I’m in Hollywood – ย้อนเวลามาเป็นเจ้าพ่อฮอลลี - ตอนที่ 222
ตอนที่ 222 หญิงสาวผู้มีความทะเยอทะยาน
หลังจากที่ดรูว์ได้ยินว่าจูเลียใช้คําว่าป๊ะป๋าแทนที่จะพูดชื่อของเอริคหล่อนก็รับรู้ได้ในทันทีว่าจูเลียจะต้องรู้สึกอิจฉาความรักและความเอ็นดูที่เอริคมีต่อหล่อนอย่างแน่นอน ทันใดนั้นภายในใจของหญิงสาวก็เกิดความคิดชั่วร้ายขึ้น
หลังจากที่คิดเช่นนั้น ดรูว์ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาว่า “พวกเธอจะซื้อบทภาพยนตร์ของเอริคไปทําอะไรหน่ะ ?”
ได้ยินเช่นนั้นจูเลียก็เปิดปากเล่าทุกอย่างที่เอลิซาเบธเล่าให้หล่อนฟังอย่างไม่ปกปิด
ดรูว์ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกสนใจขึ้นมา หล่อนยืดตัวขึ้นก่อนจะถามขึ้นว่า “ทําไมไม่มาหาฉันล่ะ ?”
จูเลียชําเลืองมองดรูว์ด้วยสีหน้าที่สงสัยก่อนจะถามขึ้นว่า “หาเธอ ?”
หญิงสาวได้ยินเช่นนั้นจึงพูดขึ้นว่า “ใช่ไง ฉันจะบอกเธอให้นะว่าเอริคหน่ะชอบขีดๆเขียนอยู่ในห้องหนังสือของเขามากเลยหล่ะ ดังนั้นในห้องหนังสือนั่นก็คงจะมีบทภาพยนตร์ดีๆอยู่ไม่น้อยเลย ”
จูเลียได้ยินคําตอบของครูว์ก็รีบเปิดปากถามขึ้นมาว่า “เธอคงไม่ได้จะบอกฉันให้ไปขโมยหรอกนะ ? ”
“จะเป็นไปได้ยังไงเล่า ” ดรูว์รีบค้านออกมาโดยไม่รู้ตัวก่อนที่จะหัวเราะออกมาเบาๆพร้อมกับกล่าวว่า “แต่จริงๆแล้ว ถ้าฉันจะหยิบมันออกมาสักเรื่องเอริคก็ไม่รู้หรอก”
จูเลียส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมกับกล่าวขัดขึ้นมาว่า “ไม่ได้นะ ถึงเอริคจะไม่รู้ในตอนแรก แต่อนาคตถ้ามันถูกสร้างออกมา ยังไงเขาก็ต้องรู้อยู่ดี ”
“งั้นก็ช่างมันเถอะ “ ดรูว์ยักไหล่พร้อมกับทําท่าทางช่วยไม่ได้ออกมา เพราะจริงๆแล้วภายในใจของหล่อนก็ยังเชื่อว่าสิ่งที่หล่อนพูดสามารถเรียกความสนใจให้กับจูเลียได้อยู่ไม่น้อย ดรูว์เอนตัวลงกับพนักพิงก่อนที่จะก้มเล่นเล็บของตัวเองโดยไม่ใส่ใจอะไรเพื่อรอให้จูเลียเปิดปากพูดออกมาอีกครั้ง
หลังจากที่รถขับออกไปได้ไม่กี่นาที ในที่สุดจูเลียก็ทนไม่ไหวหล่อนเปิดปากพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “นี่ดรูว์ ที่เธอบอกว่าเอริคมีสคริปคร่าวๆของบทภาพยนตร์หน่ะ…จริงเหรอ ? ”
