้ “ – เธอไปส่ง เอริค ที่ประตูก่อนจะกลับเข้ามาในบ้านแล้วเริ่มทำความสะอาดตามตารางปกติ 2 ชม.ต่อมาเธอก็ทำทุกอย่างเสร็จแล้วไปนั่งที่โซฟาห้องนั่งเล่นแล้วมองไปที่ทุกอย่างรอบตัว
“ เอริค นี่ข้อมูลที่นายขอสำรหับ New Line Cinema และ Miramax “ – ในออฟฟิศผู้ช่วยของ เอริค ที่ชื่อ อลัน ได้เดินเอาซองเอกสารสองใบมาวางไว้ที่หน้า เอริค
“ อันแรกคือติดต่อไปหา โรเบิร์ตเช ของ New Line Cinema และพี่น้องของ Miramax ถามพวกเขาว่าว่างตอนไหนและบอกพวกเขาว่าฉันต้องการนัดกินข้าว ฉันไม่อยากปิดบังเป้าหมาย ดังนั้นนายก็บอกพวกเขาไว้ก่อน “ – เอริค พูดขึ้นมาพร้อมกับจดบางอย่างลงไป
อลัน เขียนตามที่ เอริค พูดก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมา – “เอริค มีอะไรอย่างอื่นรึเปล่า ?”
“ สักแปป “ – เอริค เขียนต่อและหลังจากที่เซ็นลงบนกระดาษแล้วเขาก็ส่งมันให้กับ อลัน – “ มีอีกสองอย่าง อย่างแรกคือเช่าอพาทเมนต์ในเบเวอรี่ฮิลล์ อย่าแพงเกินไป ค่าเช่าต่อเดือนไม่น่าเกิน 5,000 ดอล อย่างที่สองจากชื่อที่เขียนไว้นี้ มันมีประโยชน์กับการไปลงทะเบียนสตูดิโอด้วยชื่อของฉัน “
อลัน รับกระดาษนั้นมาและอ่านมันสองรอบ – “ Flower Films ? “
“ อ่าฮะ” – เอริค พยักหน้าและอธิบาย – “ไปทำมัน เอาเรื่องอพาทเมนต์ก่อนและควรจะเช่าให้ได้ภายในสองวันนี้ด้วย “
“ ได้แต่ให้หักค่าเช่ากับบัญชีบริษัทรึเปล่า ?”
“ ไม่ ฉันจะจ่ายด้วยตัวเอง นายหาบ้านดีๆและให้ตัวแทนที่ดินเตรียมติดต่อไป “
อลัน ท่องโน้ตที่รับมาและยืนยันเรื่องที่ เอริค ให้ทำก่อนจะเดินออกมาจากห้อง
ตอนที่ประตูปิดลงไป เอริค ก็ได้เปิดเอกสารของทั้งสองบริษัทออกมาดู แม้ว่าช่องทางจำหน่ายของ Firefly จะถูกสร้างขึ้นมาในอนาคตอันใกล้แต่ เอริค ก็ไม่มีความรู้ด้านนี้เลย สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือตารางเวลาเขาแน่นมาก ดังนั้นการติดต่อไปยังสตูดิโอที่มีช่องทางจำหน่ายอยู่แล้วนั้นจึงสะดวกและรวดเร็วกว่า
จากที่เขาจำได้สองค่ายนี้ที่มีแววเติบโตที่สุดที่ เอริค คิดได้ตอนนี้คือ New Line Cinema และ Miramax สำหรับ Century, Liongate ซึ่งจะกลายเป็นยักษ์ใหญ่นั้นยังไม่ได้โผล่มา ค่ายหนังอย่าง Orion, Lianmei และ Samsung เองก็ทำสัญญากับค่ายหนังใหญ่ทั้งหก มันไม่มีโอกาสเป็นไปได้เลยที่พวกนั้นจะมายุ่งเกี่ยวกับเขา แม้ว่าเขาจะต้องการซื้อพวกนั้นด้วยราคาที่สูงแต่เมื่อรู้ว่าเขาต้องการส่วนแบ่งนี้เพียงคนเดียว พวกค่ายหนังใหญ่ทั้งหกคงไม่ปล่อยเขาไปแน่ แม้ว่าจะมีค่ายหนังชั้นสองและสามหลายที่ที่อยู่ระดับเดียวกับ New Line Cinema และ Miramax แต่ เอริค ไม่เคยได้ยินถึงชื่อพวกนั้นมาก่อน เดาได้ว่าบริษัทเหล่านั้นคงเจ๊งรึไม่ก็รวมกับที่อื่น แม้แต่ยี่ห้อตัวเองก็เอาไม่รอดเพราะการจัดการที่แย่รึการลงทุนที่ล้มเหลว