I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 295 หรูอิ่งสุยเฟิง!
หลิงหลานไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในโลกหุ่นรบเลย เนื่องจากข่าวนี้ประกาศก่อนที่หลิงหลานจะล็อกอินเข้ามาหนึ่งวินาที เธอเลยพลาดมันไปโดยบังเอิญ ถ้าหากหลิงหลานรู้เรื่องนี้ละก็ เธอไม่มีทางพาพ่อของเธอเดินกรีดกรายผ่านเมืองแน่นอน…
ไม่นานหลิงหลานก็ได้รับคำเชิญขอเพิ่มเพื่อนของคนที่ชื่อ Belief หลิงหลานเห็นชื่อที่คุ้นตานั้น หน้าผากก็อดหลั่งเหงื่อเย็นๆ ลงมาไม่ได้ พ่อของเธอชอบชื่อนี้มากแค่ไหนกันนะ
หลังจากที่คำเชิญผ่านแล้ว อีกฝ่ายก็ส่งแชทส่วนตัวมาทันที หลิงหลานรับแล้วก็ได้ยินเสียงอบอุ่นของพ่อเธอ “หลิงหลาน ลูกอยู่ที่ไหน?”
หลิงหลานบอกตำแหน่งของตัวเองให้พ่อเธอทันที ตอนที่เธอออฟไลน์ เธอกำลังตีมอนอยู่ด้านนอก ไม่ใช่เพราะอยากเอาคะแนนอะไรจากตัวมอนสเตอร์หรอกนะ หากแต่ในภารกิจเลื่อนขั้นเป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูงต้องการของที่ดรอปจากตัวมอนสเตอร์พวกนี้ นี่ก็คือสาเหตุที่หลิงหลานอยู่ที่นี่
เส้นทางที่หลิงหลานเดินทางมาไม่เหมือนกับของคนอื่นๆ เธอไม่เคยหามอนสเตอร์มาเลื่อนระดับ ปกติแล้วเธอจะเข้าไปในสนามประลองทำการท้าประลองข้ามระดับเพื่อรับคะแนนจำนวนมากมา นี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมหลิงหลานถึงสามารถเก็บคะแนนเลื่อนขั้นเป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูงได้ในช่วงเวลาที่สั้นขนาดนี้ แน่นอนว่านี่เป็นเพราะระดับการควบคุมหุ่นรบของหลิงหลานไปถึงระดับสูงแล้ว สามารถแสดงกำลังรบสูงสุดของหุ่นรบที่เธอควบคุมออกมาได้อย่างง่ายดาย เธอถึงสามารถเดินไปบนทางลัดนี้ได้
ถ้าหากเธอเริ่มต้นจากศูนย์เหมือนพวกฉีหลงละก็ เธอก็ต้องอาศัยเวลาสั่งสมมาฝึกฝนอย่างยากลำบาก ดังนั้นพวกฉีหลงจึงใช้เวลาสามปีเต็มถึงจะเลื่อนขั้นจากนักรบหุ่นรบฝึกหัดมาเป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูงได้ และจากความเร็วของหลิงหลานเกรงว่าหลังจากนี้ไม่นานเธอก็สามารถไล่ตามพวกฉีหลงทันแล้ว แต่ว่าหลิงหลานคิดจะทำการหยุดลงที่นักรบหุ่นรบชั้นสูง เพราะเธออยากนำพาพวกฉีหลง สอนปากเปล่าและแสดงตัวอย่างให้พวกเขาดู ทำการประลองหุ่นรบกับพวกเขา เร่งพวกเขาให้เชี่ยวชาญทักษะการควบคุมของนักรบหุ่นรบชั้นสูงทั้งหมดเพื่อที่จะได้เข้าสู่ขอบเขตของปรมาจารย์หุ่นรบระดับพิเศษได้อย่างราบรื่น
หลิงหลานที่รู้ซึ้งถึงความสำคัญของการควบคุมพื้นฐานไม่อยากให้เพื่อนๆ ของตัวเองร่วงลงมาจากบนนี้เหมือนกัน ไว้พอพวกเขาจบการฝึกฝนอย่างราบรื่นแล้ว เวลานั้นก็จะเป็นเวลาที่ปล่อยให้พวกเขาโบยบินอย่างอิสระ
