I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี - ตอนที่ 208
ตอนที่ 208 เวลาเดียวกัน
” ขอบคุณครับ ” รอยยิ้มบางๆจากแอร์โฮสเตสผมบลอนด์ทองเงาสวยรูปร่างเพียวบางคนหนึ่งปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยได้รูปก่อนจะยื่นค็อกเทลให้กับแขกที่อยู่เบื้องหน้าของตัวเอง เอริคผู้ที่นั่งอยู่ตรงเคาเตอร์บาร์เล็กๆรับมาพร้อมกล่าวขอบคุณเบาๆ
เวลานี้เขาอยู่บนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของตระกูลเมอร์ด็อก ซึ่งก่อนหน้านั้นเอริคเองไม่เคยคาดการณ์มาก่อนว่าเมอร์ดอกจะรีบร้อนถึงขนาดส่งเครื่องเจ็ตส่วนตัวมารับเขาที่เวนิส ถึงแม้ว่าจุดประสงค์ที่เมอร์ดอกทําอย่างนี้จะมีอะไรแอบแฝงก็ตาม แต่เมื่อความสุขสบายมาถึงหน้าประตูห้องอย่างนี้ เอริคก็ยากที่จะปฏิเสธเขาได้ ถ้าเปรียบเทียบระหว่างที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสกับเครื่องบินส่วนตัวแล้ว บอกได้คําเดียวว่าชั้นเฟิร์สคลาสยังไม่สะดวกสบายเท่ากับเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวลํานี้เลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่เข้าร่วมงานประกาศผลรางวัลเวนิสเมื่อคืนแล้ว เขายังต้องเข้าร่วมงานเปิดตัวรอบปฐมทัศน์ของหนังเรื่อง The Others ในตอนเช้าอีกด้วย และเมื่อจบงานเปิดตัวหนังนี้ลง เขาจึงมอบหมายให้โจนาธาน เดมี่ไปจัดการงานส่วนที่เหลือต่อ ส่วนตัวเอริคนั้นก็รีบตรงมายังสนามบินและขึ้นเครื่องบินกลับลอสแองเจลิสทันที เนื่องจากเป็นเพราะเสียงตอบรับจากซีรี่ย์เรื่อง Friend ที่พุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจอย่างนั้น เขาจึงไม่อาจไม่ปฏิเสธได้ว่าเป็นเพราะเหตุผลนี้เขาเองจึงรีบร้อนกลับลอสแองเจลิสด้วยเช่นกัน
ในเครื่องบินลํานี้นอกจากจะมีผู้ช่วยของเอริคด้วยแล้ว ก็ยังมีรองผู้จัดการของสถานีโทรทัศน์คนหนึ่ง และบริเวณไม่ไกลจากเขามากนักก็ยังมีเด็กสาวที่นั่งกระซิบกระซาบคุยกันอีกสองคนอย่างจูเลียและเอลิซาเบธอีกด้วย แน่นอนว่าอลันและรองผู้จัดการคนนั้นก็กําลังพูดคุยกันอยู่อีกห้องหนึ่ง
“คุยอะไรกันเหรอ จูเลีย ดูสนุกสนานกันเชียว” เอริคหมุนเก้าอี้ของเคาร์เตอร์บาร์ไปหาหญิงสาวทั้งสองก่อนจะถามขึ้น
จูเลียเงยหน้าขึ้นกําลังจะอ้าปากตอบ แต่เอลิซาเบธที่ถลึงตาใส่เอริคอยู่ก่อนแล้วรีบชองพูดขึ้น ” เกี่ยวอะไรกับคุณไม่ทราบ !”
