I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี - ตอนที่ 232
ตอนที่ 232 ไม่เหมือนกันแน่นอน
บอกฉันเงียบๆก็ได้นี้ ” โอเคๆ พวกเธอหยุดทะเลาะกันได้แล้ว ” เอลิซาเบธพูดห้ามขึ้นมา ” ฉันรู้สึกว่าเราน่าจะลองดูนะ ”
เด็กสาวจึงรีบพูดต่อว่า “ นี่คือบทหนังเรื่องนี้ที่คัดเลือกโดยนักแสดงที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมเลยนะ ชื่อเสียงจะไปไหนได้ละ อีกอย่างถ้าพวกเธอเห็นด้วยละก็ฉันจะนําไปให้เอริคช่วยดูให้อีกที ”
เมื่อจูเลียได้ยินที่ดรูว์พูด หล่อนจึงรีบพูดทันที “ ดรูว์ เอริคให้สิทธิ์ในการซื้อหนังที่ผ่านการดัดแปลงกับเธอแล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วทําไมไม่นํามาใช้กับพวกเราละ ถ้านําเรื่องนี้ไปให้เอริคดู เขาคงต้องเลือกหนังที่ดีกว่าเรื่องนี้แน่นอน จริงไหม? ”
” ไม่ได้ “ เด็กสาวส่ายหน้าทันที “ ฉันเป็นคนจัดการเรื่องสิทธิ์ในการซื้อลิขสิทธิ์หนังเอง”
” ไม่ใช่ว่าบริษัทหนัง TG ของเรามีแล้วใช่เหรอ “ จูเลียพูดอย่างไม่พอใจ
ดรูว์จึงตอบกลับไปว่า ” มันไม่เหมือนกันแน่นอน สิทธิ์เหล่านั้นเอริคเป็นคนให้ฉันจัดการเอง
จูเลียนิ่งอึ้งไปสักพัก ในใจของหล่อนเกิดความอิจฉาเล็กน้อย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะโต้งกลับ อีกฝ่ายไปยังไง
” โอเค จูเลีย ฉันคิดว่า พวกเราก็สามารถสร้างผลงานสร้างสรรค์ทางวรรณกรรมชิ้นแรกอย่างเรื่อง The Silence of the Lamb ขึ้นมาได้ “
จูเลียหยิบหมอนที่อยู่บนโซฟาขึ้นมากอด ก่อนพยักหน้าและพูดว่า “ แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังไงฉันก็ไม่แสดงเป็นนางเอกเรื่องนี้เด็ดขาด”
เอลิซาเบธและดรูว์มองหน้ากันอย่างรู้ใจกัน เอลิซาเบธจึงพูดขึ้นทันทีว่า” งั้นเอาอย่างนี้ เรามาลงคะแนนเสียงกัน ใครเห็นด้วยให้จูเลียรับบทนางเอกเรื่องนี้ยกมือขึ้น “
เด็กสาวและเอลิซาเบธยกมือขึ้นพร้อมกัน
” พวกเธอ…” จูเลียค้อนใส่อย่างจนปัญญา
เมื่อเอลิซาเบธเห็นท่าทางที่ไม่เห็นด้วยของจูเลีย หล่อนกลอกตาไปมาก่อนพูดขึ้นว่า “ แล้วถ้าพี่ยังไม่ยอมฉันกับดรูว์จะไปตามอีกคนมาช่วยโน้มน้าวพี่อีกคน”
เมื่อได้ยินดังนั้นจูเลียก็นึกถึงใบหน้าที่น่าเกลียดแบบนั้นของเอริคทันที ก่อนจะคว้าหมอนแล้วปาใส่หญิงสาวทั้งสองและตะโกนพูดออกมาด้วยความคับแค้นใจว่า “ พวกเธอ…ทําไมพวกเธอทํากับฉันแบบนี้ละ “
” พูดอย่างนี้แสดงว่าพี่ยอมแล้วใช่ไหม? ” เอลิซาเบธพูดอย่างยิ้มๆ
จูเลียที่มีสีหน้าโกรธเคืองอยู่ก็พูดขึ้นว่า “ ฉันหมายถึงขอถามผู้จัดการของฉันก่อนยะ “