หญิงสาวหยักหน้าตอบและพยายามที่จะซ่อนเสียงหัวเราะของหล่อนไว้
“เอริคเอาใจเธอขนาดนั้น เธอลองพูดกับเขาให้เขาขายมันให้กับพวกเราหน่อยสิ ยังไง ซะ…เขาก็ยังมีบทอีกตั้งเยอะ ”
เป็นเพราะบทสนทนาของจูเลียและเอลิซาเบธก่อนหน้านี้ที่สนใจอยู่กับเรื่องที่หล่อนถูกฝ่ายชายจูบ เอลิซาเบธจึงไม่ได้อธิบายให้กับจูเลียฟังอย่างละเอียดเกี่ยวกับเหตุผลที่เอริคปฏิเสธหล่อนความคลาดเคลื่อนของข้อมูลบางอย่างทําให้จูเลียพยายามที่จะหาวิธีเพื่อลองเข้าไปพูดกับเอริคเพื่อว่าจะมีโอกาสที่จะได้รับบทภาพยนตร์ให้มากขึ้น
แต่คําพูดของดรูว์ก็ทําลายความคิดของจูเลียลงในทันที “ที่เอริคตอบปฏิเสธเอลิซาเบธหน่ะ เขาเองคงมีเหตุผลเพียงพอสําหรับเรื่องนี้แหละ เพราะฉะนั้นถึงจะให้ฉันเข้าไปพูดเขาก็ไม่มีทางเปลี่ยนความคิดของเขาหรอก”
จูเลียได้ฟังเช่นนั้นก็เงียบลงอีกครั้ง
ในความเป็นจริงจูเลียเองก็ไม่ได้ไม่อยากให้ดรูว์เข้าไปขโมยบทภาพยนตร์ให้กับหล่อนแต่เป็นเพราะหล่อนยังไม่กล้าที่จะทําเช่นนั้น เพราะหล่อนเองก็ไม่กล้าที่จะคิดว่าถ้าหากตัดสินใจทําเช่นนั้นแล้วในตอนท้ายหากพวกหล่อนถูกเอริคจับได้จะเกิดอะไรขึ้น ถึงแม้ว่าหล่อนจะไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไรแต่หล่อนก็พอจะเดาได้ว่าจะต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ
“จริงๆแล้วบนโลกใบนี้ก็ไม่ได้มีแค่เอริคคนเดียวที่เขียนบทภาพยนตร์หนิจริงไหม ?”ผ่านไปครู่หนึ่งดรูว์ก็เปิดปากพูดขึ้น
จูเลียที่กําลังจอดรอไฟแดงอยู่ก็หันหน้ามาพร้อมกับถามว่า “เธอหมายความว่ายังไง ?”
“ฉันก็หมายความว่าพวกเราสามารถที่จะหาบทภาพยนตร์ได้ด้วยตัวเองไง หลังจากที่หาบทภาพยนตร์ได้แล้วฉันก็แค่เอามันไปให้เอริคช่วยดูให้ว่ามีความเป็นไปได้ไหมที่จะสร้างออกมาเป็นภาพยนตร์” ดรูว์รีบอธิบายให้ฟังอย่างรวดเร็วซึ่งเป็นความคิดเดียวกันกับความคิดของเอลิซาเบธที่เสนอให้กับเอริคก่อนหน้านี้
จูเลียได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกแปลกๆกับคําพูดของหญิงสาวขึ้นมาก่อนที่จะถามออกไปด้วยความสงสัยว่า “เมื่อกี้เธอพูดว่า…พวกเรา ?”
