I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 367 เล่นละครหลอกลวง!
ควรพูดว่า ทีมเกาจิ้นอวิ๋นโชคดีมากที่หลิงหลานมาได้ทันเวลาวิกฤติพอดี
พูดก็คือ หลังจากที่หลิงหลานจัดเตรียมทุกอย่างในห้องลับเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้าไปในช่องส่งตัว ใช้แรงยิงของช่องส่งตัว เปิดใช้งานเครื่องยนต์ของหุ่นรบ ถือโอกาสบินออกจากคลังมาที่ท้องฟ้าข้างนอก
เวลานั้นก็บังเอิญเป็นเวลาที่ฉีหลงพาพวกผู้ควบคุมหุ่นรบหนึ่งร้อยกว่าคนของกลุ่มนักเรียนใหม่เดินออกมาจากคลังเก็บหุ่นรบ หลิงหลานอยู่บนฟ้ามองลงมาทั่วทั้งโรงเรียน ใช้ประโยชน์จากความสามารถของเสี่ยวซื่อ เปิดใช้งานมุมมองภาพมากมายของหุ่นรบ พยายามควบคุมสนามรบทั้งสนาม
หากยังไม่แน่ใจว่าคนของกลุ่มนักเรียนใหม่สามารถปรับตัวเข้ากับสนามรบนี้ได้ หลิงหลานก็ไม่อาจเข้าร่วมสงครามได้โดยตรง ภารกิจแรกในการเข้าสู่สนามรบของเธอก็คือ พยายามคุ้มครองสมาชิกกลุ่มให้รอดชีวิตต่อไปมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เนื่องจากหลิงหลานรู้ดีว่า อัตราการบาดเจ็บล้มตายสูงสุดมักจะเป็นตอนเริ่มต้นทำสงคราม เมื่อปรับตัวแล้วก็จะไม่เสียชีวิตง่ายดายขนาดนั้น
หลิงหลานรู้ดีว่า หากต้องการให้พวกสมาชิกกลุ่มเติบโตขึ้นมาและเพิ่มพูนความแข็งแกร่ง จำเป็นต้องอาศัยความพยายามต่อสู้เสี่ยงชีวิตของตัวพวกเขาเองถึงจะถูก ดังนั้นหลิงหลานไม่อาจเป็นเหมือนแม่ไก่แก่ ปกป้องบรรดาสมาชิกกลุ่มจนสิ้นสุดสงคราม เมื่ออดทนผ่านพ้นช่วงเวลาปรับตัวที่อันตรายที่สุดนั้นแล้ว หลิงหลานก็จะเลือกปล่อยมือโดยสมบูรณ์ และให้พวกสมาชิกกลุ่มต่อสู้ช่วงชิงโอกาสรอดชีวิตเอาเอง
หลิงหลานที่อยู่มาสองชาติทำให้นิสัยของหลิงหลานเปลี่ยนเป็นสับสนขัดแย้งกันอย่างมาก เธอมีหัวใจที่อ่อนโยนเอาใจใส่ของชาติก่อน และก็มีความเลือดเย็น ไร้หัวใจกับความเด็ดขาดที่ถูกมิติการเรียนรู้บีบเค้นออกมาในชาตินี้….เธอไม่อาจทนให้เพื่อน ๆ ข้างกายถูกสังเวยชีวิตอย่างไร้ความผิดได้ แต่เธอก็สามารถอำมหิตจนถึงขั้นปล่อยให้พวกเพื่อน ๆ ตกสู่สภาวะอับจนแล้วทะลวงขีดจำกัดของตัวเอง หาโอกาสเอาชีวิตรอด
เวลานี้การต่อสู้ราวกับไฟที่โหมไหม้ไปทั่วทั้งเขตโรงเรียนทหารบนดาวซินสิง สนามรบที่เดิมทียังอยู่ห่างจากโรงเรียนทหารไปสิบกิโลเมตร ตอนนี้ได้แผ่ขยายมาถึงภายในโรงเรียนทหารแล้ว ทุกมุมของโรงเรียนทหารต่างมีไฟสงครามลุกโชนขึ้นมา ส่วนเขตหอพักนั้นเป็นสถานที่รุนแรงมากที่สุด กองกำลังภาคพื้นดินต่อสู้อยู่ที่นั่นไปเกือบครึ่งหนึ่ง และจำนวนหุ่นรบที่บุกโจมตีก็เยอะมากที่สุดด้วย เกือบจะครองสัดส่วนหุ่นรบที่บุกโจมตีทั้งหมดไปมากกว่าครึ่ง
