I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 406 จัดการลับๆ?
สามนาทีผ่านไปไวมาก ทุกคนต่างรู้สึกว่าตัวเองถูกแรงดึงมหาศาลสายหนึ่งลากเข้าไปในหลุมดำ แรงฉุดอย่างรุนแรงทำให้ทุกคนรู้สึกวิงเวียน ไม่สามารถประคองสติให้แจ่มใสได้ชั่วขณะ
มีเพียงหลิงหลานคนเดียวที่เป็นข้อยกเว้น หลิงหลานที่ปรับตัวชินต่อแรงดึงแบบนี้ได้ตั้งนานแล้ว ยังคงประคองสติของตัวเองไว้ เมื่อเทียบกับมิติการเรียนรู้ที่ดึงรุนแรงและป่าเถื่อนมากกว่าแล้ว วิธีการของออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักในโลกหุ่นรบดูอ่อนโยนมากอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อหลิงหลานเข้าสู่แผนที่สงคราม เธอก็เรียกสติของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติทันทีโดยไม่มีอืดอาดใดๆ เลย
หุ่นรบที่เข้าสู่แผนที่ทุกตัวต่างมีช่วงเวลาคุ้มครองสิบวินาที หุ่นรบจะแผ่รัศมีแสงสีขาวที่บ่งบอกถึงการโจมตีไม่เข้าชนิดหนึ่งออกมาทั่วทั้งร่าง นี่ก็คือวิธีการแสดงความยุติธรรมอย่างหนึ่งของโลกหุ่นรบ อย่างไรเสีย แต่ละคนใช้เวลาปรับตัวกับแรงดึงแบบนี้ไม่เท่ากัน บางคนสองสามวินาทีก็ได้สติกลับมาแล้ว บางคนอาจต้องการเจ็ดหรือแปดวินาที บางคนอาจจะต้องใช้เวลามากกว่าสิบวินาทีถึงจะฟื้นคืนสติได้ แต่คนที่ใช้เวลาเลยสิบวินาทีถึงจะฟื้นกลับมาเป็นปกติได้จริงๆ นั้น ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักจะตัดสินว่าเขาไม่เหมาะกับการควบคุมหุ่นรบเช่นกัน ถูกคู่ต่อสู้ลอบโจมตีจนถึงแก่ความตายหลังจากเลยสิบวินาทีก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว
เนื่องจากเมื่อระดับการควบคุมหุ่นรบเข้าสู่ขอบเขตผู้ควบคุมหุ่นรบระดับต่ำ เขาก็ต้องการความเกื้อหนุนจากพลังจิตระดับต่ำที่สุด ปกติแล้วคนที่ฟื้นฟูสติกลับมาช้า โดยพื้นฐานต่างเป็นคนที่มีพรสวรรค์ทางจิตต่ำสุดขีด ไม่มีศักยภาพในการพัฒนา ความจริงแล้วมันเท่ากับป่าวประกาศว่าเส้นทางการควบคุมหุ่นรบของคุณเลือนรางแล้ว
หลิงหลานฉวยโอกาสที่ยังอยู่ในสถานะโจมตีไม่เข้าสำรวจสถานการณ์รอบตัวอย่างรวดเร็ว นี่คือแผนที่ผสมผสานระหว่างทะเลทรายกับโอเอซิส นอกจากพุ่มไม้เตี้ยเล็กๆ บางส่วนแล้ว ก็ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าต้นไม้สูงใหญ่หรือว่าหินผาให้หุ่นรบมีสถานที่ซ่อนตัวเลย
สีเหลืองและสีเขียวที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เมื่อมีหุ่นรบเข้าใกล้ ก็จะถูกพบเจอได้ง่ายมาก ควรพูดว่า โอกาสที่สามารถให้หุ่นรบซ่อนตัวลอบโจมตีมีน้อยเหลือเกิน โดยภาพรวมแล้ว แผนที่นี้เหมาะกับพวกหุ่นรบที่แข็งแกร่งมีประสบการณ์เยอะมากกว่า
