I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี - ตอนที่ 168
Chapter 168 บ้านเล็กๆของ Friends
ตอนที่แชนเดอร์กับคนอื่นๆกำลังคุยกัน ทันใดนั้นรอทธ์ก็โผล่มาหลังโซฟาอย่างกับผีอย่างนั้นล่ะ ในมือถือร่มอยู่ 1 คัน เขาก้มหน้ากำหมัด ก่อนจะทักทายด้วยเสียงที่อ่อนแรงว่า
” Hey….”
ทำให้บรรยากาศแห่งความสุขกระจายตัวไปอย่างรวดเร็ว ท่าทางของแชนเดอร์และคนอื่นก็แย่ลงตาม
” พระเจ้า พอเขาอ้าปากฉันก็อยากจะฆ่าตัวตายทันทีเลย ” พูดบทจบก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆแชนเดอร์ก็ถูกตะโกนเรียก
” ไม่ได้ รอทธ์ นายเพิ่งจะซ้อมรบมาเหรอ ไม่เลวเลยนะ แต่อารมณ์ในบทยังไม่ได้ที่นะ นายต้องหดหู่อีกหน่อยตั้งใจอีกหน่อยก็น่าจะได้อยู่ ตอนก่อนหน้านี้ที่ฉันเคยต่อบทกับนายน่ะ ฉากนี้สำคัญกับนายอยู่นะ ฉันหวังว่าผู้ชมตอนที่ได้ยินประโยคแรกของนายจะหัวเราะออกมา ในตอนนั้นพวกเขาก็จะจำนายได้แน่นอน ” เอริคพูดเพื่อดึงการแสดงของรอทธ์อย่างอดทน แม้แต่คำเรียกก็ใช้บุคลิกตัวละครแทน ทุกคนก็รู้สึกว่าที่เอริคพูดมันไม่ได้ไม่เหมาะสมอะไร พวกเขามองการแสดงของเอริคอย่างเงียบ เอริคแม้ว่ายังวัยรุ่น แต่ก็เป็นผู้กำกับใหญ่ที่ทำยอดขายได้กว่า 1000 ล้านเหรียญทั่วโลก เมื่อเขามาเป็นผู้กำกับละครทีวี ก็ทำให้ทุกคนนั้นต่างก็นับถือ
” เอาล่ะ ทีมงานทุกคนเตรียมพร้อม พวกเราจะถ่ายกันอีกครั้ง “พอ เอริคพูดจบ เขาก็เข้าไปนั่งที่เก้าอี้ผู้กำกับอีกครั้ง
เพราะข้อกำหนดในฉากนี้ของรอทธ์เข้มงวดมาก
กล้องตัวเล็กๆนี้ถ่ายไปกว่า 10 รอบ จนกระทั่งสุดท้าย การแสดงของรอทธ์ก็แสดงออกด้วยท่าทางหงุดหงิด แต่สุดท้ายก็ผ่านจนได้
” เจนนี่ คิวเธอแล้ว ” ตามมาด้วยอีกไม่กี่ฉาก เอริคถึงจะพูดกับเจนนี่ที่นั่งข้างๆ หญิงสาวที่ยุ่งอยู่กับการใส่ชุดเจ้าสาว กลับตัวออกมาจากประตูร้านกาแฟใจกลางสวนสาธารณะ
เพราะเป็นวันแรกที่เปิดกล้อง ทีมงานถ่ายได้ไม่กี่ฉาก หลักๆจะทำความเข้าใจกับเหล่านักแสดง อีกเหตุผลเพราะเป็นฉากตลก แม้ว่าในกองจะไม่มีเสียงหัวเราะ แต่บรรยากาศในฉากมีความสุขมากๆ เดิมทีเพราะเอริคกำกับด้วยตัวเอง คนส่วนใหญ่ในฉากตัวสั่นไปหมด แต่เมื่อเวลาผ่านไป
ทุกคนก็ค่อยๆเข้าใจเอริคมากขึ้น ก็ไม่ค่อยหงุดหงิดแล้ว ทั้งยังกล้าล้อเล่นกับเอริคบ้างแล้ว
จากการพูดคุยผ่านไปไม่กี่วันการถ่ายทำ《Friends》ก็ค่อยๆเร็วขึ้น เอริคเตรียมเวลาถ่ายล่วงหน้า 2 อาทิตย์ เพื่อจะมากำกับการถ่ายด้วยตัวเอง นี่เขาก็ผ่อนคลายมากแล้ว ไม่อย่างนั้นหลังจากนี้เมื่อมีการเปลี่ยนวันออกอากาศ โดยพื้นฐานแล้ว ทุกอาทิตย์ทีมงานต้องถ่ายสะสมไว้