หลิงหลานเห็นดังนั้น คิ้วก็ขมวดขึ้นเล็กน้อย สถานการณ์แบบนี้ยืนยันแล้วว่า เป้าหมายของศัตรูลึกลับเหล่านี้คือสิ่งที่เธอคาดการณ์ไว้จริงๆ นั่นก็คือพวกนักเรียนทหาร เพียงแต่ไม่อาจแน่ใจได้ว่า การบุกจู่โจมอย่างกะทันหันในครั้งนี้มุ่งเป้ามาที่ทีมของเธอจริง ๆ หรือเปล่า
แววตาของหลิงหลานฉายความอำมหิตขึ้นมาแวบหนึ่ง ถ้าเกิดความแตกแล้วจริงๆ ก็จำเป็นต้องให้พ่อของเธอออกหน้าแล้ว กองพลที่ยี่สิบสามน่าจะเป็นร่มคุ้มภัยที่ดีที่สุดของทีมพวกเธอ หลิงหลานเชื่อว่า หลิงเซียวสามารถคุ้มครองพวกเธอจนเติบโตขึ้นมาได้แน่นอน เวลานั้นพวกเธอก็ไม่ใช่เป้าหมายที่พวกศัตรูเข่นฆ่าได้ตามใจชอบแล้ว หากศัตรูอยากจัดการพวกเธอก็ต้องพิจารณาดูว่าจ่ายค่าตอบแทนนั้นไหวหรือเปล่า
หลิงหลานเพิ่งจะขบคิดวิธีการรับมือตอนที่เรื่องราวพัฒนาไปถึงผลที่เลวร้ายที่สุด ยังไม่ทันได้โล่งใจ เธอก็ถูกช่องสักอันในหน้าจอหุ่นรบดึงดูดความสนใจ มันคือทีมที่นำโดยเกาจิ้นอวิ๋น พวกเขาประสบอันตรายแล้ว
อย่างที่คิดไว้เลย ทีมที่เป็นหุ่นรบระดับกลางทั้งหมดอยากเอาชีวิตรอดได้อย่างราบรื่นในสนามรบไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายขนาดนั้น ถ้าหากนำโดยหุ่นรบระดับสูงสักตัวก็คงไม่เกิดสภาวะที่ตอบโต้กลับไม่ได้เลยสักนิดเดียวเช่นนี้…หลิงหลานเปิดใช้งานเครื่องยนต์เต็มอัตราโดยไม่ลังเล หุ่นรบพุ่งไปยังตำแหน่งของทีมเกาจิ้นอวิ๋นราวกับแสงก็ไม่ปาน
ถึงแม้ว่าหุ่นรบที่หลิงหลานบังคับอยู่ตอนนี้ไม่ใช่หุ่นรบที่รวดเร็วมากที่สุดในหมู่หุ่นรบไพ่ราชา แต่เมื่อเทียบกับหุ่นรบระดับสูงแล้ว ความเร็วนั้นไม่ใช่แค่เร็วกว่าหนึ่งเท่าหรือสองเท่า หากแต่ไปถึงห้าเท่าหกเท่า แน่นอนว่าการที่หลิงหลานสามารถขับด้วยความเร็วถึงขีดสุด เป็นเพราะว่าตอนนี้ร่างกายของเธอแข็งแกร่งอย่างยิ่งยวด สามารถต้านทานพลังสะท้อนกลับที่มาจากการขับเคลื่อนของหุ่นรบตัวนี้ได้ทั้งหมด ถ้าเกิดเป็นร่างกายเมื่อสามปีก่อน เกรงว่าอาจจะไม่ง่ายดายแบบนี้
และผลลัพธ์ก็เหมือนกับที่ทุกคนได้เห็น หลิงหลานช่วยเหลือเกาจิ้นอวิ๋นได้ทันเวลาในตอนที่วิกฤติที่สุด อีกทั้งยังจัดการหุ่นรบระดับสูงตัวนั้นด้วยกระบวนท่าเดียว