หลังจากที่เอลิซาเบธทราบข่าวเรื่องเรตติ้งที่น่าตกใจของซีรี่ย์เรื่อง Friend หล่อนเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรที่ทําให้ทัศนคติที่มีต่อเอริคนั้นแย่ลงกว่าเดิม
” แล้วถ้าเรื่องที่คุยเป็นเรื่องฉันละ งั้นแน่นอนว่าต้องเกี่ยวกับฉันสิ ” เอริคพูดอย่างยิ้มๆก่อนจะถือแก้วคอกเทลเดินไปทางโซฟาแล้วนั่งลงข้างๆจูเลีย
เมื่อจูเลียเห็นเอริคนั่งลงข้างตัวหล่อน จึงค่อยๆขยับตัวออกห่างอย่างเงียบๆ ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่เป็นเอลิซาเบธเองที่โวยวายขึ้นแทน “ เฮ้ ใครอนุญาตให้คุณนั่งตรงนี้ไม่ทราบ ? ?
“ ลิซ ฉันก็เป็นลูกค้านะ ทําไมเธอไม่มีมารยาทแบบนี้ละ ”
“ เป็นลูกค้าก็ควรเป็นลูกค้าที่มีจิตสํานึกด้วยสิ ” เอลิซาเบธตอบกลับตาต่อตา ฟันต่อฟัน
“เธอนิแย่จริงๆ ลิซ คอยดูนะถ้ากลับถึงลอสแองเจลิสเมื่อไหร่ฉันจะเสนอให้คุณเมอร์ดอกส่งเธอไปอบรมเรื่องมารยาท ” เอริคเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน น้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนผู้ใหญ่สอนเด็กทําให้เด็กสาวที่ไม่พอใจอยู่แล้วอย่างเอลิซาเบธก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟมากกว่าเดิม
เอลิซาเบธถลึงตาใส่เอริคอยู่พักใหญ่โดยไม่โต้ตอบด้วยคําพูดแต่อย่างใดก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วหันไปพูดว่า “ ฉันขอตัวไปพักผ่อนก่อน เชิญคุณตามสบายเถอะคุณลูกค้า “ เมื่อเด็กสาวพูดจบ เสียงรองเท้าส้นแหลมของหล่อนเดินตรงไปยังห้องนอนทันที
ไม่รู้ว่าสองสาวแอร์โฮสเตสนั้นออกไปจากห้องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะตอนนี้เหลือเพียงแค่เอริคกับจูเลีย 2คนเท่านั้น
หญิงสาวแอบมองเอริคที่นั่งสบายๆอยู่บนโซฟาข้างๆตัวหล่อนแวบหนึ่ง หล่อนยืดตัวขึ้นแต่ก็ไม่ได้มีทีท่าว่าลุกขึ้นเดินจากไปแต่อย่างใด และยังคงนั่งเงียบๆอยู่ข้างเอริคอยู่อย่างนั้นจนบรรยากาศเริ่มเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง
ตอนที่อยู่เวนิสหลายวันมานี้ นี่เป็นช่วงเวลาแรกที่หล่อนอยู่กับเอริคโดยปราศจากเรื่องงานได้นานขนาดนี้ ซึ่งตอนทํางานเอริคมักจะมีอารมณ์ฉุนเฉียวมากกว่า แต่ถ้าได้รู้จักเอริคเป็นการส่วนแล้วละก็จะพบว่าเขาเป็นคนที่ค่อนข้างเอาแต่ใจมากเลยทีเดียวและเมื่อกีทีเอลิซาเบธเถียงเขากลับตาต่อตา ฟันต่อฟันกับเขา เอริคเองก็ไม่เคยเสียมารยาทกับใครมาก่อน ซึ่งเอลิซาเบธเป็นคนแรกที่ถูกเขาพูดโต้กลับแบบนี้จนหล่อนเถียงไม่ออก ซึ่งช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ทําให้ทัศนคติที่เอริคมีต่อเอลิซาเบธได้เปลี่ยนไปอย่างมาก