I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 124 ไม่เลือกสำเร็จการศึกษา
“คำเตือน เนื่องจากหุ่นรบใช้ท่วงท่าที่ไม่สอดคล้องกับแบบแผนจึงเกิดความเสียหายแล้ว เกิดความเสียหายแล้ว” เวลานี้เอง ออปติคัลคอมพิวเตอร์ของหุ่นรบกระต่ายก็ส่งเสียงเตือนขึ้นมา
ตอนนี้หลิงหลานจมอยู่กับการบังคับหุ่นรบโดยสมบูรณ์ เธอสั่งการอย่างเยือกเย็นว่า “ตรวจสอบระดับความเสียหายของหุ่นรบ”
“หุ่นรบเกิดความเสียหายถึง 30% คำเตือน ยังคงเกิดความเสียหายต่อเนื่อง โปรดลดความเร็วลง 50% ทันที…ความเสียหาย 31%…โปรดลดความเร็วลง 50%!” ออปติคัลคอมพิวเตอร์แจ้งคำเตือนของมันอย่างทื่อๆ
“ยังฝืนได้นานเท่าไหร่?” หลิงหลานไม่ได้เลือกลดความเร็วลง ประการแรก ความเร็วในการเคลื่อนที่ของสิ่งกีดขวางทำให้เธอลดความเร็วของหุ่นรบไม่ได้แล้ว ประการที่สอง ความเร็วในตอนนี้มาจากแรงสะท้อนของกระต่ายทะยานฟ้า ตัวหุ่นรบก็ไม่สามารถควบคุมความเร็วนี้ได้ ความเป็นจริงบีบให้หลิงหลานจำเป็นต้องเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง
“คาดว่าอีกสองนาทีให้หลัง หุ่นรบจะเกิดสภาวะพังทลาย คำเตือน ความเสียหายถึง 31% โปรดลดความเร็วลง 50% ทันที”
“พอมีเวลาอยู่” หลิงหลานปิดสวิตช์เสียงของออปติคัลคอมพิวเตอร์ลงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เสียงแจ้งเตือนของออปติคัลคอมพิวเตอร์ส่งผลกระทบต่อการควบคุมของเธอ เธอทำหน้าเยือกเย็น ควบคุมหุ่นรบให้หลบหลีกการจู่โจมอย่างกะทันหันของสิ่งกีดขวางอีกครั้ง
จำเป็นต้องพูดว่าความสามารถในการปรับตัวกับสถานการณ์ขอหลิงหลานอยู่ในระดับสัตว์ประหลาด เดิมทีนี่เป็นหนึ่งในพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งสุดยอดของหลิงหลาน บวกกับการเรียนรู้และการฝึกฝนในมิติการเรียนรู้ทำให้พรสวรรค์นี้พัฒนาก้าวหน้า มีประสิทธิภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น หลังจากที่หลิงหลานหลบการโจมตีที่เข้ามาฉับพลันหลายต่อหลายครั้งด้วยความยากลำบาก เธอก็ปรับตัวเข้ากับความเร็วของหุ่นรบในตอนนี้ได้แล้ว
ไม่นาน เสาไม้ที่วางเป็นแนวขวางอีกต้นก็พุ่งมาจากทางด้านซ้ายไปยังทางด้านขวา หลิงหลานบังคับหุ่นรบให้ส่งแรงผลักขึ้นไปบนอากาศอีกครั้ง การเคลื่อนไหวคราวนี้ลื่นไหลสุดขีดอย่างเห็นได้ชัด ไม่ได้ดูจนตรอกเหมือนกับหลายครั้งก่อนอีกแล้ว ไม่เพียงเท่านั้น หลิงหลานบังคับหุ่นรบได้แม่นยำมาก ฉวยโอกาสเหยียบไปที่เสาไม้ที่พุ่งมา ยืมกำลังสายนั้นดันหุ่นรบทะยานไปข้างหน้าราวกับลูกปืนใหญ่อีกครั้ง
“ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ยอดเยี่ยมมาก ปรับแก้แค่สามสี่ครั้งก็ควบคุมความเร็วใหม่ของหุ่นรบรวมไปถึงความสามารถในการยืมแรงงัดแบบนี้ได้” ผู้ควบคุมหุ่นรบเสือชีตาห์ตกตะลึงกับระดับความร้ายกาจของหลิงหลานเช่นเดียวกัน