เอลิซาเบธจึงพูดขึ้นว่า “ ตัวละครที่ชื่อคาลิสไม่ใช่เป็นตัวร้ายและก็ไม่ใช่เป็นตัวตลกด้วย ฉันหวังว่าผู้จัดการของพี่จะเห็นด้วยนะ อีกอย่างอย่าคิดว่าพวกเราไม่รู้ การที่พี่ได้เป็นดาราที่มีชื่อเสียงโด่งดังของฮอลลีวูด ผู้จัดการของพี่ทําได้แค่ช่วยชี้แนะแนวทางเท่านั้น แต่เขาไม่มีสิทธิ์มาควบคุมในการเลือกหนังของพี่ เห็นได้ชัดว่าพี่กําลังปัดความรับผิดชอบ จะถามผู้จัดการส่วนตัวทําไม ฉันคิดว่าเอริคมีสายตาดีกว่าอีกซะอีก เราถามเขาก็ได้”
“ โอเค โอเค ฉันยอมก็ได้ ฉันยอมแล้วโอเคไหม ” จูเลียยอมแพ้อย่างสิ้นเชิง
“ ถ้าเป็นอย่างนี้ งั้นคืนนี้ฉันจะเอาบทหนังเรื่องนี้ไปให้เอริคช่วยดู “ ดรูว์เผยรอยยิ้มออกมาอยากชัดเจน เอลิซาเบธเอื้อมมือไปหยิบบทหนังนั้นก่อนพูดขึ้นว่า ” ฉันไปเอง ไหนๆฉันต้องไปถ่ายหนังเรื่อง Sleepless in Seattle อยู่แล้ว ดังนั้นฉันจึงมีเวลามากพอให้เขาช่วยเสนอความคิดเห็นให้ได้ ”
” เธอ ? ” ดรูว์มองเอลิซาเบธด้วยสายตาสงสัย ไม่รู้ว่าเข้าใจผิดเองหรือเปล่า หล่อนรู้สึกว่าหญิงสาวตรงหน้าดู…ขาดความมั่นใจอยู่ไม่น้อย “ ฉันจําเรื่องที่เธอเคยบอกได้ เอริคไม่ยอมให้เธอเลือกหนังไม่ใช่เหรอ? ”
เอลิซาเบธจึงตอบกลับทันทีว่า ” ไม่ใช่ว่าพวกเราตัดสินใจกันแล้วเหรอ อีกอย่างจูเลียก็เป็นผู้ถือหุ้นของผลประโยชน์นี้ด้วย ดังนั้นฉันรู้สึกว่าเงินลงทุนของหนังเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะเยอะมากขนาดนั้น ค่าชดเชยอะไรก็ไม่ต้องจ่าย ถ้าเป็นอย่างนี้ ฉันแค่อยากให้เขาช่วยออกความคิดเห็นให้สักหน่อย ฉันคิดว่าเอริคคงไม่ใช่เป็นคนขี้งกอะไรขนาดนั้นหรอก อีกอย่างถ้าเธอเป็นคนนําไปให้เขาดู เธอก็ต้องหาเหตุผลอื่นให้เขาอีก ถ้าไม่ระวังคําพูดละก็อาจจะทําให้เขารู้เรื่องที่เธอมามีส่วนร่วมในการเปิดบริษัทหนังของพวกเราก็เป็นได้ “
ดรูว์คิดตามและพยักหน้าเห็นด้วย “ งั้นก็ตามนี้ ฉันต้องรีบกลับบ้านก่อนละเดี๋ยวเอริคจะหาว่าฉันโดดเรียนอีก ”
เอลิซาเบธถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ถ้าเด็กสาวกลับไปที่บ้านแล้วเห็นน้ํามันเบนซินที่อยู่บนพื้น ต้องพบเบาะแสที่เกี่ยวกับตัวเธอแน่ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นต้องแย่แน่ๆ เอลิซาเบธไม่ได้กังวลเรื่องปฏิกิริยาเมื่อดรูว์รู้เรื่องนี้ เพียงแต่หล่อนไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องนี้เพิ่มขึ้นเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องที่หล่อนไม่นอนบ้านเมื่อคืน เรื่องนี้คงปิดบังจูเลียไม่ได้แน่นอน ซึ่งเอลิซาเบธเองก็ยังไม่ได้บอกเรื่องที่เมื่อคืนให้จูเลียฟังเลย