เพราะว่าเมื่อเข้าสู่การเป็นปรมาจารย์หุ่นรบระดับพิเศษแล้ว การควบคุมหุ่นรบจะปรากฏลักษณะเฉพาะของตัวเองออกมา การควบคุมเช่นนี้ไม่มีใครช่วยเหลือได้ ได้แต่อาศัยตัวเองตระหนักรับรู้อย่างระมัดระวัง นี่ก็คือเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมปรมาจารย์หุ่นรบระดับพิเศษถึงถูกเรียกว่าปรมาจารย์ แต่นักรบหุ่นรบชั้นสูงถึงถูกเรียกได้แค่นักรบเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การเข้าสู่ระดับผู้ควบคุมระดับพิเศษเป็นแค่ก้าวแรกเท่านั้น มีเพียงเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาถึงจะยืนยันได้ว่าการควบคุมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนนั้นทำได้อย่างเชี่ยวชาญและสมบูรณ์แบบ กลายเป็นรูปแบบเฉพาะตนอย่างแท้จริง มีปรมาจารย์หุ่นรบมากมายที่มักจะติดอยู่ในเรื่องนี้ มีคนมากมายได้แต่เป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษครึ่งๆ กลางๆ ไปชั่วชีวิต ไม่สามารถเข้าสู่การเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาติดอันดับผู้แข็งแกร่งได้
……
จำเป็นต้องพูดว่า หลิงเซียวบอกลาโลกหุ่นรบมานานยี่สิบปีแล้ว เขาจึงไม่คุ้นเคยกับโลกหุ่นรบที่ถูกอัปเดตมานับครั้งไม่ถ้วนอยู่บ้าง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม หลังจากที่หลิงหลานล้างบางมอนสเตอร์ในพื้นที่แห่งนี้จนหมดยี่สิบหกรอบ เธอถึงค่อยเห็นหุ่นรบของหลิงเซียวที่เอ้อละเหยลอยชายร่อนลงมาที่ข้างกายเธอ
หลิงหลานไม่สนใจว่าเธอรอนานแค่ไหนแล้ว ถึงยังไงเธอกำลังหาไอเทมภารกิจที่จำเป็นอยู่ ไม่ได้เสียเวลาเลย เพียงแต่ตอนที่เธอเห็นหุ่นรบของหลิงเซียว หัวใจที่เดิมทีสงบนิ่งก็ปั่นป่วนขึ้นมาโดยไม่ลังเล ขอบตาของเธอกระตุกขึ้นมาฉับพลัน
แม่งเอ๊ย พ่อของเธอขี้อวดมากขนาดไหนกันแน่? เขาไม่รู้หรือไงว่าการควบคุมหุ่นรบที่สวยงามสดใสเจิดจ้าจนตาเธอแทบบอดแบบนี้จะดึงดูดความสนใจมากเท่าไหร่ หลิงหลานคล้ายกับสัมผัสได้ว่ามีการเคลื่อนไหวอยู่ตรงที่ห่างไกล ดูท่าน่าจะเป็นคนที่ถูกหุ่นรบแสนสวยของคุณพ่อดึงดูดมา
หลิงหลานไม่รู้เลยว่า เธอแค่คาดเดาได้เล็กน้อยเท่านั้น เหตุผลที่มากกว่านั้นคือ ทุ่งกว้างรกร้างที่ค่อนข้างมีระดับต่ำแห่งหนึ่งปรากฏหุ่นรบชั้นสูงขนาดนี้ นี่ย่อมผิดปกติแน่นอน สิ่งที่ทุกคนสามารถนึกได้ก็คือ คนที่ควบคุมหุ่นรบตัวนี้ก็คือ Belief ผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดในประกาศของระบบใช่หรือเปล่า?
ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ พวกเขาก็ไม่มีทางปล่อยความเป็นไปได้ใดๆ ออกไปสักนิดเดียว ดังนั้น คนที่เห็นหุ่นรบตัวนี้ต่างทยอยกันไล่ตามทิศทางการบินของหุ่นรบมา นี่ยังต้องขอบคุณระดับความเร็วของหุ่นรบหลิงเซียวที่เหนือกว่าหุ่นรบทุกตัวของที่นี่ เพราะฉะนั้นจึงยังไม่มีใครหาจุดที่หลิงหลานอยู่เจอไปชั่วขณะหนึ่ง
หุ่นรบของหลิงเซียวสมบูรณ์แบบมากจริงๆ มันไม่ได้เป็นหุ่นรบมาตรฐานและก็ไม่ได้เป็นหุ่นรบดัดแปลง หากแต่เป็นหุ่นรบระดับราชันที่ถูกโลกหุ่นรบจัดหมวดเป็นของแลกเปลี่ยนระดับสุดยอด นี่เป็นหุ่นรบระดับสุดยอดเพียงหนึ่งเดียวสำหรับผู้เล่นในโลกหุ่นรบที่สามารถใช้คะแนนแลกมา ส่วนหุ่นรบขั้นเทวะในตำนานได้แต่อาศัยการทำภารกิจให้สำเร็จถึงจะได้รับมา และภารกิจนั้นถูกผู้คนส่วนใหญ่ยืนยันแล้วว่า นั่นไม่ใช่ภารกิจที่มนุษย์สามารถทำได้
หุ่นรบระดับราชันที่สามารถแลกได้มีทั้งหมดหกแบบ หุ่นรบของหลิงเซียวก็คือหนึ่งในนั้น ตอนที่หลิงหลานแลกหุ่นรบก็เคยเหลือบดูมาก่อน มันชื่อว่า หรูอิ่งสุยเฟิง (เหมือนเงาตามสายลม) นี่เป็นหุ่นรบที่มีเอกลักษณ์ในด้านความเร็วสมดั่งชื่อของมันเลย ทั่วทั้งร่างหุ่นรบเป็นสีขาวเงิน รูปร่างของมันสง่างามปราดเปรียว อุปกรณ์และการออกแบบใดๆ ที่สามารถส่งผลต่อความเร็วของหุ่นรบจะถูกถอดทิ้งทั้งหมด เหลือไว้เพียงอุปกรณ์และอาวุธที่จำเป็นบางอย่าง พูดได้ว่ามันเป็นหุ่นรบที่ไปสุดทางตัวหนึ่ง
หุ่นรบประเภทความเร็วเช่นนี้มักจะค่อนไปทางการโจมตีระยะไกล หลิงหลานเห็นด้านหลังหุ่นรบห้อยหอกอนุภาคขนาดเรียวยาวไว้สองเล่มก็รู้ว่าการคาดการณ์ของเธอไม่ผิดเลย อย่างไรก็ตาม สายตาของหลิงหลานถูกด้ามดาบสองเล่มที่โผล่ออกมาจากตรงเอวของหุ่นรบดึงดูดอีกครั้ง ดูจากทิศทางที่ด้ามดาบเสียบเข้าไป เห็นได้ว่าไม่ใช่ดาบยาวที่หุ่นรบใช้กันมาตลอด มีความเป็นไปได้สูงว่ามันคือดาบสั้นที่คล้ายกับมีดคลื่นแม่เหล็ก แต่สำหรับหุ่นรบที่มีมีดคลื่นแม่เหล็กซึ่งเป็นอาวุธมาตรฐานที่จำเป็นต้องจัดไว้ให้แล้ว หลิงหลานไม่เข้าใจอยู่บ้างว่าทำไมถึงจัดดาบสั้นที่แทบจะมีความสามารถคล้ายคลึงกันเพิ่มเข้าไปอีก
หลิงหลานเอ่ยถามข้อสงสัยที่อยู่ในใจออกมาอย่างซื่อตรงมาก หลิงเซียวยิ้มพลางกล่าวว่า “นี่ก็คือจุดที่น่ากลัวของหุ่นรบตัวนี้ ทุกคนต่างคิดว่ามันเป็นหุ่นรบประเภทโจมตีระยะไกล มักจะสนใจป้องกันการโจมตีระยะไกล แต่มองข้ามความสามารถในการเข้าประชิดตัวของมัน…”
หลิงหลานแววตาเปล่งประกาย “คุณพ่อหมายความว่า หุ่นรบตัวนี้เป็นหุ่นรบความสามารถรอบด้านที่เหมาะกับระยะไกลแล้วก็ระยะใกล้ใช่ไหมครับ?”