“แผนที่นี้เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มหุ่นรบเหลยถิงแล้ว” เวลานี้นักเรียนทหารที่ชมการต่อสู้เห็นแผนที่ที่แสดงตรงหน้านี้ พวกเขาต่างคาดการณ์เช่นนี้ออกมา คนที่เข้าใจกลุ่มหุ่นรบเหลยถิงดีต่างรู้ว่า ลูกทีมที่เฉียวถิงนำมาในครั้งนี้คือบรรดานักเรียนเก่าที่มีประสบการณ์ประลองหุ่นรบสองสามปีทั้งนั้น สมาชิกทีมหลิงเทียนที่เพิ่งสัมผัสหุ่นรบได้ไม่นานพวกนั้นจะเทียบชั้นได้อย่างไรเล่า
ต่อให้เป็นคนที่สนับสนุนหลิงเทียนในใจ เมื่อเห็นแผนที่นี้ก็อดลอบร้องคำว่าแย่แล้วไม่ได้เหมือนกัน หลิงเทียนโชคร้ายมากเกินไปแล้วที่ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักสุ่มได้แผนที่นี้มา
……
เวลานี้เอง ภายในห้อง VIP แห่งหนึ่งในโรงเรียนทหาร การประลองครั้งนี้กำลังฉายอยู่บนหน้าจอขนาดใหญ่ ด้านในมีผู้คนประมาณยี่สิบคนกำลังชมการประลองอย่างจริงจัง เมื่อแผนที่นี้ปรากฏขึ้นมา คนไม่น้อยเผยรอยยิ้มละไม ทว่าก็มีคนจำนวนน้อยที่ขมวดคิ้วพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ถังอวี้ นายคิดว่าไง?” ชายชราผู้หนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ด้านข้างถังอวี้เอ่ยปากถามฉับพลัน เขาก็คือผู้อำนวยการโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งผู้นั้น ยามนี้ก็ร่วมกิจกรรมชมดูและศึกษาของบรรดาระดับสูงและอาจารย์หุ่นรบในโรงเรียนด้วยเหมือนกัน
“ผู้อำนวยการ…แผนที่นี้มัน โรงเรียนไม่ได้สอดมือจริงๆ เหรอครับ?” ถังอวี้เอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชาเคร่งขรึม
“ฉันแค่กำหนดให้การแข่งขันเป็นการประลองแบบเปิดเท่านั้น” ผู้อำนวยการตอบกลับเรียบๆ “แต่นายก็รู้ว่า เรื่องกำหนดแผนที่ไม่ได้มีแค่ฉันเท่านั้นที่มีอำนาจนี้”
ถังอวี้ไม่ตอบ ทว่าแววตาของเขามีร่องรอยความอำมหิตพาดผ่านอย่างรวดเร็ว ลอบจัดการลับๆ ไม่ว่าแพ้หรือชนะต่างเป็นความเสื่อมเสียต่อผู้ควบคุมหุ่นรบอย่างพวกเขา
“นายไม่ดีใจหรือไง เฉียวถิงหัวหน้ากลุ่มเหลยถิง หัวหน้าทีมในการประลองครั้งนี้ก็คือนักเรียนที่ภาคภูมิใจของนายนะ” ผู้อำนวยการเอ่ยสัพยอก
“ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป หลิงหลาน ฉีหลง ลั่วล่าง อู่จย่ง หลี่อิงเจี๋ยก็คือนักเรียนของผมด้วย ผมเชื่อว่าสามปีให้หลัง พวกเขาก็เป็นนักเรียนที่ผมภาคภูมิใจเหมือนกัน…” ถังอวี้พลันหันหน้ามา เลิกคิ้วกล่าวว่า “ยิ่งไปกว่านั้น คราวนี้นักเรียนที่ผมรับเป็นคนของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนหมดเลย ไม่เหมือนนักเรียนที่ผมรับกลุ่มที่แล้วห้าคน มีแค่เฉียวถิงที่มาจากกลุ่มหุ่นรบเหลยถิง หนึ่งต่อห้า ผมควรยืนอยู่ฝั่งกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนมากกว่าหรือเปล่าครับ?”