อย่างน้อยก็ทําให้เขาได้รู้ว่าในใจของเด็กสาวคงไม่คิดว่าตัวเอริคเป็นคนเลวเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านมาเนิ่นนานแค่ไหน เอริคยังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับตัวแต่อย่างใด หญิงสาวจึงแอบหันหน้าไปพิจารณาเอริคอีกครั้ง จากที่ต้องวิ่งวุ่นกับงานมาหลายวันทําให้เขาไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เลยสักครั้ง เหตุนี้ทําให้ใบหน้าที่ยังอ่อนเยาว์ของเขาเริ่มดูเหนื่อยล้า และคางของเขาเริ่มมีหนวดขึ้นมาเล็กน้อย
แต่สําหรับจูเลียแล้วนั้น ลักษณะที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาอย่างโชกโชนแบบเอริคกลับทําให้หล่อนหัวใจเต้นแรง จนหล่อนคิดจะยื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้านั้นสักครั้ง
แต่ความคิดนั้นกลับไม่ได้กระทํามันออกไป หล่อนถอนหายใจออกมาเบาๆ หล่อนทําได้แค่ยื่นมือไปหยิบแก้วค็อกเทลที่วางเปล่าออกจากมือเอริคแล้ววางไว้ด้านข้างตัวหล่อนก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ๆเอริคอีกครั้ง ซึ่งในหัวของหล่อนตอนนี้ก็นึกถึงแต่เรื่องเรตติ้งที่ถล่มทลายของชีรี่ย์เรื่อง Friend ที่เอลิซาเบธพูดขึ้นก่อนหน้า
หล่อนรู้เพียงว่าเอริคนั้นเก่งมากๆ หนังทุกเรื่องที่เอริคสร้างทําราย ได้ถล่มทลายในบ็อกออฟฟิศและแม้ว่าเขาเพิ่งจะก้าวเข้ามาทําซีรี่ย์นี้เป็นเรื่องแรกก็ตาม ซึ่งเขาก็ได้รับเรตติ้งน่ามหัศจรรย์แบบนี้มาอย่างง่ายดาย ความเก่งมากขนาดนี้หล่อนไม่อาจวัดค่ามันได้เลย หลังจากที่เอลิซาเบธได้อธิบายให้จูเลียฟัง หล่อนเพิ่งได้เข้าใจว่าเอริคนั้นเก่งมากแค่ไหน
เอริคที่กําลังนั่งหลับอยู่บนโซฟาขยับตัวเล็กน้อย เพราะรู้สึกว่าท่านอนนี้ไม่ค่อยสบายนัก เขาจึงถือโอกาสนี้เอนกายลงนอนบนโซฟาโดยเอาหัวของเขาหนุนบนต้นขาของจูเลีย โดยมือข้างหนึ่งโอบกอดเอวของจูเลียไว้
จูเลียตกใจกับการกระทําแบบนี้ของเอริค หล่อนคิดที่จะปลุกเอริค แต่เมื่อหล่อนก้มมองท่าทางหลับสบายของเอริคในอ้อมกอดของตัวเองก็เห็นว่าไม่มีการปฏิกิริยาใดจากคนที่นอนหลับพริ้มอยู่บนตัก หล่อนจึงปล่อยเอริคนอนอยู่อย่างนั้น
หล่อนยิ้มออกมา ก่อนจะยื่นมือออกไปสัมผัสกับใบหน้าที่หล่อคมของเอริค
ไม่นานนักแอร์โฮสเตสผมบลอนด์คนนั้นก็เดินเข้ามาในห้องโดยสารอีกครั้ง เพื่อถามความต้องการของผู้โดยสารบนเครื่อง เมื่อหล่อนเห็นชายหญิงที่ดูท่าทางสนิทสนมแบบนั้นก็เบิกตาขึ้นเล็กน้อย ซึ่งหล่อนเองก็รู้จักเอริคและจูเลียด้วยเช่นกัน หล่อนมักจะติดตามข่าวซุบซิบนินทาของวงการบันเทิงเสมอ แต่เมื่อหล่อนเห็นผู้กํากับวัยรุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังในฮอลลีวูดอย่างเอริคกําลังนอนหลับอยู่บนตักนักแสดงสาวอย่างจูเลีย โรเบิร์ตกับตาตัวเอง ทําให้หล่อนไม่ค่อยยากจะเชื่อสายตาตัวเองเท่าไหร่นัก