“ใช่ ” ดรูว์ตอบออกมาอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้ปกปิดวัตถุประสงค์ภายในใจของหล่อน ” นี่จูเลีย เอลิซาเบธ เมอร์ด็อกกําลังจะเปิดบริษัทภาพยนตร์เลยนะ ทําไมพวกเราทั้งสองถึงไม่เข้าไปมีส่วนร่วมกับหล่อนล่ะ ถึงเวลานั้นที่ต้องร่วมมือกันสร้างภาพยนตร์ฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องบทให้เอง เธอก็เป็นนักแสดงนํา ส่วนเอลิซาเบธก็เป็นคนจัดการเกี่ยวกับเรื่องการดําเนินการถ่ายทําเธอคิดว่าเป็นยังไง ? “
เมื่อได้ฟังคําแนะนําของครูว์ภายในใจของจูเลียก็เกิดอาการตกตะลึงปนกับความสนใจอยู่ไม่น้อย หล่อนจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าที่ดูเหมือนว่าจะอายุ 18 ปีแต่ในความเป็นจริงหล่อนเพิ่งจะเป็นเด็กสาวอายุ 14 ปีเท่านั้น และความสัมพันธ์ที่สนิทสนมของดรูว์และเอริคก็ดูเหมือนว่าจะมากกว่าคนอื่นๆ จูเลียและเอลิซาเบธคือคนที่ใกล้ชิดกับเขาน้อยที่สุดรวมไปถึงหญิงสาวตรงหน้าด้วย
เมื่อได้ยินเสียงแตรที่ดังขึ้นด้านหลัง จูเลียก็เพิ่งจะสังเกตุเห็นว่าในเวลานี้สัญญาณไฟแดงได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว หล่อนจึงรีบเหยียบคันเร่งออกตัวในทันที “เธอทําแบบนี้ เอริคจะยอมเหรอ ?”
“ก็ไม่ต้องบอกเขาสิ “
“แล้ว…แล้วเรื่องเงินหล่ะ เธอจะเอาเงินจากที่ไหนมาร่วมลงทุนกับบริษัทภาพยนตร์? ”
ดรูว์ใช้มือของหล่อนใส่เข้าไปในกระเป๋าก่อนที่จะหยิบบัตรใบหนึ่งในกระเป๋าของหล่อนออก มาพร้อมกับกล่าวว่า “ในบัตรใบนี้มีเงินอยู่ 10ล้านกว่าเหรียญเลยนะ”
เป็นเพราะหล่อนไม่รู้เรื่องที่เอริคตกลงกับดรูว์อย่างแจ่มชัด ดังนั้นเมื่อจูเลียได้ยินยอดเงินในบัตรของครูว์ จูเลียเองก็รู้สึกได้ว่าสิ่งที่ดรูว์พูดอาจจะไม่ได้เป็นความจริง หล่อนคิดว่าเอริคตามใจหญิงสาวเกินความเหมาะสมหากเขาให้เงินกับหล่อนตามจํานวนที่ดรูว์พูดจริงๆ สําหรับจูเลีย แล้วถึงแม้ว่าหล่อนจะได้เป็นดาราฮอลลีวูดหลังจากที่แสดงเรื่อง Pretty Woman แต่ชื่อเสียงของหล่อนก็ยังถือว่าสั้นอย่างมากจนถึงตอนนี้แม้แต่ตัวหล่อนเองก็ยังมีทรัพย์สินหมุนเวียนไม่ถึง 10 ล้านด้วยซ้ํา
หลังจากที่จูเลียตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินหญิงสาวที่นั่งของหล่อนก็ถือโอกาสพูดเพื่อบอกวัตถุประสงค์ของหล่อนออกมาอีกครั้ง