” เอริค เย็นนี้พวกเราไปกินข้าวด้วยกันไหม ? ” หลังจากวันที่ถ่ายเสร็จแล้ว เจนนี่เปลี่ยนชุดกองถ่ายเสร็จก็มาเกาะที่แขนของเอริค แต่ทุกคนรอบๆนั้นก็รู้ความสัมพันธ์ของพวกเขาอยู่แล้ว หญิงสาวจึงไม่ได้ปิดบังอะไร
” ฉันเพิ่งจะนัดคนไว้แล้ว ถ้าคุณสนใจก็ไปด้วยกัน ” เอริค ที่กำลังเขียนบนเอกสารชุดหนึ่ง พูดตอบไป
เจนนี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะถามว่า ” ผู้ชายหรือผู้หญิง ? “
” เอ่อ…..ผู้ชายอยู่แล้วสิ “
” ฉันก็รู้ ” หญิงสาวยังคงเบ้ปาก ” ถ้าเป็นผู้หญิงคุณคงไม่พาฉันไปแน่ๆ “
” เหมือนว่านอกจากคุณแล้ว ฉันยังไม่เคยนัดผู้หญิงคนไหนไปกินข้าวเลย ” เอริคเก็บปากกาไปพร้อมกับเอกสาร ยื่นมือมาหยิกที่แก้มของหญิงสาวอย่างหมั่นเขี้ยว
เจนนี่ปัดมือเอามือเอริคออกอย่างไม่พอใจ ” เชื่อคุณก็แปลกแล้ว ใครจะรู้ล่ะว่าลับหลังฉันคุณทำอะไรบ้าง นิโคล คิดแมนอะไรนั่นล่ะ เรื่องมันเป็นยังไง ? “
” เรื่องมันเป็นยังไง ? อะไร ? ” เอริคแสร้งตอบกลับอย่างไม่เข้าใจ
” คุณ….” เจนนี่ท่าทางเหมือนจะแถมเอริคว่าเคยขึ้นเตียงกับอีกฝ่ายไหม แต่คำพูดอยู่ที่ปากก็กลับเข้าไป ถามแล้วยังไง ถึงตอนนี้ไม่เคยขึ้นเตียง หญิงสาวก็รู้สึกว่าในอนาคตเอริคอาจจะขึ้นเตียงกับอีกฝ่ายก็ได้ ถ้าขึ้นเตียงแล้ว ตัวเองจะทำยังไง เลิกกับเขาเหรอ ?
เอริคนั้นอ่านเอกสารอีกชุดอย่างเร่งรีบ เซ็นชื่อแล้วส่งให้ผู้จัดการอลัน แล้วโอบเอวของหญิงสาว ” เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ กลับไปเตรียมตัวสักหน่อยก่อน ฉันนัดอีกฝ่ายไว้ 1 ทุ่มตรง ยังมีเวลาอีก 2 ชั่วโมง คุณไปนั่งเล่นที่บ้านหน่อยเป็นไง ดรูว์น่าจะคิดถึงคุณแล้ว “
” อืม ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนกัน ” ได้ยินชื่อดรูว์ หญิงสาวก็ลืมเรื่องอื่นไปเลย หลังจากที่ทะเลาะกันครั้งที่แล้ว ผู้หญิงสองคนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยของเอริค เธอก็ไม่พบดรูว์อีกเลย ช่วงหลายเดือนมานี้ เจนนี่ก็ไม่เคยไปบ้านเอริคเลย ปกติก็มีแต่เอริคที่จะไปค้างคืนที่บ้านเจนนี่ เพราะอย่างนี้ หญิงสาวถึงไม่เคยจับเรื่องนิโคลได้คาหนังคาเขา รอจนข่าวนางเอกหนังเรื่องใหม่ของเอริคตีพิมพ์บนหนังสือพิมพ์ เจนนี่ถึงจะรู้ว่านิโคลคือผู้หญิงคนนี้