การกระทำของหลิงหลานในเวลาต่อมาก็เป็นไปตามที่ผู้ควบคุมหุ่นรบเสือชีตาห์คาดการณ์ไว้จริงๆ หุ่นรบกระโดดขึ้นไปบนอากาศท่ามกลางความเร็วสูงและก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกับตอนเริ่มแรกอีก มันเปลี่ยนเป็นคล่องแคล่วชำนาญ สุดท้ายก็ทำภารกิจประเมินผลครั้งนี้สำเร็จได้ด้วยดี
“ยินดีด้วย คุณซื่อหลิงที่สำเร็จการศึกษาควบคุมหุ่นรบพื้นฐานด้วยผลคะแนนหนึ่งนาที ห้าสิบแปดวินาที เข้าสู่หนึ่งพันคนแรกของทำเนียบบุคคลชั้นยอด” ตัวอักษรที่กระพริบแสงสีเขียวแถวหนึ่งปรากฏขึ้นบนหน้าจอหุ่นรบของหลิงหลาน จากนั้นก็เห็นตัวเลือกปรากฎขึ้นที่ด้านล่างว่า ชื่อนามสกุล: เปิดเผย/ไม่เปิดเผย
หลิงหลานเลือกไม่เปิดเผยทันที หลังจากนั้นถึงค่อยเห็นตัวอักษรสีแดงแถวหนึ่งปรากฏขึ้นที่ด้านบนสุดของหน้าจอหุ่นรบ มันเป็นตัวอักษรแบบเดียวกันกับที่ปรากฏขึ้นหลังจากหุ่นรบเสือชีตาห์ประเมินผลเสร็จ ‘ยินดีด้วย XXX ที่สำเร็จการศึกษาควบคุมหุ่นรบพื้นฐานด้วยผลคะแนนหนึ่งนาที ห้าสิบแปดวินาที เข้าสู่หนึ่งพันคนแรกของทำเนียบบุคคลชั้นยอด’
“ช้ากว่าฉันไปหนึ่งวินาที และก็เป็นการประเมินผลครั้งแรกเหมือนกัน ผู้ควบคุมหุ่นรบอัจฉริยะมีอยู่ทุกที่จริงๆ ต่อให้อยู่บนดาวเว่ยหลานดวงเล็กๆ ก็มีคนที่มีพรสวรรค์ไม่แพ้ฉันเหมือนกันสินะ” ความรู้สึกวิกฤติผุดขึ้นในใจของผู้ควบคุมเสือชีตาห์อีกครั้ง เขาไม่เคยลืมพวกคำพูดที่คุณปู่เคยกล่าวไว้กับเขา…ถ้าอยากจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาก็ต้องพึ่งพาตนเอง!
ในตอนที่ผู้ควบคุมหุ่นรบเสือชีตาห์กำลังเตรียมตัวทำการประเมินผลอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ค่อยเลือกสำเร็จการศึกษาหลุดพ้นจากการเป็นมือใหม่อย่างเป็นทางการนั้น เขากลับพบว่าผู้ควบคุมหุ่นรบกระต่ายเลือกฝึกฝนใหม่เหมือนกับเขา
ผู้ควบคุมหุ่นรบเสือชีตาห์สงสัยมาก เขาเลือกกลับไปเพราะว่าอยากรู้ผลคะแนนการประเมินของหุ่นรบกระต่าย แต่หุ่นรบกระต่ายเลือกกลับไปอีกทำไม ผู้ควบคุมหุ่นรบเสือชีตาห์รู้ดีว่าไม่มีทางเป็นเพราะเขาแน่นอน เนื่องจากเขายังไม่ได้เลือกทำการประเมินผลเลย
บางทีความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์และการควบคุมอันเหนือมนุษย์ของหลิงหลานอาจจะดึงดูดความสนใจของผู้ควบคุมเสือชีตาห์ขึ้นมา ดังนั้นเขาเลยไม่ได้เลือกทำการประเมินผล หากแต่ออกจากมิติการประเมินผลเพื่อเตรียมตัวไปหาหุ่นรบกระต่ายตัวนั้น อยากดูว่าเขากลับไปเพราะอะไรกันแน่
ถึงยังไงผลคะแนนของหุ่นรบกระต่ายก็ยอดเยี่ยมสุดขีด คนปกติคงเลือกสำเร็จการศึกษาแล้วออกไปทำมาหากินในโลกหุ่นรบที่แท้จริงด้วยความตื่นเต้นนานแล้ว
………………
หลิงหลานที่กลับไปยังห้องโถงของหอฝึกหุ่นรบก็ทำหน้าใคร่ครวญหวนนึกถึงการบังคับเมื่อสักครู่นี้ หลังจากนั้นค่อยทอดถอนใจกล่าวว่า “ไม่นึกเลยว่าการควบคุมหุ่นรบไม่ใช่แค่ให้เร็วเพียงอย่างเดียวก็พอสินะ บางครั้งการผสมผสานความช้าเร็วควบคุมเป็นจังหวะจะให้ผลดีเสียมากกว่า”
