I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี - ตอนที่ 181
ตอนที่ 181 ไอ้คนน่ารังเกียจ
“เฮ้ เอริค ฉันเคยดูหนังทุกเรื่องของคุณ แต่ว่านอกจากเรื่อง The Dark War แล้ว เรื่องอื่นๆฉันคิดว่ามันก็ธรรมดาๆนะ”
ขอบคุณสำหรับคำชม เอลิซาเบธ
“ฉันไม่ได้ชมคุณ” เด็กสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง “ฉันแค่อยากรู้ว่าหนังไม่กี่เรื่องพวกนั้นทำไมถึงสร้างชื่อเสียงให้กับให้กับบ็อกออฟิสมากมายจนน่าตกใจขนาดนี้ เรื่องนี้มันเป็นหัวข้อที่น่าสนใจมากนะ ฉันจะเอาไปเขียนวิทยานิพนธ์จบการศึกษาของฉัน “
“คุณเรียน …เกี่ยวกับสื่อมวลชนเหรอ” เอริคถามขึ้นด้วยความสงสัย
“แน่นอน ฉันกำลังเรียนอยู่ Vassar College University ที่นิวยอร์ก ปีหน้าก็จบแล้ว”
เอริคพยักหน้าและไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ ถึงแม้ว่าเขาจะได้ครอบครองร่างกายนี้แล้ว เขาก็ต้องรับช่วงต่อความทรงจำของร่างกายนี้ เพียงแต่ตอนนี้ชื่อมหาลัยใน Ivy League เขาก็ยังจำได้ไม่หมดเลย แล้วชื่อ Vassar College University ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เด็กสาวเห็นเอริคแสดงท่าทางไม่ได้ดูสนใจในสิ่งที่หล่อนกล่าวจึงทำให้หล่อนไม่พอใจ “คุณไม่เคยได้ยินชื่อ Vassar College University เหรอ”
เอริคยักไหล่ “เอลิซาเบธ จริงๆแล้วผมจบเพียงแค่มัธยมเท่านั้น แค่ชื่อมหาลัยใน Ivy League ผมก็ยังจำได้ไม่หมด ดังนั้น….”
“งั้นช่างเถอะ” เด็กสาวยักไหล่อย่างจนปัญญา เอลิซาเบธสนใจเรื่องราวของเอริคมากขึ้น เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ไม่ได้เรียนจบจากมหาวิทยาลัย แต่เขาสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น มันน่า…แปลกใจจริงๆ
ผู้บริหารระดับสูงจาก Universal และ MGM ทั้งสองคนมาถึงในเวลาเกือบบ่ายสอง หลังจากเดินทางมาถึงกลุ่มพนักงานก็นำพวกเขาไปยังห้องประชุมหรูหราใน Sunset Hotel ทันที
เอริคที่กำลังคุยอยู่กับเวอร์จีเนียได้นั่งแถวแรกสุด ไมเคิล ไอสเนอร์และผู้อำนวยการของ Paramount อย่าง เนเทอร์ ทาร์ลนั่งแยกคนละฝั่ง ส่วนผู้บริหารระดับสูงทั้งห้าแห่งต่างก็นั่งกระจัดกระจายกันทั่วห้องประชุม เพราะแปดที่นั่งในแถวแรกสุดนั้นมีคนนั่งเต็มหมดแล้ว
แขกที่ไม่รับเชิญอย่างเอลิซาเบธ เมอร์ด๊อคก็ไม่ได้ทำให้พนักงานลำบากใจแต่อย่างใด หล่อนเลือกที่นั่งแถวหลังของทีมงานของหนังเรื่อง The Others และ Steel Magnolias ด้วยตัวเอง และยังได้นั่งข้างกับจูเลียด้วย
จูเลียมองเด็กสาวแปลกหน้าที่ปรากฏขึ้นด้านข้างของหล่อนด้วยความแปลกใจ หล่อนไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นใคร แต่เมื่อหล่อนนึกถึงนิสัยความเจ้าชู้ของเอริค แล้วยิ่งคิดว่าเด็กสาวคนนี้ดูคล้ายคลึงกับเวอร์จีเนียอีก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หล่อนรู้สึกไม่ชอบเด็กสาวคนนี้ขึ้นมา
