I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 369 ทีม M พินาศย่อยยับ!
ลำแสงยิงใส่บรรดาพื้นที่ที่มีการตอบสนองของพลังงาน สาดกระเซ็นฝุ่นละอองนับไม่ถ้วน จำเป็นต้องพูดว่า ปฏิกิริยาตอบสนองของ M01 รวดเร็วสุดขีด ต่อให้เขาสูญเสียความเยือกเย็นไปแล้ว ทักษะพื้นฐานที่แน่นปึกยังคงทำให้เขายิงโดนจุดที่ตอบสนองต่อพลังงานเหล่านั้นได้หมดในชั่วพริบตา…
หลังจากที่โจมตีไปหนึ่งรอบ เขาไม่พบร่างของหุ่นรบไพ่ราชาเลย M01 ยังไม่ได้โล่งใจ ก็รู้สึกได้ถึงพายุรุนแรงสายหนึ่งจู่โจมมาที่ด้านหลัง หัวใจของเขาเต้นกระหน่ำ ยังไม่ทันได้บังคับหุ่นรบให้พุ่งหลบ เขาก็รู้สึกว่าแผ่นหลังของตนถูกพลังมหาศาลสายหนึ่งโจมตีใส่ฉับพลัน เลือดสดๆ กระอักพรวดออกมาหนึ่งคำอย่างควบคุมไม่อยู่
M01 กัดฟันข่มกลั้นความเจ็บปวดแสนสาหัส รีบบังคับหุ่นรบกลิ้งไปข้างหน้าตามพลังงานนั้น ขณะเดียวกันเขาก็หยิบยาหลอดหนึ่งในช่องด้านข้างห้องคนขับขึ้นมา นิ้วโป้งมือขวาง้างปากหลอดให้เปิดออกแรงๆ ก่อนจะกรอกยาเข้าไปในปากทันที
ต่อให้ไม่เห็นร่างของอีกฝ่าย แต่อาศัยพลังมหาศาลสายนี้ เขาก็รู้ดีแก่ใจแล้วว่าศัตรูที่โจมตีเขาย่อมเป็นหุ่นรบไพ่ราชาที่หายไปตัวนั้น อย่างที่คิดไว้เลย อีกฝ่ายไม่คิดจะปล่อยเขาไป
M01 รู้ว่าคราวนี้เกรงว่าเขาจะไม่มีโอกาสรอดชีวิตออกไปจากดาวซินสิงแล้ว การโจมตีเมื่อสักครู่นี้ทำให้อวัยวะภายในของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกเสียจากเขาจะรีบหลบหนีออกไปจากที่นี่ทันที หาแพทย์ทหารเพื่อขอความช่วยเหลือ ถึงจะยังมีโอกาสรอด แต่ M01 รู้ว่า หุ่นรบไพ่ราชาที่แข็งแกร่งตัวนั้นไม่มีทางให้เขาหนีรอดไปได้ง่ายๆ แน่นอน ในเมื่อยากจะหลีกหนีความตาย ความขี้ขลาดแต่เดิมของ M01 ก็ถูกกวาดหายไปจนหมด เตรียมตัวทุ่มเดิมพันเสี่ยงวัดดวงครั้งสุดท้ายแล้ว
ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงใช้ยาระงับปวดฤทธิ์รุนแรงที่กองทัพจะจัดสรรให้ รับประกันว่าเขาสามารถดำเนินการควบคุมหลังจากนี้ได้โดยไม่ได้รับผลกระทบจากความเจ็บปวดจนกว่าชีวิตจะสูญสิ้น ยาระงับปวดนี้คือยาที่ประเทศของพวกเขาวิจัยออกมาเพื่อกระตุ้นพลังแฝงของชีวิตในยามสุดท้าย เพื่อทำให้นักรบที่ไม่มีโอกาสรอดชีวิตได้แผดเผาเปลวไฟแห่งชีวิตสุดท้าย สังหารศัตรูมากยิ่งขึ้นก่อนที่จะเสียชีวิต….นักรบที่ออกศึกทุกคนต่างมียาหลอดนี้ติดตัว
“อยากให้ฉันตายก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนที่เหมาะสมด้วย!” M01 คำรามในห้องคนขับ หุ่นรบที่กลิ้งเข้ามาคุกเข่าข้างหนึ่งบนพื้น ชูแขนสองข้างขึ้นเล็งไปที่หุ่นรบไพ่ราชาตัวนั้น…M01 เหนี่ยวไกปืนพกลำแสงเลเซอร์สองกระบอกนั้นด้วยดวงตาแดงฉาน ความเร็วในการกดนั้นยังไวกว่าเวลาปกติของเขานิดหน่อย ดูเหมือนว่าภายใต้การกระตุ้นสองเท่าของยากับความสิ้นหวัง พลังแฝงของเขาจึงระเบิดออกมาทั้งหมด