“นายเป็นเดือดเป็นร้อนแทนลูกศิษย์ในอนาคตของนายแล้วหรือไง?” มุมปากผู้อำนวยการผุดรอยยิ้มออกมา นี่ก็คือสิ่งที่เขาชื่นชมถังอวี้มากที่สุด เมื่อเทียบกับเฉียวถิงที่อยู่ด้วยกันมานานสามปี ถังอวี้มีความรู้สึกโน้มเอียงไปทางเฉียวถิงมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แต่นี่ไม่ได้บ่งบอกว่า เขาสามารถยอมรับแผนการร้ายที่ทำในที่ลับแบบนี้ได้ ต่อให้คนที่ได้รับผลประโยชน์คือนักเรียนของเขาก็ไม่ได้เหมือนกัน
“ผมแค่อยากเห็นการแข่งขันที่ยุติธรรมยอดเยี่ยมน่าชมเท่านั้นครับ” ถังอวี้ตอบ “แต่ผมไม่คิดว่ากลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนจะอ่อนแอจนต้านทานไม่ได้เลยสักนิดจริงๆ” นึกถึงเมื่อหนึ่งปีก่อน ถึงแม้นักเรียนเหล่านี้จะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่พวกเขายังคงอาศัยความศรัทธายืนอยู่บนสนามประลองอย่างแน่วแน่เพื่อคว้าชัยชนะ จิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้แบบนี้ทำให้ถังอวี้ชื่นชม นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมเขาไม่สนใจคำแนะนำของพวกระดับสูงในโรงเรียน ทำลายสมดุลของกลุ่มอำนาจ ดึงดันรับนักเรียนห้าคนที่มาจากกลุ่มเดียวกัน
“ฉันเองก็ไม่คิดว่าหลิงเทียนจะพ่ายแพ้เพราะแค่แผนที่นี้” ผู้อำนวยการเห็นด้วยกับคำพูดของถังอวี้อย่างเหนือความคาดหมาย ทำให้ถังอวี้หันหน้ามองไปด้วยความตกตะลึง
ผู้อำนวยการยิ้มลุ่มลึกขึ้นมา แววตาโชนแสงเล็กน้อย นี่ทำให้หัวใจของถังอวี้สั่นสะท้าน ดูเหมือนผู้อำนวยการคิดจะใช้การประลองครั้งนี้มาทำอะไรบางอย่าง…เขาทอดสายตากลับไปยังหน้าจอขนาดใหญ่เบื้องหน้า หัวใจหนักอึ้งขึ้นมา
……
หลิงหลานรอช่วงเวลาสิบวินาทีที่เป็นอมตะผ่านไป ช่วงเวลานี้ ภายในรัศมีเรดาร์ของเธอ นอกจากเธอแล้วก็ไม่ปรากฏใครคนอื่นอีก หลิงหลานรู้อยู่แก่ใจดี เธอกับเสี่ยวซื่อคาดเดาได้ตรงเผงจริงๆ การประลองหุ่นรบที่โรงเรียนทหารให้ความสำคัญมากไม่ได้ง่ายดายเหมือนกับการประลองหุ่นรบก่อนหน้านี้ที่ให้เวลาทั้งสองทีมเตรียมตัวและรวมกลุ่ม หลังจากนั้นค่อยตั้งทีมเข่นฆ่ากัน
“เสี่ยวซื่อ หาพิกัดของพวกลูกทีมได้หรือเปล่า? และติดต่อพวกเขาได้ไหม?” หลิงหลานเห็นแบบนี้ก็ถามเสี่ยวซื่อทันที
แผนที่ที่ดูเหมือนไม่เป็นผลดีต่อกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนนี้ เมื่อมีอุปกรณ์โกงสารพัดนึกอย่างเสี่ยวซื่อ แผนที่นี้กลับเป็นประโยชน์ต่อพวกเธอมากที่สุด เทียบกับเหลยถิงที่ตอนนี้ยังดวงตามืดบอดต่อสู้เพียงลำพังอย่างแท้จริงแล้ว พวกเธอมีเสี่ยวซื่อช่วยเหลือ สามารถทำให้กลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนหาเพื่อนของตัวเจอในระยะเวลาสั้นที่สุด
“ไม่มีปัญหา!” เสี่ยวซื่อตอบกลับอย่างเฉียบขาด เมื่อเข้าสู่โลกเสมือนจริง เขาก็กลายเป็นเทพสารพัดประโยชน์ที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง นี่ก็คือเหตุผลที่เขาชอบโลกเสมือนจริงเป็นพิเศษ