เมื่อตัดสินใจเรื่องนี้กันเรียบร้อยแล้ว เด็กสาวหันไปมองผ้าเช็ดตัวที่อยู่บนตัวเอลิซาเบธอีกครั้ง ทันใดนั้นหล่อนก็ยืนขึ้นแล้วถอดเสื้อยืดออกเผยให้เห็นอกน้อยๆที่ยื่นออกมา “ ไหนๆก็มาถึงนี้ละ ฉันเองก็อยากอาบน้ําเหมือนกัน เฮ้ ถ้าฉันมีห้องเช่าเป็นของตัวเองก็คงจะดีที่โรงเรียนเป็นห้องนอนรวมไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ จูเลีย ทําไมเธอไม่เปลี่ยนวิลล่าที่ใหญ่กว่านี้ละยังไงเธอก็ซื้อได้อยู่แล้ว”
” ไม่เอาอะ ใหญ่เกินฉันรู้สึกว่าโล่งไป อีกอย่างพวกเธอก็ไม่ได้มาอยู่ยาวอยู่แล้ว แค่นี้ก็ดีละ ” จูเลียส่ายหน้าทันที
เด็กสาวยักไหล่และไม่พูดอะไรอีก ก่อนเดินจากไป
พวกหล่อนรอให้ประตูห้องน้ําปิดสนิท จูเลียจึงพูดด้วยเสียงเบาๆว่า “ เฮ้ ลิซ เธอยังอยากไปหาเอริคที่นั้นใช่ไหม? “
“แล้วจะให้ทํายังไงละ? “ เอลิซาเบธชูบทหนังขึ้นโบกไปมา “ฉันจะให้ดรูว์กลับไปเจอน้ํามันเบนซินที่บ้านนั้นไม่ได้เด็ดขาด อีกอย่างเรื่องนี้ฉันอยากให้เป็นชายหนุ่มน่ารังเกียจคนนั้นเป็นคนกังวลกระวายใจมากกว่า เขาอยากหนีเองนิ ฉันอยากให้เอริคกระสับกระส่ายไม่เป็นสุขเมื่อเจอสิ่งนั้น “
จูเลียนึกถึงเอริคที่กระวนกระวายใจนั่งไม่ติดที่ หล่อนอดไม่ได้ที่จะพูดชมว่า ” ลิซ เธอนช่างร้ายกาจจริงๆ ”
หญิงสาวสะบัดผมอย่างไม่มีความละอายใจแม้แต่น้อย “ แน่นอน! “
ถึงแม้ว่าจะพูดแบบนี้ก็ตาม แต่เมื่อถึงตอนบ่ายของวันถัดไป เอลิซาเบธมาถึงบริษัท Firefly ด้วยความกลุ้มใจอีกครั้ง พนักงานในบริษัททุกคนต่างรู้ว่าหล่อนเป็นผู้ช่วยคนใหม่ของเอริค อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับเอริคก็ไม่ได้ธรรมดา ด้วยเหตุนี้เอลิซาเบธจึงเข้าออกห้องทํางานของเอริคได้โดยไม่มีใครขัดขวาง เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องของเอริค หญิงสาวเกิดความลังเลใจเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจยกมือขึ้นเคาะประตู หล่อนคิดสักพักก่อนจะบิดลูกบิดประตูเปิดเบาๆแล้วเดินตรงเข้าไปทันที