หลังจากที่หลิงหลานรอเกาจิ้นอวิ๋นออกไปจากที่เกิดเหตุแล้ว เธอก็เปลี่ยนโหมดต่อสู้ของหุ่นรบจากต่อสู้ระยะประชิดมาเป็นโหมดลอบสังหารอำพรางตัวตอนกลางคืนแทน นี่สะท้อนให้เห็นบนแสงแวววาวจางๆ ของโล่แสงพลังงานที่เดิมทีปล่อยออกมาจากบนตัวหุ่นรบเปลี่ยนเป็นดำมืดลงทันที ทั่วทั้งร่างหุ่นรบไม่ได้ผลิตแหล่งกำเนิดแสงเลยสักนิดเดียว กลมกลืนไปกับความมืดในยามราตรี…
หุ่นรบไพ่ราชาที่ลอบอยู่กลางอากาศมาตลอดก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นนี้เอง หลิงหลานไม่ได้ทระนงตน เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายที่มาคือศัตรูระดับไหน เธอไม่อาจยืนโจ่งแจ้งอยู่ตรงนั้น กลายเป็นเป้าให้ศัตรูโจมตีได้โดยสะดวก
หนึ่งนาทีต่อมา หุ่นรบห้าตัวปรากฏขึ้นอย่างเลือนรางในท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ห่างไกล ภายใต้ฉากไฟสงครามบนพื้นดิน
“น่าจะเป็นที่นี่แหละ พิกัดที่ M03 ให้พวกเราอยู่ใกล้ๆ นี่แล้ว” หุ่นรบสี่ห้าตัวคล้ายกับไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ความจริงแล้วกำลังพูดคุยกันในช่องสื่อสารทีมของพวกเขาอยู่
“สามนาทีก่อน M03 ขาดการติดต่อไปแล้ว เกรงว่าน่าจะเกิดปัญหาขึ้น ทุกคนระวังตัวหน่อยนะ”
“ครับ M01” หุ่นรบตัวอื่นๆ ได้ยินเสียงนี้ก็ตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน ดูท่ามีความเป็นไปได้สูงที่ M01 คนนี้คือหัวหน้าของทีมนี้
ไม่นาน พวกเขาพบหุ่นรบของ M03 นอนอยู่บนพื้น พวกเขารีบบินเข้าไปทันทีก่อนจะร่อนลงสู่พื้น หุ่นรบสามตัวทำการระวังภัย หุ่นรบตัวหนึ่งรีบไปที่ข้างกายหุ่นรบ M03 ทันที มันย่อตัวลงตรวจสอบ หุ่นรบอีกตัวคล้ายกับหลุบตาลงต่ำ ไม่ได้ทำการป้องกันอะไร แต่ผู้ควบคุมหุ่นรบที่มีประสบการณ์มากมายสามารถสังเกตเห็นได้ว่า ท่วงท่าของหุ่นรบในตอนนี้เป็นท่วงท่าตอบโต้กลับที่ดีที่สุด เนื่องจากด้านนอกต้นขาของหุ่นรบตัวนี้ห้อยปืนลำแสงโจมตีอย่างรุนแรงระยะสั้นและไกลไว้สองกระบอก
หุ่นรบที่มีระบบติดตั้งแบบนี้ถูกเรียกขานว่าเป็นมือปืนไว ตอนที่คุณผ่อนคลายความระมัดระวังเพราะคิดว่าอีกฝ่ายไม่มีอาวุธในมือ อีกฝ่ายอาจจะโจมตีคุณจนถึงตายทันที เนื่องจากอีกฝ่ายสามารถชักปืนพกลำแสงโจมตีระยะไกลตรงต้นขาออกมาได้ใน 0.01 วินาที โจมตีใส่จุดสำคัญของหุ่นรบ หุ่นรบชนิดนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่ง นั่นก็คือ นักซุ่มโจมตี!
