I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 393 กลุ่มหุ่นรบหลิงเทียน!
วันเวลาไหลผ่านอย่างรวดเร็ว ช่วงเวลาหนึ่งปีผ่านไปเช่นนี้เอง
หนึ่งปีมานี้ โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งดูสงบสุขมาก เนื่องจากเหตุการณ์บุกโจมตีโรงเรียนทหารทางอากาศเมื่อหนึ่งปีก่อนทำให้บรรยากาศแข่งขันกันอย่างดุเดือดแต่เดิมของทั้งโรงเรียนหายไปจนหมดทันที นักเรียนทหารที่เสียชีวิตแปดพันกว่าคนนั้นแทบจะมาจากกลุ่มอำนาจทั้งหมดของโรงเรียนทหาร ถึงขนาดที่บางกลุ่มฟื้นตัวขึ้นมาไม่ได้เพราะสูญเสียมากเกินไป
ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เศร้าซึมเช่นนี้ กลุ่มอำนาจทั้งหมดไม่มีใจไปแข่งขันช่วงชิงอะไรอีกแล้ว พวกเขาพากันพักผ่อนฟื้นตัวรอกลับมาเป็นปกติ กลุ่มที่สูญเสียน้อยที่สุดในเหตุการณ์บุกโจมตีทางอากาศน่าจะเป็นกลุ่มนักเรียนใหม่ การจัดการอย่างเฉียบขาดของหลิงหลานทำให้นอกจากคนจำนวนน้อยไม่กี่คนที่เสียชีวิตในการสู้รบกับศัตรูแล้ว คนอื่นๆ ล้วนผ่านพ้นวิกฤติครั้งนั้นมาได้อย่างหวาดหวั่นทว่าไม่เป็นอันตราย
แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า สมาชิกกลุ่มนักเรียนใหม่ที่รอดชีวิตจากสนามรบเหล่านั้น ในหนึ่งปีมานี้ ความสามารถในการควบคุมหุ่นรบของพวกเขาพุ่งทะยานขึ้นสูง นักรบหุ่นรบชั้นกลางจำนวนไม่น้อยเลื่อนขั้นเป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูงได้สำเร็จ เพียงแต่พวกเขายังไม่ได้เข้าเรียนคาบฝึกฝนหุ่นรบอย่างแท้จริงเท่านั้น เลยไม่ได้ถูกพวกอาจารย์ของโรงเรียนทหารล่วงรู้ ทว่าแค่คิดก็รู้ได้ว่า เมื่อคนของกลุ่มนักเรียนใหม่เข้าสู่คาบฝึกฝนหุ่นรบอย่างแท้จริงขึ้นมา พวกเขาจะต้องสั่นสะเทือนทั้งโรงเรียนแน่นอน
การเข้าสู่ชั้นปีสองได้สำเร็จก็หมายความว่ากลุ่มนักเรียนใหม่วาดเครื่องหมายจบประโยคให้กับชีวิตเด็กใหม่แล้ว พวกเขาได้เข้าสู่หลักสูตรที่แท้จริงของภาควิชาพวกเขาอย่างเป็นทางการ นี่ก็หมายความว่าพวกเขามีคุณสมบัติก่อตั้งกลุ่มหุ่นรบที่ทางโรงเรียนยอมรับได้แล้ว
อู่จย่ง หลี่อิงเจี๋ย รวมถึงพวกหัวหน้าทีมต่างๆ ของกลุ่มนักเรียนใหม่คิดว่าก่อตั้งกลุ่มหุ่นรบเร็วดีกว่าก่อตั้งช้า ฉวยโอกาสตอนที่กลุ่มอำนาจเก่ายังฟื้นตัวไม่เต็มที่ กลุ่มนักเรียนใหม่ก็ลงหลักปักฐานในโรงเรียนทหารได้อย่างมั่นคง
หลิงหลานเห็นด้วยกับเรื่องนี้มากเช่นกัน ดังนั้นเปิดเทอมชั้นปีสองได้ไม่นาน เธอก็ยื่นคำขอก่อตั้งกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนไปที่โรงเรียนทหาร คำขอนี้ทำให้กลุ่มอำนาจทั้งหมดของโรงเรียนทหารตื่นตกใจ ถึงขนาดที่มีคนไม่น้อยคิดว่าการกระทำที่ไม่ดูตาม้าตาเรือเช่นนี้ของกลุ่มนักเรียนใหม่จะต้องถูกตีกลับแน่นอน เนื่องจากการก่อตั้งกลุ่มหุ่นรบจำเป็นต้องผ่านการประเมินผลของออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักของโรงเรียน
ลองคิดดูสิ ต่อให้เริ่มเข้าไปในโลกหุ่นรบฝึกฝนการควบคุมหุ่นรบตั้งแต่ปีหนึ่ง ระยะเวลาหนึ่งปีอย่างมากสุดก็ทำให้นักเรียนใหม่พวกนี้ไปถึงแค่ระดับนักรบหุ่นรบชั้นกลาง แถมนี่ยังเป็นเพียงนักเรียนที่มีพรสวรรค์โดดเด่นด้านการควบคุมเท่านั้นที่สามารถไปถึงได้ ขณะเดียวกันหน่วยรบที่ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักจัดตั้งขึ้น อย่างน้อยที่สุดก็เป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูงทั้งหมด แต่โดยมากแล้วมักจะเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษหมดเลย ถึงแม้ว่าผลการประเมินไม่ได้ตัดสินด้วยผลแพ้ชนะ แต่ทีมที่ก่อตั้งโดยนักรบหุ่นรบชั้นกลางสามารถต้านทานหน่วยรบผู้ควบคุมระดับพิเศษของออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักได้กี่วินาทีกันเล่า?