หลังจากบอกลาทีมงาน เอริคก็ขับรถกลับไปที่บ้านพักของเขาที่เบฟเวอรีย์ฮิลล์ แม้ว่าปากจะพูดไปอย่างนั้น แต่เมื่อเห็นเด็กสาวไม่อยู่บ้าน เอริคก็ค่อยโล่งอกไปหน่อย หลังจากเรื่องขึ้นเตียงกับนิโคล สาวน้อยคงโกรธจนตัวสั่น หลังจากนิโคลออกจากบ้านไป ตอนเย็นสาวน้อยก็วิ่งไปที่เตียงเอริคอย่างหงุดหงิด เธอจัดการเตียงจนสะอาดเหมือนใหม่
แม้ว่าจะมาบ้านของเอริคเป็นครั้งที่ 2 แต่ประสบการณ์ครั้งแรกก็ย่ำแย่นิดหน่อย โดยพื้นฐานแล้วเจนนี่ไม่ได้ประทับใจอะไรบ้านเอริคนัก หลังจากพบว่าดรูว์ไม่อยู่บ้าน หญิงสาวก็เหมือนเจ้าของบ้าน เธอเดินไปรอบๆบ้าน ทั้งบน ล่าง และด้านนอกด้านใน เธอยังไปนั่งที่เตียงของเอริคถึงสองรอบ
” หืม คุณยิ้มอะไร ? “
ในห้องนอนเอริค เจนนี่กอดหมอนใบนึง หญิงสาวเงยหน้าขึ้น พอดีเห็นสายตาเอริคมองมาที่เธอ เธอเลยถามอย่างไม่พอใจ
เอริคส่ายหัว ” ไม่มีอะไร ฉันแค่อยากรู้ว่าคุณกำลังทำอะไร แสดงอาณาเขตหรอ ? “
” เห้ ” หญิงสาว ส่งเสียง จากนั้นเธอเมินหันหลังใส่เอริค
เอริคยกไหล่ เดินเข้ามา เปิดตู้เสื้อผ้า วันนี้เจนนี่ใส่กระโปรงยาวพอดี ดูแล้วเหมือนชุดพิธีการ หญิงสาวสวยอย่างธรรมชาติ ดังนั้นไม่ต้องเปลี่ยนชุดก็ไปงานเลี้ยงได้อย่างไม่มีปัญหา
” เอาล่ะ พวกเราไปกันเถอะ ” เอริคเปลี่ยนชุดเรียบร้อย พลางมองไปที่เจนนี่ที่นอนเอนอยู่บนเตียง หญิงสาวพูด
” อื่ม ” เจนนี่ตอบ แต่ไม่ลุกขึ้นทันที อีกทั้งยังหยิบผมเส้นยาวขึ้นมาจากบนเตียงแกว่งให้เอริค ” คุณต้องอธิบายเรื่องนี้ให้ฉันฟัง “
เอริคยกไหล่ ” นี่ก็ต้องเป็นผมคุณที่ร่วงใส่หมอนผมแน่ๆ “
” ….. ” หญิงสาวโดนขัด เธอโยนเส้นผมไปบนตัวของเอริค แล้วหันหลังกลับไปเอนตัวนอนลงเตียงด้วยสีหน้าเศร้า แล้วเอาหมอนปิดหัว
เอริคเดินเข้าไปใกล้พลางใช้ฝ่ามือตีก้นหญิงสาวเบาๆอย่างหยอกล้อ ” พอแล้ว อย่างี่เง่าสิ พวกเรารีบไปกันเถอะ “
” อื้ม….. ” หญิงสาวเงยหน้าพร้อมตามัวๆ ไม่ขยับอะไร เอริคยิ้มแห้งๆออกมา พูดขึ้นว่า ” เจนนี่ บนหมอนนั้นอาจจะมีคราบน้ำลายของดรูว์ก็ได้ “
” อ่อ…..หรอ ฮือๆๆๆ น่ารังเกียจจริงๆ ” เจนนี่ได้ยินคำพูดเอริคก็กระโดดขึ้นมาทันที แต่ปาหมอนไปบนตัวเอริค จากนั้นเธอพุ่งเข้าไปห้องน้ำอย่างเร็ว
” เอาล่ะๆ อย่าโกรธเลย ” หลังจากลงรถ เอริคส่งกุญแจให้เด็กเปิดประตู พูดกับผู้หญิงที่ควงแขนเขาว่า ” ฉันบอกไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว นั่นเป็นหมอนของฉัน ก็ต้องเป็นน้ำลายของฉันสิ “
” อื้ม น้ำลายของคุณน่ารังเกียจมาก ” หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะเบ้ปาก พูดอย่างมองค้อน