“ยินดีด้วยที่ลูกพี่ทะลวงจุดคอขวดได้แล้ว” เวลานี้เองเสี่ยวซื่อก็เอ่ยปากแสดงความยินดีกับหลิงหลานในที่สุด ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ เสี่ยวซื่อใช้สองมืออุดปากตัวเองไว้แรงๆ กลัวว่าตัวเองจะตื่นเต้นจนส่งเสียงรบกวนการบรรลุและการทะลวงจุดคอขวดของหลิงหลานออกมา ถ้าเป็นอย่างนั้นขึ้นมาเขาต้องกลายเป็นผู้ร้ายที่ทำผิดใหญ่หลวงนับพันปีจริงๆ
“ครั้งนี้ต้องขอบใจนายมากๆ เลยนะเสี่ยวซื่อ ขอบคุณนะ!” หลิงหลานรู้ว่าเธอสามารถทะลวงจุดคอขวดได้อย่างราบรื่นเป็นเพราะเสี่ยวซื่อพาเธอมาที่โลกเสมือนจริงข้างนอก ได้สัมผัสถึงหุ่นรบและเห็นภาพการประเมินผลการควบคุมของหุ่นรบเสือชีตาห์ในหอฝึกหุ่นรบ ถึงทำให้เธอบรรลุและเข้าสู่การทะลวงจุดคอขวดไปได้
หลิงหลานกำลังคิดจะพูดอะไรบางอย่างก็เห็นสัญลักษณ์คำเตือนสีแดงมากมายนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนหน้าจอของหุ่นรบ ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงเสียงของออปติคัลคอมพิวเตอร์ที่เธอปิดไว้ตอนที่อยู่ในภารกิจประเมินผล เธอรีบเปิดมันแล้วก็ได้ยินออปติคัลคอมพิวเตอร์เอ่ยเตือนอย่างบ้าคลั่งว่า “คำเตือน หุ่นรบเสียหายถึง 67% โปรดเลือกซ่อมแซมทันที โปรดเลือกซ่อมแซมทันที”
หลิงหลานแอบแลบลิ้น ไม่นึกเลยว่าทักษะกระต่ายทะยานฟ้าจะสร้างความเสียหายให้หุ่นรบมากขนาดนี้ มิน่าล่ะมิติการเรียนรู้ถึงได้ย้ำแล้วย้ำอีกว่าทักษะนี้ต้องการร่างกายที่ยืดหยุ่นสุดยอด ไม่อย่างนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าจะนำอันตรายแฝงเร้นมาให้ผู้ฝึกฝน
“เลือกซ่อมแซม!” ตอนนี้หลิงหลานยังไม่คิดเลือกหุ่นรบใหม่อีกครั้ง ถึงยังไงเธอยังไม่ผ่านการควบคุมพื้นฐานของหุ่นรบกระต่ายเลย
ออปติคัลคอมพิวเตอร์ได้ยินคำสั่งของหลิงหลาน บนหน้าจอก็ปรากฏหมายเลขติดต่อของร้านซ่อมหุ่นรบใหญ่ๆ ในเมืองหลวงทันที รอคอยการติดต่อของหลิงหลาน เนื่องจากหลิงหลานยังไม่สำเร็จการศึกษา ดังนั้นเธอเลยนำหุ่นรบออกจากหอฝึกหุ่นรบไม่ได้ ทำได้แค่เรียกพนักงานของร้านซ่อมเข้ามาให้บริการเท่านั้น หลิงหลานเลือกร้านซ่อมแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้หอฝึกหุ่นรบมากที่สุดอย่างรวดเร็ว เธอโทรหาหมายเลขติดต่อนี้ จากนั้นอีกประมาณห้านาทีให้หลัง อีกฝ่ายก็เข้ามาที่หอฝึกหุ่นรบเพื่อตรวจสอบหุ่นรบของเธอ
ในขณะที่หลิงหลานกำลังรอคอยอยู่นั้น หุ่นรบเสือชีตาห์ตัวหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องโถงของหอฝึกฝนอีกครั้ง มันมองซ้ายมองขวา ทันใดนั้นก็วิ่งเข้ามา เมื่อเห็นหุ่นรบกระต่ายของหลิงหลานอยู่ในห้องโถง มันก็รีบวิ่งเข้ามา ในตอนที่มันอยู่ห่างจากหลิงหลานประมาณสิบเมตร หุ่นรบของหลิงหลานก็ได้รับสัญญาณช่องทางการสื่อสารว่าอีกฝ่ายขอติดต่อพูดคุยด้วย
หลิงหลานประหลาดใจมาก ทำไมคนที่มีสามารถพัฒนาเป็นผีซวีผู้นี้ถึงมาหาเธอล่ะ? หลิงหลานหวนนึกถึงการกระทำของตัวเองอย่างจริงจังมากเพื่อรับผิดชอบความปลอดภัยของตัวเอง แล้วรู้สึกว่าเธอน่าจะไม่ได้แหย่หาเรื่องเขา ดังนั้นก็เลยรับช่องทางการสื่อสารที่เขาเชื่อมต่อเข้ามา ก่อนจะเอ่ยถามอย่างระมัดระวังว่า “มีธุระอะไร?”