เมื่อจูเลียเห็นท่าทางที่ดูตกใจแบบนั้นของแอร์โฮสเตส ใบหน้าของหญิงสาวก็ค่อยๆร้อนขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่วายที่จะยื่นมือออกมาเตือนว่าห้ามสงเสียงดัง ปฏิกิริยานั้นของจูเลียทําให้แอร์โฮสเตสได้สติ หล่อนยิ้มให้กับหญิงสาวแล้วทําท่าจะเดินถอยออกไป
แต่จูเลียก็ใช้มือทําท่าทางบางอย่างกับแอร์โฮสเตสเมื่อหล่อนเข้าใจแล้วก็เดินไปหยิบผ้าห่มมาห่มให้เอริคก่อนเดินจากไป
หลังจากจูเลียรอให้แอร์โฮสเตสนั้นเดินจากไปแล้ว หล่อนจึงค่อยผ่อนคลายลงเล็กน้อย ก่อนก้มหน้าลงมองใบหน้าที่กําลังหลับไหลของเอริคอีกครั้ง
หล่อนพินิจพิจารณาใบหน้าก่อนสํารวจตรงอื่นของเอริค
จนสุดท้ายหล่อนก็ไปหยุดอยู่ที่กางเกงของเอริค เพราะวันนี้เขาใส่กางเกงยีนส์ที่ค่อนข้างแน่นมา เขาจะอึดอัดไหมนะ? หล่อนคิด
เมื่อเวลาผ่านไป จนในที่สุดก็เดินทางมาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย เพราะความแตกต่างกัน เรื่องเวลาซึ่งลอสแองเจลิสนั้นห่างจากเวนิสอยู่ 9 ชั่วโมง จึงใช้เวลาเดินทางกว่าสิบชั่วโมง เมื่อถึงลอสแองเจลิส ซึ่งเวลานั้นยังไม่ถึง 2 ทุ่มตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐอเมริกา ท้องฟ้าในฤดูร้อนจึงยังไม่มีดลงมากนัก
เมื่อรู้ว่าเอริคจะมาถึงลอสแองเจลิสเวลานี้ ก็มีคนจํานวนไม่น้อยต่างมารอเขาด้านนอกสนามบิน โชคดีที่เขากลับมาด้วยเครื่องบินส่วนตัว ดังนั้นจึงค่อนข้างเป็นความลับ หากทําตามแผนเดิมคือนั่งเครื่องบินกลับมาตามไฟลท์ที่จองแล้วละก็ เขาต้องโดนนักข่าวห้อมล้อมอย่างแน่นอน
เอริคที่เพิ่งปรากฏตัวออกมา คนที่ยืนรอเขาอยู่นอกสนามก็พากันมาห้อมล้อมตัวเขา ซึ่งคนพวกนี้ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนแต่เมื่อเห็นปฏิกิริยาอีกฝ่ายก็เข้าใจจุดประสงค์ของพวกเขาได้ทันที พวกเขาต่างพากันห้อมล้อมเอริคอย่างไม่ได้นัดหมาย
” คุณวิเลียม ฉันคือผู้ช่วยของคุณเมอร์ด็อก”
” คุณวิลเลียม คุณไอสเนอร์ส่งผมมารอคุณที่นี่
” คุณเอริค เราเคยเจอกันในรายการโซเฟยย่าทอร์คโชว์มาก่อน ผมคือผู้จัดการของ CSB ของลอสแองเจลิส… “
เอริคยิ้มให้กับทุกคนที่ต่างแย่งกันพูดแนะนําตัวเอง แล้วจับมือพวกเขา เมื่อรอให้พวกเขาเงียบลงเล็กน้อยเขาจึงพูดว่า “ ต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ ผมเพิ่งกลับมาถึงลอสแองเจลิส ยังปรับเวลาไม่ได้ ถ้ามีอะไรเราค่อยคุยกันพรุ่งนี้ดีไหมครับ ? ”
