I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี - ตอนที่ 215
ตอนที่ 215 หนึ่งนาที
เมอร์ด๊อกจ้องไปที่ตาของเด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเขาที่กําลังแสดงสีหน้าคาดเดาได้ยากก่อนจะกล่าวออกมาว่า “ เอริค นายควรจะรู้นะว่า หุ้น 10% ที่นายพูดถึงมันเป็นไปไม่ได้ ถึงฉันจะตอบตกลงคณะกรรมการคนอื่นๆก็คงจะไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน “
ทว่าท่าทางและน้ําเสียงของเมอร์ด๊อกกลับไม่ได้ทําให้เอริครู้สึกกดดันแม้แต่น้อย เอริคตอบกลับไปด้วยน้ําเสียงที่ผ่อนคลายว่า “ คุณเมอร์ด๊อกแม้ว่าคุณจะไม่สามารถควบคุมได้ แต่ทั้งโลกต่างก็รู้กันหมดว่า News Crop เป็นของรูเพิร์ต เมอร์ด๊อก ผมเชื่อว่าคุณมีสิทธิที่จะตัดสินใจเรื่องนี้ ดังนั้นผมว่าอย่าเอาเรื่องของคณะกรรมการเหล่านั้นมาเป็นเหตุผลในการปฏิเสธผมดีกว่านะ ”
” งั้นฉันขอตอบนายชัดๆเลยก็แล้วกันนะเอริค เรื่องนี้ไม่มีช่องว่างสําหรับการเจรจาต่อรองเพราะฉะนั้นฉันว่านายเปลี่ยนเงื่อนไขเป็นอย่างอื่นเถอะ ”
เอริคยังคงรักษาท่าทางที่ผ่อนคลายเช่นเดิม เขายกขาขึ้นมาไขว่ห้างก่อนที่จะพูดด้วยน้ําเสียงที่ดังชัดขึ้นว่า “ คุณมอร์ด๊อก ก่อนหน้านี้ผมเองก็ได้บอกคุณแล้วนะว่าคนเป็นคนดื้อรั้นถ้าให้ผมเอ่ยปากพูดอะไรออกมาแล้วมันไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้อีก ”
เมื่อพูดจบภายในห้องรับแขกก็เงียบลงในทันที ทั้งสองจ้องตากันโดยไม่มีใครละสายตา ผ่านไปเพียงครู่หนึ่งเอริคก็ละสายตาออกจากการจ้องมองเมอร์ด๊อก แต่การกระทําของเขาไม่ใช่เป็นเพราะเขายอมแพ้ฝ่ายตรงข้าม เขาคิดว่าการที่เขาแสดงท่าที่กดดันฝ่ายตรงข้ามไม่ได้มีประโยชน์อะไร เพราะแท้จริงแล้วกุญแจในการเจรจาที่สําคัญคือดูที่ว่าฝ่ายใดมีการต่อรองที่มากกว่า
ยิ่งไปกว่านั้นในเวลานี้การต่อรองที่สําคัญที่สุดได้อยู่ในมือของเอริคแล้ว
หลังจากเดิมกาแฟที่เหลืออยู่ภายในแก้วหมดแล้ว เอริคก็ก้มลงดูก้นแก้วเซรามิคทว่าน่าแปลกที่ตนก้นแก้วกลับไม่มีตัวอักษรใดๆปรากฏอยู่เลยแม้แต่คําเดียว
เมื่อเห็นเช่นนั้นเอริคก็นําแก้วกลับไปวางไว้บนโต๊ะก่อนที่จะเงยหน้ามองเมอร์ด๊อกอีกครั้ง
“ เอริค ฉันว่าวันนี้เราคุยกันแค่นี้ก่อนแล้วกันบางทีพวกเราคงต้องสงบสติอารมณ์ตัวเองสักหน่อย ”
เมอร์ด๊อกกล่าวขึ้นมา ในเวลานี้เอริครู้ตัวในทันทีว่าภายใต้สถานการณ์ที่กดดันเช่นนี้เขาดูเหมือนว่าจะได้เปรียบฝ่ายตรงข้ามอย่างมาก
“คุณเมอร์ด๊อกคิวงานของผมค่อนข้างแน่น ผมคิดว่าหากผ่านวันนี้ไปแล้วผมอาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนเลยหล่ะ ถึงจะมีเวลาว่างให้คุณได้อีกครั้ง อีกอย่างสถานีโทรทัศน์ทั้งสามช่องนั้นก็กําลังรอคําตอบผมอยู่ “ เอริคพูดจบทว่าเขาก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีบางอย่างที่ยังไม่พูด เขาจึงรีบกล่าวต่อทันทีว่า “ อ่อจริงด้วย ไม่กี่ปีมานี้ก็เสียไปไม่น้อยเลย ราคาของพวกเขาที่เสนอให้กับผมถือว่าสูงมาก นอกจากนั้นก่อนหน้านี้พวกเขายังบอกผมอีกว่าเขายอมที่จะจ่ายค่าเสียหายและ ซื้อตอนที่เหลือของซีรี่ยเรื่อง Friends ในซีซั่นหน้าด้วย พูดจริงๆนะ ว่าข้อเสนอของเขาทําให้ผมรู้สึกเทใจไปฝั่งนั้นมากๆเลยหล่ะ ก่อนหน้านี้ซีรี่ย์เรื่อง Friends ในซีซั่นแรกผมได้รับส่วนแบ่ง ค่าโฆษณาจาก FOX เพียงแค่ 40% เท่านั้น แต่ถ้าหลังจากนี้ผมเปลี่ยนบริษัท ราคาที่ผมจะได้รับ คือ…เอ่อ…ขอโทษทีนะ คงจะบอกไม่ได้มาก เพราะมันเป็นความลับทางธุรกิจ ”