ดรูว์เก็บบัตรในมือของหล่อนกลับเข้าไปก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “ฉันไม่ได้อยากได้หุ้นนั่นมากเท่าไหร่หรอก ขอแค่ 30 % ก็พอแล้ว ส่วนที่เหลือพวกเธอก็จัดการแบ่งกันเอง เธอเองก็คงไม่คิดว่ามันจะเยอะหรอกไปนะ เธอลองคิดดูนะว่าฉันสามารถที่จะให้เอริคช่วยบทภาพยนตร์ของพวกเราได้ซึ่งฉันว่า 30 % นั่นก็คุ้มค่าเหนื่อยของฉันแล้ว อีกอย่างถ้าหากบทภาพยนตร์มันไม่ดีแล้วต้องเสี่ยงกับผลลัพธ์ที่จะออกมาก็เท่ากับว่าพวกเราอาจะต้องเดินเส้นทางผิดตั้งแต่ต้น ถึงจะพยายามอย่างหนักยังไงก็ไม่มีทางประสบความสําเร็จหรอก ถึงแม้ว่าตระกูลของเอลิซาเบธจะมี 20th Century Fox อยู่แล้วและดูเหมือนว่าการจัดการเรื่องภาพยนตร์พวกนั้นจะไม่เป็นปัญหาอะไร แต่ฉันเชื่อว่า หลังจากที่ถ่ายทําภาพยนตร์แล้วหล่อนต้องพบกับปัญหาอีกมากมายแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆถึงแม้ว่าเอริคจะรู้ว่าฉันเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุน แต่ถ้าทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นแล้ว เขาเองก็คงจะไม่สามารถที่จะทนดูอยู่เฉยๆได้หรอกจริงไหม ? ”
เมื่อเห็นว่าจูเลียพยักหน้าตอบรับก่อนที่จะส่ายหน้าขึ้นด้วยการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ครูว์ก็รับรู้ได้ทันทีว่าคําพูดชักจูงเพียงเล็กน้อยก็สามารถที่จะทําให้จูเลียคล้อยตามได้อย่างง่ายดาย สําหรับเรื่องนี้แล้วเอลิซาเบธเป็นผู้นําของการสร้างในขณะที่จูเลียเป็นเพียงแค่ตัวประกอบเท่านั้น เมื่อรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีประโยชน์อะไรที่จะต้องเสียเวลากับการพูดคุยกับจูเลีย ดรูว์ก็พูดแนะนําขึ้นมาว่า “จูเลีย ฉันว่าพวกเราโทรหาเอลิซาเบธให้หล่อนมาพูดคุยถึงเรื่องนี้ดีกว่าไหม ? ”
จูเลียยกแขนขึ้นเพื่อก้มลงดูเวลาที่ข้อมือก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า “นี่มันก็ดึกมากแล้วนะ ”
“นี่พี่สาว เวลาเป็นเงินเป็นทองนะ” ดรูว์พูดขึ้นพร้อมกับยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ของจูเลียที่ติดอยู่ตรงหน้ารถก่อนที่จะถามขึ้นว่า “บอกเบอร์ฉันมาสิ เดี๋ยวฉันจะพูดกับเอลิซาเบธให้เอง “
จูเลียชี้นิ้วไปข้างหน้าอย่างไม่เต็มใจ “สมุดรายชื่ออยู่ตรงนั้น”
ดรูว์ยื่นมือไปหยิบสมุดรายชื่อก่อนที่จะหาเบอร์ของเอลิซาเบธในทันที
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง เอลิซาเบธก็เดินทางมาถึงคอนโดของจูเลียอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ใจหนึ่งหล่อนก็อยากจะเอาชนะเอริค อีกใจก็อยากจะทําให้เอริคต้องตกตะลึง หลังจากพูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่งเอลิซาเบธกับดรูว์ก็ดูเหมือนว่าจะเข้าขากันได้เป็นอย่างดี หญิงสาวที่มีความทะเยอทะยานทั้งสองคนนั่งล้อมเข้าหากันตรงโต๊ะกาแฟที่อยู่ภายในห้องรับแขกของคอนโดจูเลีย พร้อมกับพูดคุยถึงแผนการในการจัดตั้งบริษัทภาพยนตร์อย่างจริงจัง สําหรับจูเลียในเวลานี้หล่อนเป็นเพียงผู้ที่มีบทบาทเล็กๆในบทสนทนานี้เท่านั้น