“อีกอย่าง หาพิกัดของศัตรูมาด้วยนะ” หลิงหลานเอ่ยเสริมต่อ
หลิงหลานยืนอยู่ที่เดิม รอคอยข้อมูลที่ให้เสี่ยวซื่อค้นหาอย่างใจเย็น
ขณะเดียวกันนักเรียนทั้งหมดที่ชมการต่อสู้ เวลานี้พวกเขาเลือกมุมมองที่ตัวเองต้องการเพื่อชมการประลองที่ครึกโครมไปทั่วทั้งโรงเรียนนี้
การชมการประลองหุ่นรบสามารถเลือกได้สามมุมมอง มุมมองผู้ท้าชิง มุมมองผู้รับคำท้า และมุมมองพระเจ้า
มุมมองผู้ท้าชิง ความจริงก็คือเลือกฝ่ายที่ท้าประลอง และฝ่ายที่ท้าประลองในที่นี้ก็คือหน่วยรบเหลยถิง ซึ่งจะปรากฏตัวเลือกหุ่นรบสิบสองตัวของเหลยถิงให้ผู้ชม โดยที่สามารถเลือกหุ่นรบได้ตามใจชอบ และได้รับรู้ในมุมมองเดียวกับผู้ควบคุมหุ่นรบตัวนั้น ถึงขนาดที่สามารถมีความรู้สึกร่วมในความสามารถด้านการรับมือและความสามารถในการควบคุมหุ่นรบของอีกฝ่าย
นักเรียนแทบจะเกินกว่าครึ่งต่างเลือกมุมมองของผู้ท้าชิง และเจ็ดสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ในหมู่คนเหล่านี้ได้เลือกหุ่นรบไพ่ราชาของราชันสายฟ้าเฉียวถิง สำหรับนักเรียนแล้ว นี่คือโอกาสหายากที่พวกเขาจะได้เรียนรู้วิธีการควบคุมของผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชา พวกเขาไม่อาจต้านทานการเย้ายวนใจแบบนี้ได้เลย
ส่วนคนที่เลือกมุมผู้รับคำท้า หรือก็คือเลือกกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนก็มีตัวเลือกหุ่นรบทั้งหมดสิบสองตัวเช่นเดียวกัน เพียงแต่พวกนักเรียนที่เลือกกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนมีน้อยสุดขีด นอกจากสมาชิกกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนที่ไม่ได้ออกไปประลอง รวมถึงกลุ่มนักเรียนใหม่ที่ลอบสนับสนุนกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนในที่ลับแล้ว ก็มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น
คนที่เลือกก็ไม่ได้จดจ่อเหมือนกับคนที่เลือกเหลยถิงขนาดนั้น หากแต่กระจายมุมมองออกไปมากมาย แต่โดยรวมแล้ว จำนวนคนที่เลือกหัวหน้าทีมหลิงหลานยังคงมากที่สุด อย่างไรเสียหัวหน้าทีมคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหน่วยรบ และสหพันธรัฐสอนสั่งมาตลอดว่าให้เคารพผู้ที่แข็งแกร่ง
ส่วนคนที่เลือกมุมมองพระเจ้า ความจริงแล้วก็คือชมดูจากทั่วทั้งแผนที่ พวกเขาสามารถเลือกซูมภาพของหุ่นรบทั้งยี่สิบสี่ตัวได้ตามใจชอบ แน่นอนว่ามุมมองของพวกเขาคือผู้ชม สามารถเห็นฉากทั้งหมด รวมถึงสถานการณ์กระจัดกระจายของหุ่นรบต่างๆ ด้วย ไม่เหมือนกับมุมมองอื่นที่ต้องอาศัยบุคคลในเหตุการณ์ค้นหา
นักเรียนทุกคนต่างเข้าสู่การต่อสู้นี้ด้วยมุมมองของตัวเอง…
“ลูกพี่ หาเจอแล้ว!” เสี่ยวซื่อแสดงตำแหน่งของลูกทีมที่เขารวบรวมขึ้นในห้วงจิตใจของหลิงหลาน จุดสีเขียว 12 จุด หนึ่งในนั้นอยู่ค่อนข้างใกล้ตำแหน่งทางด้านขวาของเธอ แน่นอนว่าเสี่ยวซื่อไม่ลืมทำสัญลักษณ์ให้พิกัดของเหลยถิงเช่นเดียวกัน โดยใช้จุดสีแดงเป็นการบ่งบอก