ถึงแม้จูเลียไม่ได้มีอารมณ์และมีสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับเอริคอีก แต่เอริคกลับสร้างบาดแผลไว้ในใจของหล่อน บาดแผลนี้เป็นเหมือนตราบาปทำให้จูเลียมักจะเปรียบเทียบผู้ชายคนอื่นกับเอริคโดยไม่รู้ตัว แต่หลังจากนี้หล่อนจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก
แต่ทว่าในช่วงที่ถ่ายทำหนังเรื่อง Steel Magnolia หล่อนเริ่มพยายามเข้าหา ดิลเลอร์ แม็กเดอร์เมดซึ่งรับบทเป็นสามีของตัวละครในหนังที่แสดงโดยจูเลีย ดิลเลอร์นั้นเป็นผู้ชายสูงหล่อ จบการแสดงจาก Fordham University ในนิวยอร์ก เขาเป็นคนหนึ่งที่มีความสามารถมาก นอกจากนี้เขายังเป็นคนอ่อนโยนเอาใจใส่คนรอบข้าง ไม่ได้หยาบคายเหมือนเอริค ด้วยเหตุนี้จูเลียจึงอยากลองคบกับเขา หลังจากที่ถ่ายทำหนังเรื่อง Steel Magnolia จบ ความรู้สึกนั้นเป็นเหมือนเงาที่อยู่ในใจของจูเลีย ตลอดการถ่ายหนังหล่อนไม่สามารถลบมันออกจากใจได้เลย สุดท้ายสิ่งที่จูเลียทำมาก็ไม่มีประโยชน์
เพราะเหตุนี้จูเลียถึงเกลียดเอริค หล่อนรู้สึกว่าเอริคมีผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัว หล่อนพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้มันเพิ่มขึ้น หลังจากที่ถ่ายทำหนังเรื่อง Steel Magnolia เสร็จ เขาและหล่อนต่างก็แยกย้ายกันไป ถึงแม้จูเลียจะอยู่ในลอสแองเจลิสแต่หล่อนกลับไม่เคยเจอเอริคเลยสักครั้ง
ระหว่างที่รอทีมงานเตรียมฉายหนังอยู่นั้น เอลิซาเบธ เมอร์ด๊อค ก็หันไปทักทายจูเลีย หลังจากที่ได้ทักทายกันเสร็จแล้ว เอลิซาเบธจึงถามจูเลียด้วยเสียงเบาๆว่า “พี่จูเลีย พี่คิดว่าเอริค วิลเลียมเป็นคนแบบไหนเหรอ”
“ไอ้คนน่ารังเกียจ!” จูเลียจมอยู่กับความคิดความรู้สึกที่ยากจะเข้าใจนี้ แต่เพราะว่าเอลิซาเบธนั้นอยู่ใกล้เกินไป จูเลียจึงไม่อาจกล่าวมันออกมาดังๆได้
… เอลิซาเบธมองจูเลียด้วยความประหลาดใจโดยไม่ได้กล่าวอะไร
เพราะเสียงจูเลียนั้นเบามากบวกกับเสียงคุยจากผู้คนในห้องประชุม จึงมีเพียงสองสามคนเท่านั้นที่ได้ยินบทสนธนาของพวกหล่อน หญิงสาวที่นั่งอีกด้านอย่างแซลลี ฟิลด์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา หล่อนคือคนหนึ่งที่ได้มาร่วมงานแถลงข่าวนี้ และยังเคยได้ยินข่าวลือระหว่างจูเลียกับเอริคมาบ้าง และแน่นอนเมื่อได้มายินประโยคของจูเลียที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจเด็กสาวที่นั่งอยู่ด้านข้าง ทำให้หล่อนหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว
หลังจากที่จูเลียแสดงท่าทางแบบนั้นไปก็ทำให้หล่อนหน้าแดงด้วยความอาย แทบอยากจะลุกหนีออกไปจากตรงนี้ แต่โชคดีที่ภายในห้องประชุมนั้นมืดลงสักก่อน จึงทำให้จูเลียถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เอลิซาเบธ เมอร์ด๊อคนั่งหลังตรงและอดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆอีกครั้ง ก่อนจะหันไปสนใจจอหนังที่กำลังจะฉาย
ประเดิมเรื่องแรกด้วยเรื่อง Steel Magnolias ของผู้กำกับเฮอร์เบิร์ตโรสส์ หนึ่งในหนังสามเรื่องที่เอริคลงทุนไป เรื่อง The Others เป็นเรื่องที่มีคนให้ความสนใจมากที่สุดจึงถูกฉายไว้หลังสุด