เอริคไม่ได้รู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นของอีกฝ่ายเลยในเวลานี้ หลังจากที่เอริคใส่ยาที่ขาของเขาแล้วเขาก็นั่งพักอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินกลับไปในงานเลี้ยงอย่างระมัดระวัง
ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นที่ขาของเขาทําให้เอริคไม่อยากจะอยู่ในปาร์ตี้แห่งนี้อีกต่อไป รวมไปถึงช่วงนี้คือช่วงที่เขาจะต้องถ่าย ซีรี่ย์เรื่อง Friends อย่างเข้มข้นซึ่งนั่นทําให้เขาไม่อยากไปทํางานล่าช้าในวันพรุ่งนี้ เมื่อเอริคกําลังเตรียมตัวกลับเขาก็มองหาอนิสตันอย่างรวดเร็วเพื่อที่พวกเขาจะได้กลับไปยังเบเวอร์ลี่ฮิลส์พร้อมกัน
“ฉันจะไปกับนิโคล” อนิสตันตอบกลับมาทันทีที่เอริคเอ่ยปากชวนให้หล่อนกลับด้วยกัน “ อีกอย่างฉันก็ไม่อยากจะไปรบกวนพ่อของฉันด้วย ฉันคิดว่าพรุ่งนี้ฉันจะย้ายออกมา แล้วนิโคลก็ตอบตกลงที่จะให้ฉันย้ายไปเช่าอยู่กับหล่อนแล้วด้วย ”
เอริคตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินอยู่ครู่หนึ่ง เขากวาดตามองไปยังนิโคลที่ยืนแสดงสีหน้าไร้เดียงสาอยู่ข้างอนิสตัน เอริคก็อดคิดไม่ได้ว่าหรือนี่จะเป็นการสร้างปัญหาให้กับตัวเอง
เป็นเพราะซีรี่ย์เรื่อง Friends ที่ดังเป็นพลุแตกจึงทําให้อนิสตันกลายเป็นที่จับตามองของเหล่าปาปารัสซี่อย่างมาก ดังนั้นหล่อนจึงไม่สามารถอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ ในเบอร์แบงก์ได้อีกต่อไป และหล่อนเองก็ไม่เต็มใจที่จะย้ายไปอยู่กับเอริคและดรูว์ได้เช่นเดียวกัน ในเวลานี้หล่อนจึง ทําได้แค่ย้ายไปอยู่ที่บ้านพ่อของหล่อนชั่วคราวระหว่างที่หาที่พักใหม่
“แล้วฉันหล่ะ ? “ เอริคถามขึ้นอย่างช่วยไม่ด้วย
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวก็หยุดคิดอยู่ครู่หนึ่งด้วยความลังเล ก่อนที่จะเชิดคางขึ้นพร้อมกับตอบกลับไปว่า “มันก็เรื่องของนาย พรุ่งนี้ฉันยังต้องไปกองถ่ายเพื่อถ่ายทํา เพราะงั้นฉันจะกลับไปกับนิโคลก่อน ส่วนนายกลับไปเบเวอร์ลี่ฮิลส์คนเดียวเถอะ”
พูดจบอนิสตันก็ลากนิโคลออกไปอย่างรวดเร็วทิ้งไว้เพียงเอริคที่ยังคงยืนสับสนอยู่ ก่อนหน้านี้ เขาเพียงแต่อยากจะให้นิโคลช่วยไม่ให้อนิสตันต้องไปเผชิญหน้ากับดรูว์เท่านั้น แต่เขาไม่คิดว่าเรื่องทุกอย่างจะกลับกลายเป็นเช่นนี้
เขาไม่เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่นิโคลจงใจ เพราะจากที่ดูแล้วหล่อนเองก็ไม่ได้ผลประโยชน์อะไรจากการทําเช่นนี้