M01 ไม่มีทางหวังเกินตัวว่าการโจมตีเหล่านี้จะทำลายหุ่นรบของฝ่ายตรงข้ามได้ หุ่นรบไพ่ราชาย่อมไม่ใช่สิ่งที่อาวุธพลังงานของพวกเขาสามารถทำลายลงได้ เขาเพียงแต่อยากทิ้งความเสียหายให้กับหุ่นรบศัตรูตัวนี้อย่างสุดความสามารถก่อนที่จะตายเท่านั้น เช่นนี้ เพื่อนร่วมรบที่เข้ามาสนับสนุนในภายหลังก็จะสามารถเอาชนะศัตรูที่น่าชิงชังผู้นี้ได้อย่างราบรื่น…ใช่แล้ว M01 ฝากความหวังไปที่บรรดาเพื่อนร่วมรบของเขา ดังนั้นเขาเลยหวังว่าจะสามารถช่วยเหลือพวกเพื่อนร่วมรบลดทอนแรงกดดันเท่าที่จะทำได้ก่อนที่เขาจะตาย
ทว่าความเป็นจริงจะเป็นอย่างที่ M01 คาดหวังไว้ได้อย่างไร การตอบโต้ของหุ่นรบไพ่ราชาตัวนั้นทำให้ความมั่นใจที่เพิ่งจะฟื้นกลับมาเล็กน้อยของ M01 พังทลายอีกครั้งโดยพลัน หุ่นรบไพ่ราชาตัวนั้นไม่สนใจการต่อต้านของ M01 เลย เมื่อเผชิญหน้ากับปืนลำแสงเลเซอร์สองกระบอกที่กำลังยิงใส่ เขาก็แค่เหวี่ยงดาบยักษ์ในมือหนึ่งทีเท่านั้น…
ดายยักษ์พลันหลุดออกจากในมือของหุ่นรบอีกฝ่าย ลอยขึ้นไปบนฟ้าบินหมุนเข้ามา ขณะที่ M01 เพิ่งจะเหนี่ยวไกปืน ดาบยักษ์ก็มาถึงเบื้องหน้าเขาแล้ว ก่อนจะฟันแขนสองข้างของเขาที่กุมปืนพกลำแสงเลเซอร์เอาไว้แน่น...
‘ฉัวะ’ M01 ที่เหนี่ยวไกปืนไม่ได้เห็นลำแสงที่ปล่อยออกมาจากปืนพกในมือหุ่นรบทั้งสองข้าง ทว่ามองเห็นเพียงแขนสองข้างพลันกระเด็นขึ้นไปบนฟ้า เขาเบิกตาจ้องมองแขนเหล็กคู่นั้นที่นำปืนพกลำแสงเลเซอร์สองกระบอกของเขาไป ก่อนจะวาดเป็นเส้นโค้งที่สวยงามจากกลางอากาศ แล้วร่วงลงสู่พื้นอย่างหนักหน่วง…
ยังไม่ทันที่เขาจะได้สติกลับมาจากความตกตะลึง จู่ๆ หน้าจอหุ่นรบก็ถูกเงาดำบดบัง เขารู้สึกแค่ว่าการมองเห็นภายในทั่วทั้งห้องคนขับมืดสนิท จากนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลสายหนึ่งโจมตีใส่ห้องคนขับที่เขานั่งอยู่อย่างรุนแรงอีกครั้ง และครั้งนี้ เขาไม่ได้โชคดีเหมือนครั้งที่แล้วที่ต่อให้บาดเจ็บสาหัสก็ยังสามารถประคองสติเอาไว้ได้ส่วนหนึ่ง เขาถูกพลังมหาศาลนี้ซัดจนสลบไปทันใด ทั่วทั้งร่างพลันจมสู่ความมืดมิด…
ต่อให้ M01 โชคดีไม่ตายในการโจมตีครั้งนี้ แต่เขาที่สิ้นสติไปแล้วก็หมายความว่าเขาไม่มีโอกาสที่จะตื่นขึ้นมาอีกแล้ว
เมื่อเห็นหุ่นรบศัตรูที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวล้มลงไปที่พื้นอย่างหนักหน่วง หลิงหลานก็ยื่นมือไปดึงดาบยักษ์ที่ปักเข้าไปในพื้นข้างตัวขึ้นมา จากนั้นก็แทงดาบยักษ์เข้าไปในห้องคนขับของอีกฝ่ายอย่างรุนแรงทันทีโดยไม่มีความลังเลอะไรเลย…