ทว่าผลสุดท้ายกลับทำให้ทุกคนตื่นตะลึง กลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนผ่านการประเมินของออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักโรงเรียนทหารได้ในครั้งเดียว ทุกคนอยากรู้เนื้อหาการประเมินในรอบนี้ แต่กลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนกลับตั้งค่าให้เป็นไฟล์ลับสุดยอดอย่างชั่วช้า ต่อให้เป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนก็ไม่มีสิทธิ์ดูการต่อสู้ประเมินผลนี้เหมือนกัน นอกเสียจากเป็นนายพลระดับสูงของกองทัพขึ้นไปถึงจะมีสิทธิ์ดู…แต่พวกนายพลจะสนใจการต่อสู้ประเมินผลก่อตั้งกลุ่มหุ่นรบเล็กๆ ในโรงเรียนทหารด้วยเหรอ?
ด้วยเหตุนี้เอง การประเมินผลนี้จึงกลายเป็นความลับที่ฝุ่นจับไปนานหลายปี จนกระทั่งอนาคตเมื่อหลิงหลานกลายเป็นราชาด้วยตัวเอง มันถึงค่อยดึงดูดความสนใจของระดับสูงในกองทัพสหพันธรัฐ ค้นดูการประเมินผลนั้น นี่ถึงทำให้พวกเขารู้แจ้งโดยพลันว่า ที่แท้ราชาหลิงแข็งแกร่งมากเหลือเกินตั้งแต่ตอนเริ่มอยู่ในโรงเรียนทหารแล้ว…
หลังจากที่กลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนก่อตั้งอย่างเป็นทางการ ทีมต่างๆ ของกลุ่มหุ่นรบก็ทยอยยื่นคำขอก่อตั้งหน่วยรบของตัวเองไปที่ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักของโรงเรียนทหารติดๆ กัน การก่อตั้งหน่วยรบต้องผ่านการประเมินจากออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักเช่นเดียวกัน ภารกิจหน่วยรบแต่ละอันแตกต่างกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เดิมทีหลิงหลานก่อตั้งหน่วยรบหลิงเทียนในโลกหุ่นรบแล้ว หลังจากที่เธอยื่นคำขอ ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักของโรงเรียนทหารก็อนุมัติทันทีโดยไม่ต้องทำการประเมิน
นี่ทำให้หลิงหลานสงสัยในใจว่า มีความเป็นไปได้สูงว่าการที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปในโลกหุ่นรบฝึกฝนการควบคุมได้ ที่จริงแล้วเป็นการควบคุมโดยกองทัพ และออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักของโลกหุ่นรบมีโอกาสสูงว่าจะเป็นออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักของกองทัพ ความจริงแล้ว ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักของโรงเรียนทหารก็เป็นร่างแบ่งของออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักของกองทัพ นี่คือความลับที่รู้กันทั่วในโรงเรียนทหาร
แน่นอนว่า การที่หลิงหลานคาดเดาแบบนี้ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง นั่นก็คือระดับหน่วยรบที่อนุมัติลงมาเหมือนกับระดับหน่วยรบในโลกหุ่นรบไม่มีผิด ทะยานขึ้นไปที่ระดับห้าดาวทันที
