I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 229 รับภารกิจ!
ทุกครั้งที่จ้าวจวิ้นนึกถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกไม่เข้าใจอย่างยิ่ง ควรรู้ไว้ว่าหุ่นรบหลักควรเป็นหุ่นรบที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่หุ่นรบที่ครอบครองทั้งหมด แต่หลี่หลานเฟิงเพื่อนสนิทของเขากลับทำตรงข้ามกัน เลือกหุ่นรบกระต่ายที่อ่อนแอที่สุด หุ่นรบกระต่ายนี้มีเสน่ห์มากเท่าไหร่กันแน่ ถึงทำให้หลี่หลานเฟิงโปรดปรานมาก ถึงขนาดที่ทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้?
หลี่หลานเฟิงเงียบกริบต่อคำถามของเพื่อนสนิทเหมือนกับที่ผ่านมา
จ้าวจวิ้นชินชากับเรื่องนี้มากและก็ไม่ได้คาดหวังว่าจู่ๆ หลี่หลานเฟิงจะใจดีบอกสิ่งที่เขาต้องการ เขาเอ่ยอย่างสบายๆ ว่า “หลานเฟิง ผู้ควบคุมหุ่นกระต่ายตัวนั้นดูเหมือนมีความสามารถไม่เลวเลยนะ ต่อให้สแตนด์บาย หุ่นรบกระต่ายยังถูกเขาตั้งค่าไว้น่ารักมาก โยกหัวแทะแครอทด้วยแหละ น่าสนใจดี!”
หลี่หลานเฟิงอึ้งไป “ว่าไงนะ?”
จ้าวจวิ้น “เอ่อ?”
“เมื่อตะกี้นายพูดว่าไงนะ?” หลี่หลานเฟิงเหมือนกับได้ยินคำพูดของจ้าวจวิ้นไม่ชัด เลยถามซ้ำอีกครั้ง
จ้าวจวิ้นหวนนึกอย่างสุดความสามารถก่อนจะเอ่ยด้วยความไม่แน่ใจอยู่บ้าง “บอกว่าหุ่นรบกระต่ายน่าสนใจดี? ตอนสแตนด์บายอะไรนั่นยังโยกหัวแทะแครอทด้วย?” เมื่อสักครู่นี้เขาพูดแบบนี้ใช่ไหม?
ผ่านไปครู่ใหญ่หลี่หลานเฟิงถึงค่อยตอบว่า “น่าสนใจมากจริงๆ!”
จ้าวจวิ้นมองหลี่หลานเฟิงด้วยความงุนงงแวบหนึ่ง เสียงของเพื่อนสนิทดูแหบต่ำเล็กน้อย หรือว่าเมื่อคืนไปอยู่เป็นเพื่อนเขาแล้วตากลมจนเป็นหวัด? จ้าวจวิ้นพลันรู้สึกละอายใจ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาหงุดหงิดโมโห เขาคงไม่ลากหลี่หลานเฟิงไปที่ด้านบนหอคอยรับลมกลางคืนหรอก
หลี่หลานเฟิงไม่รู้ความคิดของจ้าวจวิ้นเลย แววตาของเขาที่อยู่ภายในห้องคนขับหุ่นรบเปลี่ยนเป็นล้ำลึกราวกับหวนนึกถึงอะไรบางอย่าง
………
เวลานี้หลิงหลานมาถึงห้องโถงภารกิจนานแล้วและกำลังหลับตาอยู่ แน่นอนว่าเธอไม่ได้ฆ่าเวลา เพียงแต่เธอมีเสี่ยวซื่อคนงานตัวน้อยที่ขยันขันแข็งกำลังเลือกภารกิจที่เหมาะสมกับเธอมากที่สุดจากในหมู่ภารกิจนับหมื่นพัน ให้เสี่ยวซื่อลงมือจัดการ เห็นได้ชัดว่าดูเชี่ยวชาญและมีประสิทธิภาพมากกว่าเธอ
ก็เหมือนกับตอนนี้ ผ่านไปแค่สามสิบวินาที เสียงร้องของเสี่ยวซื่อดังลั่นขึ้นในห้วงจิตใจของเธอว่า “ลูกพี่ หาเจอแล้ว”
“มีอะไรบ้าง?” หลิงหลานลูบศีรษะเสี่ยวซื่อ เอ่ยด้วยใบหน้าชื่นชม
เสี่ยวซื่อยิ้มแป้นเสพสุขต่อการลูบศีรษะด้วยความรักของลูกพี่ไปพลาง ตอบกลับไปพลางว่า “ภารกิจผู้เล่นมีแค่อันเดียว ภารกิจพิเศษของระบบมีสามอัน เหมาะกับพวกเรามากๆ ใช้เวลาสั้นๆ และก็ไม่ต้องเปลืองแรง แน่นอนว่าคะแนนก็ไม่เลวด้วย” เสี่ยวซื่อโบกมือทีหนึ่ง กระดาษขาวหนึ่งแผ่นปรากฏขึ้นในมือของเขา หลังจากนั้นก็ส่งให้หลิงหลาน เสี่ยวซื่อรังเกียจการอธิบายไม่ชัดเจน ดังนั้นเขาจึงใช้ตัวอักษรแสดงขึ้นมาโดยตรง
หลิงหลานรับกระดาษมา เมื่อเธออ่านก็เห็นบนนั้นเขียนเอาไว้ว่า
ภารกิจพิเศษของระบบ:
1: ตามหาแกนพลังงานแปลงแสงดาวที่หายไปของหมู่บ้านซานหยาง ให้หมู่บ้านซานหยางมีความสามารถป้องกันด้านนอกในช่วงเวลากลางคืน! รางวัล: แกนพลังงานแปลงแสงดาวหุ่นรบหนึ่งชิ้น (อุปกรณ์ใช้สำหรับปรับปรุงหุ่นรบ) คะแนน 500 แต้ม!