แต่เขาเองก็ไม่คิดว่าอนิสตันจะเป็นคนที่ซื้อถึงขั้นที่เชื่อใจคนง่ายขนาดนี้
อาจเป็นเพราะความแตกต่างของอนิสตันและนิโคลที่แตกต่างกันมาก และเป็นเพราะนิโคลเองก็อยากจะรักษาบทนางเองของหล่อนไว้ การทําให้อนิสตันมีความสุขคือสิ่งที่หล่อนต้องทําในเวลานี้ จนในที่สุดนิโคลก็สามารถเอาชนะในของอนิสตันได้จนทําให้หญิงสาวได้ใจของอนิสตันไปเต็มๆ
ถึงจะเป็นเช่นนี้ทว่าเอริคก็มั่นใจได้ว่านิโคลจะไม่กล้าทําร้ายอนิสตันอย่างแน่นอนแน่นอน เมื่อคิดเช่นนั้นเอริคก็รู้สึกวางใจขึ้น
ค่ำคืนนี้เป็นค่ําคืนที่เอริคได้เจอกับเรื่องราวต่างๆมากมายซึ่งทําให้เขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยอย่างมาก แม้แต่แรงที่จะขับรถกลับก็ยังไม่มีเขาจึงทําได้เพียงไปที่วิลล่าเล็กๆตรงเวอร์จิเนียเพื่อพักผ่อนในคืนนี้
เช้าวันที่สองจูเลียก็ลุกขึ้นจากการนอนหลับด้วยท่าทางที่งัวเงีย หล่อนมัดผมขึ้นก่อนที่จะเดินไปที่ห้องน้ําเพื่อล้างหน้าแปรงฟันให้สดชื่นขึ้นในขณะที่หล่อนกําลังแปรงฟันอยู่นั้นหญิงสาวก็นึกขึ้นได้ว่าภายในคอนโดของหล่อนยังมีหญิงสาวอีกสองคน หลังจากที่หล่อนทําธุระเสร็จแล้ว หล่อนก็รีบตรงไปยังห้องรับแขกทันที
ในเวลานี้ห้องรับแขกของหล่อนเต็มไปด้วยกระดาษเอสี่ที่ถูกขีดเขียนด้วยปากกาวางกระจัดกระจายไปทั่ว ซึ่งสิ่งที่ถูกเขียนอยู่บนกระดาษเหล่านั้นเป็นไอเดียต่างๆที่เอลิซาเบธและดรูว์พูดคุยกันตลอดทั้งคืน
จูเลียหยิบกระดาษขึ้นมาดูทว่าหล่อนกลับไม่เข้าใจถึงสิ่งที่พวกหล่อนเขียนแม้แต่น้อย ก้มดูอยู่ครู่หนึ่งจูเลียก็เอ่ยปากถามออกมาเบาๆว่า “พวกเธอ…ไม่ได้นอนทั้งคืนเลยเหรอ ? ”
เสียงของหล่อนทําให้หญิงสาวทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นมา ดรูว์ส่ายศีรษะไปมาก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “ โอ้ย เช้าแล้วเหรอเนี่ย “
จูเลียเหลือบตามองบนหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่ดรูว์ถามขึ้น
ดรูว์หาวออกมาฟอดใหญ่ก่อนที่จะหันไปหาเอลิซาเบธพร้อมกับกล่าวว่า “ลิซ พอแค่นี้ก่อน แล้วกันนะ ฉันขอตัวไปนอนก่อน”
พูดจบดรูว์ก็เดินผ่านจูเลียไปยังห้องนอนของจูเลียที่ยังไม่ได้ทําความสะอาดในทันที จูเลียเห็น เช่นนั้นก็รีบถามแย้งขึ้นมาว่า “นี่ดรูว์ เอริคบอกให้ฉันพาเธอไปส่งที่โรงเรียนนะ”
“&-#-#-@-%-#-@” เสียงจิ้มฟังไม่ได้ศัพท์ดังออกมาจากในห้องนอน ซึ่งดูเหมือนว่าดรูว์จะเอาอะไรบางอย่างคลุมศีรษะของหล่อนไว้จึงทําให้ไม่สามารถฟังเสียงของหล่อนได้ชัดเจน
จูเลียหันกลับไปมองเอลิซาเบธพร้อมกับถามขึ้นว่า “หล่อน…พูดว่าอะไรนะ ?”