คําพูดของเอริคในตอนนี้ทําให้เมอร์ดอกแทบอยากจะเอาของตรงหน้าเขาเขวี่ยงใส่หน้าเอริคอย่างมาก
และแน่นอนว่านั่นเป็นเพียงแค่สิ่งที่เขาคิดเท่านั้น
เมอร์ด๊อกตอบกลับไปด้วยน้ําเสียงเรียบว่า ” หากนายอยากจะละเมิดสัญญางั้นก็ค่อยไปเจอกันที่ศาลก็แล้วกัน และฉันเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้วนายจะไม่ได้อะไรเลยแม้แต่เหรียญเดียว ”
“คุณเมอร์ด๊อก คุณคิดว่าในอเมริกาเหนือเนี่ย News Crop จะสามารถแข่งขันกับสถานีโทรทัศน์ทั้งสามช่องนั้นได้จริงๆหรอ ? ผมว่าคุณเองก็น่าจะรู้แก่ใจดีนะว่าหากเกิดการต่อสู้คดีขึ้น คนที่จะต้องพ่ายแพ้คือ Fox อย่างแน่นอน และบางทีหลังจากที่คดีถูกตัดสินแล้ว ซีรี่ย์เรื่อง Friends ก็อาจจะทําได้แค่รอให้ถูกฉายใหม่อีกครั้งในปีหน้าถึงเวลานั้น Firefly ก็อาจจะขาดทุนกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่น้อยเลยซึ่งนั่นก็จะทําให้ Fox ขาดทุนมหาศาลเช่นกัน หากไม่มีซีรี่ย์เรื่อง Friends ช่อง Foxต้องเริ่มคิดแล้วนะ ว่าจะทํายังไงต่อไป และผมคิดว่าในช่วงเวลาสั้นๆนี้ก็มีเวลาที่มากพอที่สถานีโทรทัศน์ทั้งสามช่องนั้นจะสามารถรับรู้ถึงภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นจนทําให้พวกเขาต้องร่วม มือกันเพื่อที่จะกําจัด Fox ออกไปได้เลยนะ”
” หากทําเช่นนั้นจริงๆ Fireflyก็จะไม่ได้รับประโยชน์อะไรเช่นกัน เอริคนายอย่าลืมนะว่าในอังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์รวมถึงอเมริกาต่างก็เป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ซึ่งข่าวต่างๆก็ต้องพึ่งพาหนังสือพิมพ์และสถานีโทรทัศน์ซึ่งนั่นทําให้สามารถควบคุมสื่อได้อย่างแข็งแกร่ง ในตอนนี้แม้แต่รัฐบาลอังกฤษเองต่างก็ต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับ News Crop อย่างระมัดระวังเพื่อรักษาภาพลักษณ์ในสื่อของพวกเขา หากนายทําแบบที่น่าว่าจริงๆล่ะก็ ฉันสามารถที่จะใส่สีให้กับหนังทุกเรื่องที่ถูกเผยแพร่โดย Firefly ให้แพร่กระจายออกไปให้เสียหายได้อย่างง่ายๆ ซึ่งแน่นอนว่ามันจะสร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ของนายได้อย่างแน่นอน นายเคยรู้ไหมว่า พวกฉันเคยให้ New York Post เอาภาพของนายกับดาราหญิงคนอื่นๆไปลงเป็นข่าวก่อนหน้านี้ ? และมีหลายภาพที่ฉันเป็นคนลงมือด้วยตัวของฉันเอง มีนักข่าวคนหนึ่งของ New York Post ที่สนใจข่าวของนายเป็นพิเศษตั้งแต่เมื่อครึ่งปีก่อนนั้นและเขาก็พยายามติดตามนายไปทุกที่ตลอดระยะเวลา 2 เดือน ไม่ว่าจะเป็นดาราหญิงที่ชื่อว่าเวอร์จิเนีย แมดเซ่น แฟนสาวคนปัจจุบันของนาย จูเลีย โรเบิร์ต อ้อ…เกือบลืมไปแหน่ะ ดรูว์ แบร์รี่มอร์ด้วย เอ๊ะดูเหมือนว่าปีนี้หล่อนจะอายุแค่ 14 ปี เองไม่ใช่เหรอ ? ”
เมื่อเมอร์ด๊อกพูดจบ เอริคที่ฟังอยู่จะแทบจะก้มหน้าลงดื่มกาแฟในแก้วของเขาอีกครั้ง เมื่อเขาทําท่าจะก้มหน้าลงเขาก็รีบเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ในเวลานี้สีหน้าของเอริคเต็มไปด้วยสายตาที่เยือกเย็น ใบหน้าของเขาซีดลงเล็กน้อยทว่ากลับมีรอยแดงปรากฏขึ้นอย่างผิดปกติ
ซวยแล้ว !