2: หนึ่งอาทิตย์ให้หลังหมู่บ้านซานหยางจะประสบการรุมล้อมโจมตีของสัตว์อสูรกลายพันธุ์จากเขตรกร้าง ผู้ใหญ่บ้านได้รับข่าวแล้ว ดังนั้นจึงขอให้ผู้กล้านำจดหมายส่งไปถึงมือเจ้าเมืองของเมืองซิ่นหยางภายในระยะเวลาที่กำหนด หวังว่าอีกฝ่ายสามารถส่งหน่วยหุ่นรบชั้นสูงมาป้องกันหมู่บ้านเพื่อกอบกู้หมู่บ้านไว้…รางวัล: ดาบพระจันทร์เย็นระดับสูงหนึ่งเล่ม (อุปกรณ์ติดตั้งด้านหลังหุ่นรบ) คะแนน 200 แต้ม
3: บนเส้นทางเพียงหนึ่งเดียวระหว่างหมู่บ้านซานหยางกับเมืองซิ่นหยางปรากฏฝูงสัตว์อสูรกลายพันธุ์ที่แข็งแกร่ง หมู่บ้านซานหยางประกาศให้เงินรางวัลสูงมากในการกำจัดให้สิ้นซาก! รางวัล: หินวิวัฒนาการระดับต่ำของหุ่นรบ (เมื่อปรับปรุงหุ่นรบระดับต่ำจะเพิ่มอัตราความสำเร็จในระดับหนึ่ง) ปืนลำแสงประสิทธิภาพสูง (อาวุธติดตั้งที่มือขวาของหุ่นรบ) คะแนน 200 แต้ม
ภารกิจผู้เล่น:
ต้องการว่าจ้างนักรบหุ่นรบชั้นสูงท่านหนึ่งคุ้มกันผู้ว่าจ้างไปถึงในเมืองซิ่นหยางอย่างปลอดภัย รางวัลความสำเร็จ: อุปกรณ์ซ่อมแซมหุ่นรบหนึ่งชุด (สามารถซ่อมแซมหุ่นรบที่มีระดับต่ำกว่าหุ่นรบระดับสูงลงไปได้อย่างสมบูรณ์หนึ่งครั้ง) อุปกรณ์ซ่อมแซมฉุกเฉินหนึ่งครั้ง (สามารถทำให้หุ่นรบระดับกลางที่มีอัตราความเสียหาย 60% ขึ้นไปกลับมาอยู่ในสภาพเต็มร้อยชั่วคราวหนึ่งครั้งภายในระยะเวลาหนึ่งนาที! หากอัตราความเสียหายต่ำกว่า 60% สามารถฟื้นฟูกลับคืนมาได้เพียง 35%! เปอร์เซ็นต์การฟื้นฟูจะค่อยๆ ลดลงไปตามระดับความเสียหาย) คะแนน: 200
หลิงหลานดีดกระดาษในมือกล่าวว่า “ความหมายของนายคือให้รับภารกิจสี่อันนี้ด้วยกัน?” คะแนน 1100 แต้มไปถึงเงื่อนไขต่ำสุดของคะแนน 1010 แต้มสำหรับหอท้าประลองหุ่นรบ
“ใช่” เสี่ยวซื่อตอบกลับอย่างเด็ดขาด
“เพราะอะไร? ภารกิจพิเศษของระบบอันที่สอง อันที่สามกับภารกิจผู้เล่นเกี่ยวเนื่องกัน รับภารกิจพวกนี้ด้วยกันก็ยังมีเหตุผล แต่ภารกิจของระบบอันแรก ฉันดูยังไงก็ไม่เกี่ยวพันกับพวกภารกิจด้านล่างเลย” หลิงหลานขมวดคิ้วถาม
เสี่ยวซื่อหัวเราะหึๆ กล่าวว่า “คนอื่นไม่รู้ความลับในนี้อยู่แล้ว แต่ว่าฉันเป็นใคร? การค้นหาในขอบเขตใหญ่ยากมากจริงๆ แต่ว่าการค้นหาในขอบเขตเล็กๆ แบบนี้ไม่ได้ยากสำหรับฉันเลย ความจริงแล้วแกนพลังงานแปลงแสงดาวอยู่ในรังเก่าของสัตว์อสูร เราสามารถนำมันติดมือกลับมาได้ หลังจากนั้นก็ไปรับรางวัลที่ผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านซานหยางด้วยกัน”
