I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี - ตอนที่ 156
Chapter 156 – วิดิโอเทป
“ จริงๆแล้วฉันไม่รู้จะตอบคำถามนี้ยังไงเพราะอายุของฉันคือจุดอ่อน มีผู้กำกับไม่กี่คนที่อายุน้อยกว่า 30 ปีในฮอลลีวูด นี่ไม่ต้องพูดถึงฉันที่อายุต่ำกว่า 20 ปีหรอก “ – เอริค พูดขึ้น – “ เพราะฉันไม่จำเป็นต้องสนใจคำถามแบบนี้ ยังไงซะความจริงก็คือคำตอบที่ดีที่สุดแต่ด้วยมุมมองแบบนี้ ฉันรู้สึกว่าถึงฉันจะไม่สนใจสื่อ แต่อย่างน้อยฉันก็น่าจะสนใจแฟนๆที่ซึ่งสนับสนุนหนังของฉัน แค่เพราะองค์ประกอบอื่นๆ วิดิโอในการถ่ายทำของ Running Out of Time ได้ถูกถ่ายเอาไว้ นี่ พวกนี้คือวิดิโอเทป “
เอริค พูดพร้อมกับเอาเทปกว่า 10 อันออกมาจากกล่องและวางกองระหว่างเขากับ โซเฟียร์
“ ว๊าว นี่ใช่….วิดิโอช่วยถ่ายทำงั้นเหรอ ? “ – โซเฟียร์ ถาม
เอริค ส่ายหน้า – “ ไม่ เอาสั้นๆ ฉันไม่ได้โผล่มาในกล้อง มีเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ถูกบันทึกไว้ภายในสตูดิโอการถ่ายทำ Running Out of Time “
“ คุณหมายถึงการถ่ายทำ Running Out of Time มีอีกมุมกล้องที่ถูกถ่ายเอาไว้ นี่มันได้รับอนุญาตระหว่างการถ่ายทำงั้นเหรอ ? “
เอริค หัวเราะ –“ โดยทั่วไปแล้วก็ไม่นะ เพราะเนื้อหาหนังจำเป็นต้องปกปิดเอาไว้แต่คนที่ถ่ายวิดิโอนี้ค่อนข้างพิเศษ ฉันเชื่อว่าเธอคงไม่เผยเนื้อหาไม่ว่าคนอื่นจะบอกกับเธอยังไงก็ตาม เพราะมันฉันถึงได้มีโอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตัวเอง “
เอริค พูดพร้อมกับผู้ชมที่เริ่มยืดตัวและเบิกตากว้าง แฟนหลายคนกระซิบกันบอกให้ เอริค และ โซเฟียร์ เปิดวิดิโอได้แล้ว
“ เพราะทุกคนรอไม่ไหวก็มาดูกันดีกว่า “ – โซเฟียร์ ไม่ได้แหย่ผู้ชมอะไรมากมายนัก จากนั้นจึงเลือกวิดิโอมาอันหนึ่งและเตรียมพร้อมที่จะฉาย
หลังจากนั้นสองคนก็ปรากฏขึ้นในภาพที่ส่ายไปมา ดูเหมือนว่าคนที่ถ่ายวิดิโอนี้ไม่ได้มีทักษะอะไรนัก ยังไงซะภาพก็ค่อยๆคงที่และเด็กสาวก็ค่อยๆส่งเสียงออกมาจากภาพ – “ อลัน เอากล้องที่อัดเสียงดีๆให้ฉันหน่อยสิ ไม่งั้นฉันไม่ออกห่างจากตัวนายแน่ตอนไปถึงที่นั่น “
ชายอีกคนตอบด้วยท่าทีหมดหนทาง – “ ได้ ได้ครับนายหญิง “