“M01 หุ่นรบของ M03 ถูกคนแทงเข้าไปในห้องคนขับในดาบเดียว M03 บาดเจ็บสาหัสเสียชีวิตคาที่….ดูจากอัตราความเสียหาบของหุ่นรบ อาจจะผ่านการต่อสู้กันสักพัก ไม่อย่างนั้น สองแขนของหุ่นรบ M03 คงไม่ถูกฟันขาด การคาดการณ์เบื้องต้นคือ หลังจากที่ M03 ถูกฟันแขนสองข้างแล้ว ไม่มีความสามารถต้านทานเลยถูกอีกฝ่ายแทงเข้าไปในห้องคนขับครับ” หุ่นรบที่ตรวจสอบ M03 รายงานการวิเคราะห์ของเขาให้ M01
“M05 รู้ไหมว่าอีกฝ่ายใช้อาวุธอะไร?” ผู้ควบคุมหุ่นรบมือปืนไวตัวนั้นก็คือ หัวหน้าทีม M01 เขาฟังคำรายงานของ M05 แล้วก็รีบสอบถามโดยเร็ว
“ดูจากร่องรอยความเสียหายบนห้องคนขับแล้ว เป็นอาวุธเย็นที่ทรงพลังเล่มหนึ่ง รู้สึกว่าคล้ายคลึงกับดาบยักษ์ที่ติดตั้งเป็นมาตรฐานของราชาแห่งการเดิมพันชีวิตรบประชิดตัวในหมู่หุ่นรบไพ่ราชามากเลยครับ” M05 เปรียบเทียบร่องรอยความเสียหายด้านหน้าและด้านหลังห้องคนขับอย่างละเอียด ปากแผลรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนขนาดใหญ่นั้นทำให้เขาจำต้องนึกถึงอาวุธขนาดใหญ่ที่ทรงพลังเล่มนั้น
“ในรายงานบอกว่าหุ่นรบที่ราชันสายฟ้าเชี่ยวชาญในการบังคับคือราชาแห่งอวกาศระยะไกลไม่ใช่เหรอ?” M01 ได้ยินคำรายงานของ M05 ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ถึงแม้ว่าทั้งสองตัวต่างเป็นหุ่นรบไพ่ราชา แต่การควบคุมทั้งสองแบบนี้อยู่กันคนละขั้ว ทักษะการควบคุมต่างๆ ก็แตกต่างกันอย่างมาก โดยทั่วไปแล้ว ปรมาจารย์หุ่นรบจะเชี่ยวชาญความสามารถด้านใดสักด้าน เป็นไปได้น้อยมากที่จะควบคุมหุ่นรบที่มีวิธีการควบคุมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงอีก และราชาแห่งอวกาศระยะไกลกับราชาแห่งการเดิมพันชีวิตรบประชิดตัวก็มีวิธีการควบคุมที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
“หรือว่าที่นี่ยังมีหุ่นรบไพ่ราชาอีกตัว?” คำถามของ M01 ทำให้ M05 ใจกระตุก ถามโพล่งออกมา
“พวกเราไม่รู้ว่าสามนาทีก่อน ที่นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ดังนั้นทุกอย่างต่างเป็นไปได้ทั้งนั้น” M01 ตอบกลับอย่างเยือกเย็น ขณะเดียวกันเขาก็เปิดใช้งานเรดาร์ค้นหาของหุ่นรบไปถึงโหมดสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นราชาแห่งอวกาศระยะไกล หรือว่าราชาแห่งการเดิมพันชีวิตรบประชิดตัว ถ้าหากถูกอีกฝ่ายซุ่มโจมตี ย่อมไม่เป็นผลดีต่อทีมของพวกเขาแน่นอน
เทียนกับความถือดีของ M03 แล้ว M01 ดูเยือกเย็นตระหนักรับรู้ตัวเองกว่ามาก เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูที่ไม่เจอร่องรอย เขาก็เรียกสติให้ตื่นตัวทั้งหมด กลัวว่าจะโดนฝ่ายตรงข้ามลอบโจมตี