เมื่อดาบแทงลงไป หลิงหลานก็เห็นเลือดกระฉูดออกมาจากในรอยแยกของห้องคนขับได้อย่างชัดเจน จากนั้นรัศมีแสงอ่อนๆ ที่เป็นตัวแทนของโล่แสงป้องกันบนตัวหุ่นรบของฝ่ายศัตรูค่อยๆ หายไปเปลี่ยนเป็นมืดสลัว หลิงหลานรู้ว่า หุ่นรบศัตรูตรงหน้านี้ได้พินาศวอดวายทั้งหุ่นรบและคนแล้ว
“ยืนยันการสิ้นชีพของอีกฝ่าย!” เป็นไปตามที่คาดไว้เลย ออปติคัลคอมพิวเตอร์ของหุ่นรบไพ่ราชาประกาศการเสียชีวิตของศัตรูอย่างเย็นชา หลิงหลานค่อยชักดาบยักษ์ออก เธอเงยหน้ามองไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ลุกโชติช่วงด้วยไฟสงครามตามจิตใต้สำนึก มุมปากเผยรอยยิ้มหยัน พุ่งกายทีหนึ่งก็หายตัวไปในป่าทึบผืนนี้
เนื่องจากเมื่อสักครู่นี้เสี่ยวซื่อเตือนหลิงหลานว่า ห่างออกไปสามกิโลเมตร กำลังมีหุ่นรบสามตัวเข้ามาใกล้ หนึ่งในนั้นคือหุ่นรบไพ่ราชา อีกสองตัวคือหุ่นรบระดับพิเศษ มีความเป็นไปได้สูงว่านี่จะเป็นกองรบหุ่นรบไพ่ราชาที่ให้หุ่นรบไพ่ราชาเป็นหุ่นรบหลัก บัญชาวิงแมนระดับพิเศษสองตัว
…..
ขณะนี้เอง กลุ่มของเฉียวถิงที่เคลื่อนไหวก่อนหลิงหลานหนึ่งก้าวไม่ได้หยุดชะงักบนฟ้าเหนือคลังเก็บหุ่นรบชั่วคราวเพื่อคุ้มครองบรรดาสมาชิกกลุ่มเหมือนกับหลิงหลาน พวกเขาแล่นไปทางตะวันตกด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามรบของเขตที่พักซึ่งดุเดือดมากที่สุด
แน่นอนว่า พวกเฉียวถิงไม่ได้เข้าไปในแนวหน้าสุดทันที พวกเขาเลือกร่อนลงที่แนวหลังของกองกำลังหุ่นรบภาคพื้นดิน เพราะพวกเขารู้ว่าในสนามรบที่โหดร้าย หุ่นรบที่ไม่รู้จักจะถูกทั้งสองฝ่ายร่วมกันคิดว่าเป็นศัตรู และถูกเพ่งเล็งสังหาร พวกเขาไม่ได้บ้าระห่ำถึงขั้นเผชิญหน้ากับการโจมตีของทั้งสองฝ่าย แล้วสามารถเอาชีวิตรอดไปได้อย่างราบรื่น
อย่างที่คิดไว้เลย ตอนที่พวกเฉียวถิงเพิ่งจะร่อนลงก็ได้รับการแจ้งเตือนจากขบวนกองทหารหุ่นรบที่หยุดพักปรับปรุงกำลังชั่วคราว พวกเขาตอบสนองเร็วไวมาก รีบรายงานที่มาของพวกเขาทันที เนื่องจากหุ่นรบที่พวกเขาบังคับอยู่คือหุ่นรบฝึกหัดของโรงเรียนทหารจริงๆ ในที่สุดพวกเขาก็ได้รับอนุญาตให้ร่อนลงที่แนวหลังของสนามรบภายใต้การเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดของกองกำลังหุ่นรบภาคพื้นดิน
ในขณะที่พวกเฉียวถิงกระวนกระวายใจอยู่นั้น เฉียวถิงก็ได้รับคำขอวิดีโอคอล เฉียวถิงรับสายทันที จากนั้นก็เห็นคนผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นบนหน้าจอหุ่นรบฉับพลัน เขาคือถังอวี้อาจารย์ของตนนี่เอง
ถังอวี้เห็นเฉียวถิงก็ลอบโล่งใจและกล่าวว่า “เฉียวถิง เป็นเธอจริงๆ ด้วยสินะ เธอขับหุ่นรบพาคนมาที่นี่ทำไม?”