วิธีการโจมตีของหลิงหลานค่อนข้างไปทางโจมตีระยะประชิด แต่หุ่นรบที่โจมตีระยะประชิดมักจะออกแบบให้มีร่างกำยำและหนักมาก นี่จึงขัดกับความเร็วที่หลิงหลานตามหาอยู่บ้าง กอรปกับในใจลึกๆ หลิงหลานยังเป็นเด็กผู้หญิง เธอค่อนข้างชอบหุ่นรบที่สง่างามปราดเปรียว เธอยังไม่ค่อยชอบรูปร่างสูงกำยำกายล่ำสันของหุ่นรบระยะประชิดพวกนั้นอยู่บ้าง นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมพอหลิงหลานได้ยินว่าความสามารถด้านการต่อสู้ระยะประชิดของหุ่นรบที่สวยงามตัวนี้แข็งแกร่งมากแล้วใจเต้นขึ้นมา
“ใช่แล้ว เพราะว่าความเร็วของมันไวเป็นพิเศษ มันสามารถสับเปลี่ยนการโจมตีระยะใกล้ไกลได้อย่างอิสระ ทำให้คู่ต่อสู้รับมือไม่ทัน นี่เป็นข้อดีของมัน แต่ว่าในขณะเดียวกันก็คือจุดอ่อนของมันด้วย” หลิงเซียวสังเกตเห็นว่าหลิงหลานสนใจเจ้านี่มาก ก็เอ่ยแนะอย่างตรงไปตรงมา “มันต้องการผู้ควบคุมที่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขครบสามข้อ ไม่อย่างนั้นต่อให้ครอบครองหุ่นรบตัวนี้ไป ก็ไม่สามารถแสดงความสามารถของหุ่นรบตัวนี้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์”
“สามข้อไหนบ้างครับ?” หลิงหลานตั้งใจฟังมาก ถึงแม้ตอนนี้เธอไม่อาจครอบครองหุ่นรบที่ทำให้เธอจ้องตาเป็นมันตัวนี้ได้ก็ตาม แต่นี่ไม่ได้ห้ามไม่ให้เธอเอาหุ่นรบตัวนี้มาเป็นเป้าหมายในอนาคตสักหน่อย ดังนั้นหลิงหลานจึงแสดงท่าทีเอาจริงเอาจังต่อสิ่งที่ควรสนใจ
“ข้อแรก ความเร็วของประสาทตอบสนองผู้ควบคุมจะต้องรวดเร็วสุดยอด สามารถปรับตัวเข้ากับความของเร็วของตัวหุ่นรบได้ ข้อสอง ความเร็วมือจะต้องไปถึงตัวเลขที่น่ากลัว ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถสับเปลี่ยนการเคลื่อนไหวหนึ่งชุดได้สำเร็จท่ามกลางความเร็วสูง ข้อสาม ต้องการความแข็งแกร่งของร่างกายผู้ควบคุมสูงมาก ควรรู้เอาไว้ว่าการสับเปลี่ยนความเคลื่อนไหว ท่ามกลางความเร็วสูงจะสร้างความเสียหายให้ร่างกายมากกว่าหุ่นรบที่มีความเร็วทั่วไปสามถึงสี่เท่า ถ้าหากไม่มีร่างกายที่แข็งแกร่งละก็ จะไม่สามารถควบคุมหุ่นรบตัวนี้ได้แน่นอน ไม่อย่างนั้นร่างกายของผู้ควบคุมก็จะได้รับบาดเจ็บจากการเคลื่อนไหวแค่ไม่กี่ท่า ยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงบังคับหุ่นรบตัวนี้ไปต่อสู้เลย”
หลิงเซียวเอ่ยเงื่อนไขการควบคุมหุ่นรบตัวนี้ออกมาทีละข้อ อันที่จริงเขาอยากพูดมากๆ ว่า ลูกครับ หุ่นรบตัวนี้ไม่มีชะตาต้องกับลูกนะ ควรรู้เอาไว้ว่าร่างกายของผู้หญิงอ่อนแอมาตั้งแต่กำเนิด ต่อให้ฝึกฝนอย่างหนักก็ไม่สามารถฝึกจนไปถึงระดับความแข็งแกร่งนั้นได้
หลิงหลานฟังแล้วก็แค่พยักหน้าเท่านั้น แน่นอนว่าเธอไม่ลืมสอบถามความคิดเห็นของเสี่ยวซื่อที่ถูกขังอยู่ในห้องมืดเล็กๆ เกี่ยวกับเงื่อนไขเหล่านี้
ทำไมเสี่ยวซื่อถึงอยู่ในห้องมืดเล็กๆ เหรอ? นี่ต้องเล่าตั้งแต่ต้นเลย ทุกครั้งที่เจอหน้าหลิงเซียว เสี่ยวซื่อไม่สามารถรักษาความเยือกเย็นได้เลย ดังนั้นทุกครั้งที่เสี่ยวซื่อเป็นบ้าขึ้นมา หลิงหลานก็จะขังเขาไว้ในห้องมืดเล็กๆ สักพัก ให้สมองของเขาแจ่มใส แน่นอนว่าถ้าเสี่ยวซื่อทำตัวดี เธอก็จะปล่อยเขาออกมา และวันนี้เสี่ยวซื่อสูญเสียการควบคุมอีกครั้งในตอนที่หลิงหลานดื่มชาดำเย็นคุยเล่นกับหลิงเซียว ดังนั้นตอนนี้เขาเลยได้แต่อยู่ในห้องมืดเล็กๆ รอคอยความเมตตาของหลิงหลานในครั้งถัดไป