เอาเถอะ หลิงหลานยังคงพะว้าพะวงมากกับความสามารถของผีซวีที่แสนลึกลับ ถ้าเกิดไม่ยั่วโมโหอีกฝ่ายได้เธอก็จะไม่ยั่วโมโห
“ขอโทษที ฉันอยากถามว่าเมื่อตะกี้นี้ทำไมนายถึงไม่เลือกจบการศึกษา แต่ว่าเลือกกลับมาอีกครั้งล่ะ?” เสียงของผู้ควบคุมเสือชีตาห์ยังคงเป็นเสียงนั้น เหมือนกับที่เสี่ยวซื่อว่าไว้จริงๆ ผู้ควบคุมเสือชีตาห์คือผู้มีศักยภาพพัฒนาความสามารถเป็นผีซวี
“หุ่นรบพังแล้ว” คำตอบของหลิงหลานทำให้อีกฝ่ายอึ้งไปอย่างชัดเจน มือใหม่ขับหุ่นรบสามารถทำให้หุ่นรบเกิดปัญหาได้บ้างจริงๆ เนื่องจากบางคนที่มีความสามารถในการควบคุมย่ำแย่สุดขีดจะขับหุ่นรบชนเข้ากับสิ่งกีดขวางอย่างไม่เหมาะสมในตอนที่ฝึกฝนขั้นพื้นฐาน เหมือนกับที่หลิงหลานชนกำแพงในตอนแรก แต่หลิงหลานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีทางทำเรื่องผิดพลาดระดับต่ำแบบนี้ได้ ถ้าอย่างนั้นทำไมหุ่นรบของอีกฝ่ายถึงพังล่ะ?
ผู้ควบคุมเสือชีตาห์เกิดความสงสัยขึ้นมาวูบหนึ่ง แต่คำตอบของหลิงหลานไม่สามารถอธิบายสาเหตุที่เขาเลือกกลับมาได้ “เลือกจบการศึกษาก็สามารถให้ร้านซ่อมเข้ามาซ่อมได้ เพียงแต่สถานที่แตกต่างกันเท่านั้น”
“อ้อ นี่เป็นแค่เหตุผลหนึ่งเท่านั้น เหตุผลที่สำคัญที่สุดที่เลือกกลับมาคือ การควบคุมพื้นฐานของฉันยังมีปัญหาอยู่อีกมากมากมาย จำเป็นต้องฝึกฝนให้ดี เอาให้มั่นใจเต็มร้อยว่าไม่มีวันพลาด” การที่หลิงหลานสามารถทะลวงจุดคอขวดได้ ผู้ควบคุมเสือชีตาห์ก็มีความดีความชอบอยู่ส่วนหนึ่งเช่นกัน เพียงแต่อีกฝ่ายไม่รู้เท่านั้นเอง ดังนั้นหลิงหลานที่รู้สึกซาบซึ้งใจก็ตัดสินใจเปิดเผยความลับในการพัฒนาให้อีกฝ่ายเล็กน้อย ส่วนฝ่ายตรงข้ามจะเชื่อหรือไม่นั้นก็ไม่ได้อยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบของเธออีกแล้ว เธอแค่ทำให้ตัวเองสบายใจก็พอ
แน่นอนว่าหลิงหลานเองก็มีความคิดที่จะผูกบุญสัมพันธ์เหมือนกัน ถ้าหากอีกฝ่ายรับฟังจริงๆ และฝึกฝนการควบคุมพื้นฐานให้ดี เชื่อว่าอย่างน้อยที่สุดเขาก็สามารถกลายเป็นผู้ควบคุมระดับพิเศษในด้านหุ่นรบได้ ในความคิดของหลิงหลาน พรสวรรค์ทางด้านการควบคุมหุ่นรบของอีกฝ่ายยังดีกว่าเธอเสียด้วยซ้ำ
“ผลคะแนนของนายไม่ได้เข้าสู่หนึ่งพันคนแรกของทำเนียบบุคคลชั้นยอดเหรอ?” ผู้ควบคุมเสือชีตาห์ไม่เข้าใจอยู่บ้าง “ผลคะแนนนี้ไม่ได้บ่งบอกว่าการฝึกฝนพื้นฐานของนายยอดเยี่ยมมากแล้วหรือไง”