เฉียวถิงทำวันทยหัตถ์ของนักเรียนทหารให้กับถังอวี้อย่างเคร่งขรึม แล้วตอบกลับด้วยความเคารพว่า “ถึงแม้พวกผมเป็นแค่นักเรียนทหาร แต่พวกผมก็มีความสามารถในการต่อสู้ครับ ดังนั้นพวกผมเลยมา เตรียมตัวหยิบอาวุธขึ้นมาปกป้องโรงเรียนของพวกเรา”
คำตอบของเฉียวถิงทำให้ดวงตาของถังอวี้ฉายแววยอมรับขึ้นมาแวบหนึ่ง สามารถรักษาความเยือกเย็นได้ในช่วงเวลาวิกฤติ เลือกไปที่คลังเก็บหุ่นรบบังคับหุ่นรบฝึกหัดมาต่อสู้ ไม่การกระทำเช่นนี้คือสิ่งที่ถูกต้องอย่างไม่ต้องสงสัย อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาว่าจะแสดงประสิทธิภาพในการต่อสู้ที่โหดเหี้ยมนี้ได้หรือเปล่า แต่อย่างน้อยที่สุดการตัดสินใจของพวกเขาก็ทำให้พวกเขามีความสามารถในการปกป้องตัวเองนิดหน่อย เมื่อเทียบกับพวกนักเรียนที่ติดอยู่ในเขตที่พักที่ต้องพึ่งพาพวกเขามาปกป้องแล้ว บางทีพวกเฉียวถิงอาจจะเอาชีวิตรอดในการต่อสู้ที่โหดร้ายนี้ได้มากกว่า
ถังอวี้คิดถึงตรงนี้ก็มองเขตที่พักที่ส่องสว่างด้านหลังตนด้วยความกังวล ถึงแม้ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายตกอยู่ในช่วงชะงักงัน แต่พวกเขาทุ่มเทพลังอย่างสุดความสามารถแล้ว ไม่เพียงส่งกองกำลังภาคพื้นดินออกมาทั้งกองแล้ว กระทั่งพวกอาจารย์ในโรงเรียนทหารอย่างพวกเขาต่างก็สวมเกราะเข้าสู่สงครามกันหมด พูดอีกอย่างก็คือ พวกเขาไม่มีกำลังรบหลังจากนี้อีกแล้ว ทว่าพวกเขากลับไม่รู้ว่าศัตรูยังมีกองหนุนอีกหรือเปล่า…
ถังอวี้อดเงยหน้ามองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันไร้ที่สิ้นสุด ถ้าเกิดศัตรูด้านบนยังมีกำลังเหลืออยู่อีกละก็ ไม่ต้องสงสัยเลยสักนิดว่า ผลการต่อสู้ในครั้งนี้จะต้องเป็นการพ่ายแพ้ของพวกเขา บางทีบรรดาอาจารย์อย่างพวกเขายังสามารถอาศัยความได้เปรียบของหุ่นรบ หลบหนีรักษาชีวิตได้ชั่วคราว แต่พวกนักเรียนในเขตที่พักด้านหลังเขายากจะหลีกหนีความตายอย่างแน่นอน...หรือว่าสหพันธรัฐจะขาดการสืบทอดไปอีกหลายปีเพราะเหตุนี้จริงๆ?