เอลิซาเบธที่กําลังขีดเขียนอะไรบางอย่างใส่กระดาษด้วยปากกาลูกลื่นก็กล่าวขึ้นมาว่า “หล่อนบอกว่าไม่ต้องหรอก หล่อนลาหยุดไว้แล้ว ”
จูเลียมองกลับไปที่ห้องนอนก่อนที่จะพูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจว่า “โห เจ๋งไปเลยเธอ ฟังออกได้ยังไงเนี่ย ?”
“ฉันก็ฟังไม่ออกหรอก แค่เดาหน่ะ ”
“…”
ขณะที่จูเลียกําลังแสดงสีหน้ามึนงงกับคําตอบอยู่นั้น เอลิซาเบธก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาพร้อมกับยื่นให้จูเลียแล้วกล่าวขึ้นว่า “นี่จูเลีย เธอดูให้หน่อยสิว่าชื่อบริษัทภาพยนตร์ของพวกเราเป็นยังไงบ้าง ?”
“นี่มัน…มีความหมายว่าอะไรหน่ะ ?” จูเลียก้มหน้ามองตัวหนังสือที่อยู่บนกระดาษก่อนที่จะถามขึ้นด้วยความสงสัย “บริษัทภาพยนตร์TG ? ”
“ใช่ไง tg ” เอลิซาเบธตอบกลับ
“ที่พวกเธอไม่ได้นอนทั้งคืนคงไม่ใช่เพราะ….หมดไปกับการคิดชื่อนี้ใช่ไหม ? ”
“แน่นอนว่าไม่ใช่ พวกเรายังคุยเรื่องอื่นนอกจากเรื่องนี้ อ่อจริงสิ ดรูว์บอกว่าอยากจะได้หุ้น 30 % ที่เหลือให้เธอ 30 % ส่วนฉัน 40 % เธอคิดว่าไงหล่ะ ? ”
แม้ว่าในอดีต จูเลียจะเป็นดาราหนังฮอลลีวูดคนแรกที่สร้างสตูดิโอส่วนตัว ทว่าในเวลานี้หล่อนมีชื่อเสียงแค่เพียงครึ่งปีเท่านั้น และหล่อนก็ยังให้ความสนใจกับภาพยนตร์เป็นหลัก เมื่อได้ยินเอลิซาเบธพูดเช่นนี้จูเลียก็พยักหน้าตอบตกลงโดยไม่ได้คิดอะไร “ ก็ได้ พวกเธอจัดการก็แล้วกันว่าแต่เธอจะกินข้าวเช้าไหม ฉันจะได้ทําให้ ”
“ไม่ต้องหรอก ฉันเองก็จะไปนอนแล้วเหมือนกัน” พูดจบเอลิซาเบธก็ลุกขึ้นก่อนที่จะเดินไปที่ห้องนอนด้วยสภาพมึนงง เมื่อเห็นสภาพของหล่อนแล้วจูเลียก็อดไม่ได้ที่จะเดินตามเข้าไปพร้อมกับหล่อนเพื่อให้มั่นใจว่าหล่อนจะสามารถเดินมาถึงเตียงได้อย่างปลอดภัย หลังจากที่เห็นว่าเอลิซาเบธและดรูว์นอนหลับไปแล้ว หล่อนก็ดึงผ้าม่านปิดลงก่อนที่จะนําผ้าห่มขึ้นมาห่มร่างของทั้งสองไว้ พร้อมกับเดินออกไปที่ห้องรับแขกเพื่อทําความสะอาดในทันที
หลังจากที่ยุ่งจนอดหลับอดนอนตลอดทั้งคืน ในที่สุดบริษัทภาพยนตร์ TG ที่มีชื่อเสียงก็ได้ถือกําเนิดขึ้นแล้ว