ครั้งนี้ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักแยกย้ายแต่ละทีมออกจริงๆ ด้วย เมื่อพิจารณาจากการกระจายของจุดสีเขียวกับจุดสีแดงแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างอยู่ขัดกันเอง ด้านข้างไม่เพียงมีเพื่อนร่วมรบ ขณะเดียวกันยังมีศัตรูอีกด้วย นี่ก็บ่งบอกชัดเจนแล้วว่า ถ้าหากไม่มีเสี่ยวซื่ออยู่ ทั้งสองทีมเจอเพื่อนร่วมทีมหรือว่าเจอคู่ต่อสู่ก่อน ก็ต้องดูที่โชคของกันและกันแล้ว
“เสี่ยวซื่อ ส่งพิกัดของลูกทีมกับศัตรูให้พวกเขาทั้งหมด และก็เลือกจุดรวมตัวที่ใกล้กับพวกลูกทีมมากที่สุด ให้พวกเขาเข้าไปรวมกลุ่มพร้อมกัน” หลิงหลานสั่งการอย่างเฉียบขาด สำหรับหลิงเทียนแล้ว การที่ชิงรวมตัวกับเพื่อนได้ก่อนคู่ต่อสู้ก็จะสามารถยึดครองความได้เปรียบอย่างมหาศาล “อีกอย่าง ช่วยฉันหาตำแหน่งของเฉียวถิงที”
เวลานี้สิ่งสำคัญที่สุดคือกั้นเฉียวถิงไว้ ขอเพียงเฉียวถิงไม่มีโอกาสลงมือกับพวกลูกทีมของเธอ หลิงหลานเชื่อว่า ต่อให้พวกเขาโชคร้ายเจอกับลูกทีมของฝ่ายตรงข้าม พวกลูกทีมของเธอก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสชนะเลยเหมือนกัน
“หาเจอแล้ว ลูกพี่” เสี่ยวซื่อทำเครื่องหมายตรงตำแหน่งของเฉียวถิงออกมาอย่างรวดเร็ว หลิงหลานเห็นแบบนั้นคิ้วก็ขมวดแน่น ที่แท้เธออยู่ห่างจากตำแหน่งของเฉียวถิงมาก แทบจะอยู่กันคนละมุมเลย หากเธออยากเจอเฉียวถิง เธอจำเป็นต้องฝ่าสามด่านสังหารห้าขุนพล ข้ามลูกทีมของเหลยถิงพวกนั้นไปถึงจะได้ เฉียวถิงอยากเจอเธอก็ต้องเสียแรงนิดหน่อยเช่นเดียวกัน
ดูท่าออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักไม่อยากให้หัวหน้าทั้งสองทีมปะทะกันโดยตรง ดังนั้นเลยจับทั้งสองคนเว้นระยะให้อยู่ไกลกันที่สุด…
“อยากให้เฉียวถิงมีโอกาสแสดงผลงานเหรอ?” หลิงหลานยิ้มหยัน ดูเหมือนว่าออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักยังคงเอนเอียงไปทางเหลยถิง ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษทั้งสามคนของหลิงเทียนอยู่ไกลจากเฉียวถิงมาก กระจายออกไปยังจุดที่อยู่ห่างไกลกันสามจุด ดูจากระยะห่างแล้ว กว่าพวกเขาจะมาถึงทางฝั่งเฉียวถิงก็เพียงพอให้เฉียวถิงเอาชนะลูกทีมคนอื่นๆ ของหลิงเทียนแล้ว
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็มาดูกันว่าใครจะอยู่จนถึงตอนสุดท้าย” หลิงหลานเห็นแบบนั้นก็ทิ้งแผนการในตอนแรกไป ในเมื่อออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักจงใจอยากให้เฉียวถิงแสดงความสามารถ เช่นนั้นก็ให้เฉียวถิงโอ้อวดตนก่อนก็ได้ นอกจากนี้ หลิงหลานเองก็อยากให้ลูกทีมของเธอได้ประมือกับผู้ควบคุมไพ่ราชาสักครั้ง นี่ก็คือประสบการณ์อย่างหนึ่ง ต่อให้ต้องพ่ายแพ้ย่อยยับในโลกหุ่นรบเพราะเหตุนี้ มันก็คุ้มค่าแล้ว