ผู้ชมยิ้มและหัวเราะออกมา หลายคนคิดว่าเสียงของเด็กสาวนี้น่าจะเป็น ดรูวส์แบรี่มอร์ ที่สนิทกับ เอริค เมื่อคิดถึงสิ่งที่ เอริค เพิ่งพูดไป มันจริงที่มีแค่เด็กสาวจะเข้าไปในสตูดิโอ ถ้าคนอื่นกล้าเข้าไปเล่นที่นั่น พวกเขาคงถูกไล่ออกมาอย่างแน่นอน
บนจอภาพเริ่มขยับ หลายคนคิดว่านี่น่าจะเป็นสตูดิโอขนาดใหญ่ เมื่อดูจากถนนและบ้านในภาพ ผู้ชมก็ค่อยๆอุทานออกมา ตอนนี้มันยังอีกกว่า 10 ปีกว่าที่เครือข่ายต่างๆจะพัฒนาที่ซึ่งมีหลายอย่างที่ถูกพบในภาพรึวิดิโอในอินเตอร์เน็ต แม้ว่าชาวอเมริกามักจะดูหนังกันบ่อยๆแต่พวกเขาก็ไม่ได้รู้อะไรมากเกี่ยวกับการถ่ายทำหนัง สตูดิโอขนาดใหญ่ที่สนับสนุนการถ่ายทำนี้ไม่มีทางที่จะเปิดเผยมาก่อน ดังนั้นมันจึงไม่ได้น่าแปลกใจ
พร้อมกับเสียงนั้นคนที่ถือกล้องก็รีบเข้าไปในห้อง เอริค ใส่ชุดเสื้อกั๊กผู้กำกับสีเขียวที่โผล่มาตรงหน้ากล้อง ในภาพนั้น เอริค ได้โบกมือให้กับ แฮงค์ เพื่ออธิบายข้อผิดพลาดที่เพิ่งถ่ายไปตะกี้ หลังจากนั้น เอริค ก็หยุดพูดกับ แฮงค์ แล้วยิ้มและเดินไปหากล้องก่อนจะเคาะหัวใครบางคน ส่วนเด็กสาวก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บท่ามกลางเสียงหัวเราะของหลายคนรอบตัวเขา
“ เฮ้ ดรูวส์ กล้อง Sony ราคา 128,000 ถ้าเธอทำมันพัง ฉันคงทำได้แค่ขายเธอให้กับ Columbia เพื่อจ่ายหนี้ด้วยการทำงานหนัก “ – เอริค เขกหัวของ ดรูวส์ และพูดขึ้น
กล้องส่ายไปมาอีกครั้งและเสียงโกรธของ ดรูวส์ ก็ดังขึ้นมา – “ ว๊าว นายนี่มันน่ารำคาญจริงๆ กี่ครั้งแล้วที่ฉันบอกว่าอย่ามาเขกหัวฉัน “
เอริค โบกมือไปมาให้กับกล้องราวกับมันเป็นลูกหมารึลูกแมวก่อนจะพูดขึ้น – “ เอาล่ะ ไปได้แล้ว เราต้องถ่ายทำต่อ “
กล้องได้อัดเอาไว้ตอนที่ เอริค ได้สั่งทีมงานให้เริ่มถ่ายทำและทีมงานหลายคนด้านหลังกล้องก็เริ่มขยับ แฮงค์ และนักแสดงคนอื่นๆก็เริ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวเองและหนึ่งในทีมงานก็เดินมาข้างหน้าและกำลังจะสั่งให้ถ่ายทำต่อ
จุดนี้ โซเฟียร์ ก็กดหยุดวิดิโอและอธิบายกับผู้ชม – “ โทษทีนะ ฉากต่อไปเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของหนัง ดังนั้นเราถึงต้องหยุด “
แม้ว่าจะเป็นแค่ 1-2 นาที ผู้ชมที่ก็ดูมันด้วยความสนใจและเมื่อ โซเฟียร์ หยุดวิดิโอ หลายคนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดาย
“ เอริค ฉันเริ่มสงสัยเกี่ยวกับเรื่องอื่นแล้ว ฉันเชื่อว่าผู้ชมในห้องต่างก็สงสัยเกี่ยวกับปัญหานี้ “ – โซเฟียร์ ไม่ได้เริ่มเล่นวิดิโออื่นแต่กลับคิดถึงความเห็นของสื่อและถามคำถามที่หลายคนสงสัย – “ แม้ว่ามันจะแค่ไม่กี่นาทีแต่เราก็ได้เห็นว่าคุณนั้นเอ็นดู คุณแบรี่มอร์ กล้องนี้มีค่ากว่าแสนดอลลาร์และคุณกลับให้เธอเล่นเหมือนกับของเล่น ความสัมพันธ์ของคุณกับ ดรูวส์ เป็นยังไง ? “
เอริค ลังเลไปสักพักแล้วพูดขึ้นมา – “ ฉันจะบอกว่าไงดี …..ฉันเจอกับ ดรูวส์ ตอนที่ถ่าย 17 Again และไม่นานฉันก็ตกหลุมรักกับเด็กสาวนั่น…”
ในตอนที่เขาเห็นผู้คนกำลังจะโห่ เอริค ก็ยกมือขึ้นมาเพื่อขัดและรีบพูดขึ้นมา – “ อย่าเข้าใจผิด แน่นอนว่าไม่ใช่แบบที่พวกนายคิด ฉันคิดกับ ดรูวส์ แค่น้องสาว ดรูวส์ ติดเอ่อ….นิสัยแย่ๆมา แม้ว่าเธอจะเข้ารับการรักษาแล้วแต่ผลของมันก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่ แม่ของเธอก็ไม่ได้ช่วยอะไร ฉันทนความจริงที่ว่าเด็กสาวที่มีแววอย่าง ดรูวส์ นั้นต้องจบชีวิตลง ฉันเลยคุยกับแม่ของเธอและขอให้เธอให้ ดรูวส์ ย้ายมาอยู่กับฉันเพื่อที่ฉันจะได้แนะนำ ดรูวส์ และช่วยให้เธอแก้นิสัยแย่ๆนั้น หลังจากที่คิดดูแล้วแม่ของเธอตกลง ดังนั้นมันก็เป็นแบบที่ทุกคนเห็น บางทีฉันอาจจะไปได้ดีกับ ดรูวส์ เอาสั้นๆคือเธอเชื่อฟังฉัน ดังนั้นเธอจึงเปลี่ยนนิสัยตัวเอง ตอนนี้เธอเข้าโรงเรียน ฉันหวังว่าเธอจะจบการศึกษาได้และเมื่อเธอเป็นผู้ใหญ่ เธอก็เลือกเส้นทางของตัวเองได้ตามต้องการ “
เอริค ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรกับเรื่องไร้สาระแบบนี้ ในฐานะคนในเขาเข้าใจสิ่งที่เรียกว่าการสัมภาษณ์ในรายการและพวกเขาก็ต้องทำตามเป้าหมายนั้น ในชีวิตก่อนเข้าหลังจากที่ดาราได้รับการสัมภาษณ์ บางคนถึงกับหย่ากันหลังจากที่รู้บางเรื่อง มันถือว่าดีที่ถ่ายรายการแบบนี้ ดาราบางคนพูดถึงแรงบันดาลใจรึไม่ก็เรื่องรักหรือเรื่องเศร้าในอดีต
แน่นอนแม้ว่าเขาจะไม่ได้เห็นด้วยแต่ในใจเขาก็ยังมีเรื่องเศร้ามากมาย เขาอายที่จะพูดออกมาว่าเขาคือเทวดาที่ถูกพระเจ้าส่งลงมาให้ช่วยเด็กสาวที่หลงทาง
โซเฟียร์ แสดงสีหน้าซึ้งออกมา มันจริงรึเปล่านั้น เอริค เองก็ไม่รู้
“ งั้นหวังว่า คุณแบรี่มอร์ จะได้กลับมาในหนังและนำผลงานดีๆให้เราได้ชมอีก เอาล่ะ มาดูว่ามีอะไรอย่างอื่นอีกบ้าง “ – โซเฟียร์ พูดขึ้นมาและเลือกวิดิโอขึ้นมาอีกอันก่อนที่จะเอาไปเปิด