“ เจฟฟรีย์ ภาพของฉากผมดูหมดแล้ว ภายในห้องก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ห้องของโจนาธานขาดเก้าอี้รูปไข่ไปตัวหนึ่ง คุณสามารถบอกชื่ออุปกรณ์นั้นกับผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ได้เลย โอเค เดี๋ยวผมแฟกซ์แบบแปลนไปให้ ภายในห้องไม่มีปัญหา แต่ผมรู้สึกว่าห้องไม้ด้านนอกโล่งไปหน่อย วางที่นั่งตรงชายคาระเบียงสักตัวจะได้ไม่ทําให้รู้สึกว่าว่าโล่งเกินไป เพิ่มกระถางดอกไม้ไปอีกกระถางด้วย อ่ะจริงสิ เอาที่มันเป็นไม้ดีที่สุด ” ขณะที่เอริคกับคุยโทรศัพท์ หางตาของเขาก็เห็นเงาคนเดินเข้ามาจึงเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อมองเห็นชัดๆว่าเป็นใคร เขามือสั่นทันทีก่อนทําไมโครโฟนตกลงบนพื้นจนเกิดเสียงแหลมขึ้น
เอลิซาเบธที่ยังมีความไม่สบายใจอยู่เล็กน้อยหล่อนมองไปทางเอริคที่มีท่าทางตกใจจนทําไมโครโฟนตกพื้น หล่อนถอนหายใจออกมากเพื่อผ่อนคลาย ก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งลงตรงข้ามเอริค เมื่อเห็นท่าทางที่มองเหลียวซ้ายเหลียวขวารอบๆห้องหล่อนจึงถามขึ้นทันทีว่า “ ทําไมเหรอ คราวนนี้จะกระโดดหนีไปทางหน้าต่างเลยไหม? ถึงแม้ว่าตึกนี้จะไม่ค่อยสูงมาก แต่ถ้าตกลงไปก็ทําให้กระดูกแตกเป็นเสี่ยงๆได้เหมือนกันนะ ว่าไหม? ”
เอริคยิ้มออกมาก่อนก้มลงเก็บไมโครโฟนขึ้นมาใส่ที่หูตามเดิม ”คุณเจฟฟรีย์ ไม่มีอะไร ผมไม่ทันระวังทําไมค์ตกพื้น… อื้อ เอาตามนี้แหละ ผมมีเรื่องที่ต้องจัดการนิดหน่อย เดี๋ยวผมโทรกลับนะ งั้นก็เอาตามนี้ก่อนละกัน ”
เมื่อวางสายโทรศัพท์แล้ว เอริคก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เรื่องเมื่อคืนเอริคเองก็คิดว่าเป็นเหมือนคนอื่นๆ คิดไม่ถึงว่าหญิงสาวจะพูดเรื่องแต่งงาน เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็รู้สึกกลัวขึ้นมาทุกที
แม้ว่าในชีวิตที่แล้วของเอริคจะผ่านประสบการณ์มาแล้วก็ตาม แต่ในชีวิตนี้ของเอริคยังอายุไม่ถึง 20 ปีเลยด้วยซ้ํา ทําไมต้องเอาตัวเองเข้าไปพัวพันวนเวียนกับการแต่งงงานเร็วขนาดนี้ด้วยละ
อย่ามองแต่ลักษณะภายนอกที่ดูเปิดเผยของคนตะวันตกเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าตรวจสอบแยกแยะอย่างละเอียดแล้ว จะพบว่าในบรรดาภาพยนตร์และโทรทัศน์ ชายหญิงที่อยู่ด้วยกันบ่อยๆโดยทั่วไปแล้วจะยังไม่แต่งงาน หรือพูดได้อีกอย่างว่าชีวิตก่อนแต่งงานของชาวตะวันตกค่อนข้างเปิดกว้างมาก แต่หลังจากแต่งงาน ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมหรือแม้แต่คําวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม พวกเขาจะให้ความสําคัญกับคําว่าซื่อสัตย์ของสามีภรรยา
ถ้ายังเป็นคนโสด จะมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวมากมายขนาดไหน สิ่งที่เขาจะได้รับมากที่สุดคือคําเยาะเย้ยเท่านั้น