ความบังเอิญนี้ทำให้หลิงหลานจำเป็นต้องคาดเดาแบบนี้ ไม่เช่นนั้นระดับห้าดาวนี้จะมาได้อย่างไร? หรือบอกว่าออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักของโรงเรียนทหารขัดข้องพอดี ส่งของขวัญก้อนใหญ่ขนาดนี้มาให้เธอโดยเฉพาะ? คิดดูแล้วไม่มีทางเป็นไปได้เลย
หลังจากที่ก่อตั้งหน่วยรบ สมาชิกเดิมของหน่วยรบหลิงเทียนก็เข้าร่วมหน่วยรบทันที แต่ก็มีแขกที่ไม่คาดฝันเพิ่มขึ้นมาด้วยหนึ่งคน ที่แท้ตอนที่หลี่หลานเฟิงเข้าร่วมหน่วยรบก็ลากจ้าวจวิ้นเพื่อนสนิทของเขาเข้ามาด้วยเช่นกัน
ว่ากันตามตรงแล้ว อันที่จริงจ้าวจวิ้นไม่คิดจะเข้าร่วมหน่วยรบหลิงเทียนอย่างเป็นทางการ เขาแค่อยากทำสัญญาชั่วคราวปีต่อปีเท่านั้น แต่หลี่หลานเฟิงคือคนแบบไหน? เขาที่อยากช่วยเหลือกระต่ายของเขาเพิ่มความสามารถของหน่วยรบมาตลอด ไม่มีทางปล่อยขุนพลที่มีความสามารถในการต่อสู้ทรงคุณค่าอย่างจ้าวจวิ้นคนนี้ไปอย่างแน่นอน
ดังนั้น ภายใต้คำพูดยั่วยุอย่างจงใจของหลี่หลานเฟิง จ้าวจวิ้นทนรับการกระตุ้นไม่ไหว ขอท้าประลองกับหลิงหลานหัวหน้าทีมทันที และท้าเดิมพันว่า ถ้าเกิดหลิงหลานสามารถเอาชนะเขาได้ เขาก็จะเข้าร่วมทีมหลิงเทียนกลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งของหลิงเทียนด้วยความเต็มใจ
จ้าวจวิ้นเป็นคนถือดี ในหมู่นักเรียนทหารมีเพียงห้าสิบกว่าคนเท่านั้นที่เลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษได้สำเร็จ ค่าความสามารถในการต่อสู้ของจ้าวจวิ้นติดอยู่ในสามอันดับแรกจากผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษห้าสิบกว่าคนนี้ กอปรกับในหมู่นักเรียนทหารมีเพียงราชันสายฟ้าเฉียวถิงคนเดียวที่เลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมไพ่ราชา จ้าวจวิ้นเลยไม่เคยอยู่ต่ำกว่าที่ห้าของอันดับพลังรบในโรงเรียนทหาร นี่ก็คือเหตุผลที่ถึงแม้เขาไม่ใช่คนของกลุ่มหุ่นรบอู๋จี๋ แต่ก็ทำให้กลุ่มหุ่นรบอู๋จี๋จำเป็นต้องไว้หน้าและขอความร่วมมือ
เนื่องจากจ้าวจวิ้นมาจากดาวระดับสาม อำนาจอิทธิพลของตัวเขาจึงเปราะบาง อีกทั้งไม่มีความคิดจะวางตัวเป็นใหญ่อะไรเลย แต่เขาก็เป็นคนที่มีปณิธาน ไม่อยากเข้าร่วมหน่วยรบที่ความสามารถอ่อนปวกเปียกอย่างเรื่อยเปื่อย เขาก็อยากกลายเป็นสมาชิกของหน่วยรบในตำนานเหมือนกัน ดังนั้น อยากให้เขายอมศิโรราบก็ต้องมีความสามารถอย่างราชันสายฟ้าเฉียวถิง แน่นอนว่าจ้าวจวิ้นรังเกียจเฉียวถิงมากเช่นกันอันเนื่องมาจากหลี่หลานเฟิง นี่ก็คือหนึ่งในเหตุผลที่จ้าวจวิ้นไม่เข้าร่วมกลุ่มหุ่นรบเหลยถิง
หลิงหลานไม่มีทางกลัวการท้าประลองจากจ้าวจวิ้นอยู่แล้ว หนึ่งปีมานี้ หลิงหลานไม่เหมือนพวกฉีหลงที่ตอนกลางวันยังต้องเข้าคาบเรียนฝึกฝนร่างกาย เธอทุ่มเทสมาธิกับการฝึกฝนควบคุมหุ่นรบในโลกหุ่นรบมาตลอด คะแนนสะสมที่ได้รับมาตลอดหนึ่งปีทำให้ระดับของเธอไม่ได้เป็นนักรบหุ่นรบชั้นกลางเหมือนอย่างในตอนแรกอีกต่อไปแล้ว หากแต่เป็นปรมาจารย์หุ่นรบไพ่ราชาที่ตรงกับความสามารถที่แท้จริงของเธอ