ในใจถังอวี้รู้สึกร้อนรนมาก ทว่าสีหน้ากลับราบเรียบดังเดิม ไม่ได้เปิดเผยออกมาเลยสักนิดเดียว หากยังไม่ได้ตกอยู่ในสภาพสิ้นหวังอย่างแท้จริง เขาไม่มีทางเผยความกังวลใจของเขาออกมาจนทำให้เด็กๆ ที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้สูญเสียความมั่นใจในการต่อสู้ ดังนั้นเขาจึงสั่งการว่า “เฉียวถิง เธอพาพวกลูกทีมของเธอออกปฏิบัติการด้วยกันกับพวกเรา จากนี้ไป ทุกอย่างต้องฟังคำสั่งจากพวกเรา”
ต่อให้ท้ายที่สุดไม่สามารถคุ้มครองนักเรียนทหารทั้งหมดได้ เขาก็อยากปกป้องเหล่าเมล็ดพันธุ์ที่ยอดเยี่ยมตรงหน้านี้ไว้…ถังอวี้ตัดสินใจในชั่วพริบตา นี่ก็คือเหตุผลที่เขาให้เฉียวถิงออกปฏิบัติการกับพวกเขา ถ้าเกิดสถานการณ์เลวร้ายอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้จริงๆ ละก็ เขากับพวกอาจารย์คนอื่นๆ จะปกป้องเฉียวถิงและอัจฉริยะที่โดดเด่นเหล่านี้อย่างเต็มกำลัง ช่วงชิงโอกาสรอดให้กับเมล็ดพันธุ์ที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้
“ครับ อาจารย์!” เมื่อได้ยินคำสั่งของถังอวี้ เฉียวถิงก็รีบตอบรับทันที เฉียวถิงรู้ดีว่า พวกเขาที่ไม่มีประสบการณ์ต่อสู้จริงมากเท่าไหร่ ต้องการพวกอาจารย์ที่มีประสบการณ์โชกโชนเหล่านี้ทำการชี้แนะในการต่อสู้จริงๆ เช่นนี้ก็จะทำให้พวกเขาปรับตัวเข้ากับสงครามที่โหดร้ายได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
เฉียวถิงจึงติดตามพวกอาจารย์ถังอวี้ออกไปปฏิบัติการด้วยกันเช่นนี้เอง พวกอาจารย์ส่วนใหญ่ต่างเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษ มีส่วนน้อยที่เป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชา และมีไม่กี่คนที่เหมือนกับอาจารย์ถังอวี้ เป็นหัวกะทิของผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชา เขาถึงขนาดสามารถรับมือกับผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาทั่วไปได้สองถึงสามคนพร้อมกันในสนามรบ เหมือนกับพันเอกฉีผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาอันดับหนึ่งที่ยังไม่ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันก่อนหน้านี้ที่ถึงขนาดต่อกรกับผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาได้พร้อมกันสี่ห้าคน
แม้ว่าจะเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเหมือนกัน แต่ก็มีแบ่งแยกสูงต่ำ แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ต่างเป็นผลจากการสั่งสมประสบการณ์ต่อสู้ ไม่เกี่ยวกับทักษะในการควบคุมมากนัก นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมพวกผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาที่เลื่อนขั้นในโรงเรียนทหารอย่างเฉียวถิงถึงถูกนักรบหุ่นรบชั้นสูงที่มีประสบการณ์มากมายเหล่านั้นไม่เห็นอยู่ในสายตา เพราะว่ามีผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชามากมายที่ออกมาแบบนี้ ถึงแม้ทักษะการควบคุมจะสูงมาก ทว่าเนื่องจากขาดประสบการณ์ต่อสู้ ในสนามรบจึงมีกรณีตัวอย่างที่ถูกนักรบหุ่นรบชั้นสูงที่มีประสบการณ์ต่อสู้โชกโชนวางกับดักตอบโต้สังหารโผล่ออกมาอย่างไม่ขาดสาย
ด้วยเหตุนี้เอง ระดับอะไรไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดคือในสนามรบ คุณสามารถคว้าโอกาสที่ใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมดมาสังหารคู่ต่อสู้เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอดต่อไปได้หรือเปล่า