กล้องสั่นเล็กน้อย ฉากนี้ไม่ใช่ในสตูดิโออีกต่อไปแต่เป็นถนน มีรถตำรวจหลายคันที่จอดอยู่รอบๆ มีกล้องและไมค์หลายตัวอีกทั้งทีมงานที่พูดคุยกันอยู่ บางคนดื่มน้ำอยู่ บางคนยืนพิงประตูรถ เดาได้ว่าตอนนี้ทีมงานกำลังพักกอง
เสียงได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง – “ สวัสดีทุกคน ฉันนักข่าวจากช่อง ABC ดรูวส์แบรี่มอร์ และฉันได้ยินว่ามีการปล้นธนาคารที่นี่ เรามาสัมภาษณ์ผู้กำกับกันดีกว่า คุณเอริควิลเลียม “
กล้องค่อยๆเข้าไปใกล้ เอริค ที่ซึ่งใส่แว่นตาดำและหมวกเบสบอล เด็กสาวเหมือนจะพูดบางอย่างและจากนั้นไมค์ขนาดใหญ่ก็ค่อยๆโผล่มาตรงหน้ากล้องและขยับเข้าไปหา เอริค บังเอิญว่ามันไปจิ้มกับจมูก เอริค เข้า มันตลก เสียงของเด็กสาวที่รู้สึกผิดก็ดังขึ้นมา – “ ผู้กำกับ ฉันโดนบังคับ อย่าโทษฉันเลย “
เอริค และ โซเฟียร์ เห็นภาพนี้แล้วหัวเราะออกมา ผู้ชมในห้องส่งต่างก็ต้องหัวเราะออกมาตามกัน
ในภาพนั้น เอริค ได้ถอดแว่นตาดำออกแล้วส่งสายตาหมดหนทางให้กับกล้องพร้อมกับใบหน้าที่บอกว่าช่วยไม่ได้
“ คุณวิลเลียม ฉันได้ยินว่ามีการปล้นธนาคารที่นี่ สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง คุณช่วยอธิบายกับทุกคนได้มั้ย ?” – ดรูวส์ ถามออกมาอย่างจริงจัง
“ ก็ “ – เอริค ผลักไมค์ออกไปจากหน้าตัวเองและพูดขึ้นอย่างเฉื่อยชา – “เราควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว คุณนักข่าว เห็นนั่นมั้ย มีโจรสองคนกับทีมพิเศษและพวกเขาก็เล่นโปกเกอร์กันอยู่ บรรยากาศดูสงบดีแต่ แฮงค์ ไม่ได้แค่คุยกับตำรวจอีกคน จริงๆแล้วเขากำลังทดสอบอีกฝ่ายอยู่ เราเรียนรู้แล้วว่าชุดนั้นเหมือนกับผีเลย สำหรับการเตรียมการจับกุม ตามที่หัวหน้าตำรวจ โจเปสกี้ นั้นอยู่ในช่วงฉุกเฉินของฉุกเฉินและคงไม่กลับมาใน 1 ชม. ฉันมั่นใจว่าตัวประกันคงยังไม่เป็นไร….”
คำพูดตลกของ เอริค ทำให้ผู้ชมตลกไปด้วยอีกครั้ง หลังจากที่เล่นคิดตามคำพูดนี้ โซเฟียร์ ก็ได้ยิ้มออกมาและเลือกวิดิโออื่นขึ้นมาเปิดอีก ระหว่างการพูดคุยของทั้งสองคนและการขัดขึ้นมาของผู้ชม ไม่รู้เลยว่าเพราะการต้องถ่ายซ้ำหลายครั้งรึเปล่าที่ทำให้รายการโชว์ 40 นาทีต้องใช้เวลาถ่ายทำถึง 2 ชม.