หลิงหลานเคาะศีรษะของเสี่ยวซื่อเบาๆ “นับว่านายฉลาด งั้นก็รับทั้งหมดเถอะ”
เสี่ยวซื่อพูดด้วยความภาคภูมิใจว่า “รับมานานแล้ว! ฉันกลัวว่าถ้าลงมือช้าไปจะถูกคนแย่งไปได้”
หลิงหลานมองเสี่ยวซื่อที่ทำหน้า ‘ชมฉันเร็วเข้า’ หน้าผากก็อดขึ้นขีดดำไม่ได้ หมอนี่เริ่มคิดเองเออเองอีกแล้ว ไม่สั่งสอนคงไม่ได้แล้ว ดังนั้นเธอจึงหยิกดวงหน้าน้อยๆ ที่อ้วนฉุของเสี่ยวซื่ออย่างโหดเหี้ยม
หลิงหลานเอ่ยถามต่อท่ามกลางเสียงร้องขอความเมตตาของเสี่ยวซื่อ “จะติดต่อผู้เล่นคนนั้นยังไง?”
เสี่ยวซื่อสลัดหลุดจากอุ้งมือมารของหลิงหลานอย่างยากลำบาก เขานวดแก้มที่ถูกทรมานขุ่นเคืองใจและเอ่ยว่า “เขาจะติดต่อพวกเราเอง”
เวลานี้เอง ออปติคัลคอมพิวเตอร์ของหุ่นรบหลิงหลานพลันส่งเสียงแจ้งเตือนออกมา ‘จีอู๋ปู้ซิว (ไม่มีหุ่นรบที่ซ่อมไม่ได้) ขอติดต่อสื่อสาร Yes or No?’
เสี่ยวซื่อรีบตะโกนว่า “เขานี่แหละ”
หลิงหลานกดปุ่มรับสายแล้วก็ได้ยินเสียงอ่อนแรงดังขึ้น “ขอถามหน่อย คุณเป็นคนรับภารกิจของผมใช่ไหม?”
หลิงหลานเอ่ยอย่างเฉยชาว่า “ใช่แล้ว!”
“นี่เป็นการไปเมืองซิ่นหยาง สัตว์อสูรที่นั่นแข็งแกร่งมาก ถ้าเกิดไม่ใช่นักรบหุ่นรบชั้นสูงก็จะผ่านไปไม่ได้เลย ผมอยากถามว่า คุณเป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูงหรือเปล่า?” อีกฝ่ายคล้ายกับไม่มีความมั่นใจต่อหลิงหลานมากๆ เลยอดเอ่ยเตือนไม่ได้
“ในเมื่อรับภารกิจของคุณแล้ว ก็ต้องส่งคุณไปถึงจุดหมายปลายทางให้ได้ คุณไม่ต้องกังวล” หลิงหลานมองหุ่นรบกระต่ายที่เป็นตัวแทนผู้ฝึกหัด ใบหน้าก็กลัดกลุ้ม หุ่นรบตัวนี้ไม่มีแรงโน้มน้าวใจอะไรเลยจริงๆ
ฝ่ายตรงข้ามคล้ายกลับเข้าใจความหมายของหลิงหลาน ดังนั้นจึงพูดว่า “งั้นเกรงว่าผมคงไม่สามารถมอบภารกิจนี้ให้คุณได้ ก่อนหน้านี้ มีนักรบหุ่นรบชั้นกลางสามคนรับภารกิจนี้ด้วยกัน แต่พวกเขาก็ไม่ผ่าน…” เขาเหมือนกับนึกอะไรบางอย่างออกเลยกล่าวเสริมว่า “ภารกิจนี้ยิ่งมีคนมาก สัตว์อสูรก็จะยิ่งเยอะมากขึ้นด้วย หรือก็คือผ่านยากขึ้น การใช้กลยุทธ์คลื่นฝูงชนไม่มีประโยชน์ในโลกหุ่นรบ ที่นี่ให้ความสำคัญกับความสามารถของตัวบุคคลทั้งหมด”
เสี่ยวซื่อได้ยินก็รีบพูดว่า “ลูกพี่ อยากให้ฉันช่วยสร้างภาพลวงตาไหม ให้อีกฝ่ายเห็นว่าหุ่นรบของเธอคือหุ่นรบระดับสูง?”