หนังเรื่อง Steel Magnolia เป็นหนังที่ค่อนข้างละเอียดมาก เป็นเรื่องราวการใช้ชีวิตของหญิงสาวทั้ง 6 คน เค้าโครงเรื่องส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับวันสำคัญต่างๆ เช่น วันแต่งงานของตระกูลอินตัน วันอีสเตอร์เอ๊ก วันคริสมาส วันปีใหม่ และงานศพ ถึงแม้ว่าผู้กำกับอย่างเฮอร์เบิร์ตโรสส์ จะสอดแสดงความตลกไว้ในหนังแล้ว แต่หนังเรื่องนี้ก็ยังคงเค้าโครงเรื่องของตัวละครไว้อยู่เหมือนเดิม
หนังเรื่องนี้เริ่มต้นด้วยการแต่งงานของเชลบี อินตันที่รับบทโดยจูเลีย หนังถูกดำเนินเรื่องไปกว่าสิบนาที แต่ละช่วงของหนังถ่ายถอดออกมาได้อย่างละเอียด โดยเฉพาะนิสัยที่แตกต่างกันของตัวละครนำซึ่งเป็นผู้หญิงทั้ง 6 คนนั้น ถูกฉายออกมาให้ผู้ชมได้เห็นอย่างชัดเจน
หลังจากการแต่งงานของเชลบี ก็ถึงช่วงวันปีใหม่ แอนนาเป็นช่างทำผมที่ขี้อายที่สุดคิดว่าตัวเองต้อยต่ำกว่าคนอื่น แต่แล้ววันหนึ่งหล่อนก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเมื่อหล่อนพบกับพนักงานคนหนึ่งในงานแต่งงานของเชลบี ทั้งสองคนตกหลุมรักกัน และไม่นานก็ตัดสินใจชีวิตร่วมกัน แอนนารู้สึกว่าชีวิตที่มีความสุขนั้นมันยากมาก หล่อนจึงเริ่มหันมาให้ความสนใจพระเยซู ในทุกๆวันหล่อนไม่เคยลืมที่จะสวดมนต์ภาวนาต่อพระองค์ ย้อนกลับมาที่เชลบีหล่อนต้องทนทุกข์ทรมารจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงระหว่างการตั้งครรภ์ ภาวะชนิดนี้เป็นภาวะที่ตรงข้ามกับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ขาดแคลนอินซูลิน โรคชนิดนี้ทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำอย่างรุนแรง เมื่ออาการกำเริบ น้ำตาลในเลือดจะลดลงและทำให้เกิดอาการวิงเวียน เพราะเหตุนี้คุณหมอจึงบอกว่าเชลบีนั้นไม่ควรที่จะมีลูก
หลังจากแต่งงาน เพราะการวินิจฉัยของแพทย์ แต่ทว่าตัวเชลบีเองนั้นไม่ต้องการรับเลี้ยงเด็กบุญธรรม ด้วยเหตุนี้หล่อนจึงต้องปิดบังความจริงกับพ่อแม่และยังยืนยันที่จะอุ้มท้องต่อไป
ชีวิตค่อยๆผ่านไปอย่างช้าๆ ลูกของเชลบีก็ค่อยๆเติบโตขึ้น แต่ทันใดนั้นก็มีข่าวร้ายเกิดขึ้นกับครอบครัวนี้
เพราะเหตุที่หล่อนคลอดลูกทำให้ไตของหล่อนได้รับความเสียหายอย่างหนัก แม่ของหล่อนจึงตัดสินใจบริจาคไตให้กับลูกสาว
การผ่าตัดเป็นผลสำเร็จ เชลบีได้กลับสู่สภาวะปกติอีกครั้ง แต่ชีวิตคนเราก็ไม่ได้สมปรารถนาไปสักทุกอย่าง ในขณะที่ลูกชายของหล่อนค่อยๆเติบโตขึ้น ตัวเชลบีเองก็ทุ่มเทกับงงานที่ตัวเองรักอย่างหนัก แต่แล้ววันหนึ่งขณะที่หล่อนกำลังดูแลลูกอยู่ที่บ้านนั้นก็เกิดอาการหน้าวูบและหมดสติอยู่บนพื้น
หลังจากที่หล่อนถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล หญิงสาวผู้น่าสงสารทำได้เพียงแค่อาศัยเครื่องช่วยหายใจเพื่อยื้อชีวิตไว้เท่านั้น แม่ของหล่อนเฝ้าดูแลหล่อนทั้งวันทั้งคืนแต่หล่อนก็ไม่มีปฏิกิริยาที่จะฟื้นขึ้นมาเลย สามีของหล่อนจึงตัดสินใจเซ็นเอกสารยืนยันของโรงพยายบาลด้วยน้ำตา ในที่สุดโรงพยาบาลก็ถอดเครื่องช่วยหายใจออกและเชลบีก็จากไปอย่างสงบ