ทั้ง 2 คนเดินเข้าร้านอาหารไปด้วยกัน ภายใต้การนำทางของบริกร พวกเขามาถึงข้างโต๊ะอาหารโต๊ะหนึ่ง ตรงนั้นมีชายวัยกลางคนรออยู่แล้ว เมื่อเขามองมาที่เอริคชายวัยกลางคนคนนั้นยืนขึ้นยิ้มแล้วเดินหน้าไป 2 ก้าวยื่นมือไปที่เอริค
” สวัสดี คุณเชียร์ ” เอริคจับมือกับฝ่ายตรงข้าม แนะนำอีกว่า ” นี่คือแฟนผม เจนนิเฟอร์ เจนนี่ “
หญิงสาวจับมือกับอีกฝ่าย นั่งลงข้างๆเอริคอย่างเงียบ
” เอริค เรียกผมว่าโรเบิร์ตก็ได้ ” ตอนที่ชายวัยกลางคนนั่งลง พูดอย่างนี้
เอริคไม่ค่อยได้ยินข่าวของอีกฝ่ายมากนัก และเขาก็ไม่สนใจด้วย แต่ธุระก็ไม่สามารถจบลงได้ที่มื้ออาหารมื้อนี้ เอริคเข้าใจ นี่แค่เป็นการสัมภาษณ์เบื้อต้นระหว่างทั้งสองฝ่ายเท่านั้น ยากที่จะสำเร็จ หลังจากสั่งข้าวแล้ว เอริคและโรเบิร์ต เชียร์ คุยกันเรื่อยเปื่อย
” 《A Nightmare on Elm Street 》เป็นหนังสยองแบบดั้งเดิมจริงๆ การออกแบบฉากฆ่าคนในความฝันทั้งใหม่และก็ดั้งเดิมมากๆ อีกทั้ง เป็นหนังสยองชั้นดี เวส เครฟเว่น สร้างหนังสยองขวัญที่เข้าใจและเข้าได้ถึงอารมณ์ ที่จริงแล้ว Firefly เองก็มีหนังสยองที่กำลังจะถ่ายทำเสร็จ ตอนแรกตอนที่เลือกผู้กำกับ ฉันก็พิจารณาคุณเครฟเว่นแล้ว เสียดายเพราะสาเหตุหลายอย่าง เลยไม่ได้ทำงานร่วมกัน ” คุยๆอยู่ ก็คุยถึงผลงานของ New Line Cinema อย่าง《A Nightmare on Elm Street》New Line Cinema ถึงแม้จะเริ่มผลิตหนังตั้งแต่ปี 79 แต่ตลอดจนถึงปี 1984 《A Nightmare on Elm Street》 หนังเรื่องแรกประสบความสำเร็จ ถึงทำให้บริษัท New Line Cinema ได้ยกระดับขึ้น ดังนั้น จากซีรีย์ 《A Nightmare on Elm Street》 สำคัญกับบริษัท New Line Cinema จนกระทั่งบริษัทได้รับ ‘บ้านเล็กๆของ Friends ‘ ในชื่ออื่น Friends นั้นเป็นส่วนหนึ่งของ 《A Nightmare on Elm Street》
ได้ยินเอริควิจารณ์อย่างชื่นชม สีหน้าของโรเบิร์ต เชียร์ก็แสดงออกถึงความภาคภูมิใจ ” ถึงอย่างนั้น ก็ไม่เท่ากับ 《Home Alone》หรอก ได้ยินมาว่า 《Home Alone》ต้นทุนแค่ 1 ล้าน แต่กับขายตั๋วทั่วโลกได้กว่า 500 ล้านดอลล่าร์ ขายตั๋วมากกว่าต้นทุนถึง 500 เท่า ลงทุนอย่างนี้ได้กำไรมากว่ามาก ในอนาคตอาจจะไม่มีหนังเรื่องไหนทำได้อย่างนี้แล้วก็ได้ “
” ต้องมีแน่นอน ” เอริคยิ้ม ในตอนนั้นก็คิดขึ้นได้ว่าเรื่องนี้ในชีวิตก่อน 《The Blair Witch Project》แม้ว่าหนังเรื่องนั้นจะประสบความสำเร็จและได้รับโอกาสมากมาย แต่ในตอนนี้แม้แต่ปาฏิหาริย์ก็ไม่สามารถสร้างหนังเรื่องนั้นได้