เสี่ยวซื่อที่อยู่ในห้องมืดเล็กๆ กำลังเบื่อหน่ายอยู่ พอได้ยินคำถามของหลิงหลานก็รีบตบหน้าอกเล็กๆ รับรองว่า ขอเพียงมีเขาอยู่ ลูกพี่ของเขาอยากร่างกายแข็งแกร่งมากแค่ไหนก็ได้ทั้งนั้น จะควบคุมหรูอิ่งสุยเฟิง หรือว่าหรูอิ่งสุยสิง (เหมือนเงาตามตัว) ไม่ใช่เรื่องยากเลย
หลิงหลานได้ยินคำตอบของเสี่ยวซื่อก็วางใจ ลอบเอาเจ้าหุ่นรบหรูอิ่งสุยเฟิงตัวนี้มาเป็นเป้าหมายที่เธอต้องทำให้สำเร็จในไม่กี่ปีนี้ ส่วนหลิงเซียวที่พูดเกลี้ยกล่อมไปรอบหนึ่งสังเกตเห็นว่าลูกสาวตัวเองรับฟังก็รู้สึกวางใจเช่นกัน หลิงเซียวไม่รู้เลยว่า หลิงหลานรับฟังจริงๆ แต่การตัดสินใจของหลิงหลานแตกต่างจากความคาดหวังของหลิงเซียวไปโดยสิ้นเชิง
แน่นอนว่าหลิงเซียวไม่ใช่คนที่ยึดมั่นในความคิดเช่นนั้น เขายังอยากเอ่ยปากถามความคิดของหลิงหลานอยู่ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงที่เริ่มดังขึ้นมาตรงบริเวณที่ห่างไกล ถึงขนาดที่เขายังได้ยินรางๆ ว่ามีคนพูดว่า ‘อยู่ตรงนั้นใช่หรือเปล่า’…นี่ทำให้หลิงเซียวหยุดคำพูดที่อยากจะเอ่ยถามฉับพลัน เขามองไปยังบริเวณที่ห่างไกลด้วยสีหน้างุนงง ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
หลิงหลานก็ได้ยินเสียงเหล่านี้เช่นกัน เธอตระหนักได้ทันทีแล้วก็เอ่ยกับพ่อของตัวเองว่า “แย่แล้ว พวกเราหนีเร็ว”
ฮะ? หนี? หลิงเซียวไม่รู้ว่าทำไมต้องหนีด้วย แต่พอเห็นลูกสาวตัวเองติดเครื่องยนต์หุ่นรบแล้วก็วิ่งไปทางป่าทึบที่อยู่ห่างไกลอย่างเร็วไว เขาก็ไม่กล้าโอ้เอ้ รีบตามไปทันที
เมื่อพวกเขาพุ่งเข้าไปในป่าทึบปกปิดร่างของพวกเขาแล้ว บนพื้นหญ้าที่เดิมทีไกลสุดลูกหูลูกตาพลันปรากฏหุ่นรบจำนวนไม่น้อย พวกเขาก็คือคนที่ถูกหุ่นรบของหลิงเซียวดึงดูดจนมาถึงที่นี่ เพิ่งจะมาหาที่นี่เจอ
“ที่นี่ก็ไม่มี ดูท่าก็คงไม่ใช่ที่นี่เหมือนกัน” ทุกคนมองไปยังทิวทัศน์ที่ว่างเปล่าไม่มีใครเลยตรงหน้า จากนั้นทุกคนก็จากไปอย่างผิดหวัง
ต่อให้ป่าลึกเบื้องหน้ามีความเป็นไปได้ว่าจะซ่อนร่องรอยเอาไว้ แต่ทุกคนต่างมองข้ามเรื่องนี้ไป เพราะว่าในจิตใต้สำนึกของพวกเขาคิดว่าไม่มีใครเข้าไปรนหาที่ตายหรอก ควรรู้เอาไว้ว่าสัตว์อสูรในป่าทึบแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรในเขตพื้นที่ราบหลายเท่าตัว ต่อให้เป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษเข้าไป พวกเขาก็จะออกมาอย่างตายโหง
เวลานี้พวกเขาต่างลืมไปแล้วว่า คนที่พวกเขากำลังหาตัวอยู่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอด เขาจะกลัวสัตว์อสูรเหล่านี้ได้อย่างไร พูดได้แค่ว่าคนพวกนี้เข้าใจผิดไปเอง พวกเขาต่างเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับต่ำ ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษคือบุคคลที่พวกเขาต้องแหงนหน้ามอง มีความเป็นไปได้สูงว่าพวกเขาไม่เคยรับรู้ความหมายที่แท้จริงของผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดเลย
————————