มุมปากของหลิงหลานยกขึ้น “ไม่จำเป็น ฉันจะใช้ความสามารถที่แท้จริงพิสูจน์ว่าภารกิจนี้ต้องเป็นฉันเท่านั้น” หลิงหลานมองเสี่ยวซื่อแล้วก็เอ่ยเตือนอีกครั้งว่า “เสี่ยวซื่อ นายจำเอาไว้ ตอนนี้ฉันใช้สถานะที่แท้จริง ดังนั้น ทุกอย่างที่เกี่ยวพันต่อโลกภายนอกของฉันจะมีการเล่นตุกติกไม่ได้เป็นอันขาด อย่าให้คนที่มีจุดประสงค์สังเกตเห็นตัวตนของนาย”
เสี่ยงซื่อตกตะลึงแล้วก็รีบพยักหน้ากล่าวว่า “เข้าใจแล้ว ลูกพี่!”
หลิงหลานลูบศีรษะของเขา “ต่อไปนายต้องระมัดระวังการกระทำเอาไว้นะ ฉันสูญเสียนายไปไม่ได้เด็ดขาด เสี่ยวซื่อ!” การเอาใจใส่ที่อยู่ในน้ำเสียงของเธอทำให้ดวงตาทั้งสองข้างของเสี่ยวซื่อแดงขึ้นมาฉับพลัน เขารีบผงกศีรษะหนักๆ เตือนตัวเองว่าอย่าทำให้ลูกพี่ของเขากังวลใจเป็นอันขาด ฮือๆๆ ที่แท้ความห่วงใยความเอาใจใส่ของลูกพี่ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ในใจรู้สึกทั้งเปรี้ยวและหวาน แต่มันกลับทำให้เขาตื่นเต้นฮึกเหิมขึ้นมาได้! ไม่ได้ล่ะ ดูเหมือนชิปจะร้อนเกินไปนิดหน่อยแล้ว….
หลิงหลานไม่ได้สังเกตเห็นปฏิกิริยาของเสี่ยวซื่อเลย ตอนนี้ความสนใจของเธออยู่ที่จีอู๋ปู้ซิว จากนั้นก็ได้ยินเธอตอบกลับอย่างเย็นชาว่า “ต่อให้เป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูง ถ้าระดับการควบคุมไม่พอ ก็ยังทำภารกิจไม่สำเร็จอยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้น อยากหานักรบหุ่นรบชั้นสูงสักคนในหมู่บ้านซานหยางแห่งนี้เกรงว่าจะยากมาก” ตลอดทางที่ผ่านมาหลิงหลานเห็นว่าโดยพื้นฐานแล้วที่นี่เป็นดินแดนของหุ่นรบฝึกหัดกับหุ่นรบระดับต่ำ เจอหุ่นรบระดับกลางน้อยมาก ส่วนหุ่นรบระดับสูง หลิงหลานยังไม่เคยเห็นมาก่อน
คำพูดของหลิงหลานทำให้ฝ่ายตรงข้ามสะอึกไป เนื่องจากที่หลิงหลานกล่าวมาคือความจริง อย่าเพิ่งพูดถึงนักรบหุ่นรบชั้นสูงจะปรากฏตัวขึ้นในหมู่บ้านซานหยางหรือไม่เลย แค่รางวัลที่เขาสามารถนำออกมาก็ดึงดูดหุ่นรบระดับสูงไม่ได้แล้ว เขาจึงหวังเพียงหุ่นรบระดับสูงไปเมืองซิ่นหยางพอดี แล้วก็รับภารกิจของเขาติดมือไปด้วย เขาจะไปคิดที่ไหนกันว่าความจริงแล้วที่หลิงหลานรับภารกิจของเขาก็เป็นเพราะว่าผ่านเส้นทางเดียวกับภารกิจพวกนั้นด้วย..