แต่ถ้ากล้าทําแบบนี้หลังจากที่แต่งงานแล้ว ก็คงจะถูกคําติฉินนินทาเป็นแน่ ในฐานะที่เป็นคนที่เพลย์บอยคนหนึ่ง เอริคเองก็ไม่อยากถูกต่อต้านด้วยคําวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม นั้นเป็นเรื่องที่โง่เขล่ามาก เพราะเหตุนี้เขาจึงไม่เคยมีความคิดเรื่องแต่งงานมาก่อน ดังนั้นเมื่อวานตอนเช้าจึงได้หนีออกไปแบบนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ดูเกินไปก็ตาม แม้ว่าสําหรับหญิงสาวนั้นเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่มากก็ตาม แต่เขาเองก็ไม่รู้จะทําอย่างไรเช่นกัน
” คุณจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ? “ หญิงสาวเห็นท่าทางขาดความมั่นใจของเอริคจึงทําให้หล่อนยิ่งเยอะเย้ย
“ แล้วจะให้พูดอะไรละ? “เอริคยิ้มอย่างลําบากใจ ” ฉันคงไม่ต้องขอบคุณเธอหรอกนะที่เมื่อวานไม่เผาบ้านฉันใช่ไหม? ”
เอลิซาเบธพูดต่อด้วยความโกรธ ” เหอะ ฉันแค่หาที่จุดไฟไม่เจอเท่านั้นแหละคุณแค่โชคดี “
” เอ่อ..”
ถึงแม้เอริคจะถูกต้อนให้จนมุมก็ตาม แต่แอลิซาเบธก็ไม่อยากไล่ตามเขาอีก หล่อนเองก็ไม่อยากเข้าไปพัวพันเรื่องนี้เหมือนกัน” คุณกําลังจะทําอะไร?”
เมื่อเอริคเห็นว่าหญิงสาวนั้นค่อนข้างฉลาด เขาจึงรีบพูดขึ้นว่า ” ไม่มีอะไร ก็แค่คุยเกี่ยวกับหนังเรื่อง Sleepless in Seattle เพราะฉันมีเรื่องที่ต้องทําอีกเยอะเลยมอบหมายบางเรื่องให้คุณเจฟฟรีย์เป็นคนจัดการ ตอนนี้เขากําลังจัดการเรื่องสุดท้ายอยู่ในซีแอตเทิล “
” อื้อ “ หญิงสาวพยักหน้า
” งั้นเธอยังเป็นผู้ช่วยฉันไหมละ?” เอริคลองถามหญิงสาวดูอีกครั้ง
” ทําไมจะไม่ใช่ละ? “ เอลิซาเบธรีบตอบกลับทันที “ อีกเรื่อง ไอ้คนน่ารังเกียจ แล้วไม่ต้องคิดเรื่องนั้นอีกแล้ว ”
” แน่นอน ” เอริครีบพยักหน้าตอบทันที สําหรับเอริคแล้วการถูกบังคับแต่งงานกับหญิงสาว เขายอมไม่เจอหญิงสาวเลยตลอดชีวิตเสียยังจะดีกว่า
“ ที่ฉันมาวันนี้ยังมีอีกเรื่องที่อยากให้คุณช่วย “ ในขณะที่หญิงสาวกําลังพูดหล่อนก็ก้มลงหยิบบทหนังเรื่อง The Silence of the Lambs ออกมาจากกระเป๋า “ อ่ะ อยาก ให้คุณช่วยเสนอข้อคิดเห็นหน่อย ฉันตัดสินใจที่จะทําหนังเรื่องนี้ในวันพรุ่งนี้แล้ว ดังนั้นคุณไม่ต้องประเมินว่าหนังเรื่องนี้จะทํารายได้ทะลุบ็อกออฟฟิศเท่าไหร่ เพราะเรื่องกําไรขาดทุนไม่ใช่หน้าที่ของคุณ แค่ช่วยชี้แนะแนวทางให้ก็พอแล้ว”
เอริค บทหนังนั้นมา ตั้งใจว่าจะบอกหญิงสาวว่าจะหาเวลาดูให้ แต่พอชําเลืองมองไป เห็นชื่อบนปกหนังสือนั้น เขาก็เบิกตากว้างขึ้นมาทันที