ทันใดนั้นภายในใจของเมอร์ดอกก็เปล่งเสียงอุทานขึ้นมา เขาเพิ่งตระหนักขึ้นมาได้ว่าเอริคที่อยู่ตรงหน้าเขามีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้นและเขาก็เป็นเด็กหนุ่มที่ทุ่มเทกับสิ่งที่เขาทํามากด้วย เมื่อเห็นท่าทางของคนตรงหน้าแล้ว เราก็นึกขึ้นมาในทันทีว่าการที่เขาต้องมาเผชิญหน้ากับเอริคในตอนนี้ถือเป็นภัยคุกคามที่มากกว่าหนุ่มสาวคนอื่นๆ และดูเหมือนว่าเขาจะอารมณ์ร้อนได้ง่ายๆเสียด้วย
หากเด็กหนุ่มคนนี้หุนหันพลันแล่นขึ้นมาจนยกเลิกสัญญาซีรี่ย์เรื่อง Friends ไปจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะระดมพลังของสื่อเพื่อทําให้ภาพลักษณ์ของเด็กหนุ่มคนนี้เสียหายจริงๆ แต่ News Crop ก็ไม่ได้อะไรจากการทําเช่นนี้เลยแม้แต่น้อย
ดูเหมือนว่าตอนนี้เอริคจะไม่ทันได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของเมอร์ด๊อก เขายกแขนขึ้นมาก่อนที่จะก้มลงมองนาฬิกาของมือของเขาก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองเมอร์ดอกอีกครั้ง
“ คุณเมอร์ด็อก คุณมีเวลาคิดอีก 1 นาที ว่าคุณจะยอมรับเงื่อนไขของผมหรือจะไม่ได้อะไรเลย แล้วเรามาดูกันว่าใครจะเป็นคนที่สูญเสียมากกว่า ตอนนี้ผมเริ่มจับเวลาแล้วนะ “ พูดจบเอริคก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง
เมอร์ด๊อกรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที จากเหตุการณ์ในตอนนี้ทําให้เขารู้แล้วว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าเขาช่างไร้เหตุผลเสียเหลือเกิน
” เอริคอย่าทําแบบนี้เลย นายเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้วนะ ” เมอร์ด๊อกกล่าวตําหนิด้วยสีหน้าที่ลําบากใจ
ทว่าคําพูดของเมอร์ด๊อกกลับไม่ได้ทําให้เอริคสนใจแต่อย่างใด เขายังคงก้มหน้าพร้อ มกับนับถอยหลัง ” 55.54.53..”
เมื่อเห็นว่าเอริคไม่ได้สนใจเขา เมอร์ด๊อกก็เอนตัวพิงเข้ากับโซฟาก่อนที่จะหรี่ตาลงราวกับกําลังลุ้นว่าเอริคจะนับถอยหลังจนจบหรือไม่ ก่อนหน้านี้เขาได้อ่านข้อมูลของเอริคมาซึ่งนั่นทําให้เขาพอจะรู้ได้ว่าเด็กคนนี้เป็นคนที่ค่อนข้างจะเป็นผู้ใหญ่และมีความมั่นคงกับสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจอย่างมาก ที่เขาเดิมพันเช่นนี้บางทีอาจจะเป็นเพราะคําพูดของเมอร์ดอกที่กล่าวออกไปก่อนหน้านี้ ทว่าการนับถอยหลัง 1 นาทีนั้นก็ดูเหมือนว่าจะมากพอที่จะทําให้เด็กหนุ่มสงบสติอารมณ์ของตนเองลงได้? 36.35.34. “
แต่ว่าเวลา 1 นาทีของเอริคยังคงนับถอยหลังต่อไปเรื่อยๆโดยไม่หยุด