ทันใดนั้นเอง เขาสังเกตเห็นอะไรบางอย่างบนเรดาร์ เขาหยิบปืนคู่จากต้นขาทั้งสองข้างขึ้นมาในพริบตา ก่อนจะยิงเข้าไปที่มุมหนึ่งอย่างบ้าคลั่ง ส่วนหุ่นรบสามตัวที่คงสภาพเดิมไว้ก็มีปฏิกิริยารวดเร็วมาก พวกมันเล็งไปยังสถานที่แห่งนั้นตาม M01 เหนี่ยวไกปืนลำแสงอย่างดุเดือด
หลังจากโจมตีไปรอบหนึ่งก็เห็นว่าพุ่มหญ้าแต่เดิมที่อยู่ตรงนั้นถูกพลังงานลำแสงที่ทรงพลังทำลายกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว และในเถ้าถ่านนั้น มีปืนลำแสงกระบอกหนึ่งถูกทำลายจนกลายเป็นถ่านดำ พลังงานที่มีปฏิกิริยาบนเรดาร์เมื่อสักครู่นี้ก็คือปืนลำแสงนี่เอง
“ปืนลำแสงกระบอกนั้นเป็นของ M03 ครับ” M05 สายตาแหลมคมมาก ถึงแม้ว่าปืนลำแสงถูกทำลายจนเปลี่ยนรูปร่าง แทบจะมองรูปลักษณ์เดิมไม่ออก แต่ M05 ยังคงมองเห็นตราสัญลักษณ์ที่หลงเหลืออยู่บนด้ามปืน
“แปลก ทำไมจู่ ๆ ปืนลำแสงถึงเกิดปฏิกิริยาพลังงานขึ้นมา? หรือว่าเมื่อตะกี้มีคนเปิดใช้งาน?” M01 นิ่วหน้าถาม ปืนลำแสงต้องการคนเปิดใช้งานมัน ควรพูดว่าปืนลำแสงที่นอนอยู่บนพื้น ถ้าเกิดไม่มีคนเปิดใช้งานมัน ก็จะไม่มีพลังงานเล็ดรอดออกมา แต่ถ้าบอกว่ามีคนเปิดใช้งานมัน M01 ไม่เชื่อว่ามีคนสามารถหลบปืนไวของเขา หนีรอดออกจากรัศมีการโจมตีของเขาได้ในพริบตา
“หรือว่าเจอผีแล้วครับ?” M05 เองก็เข้าใจจุดที่ M01 คิดไม่ออกเหมือนกัน เขาอดตัวสั่น พูดโพล่งขึ้นมาไม่ได้
“มันจะเป็นไปได้ยังไง” M01 ตวาดอย่างเดือดดาล การพิสูจน์ยืนยันด้วยวิทยาศาสตร์ที่ผ่านมาหลายหมื่นปียืนยันแล้วว่าผีเป็นเพียงจินตนาการของชาวหัวเซี่ย มันไม่มีตัวตนอยู่จริง
M05 ก็รู้สึกว่าตัวเองคิดฟุ้งซ่านไปเหมือนกัน ไม่กล้าพูดอะไรมากอีก ได้แต่อธิบายว่าบางทีสวิชต์ของปืนลำแสงอาจจะเสีย ดังนั้นพลังงานเลยเล็ดรอดออกมา
ในตอนนี้เอง M01 รู้สึกว่าเรดาร์มีปฏิกิริยาอีกครั้ง มันอยู่ด้านหลัง M05 เขาตะโกนเสียงดังว่า “M05 หลบ”
M05 ตอบสนองฉับไวมาก พุ่งไปทางด้านข้างโดยพลัน ส่วน M01 ก็คว้าโอกาสได้ฉลาดมาก ปืนลำแสงในมือสาดออกไปในช่องว่างที่ปรากฏขึ้นมาตอนที่ M05 เพิ่งจะหลบออก และครั้งนี้ลูกทีมสามคนด้านหลังเขาตามไม่ทันแล้ว พวกเขารอ M05 หลบพ้นโดยสมบูรณ์แล้วถึงค่อยเหนี่ยวไกตาม ยิงไปยังจุดที่ M01 โจมตี
แป๊บเดียว การโจมตีรอบนี้ก็สิ้นสุดลง คราวนี้กลับเป็นปืนลำแสงกระบอกหนึ่งถูกยิงจนไม่เป็นรูปทรง กลายเป็นก้อนดำไปแล้ว M01 เห็นดังนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เนื่องจากเขาพบว่า ปืนลำแสงกระบอกนี้ก็คืออาวุธที่จัดให้ M03… หรือว่า M03 ตายตาไม่หลับ ดังนั้นเลยอยากบอกอะไรพวกเขานิดหน่อย? หรือว่ามีคนใช้สิ่งของของ M03 มาเล่นละครหลอกลวง?
“บัดซบ อย่าคิดจะใช้ท่านี้มาขู่ขวัญฉันเลย ถ้าแกกล้าก็ออกมาสิวะ!” M01 พลันสับเปลี่ยนช่องสื่อสาร ใช้ลำโพงตวาดขึ้นมาทันที