“แทนที่คุณจะรอความเป็นไปได้ที่ไม่รู้จักอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่สู้ตามฉันไปเดิมพันกันดูสักตั้งล่ะ แน่นอนว่าคุณสามารถดูความสามารถของฉันก่อนก็ได้ ถ้ารู้สึกว่าไม่ดี ค่อยปฏิเสธก็ยังไม่สาย” หลิงหลานกล่าวต่อ
ข้อเสนอแนะของหลิงหลานทำให้ฝ่ายตรงข้ามใจกระตุก จากนั้นก็ได้ยินอีกฝ่ายพูดว่า “ที่คุณพูดมาก็มีเหตุผล ผมขอดูพลังรบของคุณก่อน ถ้าเกิดได้ ผมก็จะมอบภารกิจนี้ให้คุณ เอาแบบนี้ละกัน พวกเราไปเจอกันที่ประตูตะวันตกของหมู่บ้าน”
หลิงหลานย่อมตกลง เส้นทางที่ไปยังเมืองซิ่นหยางอยู่ที่ฝั่งตะวันตกของหมู่บ้านเช่นกัน ข้อเสนอของฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ทำให้ทั้งสองฝ่ายเสียเวลามากเกินไป
อย่างไรก็ตาม หลิงหลานได้ปล่อยเสี่ยวซื่อไปเพราะเรื่องนี้ เธอเขกศีรษะเสี่ยวซื่อแรงๆ ทำให้เสี่ยวซื่อมองลูกพี่ด้วยความฉงนมาก ไม่รู้ว่าทำไมลูกพี่ถึงเขกหัวเขาอย่างไม่มีเหตุอีกแล้ว
“นี่ไม่นับว่ายุ่งยาก ไม่เสียเวลาเหรอ?” หลิงหลานปรายตามองเสี่ยวซื่ออย่างเย็นเยียบ ทำให้เสี่ยวซื่อตกใจกลัวจนได้แต่ก้มหน้างุดทำตัวดีๆ ก่อนจะพึมพำโดยใช้เสียงที่มีเพียงตัวเขาได้ยินว่า “นี่เป็นเพราะลูกพี่ไม่ยอมให้ฉันเล่นตุกติกไม่ใช่หรือไง…” ด้านหลังประโยคนั้นก็คือ รนหาเรื่องเอง ไม่ว่ายังไงเสี่ยวซื่อก็ไม่กล้าพูดออกมา ได้แต่ฝืนกลืนคำพูดกลับไป
‘ปัง’ ศีรษะของเสี่ยวซื่อถูกหลิงหลานเคาะแรงๆ อีกครั้ง น้ำตาร่วงลงมาจากดวงตาทั้งสองข้างของเสี่ยวซื่อ เขามองหลิงหลานอย่างกล่าวโทษแวบหนึ่ง ‘ฮือๆๆ ลูกพี่ ทำไมเธอรังแกฉันอีกแล้วล่ะ?’
“ทั้งหมดเป็นเพราะฉันรนหาเรื่องเองเหรอ?” หลิงหลานปรายตามองเสี่ยวซื่อคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม สายตานั้นทำให้เสี่ยวซื่อหนาวยะเยือกไปทั่วทั้งตัว เขาลืมไปได้ยังไงว่าความคิดของเขากับลูกพี่เชื่อมถึงกัน? คำพูดประโยคนั้นต่อให้พูดหรือไม่พูด ลูกพี่ก็รู้อยู่ดี…
เสี่ยวซื่อไร้ยางอายมากจริงๆ เขารีบกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสาว่า “ลูกพี่ ไม่ใช่แน่นอน ไม่มีทางแน่นอน เธอต้องฟังผิดไปแน่ๆ ไม่ ไม่ ไม่ เธอเข้าใจผิดแล้ว!” เมื่อสัมผัสได้ว่าคำพูดนี้ยังมีพลังโน้มน้าวไม่พอ เสี่ยวซื่อก็เอ่ยด้วยสีหน้ากระจ่างแจ้งทันทีว่า “อ้า…มีไวรัสที่ไม่รู้จักบุกเข้ามาแน่ๆ เลย เสี่ยวซื่อต้องไปฆ่าไวรัส! ลูกพี่ เสี่ยวซื่อต้องรีบไปแล้วนะ…” เขากล่าวจบก็วิ่งหนีหายไปดังฟิ้ว