“ยอดเยี่ยมไม่เท่ากับสมบูรณ์นะ นอกจากนี้ไม่ใช่ว่ายังมีคนอยู่ด้านหน้าเกือบหนึ่งพันคนเหรอ? ฉันไม่อยากแพ้ให้กับพวกเขา” หลิงหลานเอ่ยเรียบๆ นี่เป็นคำพูดจากใจจริงของเธอ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าความพอใจด้านการควบคุมขั้นพื้นฐานของพ่อจะอยู่ที่ระดับไหน แต่ไม่มีทางอ่อนด้อยกว่าคนพวกนั้นอยู่แล้ว
ผู้ควบคุมเสือชีตาห์เหมือนกับหวั่นไหวไปกับคำพูดของหลิงหลาน ผ่านไปเนิ่นนานถึงค่อยตอบว่า “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง แต่ว่าพวกเราก็ฝึกฝนการควบคุมพื้นฐานที่ข้างนอกได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องอยู่ในหอฝึกฝนเลยนี่นา”
“ข้างนอกมีสิ่งล่อลวงใจมากเกินไป ผู้คนถูกของสิ่งใหม่ดึงดูดไปง่ายดายมาก ตอนนั้นฉันต้องเสียสมาธิ ไม่สามารถใจจดใจจ่อกับการควบคุมพื้นฐานได้แน่นอน ไม่สู้ตัดทุกอย่างนี้ไปแต่แรกเลยดีกว่า ที่นี่ไม่มีอะไรทั้งนั้น สิ่งที่สามารถฝึกฝนได้ก็มีแต่การควบคุมพื้นฐานเท่านั้น ฉันไม่ใช่คนที่มีจิตใจแน่วแน่ ดังนั้นเลยได้แต่ใช้วิธีการแบบนี้มาชดเชย แต่ว่าพี่ชายไม่เหมือนกับฉัน บางทีนายอาจจะอดทนต่อความเงียบเหงา ต้านทานสิ่งล่อลวงใจก็ได้นะ…” หลิงหลานหยอกอีกฝ่ายขึ้นมาทำให้เขายิ้มฝืดเฝื่อนไม่หยุด
เวลานี้เองก็เห็นคนสี่ห้าคนขับหุ่นรบซ่อมแซมตัวหนึ่งเดินเข้ามา หลิงหลานรู้ว่านี่น่าจะเป็นช่างซ่อมที่เธอนัดไว้ ดังนั้นเธอจึงบอกลาผู้ควบคุมเสือชีตาห์และเดินไปหาพวกเขา
…………..
ผู้ควบคุมเสือชีตาห์นั่งใคร่ครวญอยู่ในห้องคนขับด้วยความจริงจัง สุดท้ายเขาก็พบว่าคำพูดของหลิงหลานถูกต้อง เขาเองก็ไม่กล้าแน่ใจเหมือนกันว่า เมื่อเรียนท่าใหม่แล้วจะสามารถต้านทานการล่อลวงใจได้มากพอ ไม่ไปฝึกฝนมันแต่ว่าไปฝึกการควบคุมพื้นฐานแทนได้หรือเปล่า
“มีปณิธาน อยากเอาชนะพวกอัจฉริยะที่อยู่ด้านหน้า น่าสนใจจริงๆ…” ผู้ควบคุมหุ่นรบเสือชีตาห์ขยับคันบังคับในมือ มุมปากเผยรอยยิ้มบางๆ ออกมา เอ่ยพึมพำกับตัวเองว่า “ในเมื่อฉันต้องการฝืนลิขิตเปลี่ยนแปลงโชคชะตา ฉันก็ต้องกลายเป็นยอดฝีมือระดับสูงสุดของโลกใบนี้ให้ได้ ถ้างั้นก็เริ่มตั้งแต่ตรงนี้ จะพ่ายแพ้ให้ใครไม่ได้เด็ดขาด ฉันจะพอใจแค่ติดอยู่ในหนึ่งพันคนแรกเล็กๆ นี่ได้ยังไงกัน…”
………………………………
Related