แน่นอนว่ามีบางคนไม่ยอมจากไปเพราะคําพูดเอริค พวกเขาอ้าปากจะพูดอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นเอริคเดินออกไปข้างนอกสนามบิน พวกเขากลับไม่กล้าตามออกไป
เอริคเองได้คาดการณ์สถานการณ์แบบนี้ไว้แล้ว แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่าคนที่มารอเขาที่สนามบินจะมากขนาดนี้ เขารีบขึ้นรถคันสีดําที่อลันขับมารับเขาทันที เมื่อรอให้อลันยกกระเป๋าขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว เอริคจึงค่อยหันไปมองนอกหน้าต่างรถเพื่อโบกมือลาทุกคนที่มารอเขาและก็ไม่ลืมที่จะโบกมือลาหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านนอกกลุ่มเหล่านั้นอย่างเอลิซาเบธและจูเลียด้วย
เมื่อรถของเอริคเคลื่อนตัวออกไปแล้ว บรรดาผู้คนเหล่านั้นต่างขึ้นรถของตัวเองด้วยความผิดหวังและขับออกไปทันที
เมื่อคนอื่นๆจากไปหมดแล้ว เอลิซาเบธผู้ซึ่งไม่ได้แคร์คนพวกนั้นอยู่แล้ว เมื่อหล่อนเห็นผู้ช่วยที่พ่อส่งมากําลังทําท่าจะจากไปเช่นกัน ก็ทําให้หล่อนรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาอีกครั้งก่อนยกมือเท้าสะเอวแล้วพูดขึ้นว่า “เฮ้ วินเซนท์ เห็นสาวน้อยตรงนี้เป็นอากาศหรือไง ? ”
ผู้ช่วยที่ชื่อวินเซนท์คนที่เอลิซาเบธพูดถึงคือคนที่ให้ความสนใจเอริคอยู่เมื่อสักครู่ ซึ่งเขาเองก็ไม่ทันได้สังเกตเอลิซาเบธที่เดินตามหลังเอริคมาจริงๆ เมื่อเขาได้ยินดังนั้นก็รับวิ่งเข้ามาหญิงสาวทันที “ อ่ะ ขอโทษครับ คุณหนู ที่ผมไม่ทันสังเกตเห็นครับ เมื่อไม่ได้รับคุณวิลเลียมไปด้วย ผมเองก็ไม่รู้จะรายงานเรื่องนี้กับคุณเมอร์ดอกยังไงครับ ”
เอลิซาเบธจูงมือจูเลียขึ้นรถเบนท์ลีย์หรูคันหนึ่งก่อนเคลื่อนตัวออกไป ก่อนจะพูดด้วยความโมโหออกไปว่า “ฉันก็สนใจเหมือนกันว่านายจะอธิบายยังไง ไปส่งพวกฉันที่เบเวอร์ลีฮิลส์ก่อน “
” แต่ว่า ” วินเซนท์พูขึ้นด้วยความลังเลใจ “ คุณหนูครับ ผมต้องรีบกลับไปรายงานเรื่องนี้กับคุณเมอร์ด็อกนะครับ ซึ่งตอนนี้คุณเมอร์ด็อกก็กําลังรอผมอยู่ที่สํานักงานใหญ่ครับ ”
” ดึกขนาดนี้แล้ว หรือนายจะให้พวกฉันสองคนขึ้นแท็กซี่กลับละ ถ้าเจอคนไม่ดีจะทํายังไง ? ” ขณะที่เอลิซาเบธกําลังพูด หล่อนก็ยื่นกระเป๋าเดินทางของจูเลียให้วินเซนท์ ก่อนจะจูงมือจูเลียขึ้นไปนั่งบนรถแล้วปิดประตูรถทันที
วินเซนท์ยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะหันไปพูดกับรองผู้จัดการของ Fox ที่เอลิซาเบธเมินใส่อย่างจนปัญญาอีกครั้ง หลังจากที่ยกกระเป๋าเดินทางสองใบขึ้นวางบนรถเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะขึ้นไปนั่งที่คนขับแล้วขับรถออกไปทันที และหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออกด้วยในเวลาเดียวกัน