ดังนั้นเมื่อหลิงหลานล็อกอินเข้าสู่โลกหุ่นรบ ขับหุ่นรบไพ่ราชาขึ้นไปบนสนามประลองของพวกเขาสองคน จ้าวจวิ้นก็รู้ว่าเขาพ่ายแพ้แล้ว ความจริงพิสูจน์ว่า ผู้ควบคุมไพ่ราชาอย่างหลิงหลานคนนี้ไม่ได้มีดีแต่หน้าตา ความสามารถในการควบคุมยอดเยี่ยมจนน่าตกใจ จ้าวจวิ้นฝืนทนอยู่ในเงื้อมมือของหลิงหลานได้เพียงยี่สิบกระบวนท่าเท่านั้นก็ถูกหลิงหลานแทงเข้าไปที่ห้องคนขับ KO ทันที
ความสามารถเช่นนี้ทำให้จ้าวจวิ้นยอมรับอย่างสุดจิตสุดใจ หลังจากที่ออกจากโลกเสมือนจริงแล้วก็ลากหลี่หลานเฟิงมาถามอย่างตื่นเต้นว่า เขาหาหัวหน้าทีมปีศาจอัจฉริยะแบบนี้ได้อย่างไร คิดดูสิ ราชันสายฟ้าเฉียวถิงเพิ่งทะลวงขีดจำกัดเป็นผู้ควบคุมไพ่ราชาได้สำเร็จตอนที่อยู่ปีสี่ แต่ตอนนี้หลิงหลานเพิ่งจะอยู่ปีสองเองนะ เร็วกว่าเฉียวถิงสองปีกว่า อย่าดูถูกช่วงเวลาสองปีนี้นะ ยิ่งอายุน้อย ต่อให้ห่างกันหนึ่งเดือนก็สามารถมองเห็นความต่างของพรสวรรค์ทั้งสองคนได้แล้ว จ้าวจวิ้นรู้ดีว่า อนาคตของหลิงหลานจะต้องดีกว่าเฉียวถิงแน่นอน ถ้าบอกว่าเฉียวถิงคือหลิงเซียวคนที่สอง เช่นนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าหลิงหลานก็สามารถเป็นหลิงหลานที่หนึ่งได้
หลี่หลานเฟิงมองจ้าวจวิ้นที่ตื่นเต้นจนเสียการควบคุมเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด เขาก็เอือมระอาอยู่บ้าง เขามองแวบเดียวก็ดูออกว่า หลิงหลานเห็นแก่หน้าเขา เลยอ่อนข้อให้ตอนที่สู้กับจ้าวจวิ้น ไม่เช่นนั้นจากวิธีการของหลิงหลานแล้ว ไม่มีทางปล่อยให้จ้าวจวิ้นสู้กับเธอจนเลยสิบกระบวนท่าแน่นอน หลี่หลานฟิงไม่รู้ว่าควรจะบอกจ้าวจวิ้นอย่างไรดี ถ้าเกิดพูดออกไปตรงๆ จ้าวจวิ้นจะสะเทือนใจจนกระทั่งจากนี้ไปลุกขึ้นไม่ได้อีกหรือเปล่า?
ยิ่งไปกว่านั้น กระต่ายของเขาเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาตอนอยู่ปีหนึ่ง ถ้าเขาบอกเรื่องนี้กับจ้าวจวิ้น เพื่อนสนิทของเขาคนนี้จะตกใจจนโง่งมไปทันทีเพราะรับเซอร์ไพรส์นี้ไม่ไหวหรือเปล่านะ?
หลี่หลานเฟิงตรึกตรองอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้แน่ใจว่าเพื่อนสนิทจะไม่สะเทือนใจจนหดหู่ซึมเศร้า และไม่กลายเป็นคนโง่เง่าเพราะความตื่นเต้นยินดี เขาปกปิดความจริงข้อนี้ไว้ด้วยความเมตตาดีกว่า หลี่หลานเฟิงรู้สึกว่าเขาช่างเป็นคนดีเสียจริง…
จ้าวจวิ้นเลยเข้าร่วมหน่วยรบหลิงเทียนอย่างเต็มใจเช่นนี้เอง ดังนั้นหน่วยรบหลิงเทียนจึงมีสมาชิกสิบคนตั้งแต่เริ่มแรกที่ก่อตั้ง แน่นอนว่ายังมีสมาชิกที่ทีมจองคิวยังไม่ได้เข้าร่วมอีกมาก หลังจากที่หานจี้จวินกับลั่วล่างกลับบ้านตอนเรียนจบชั้นปีหนึ่ง พวกเขาก็นำคำขออย่างแรงกล้าจากหลายคนมาด้วย
ที่แท้ลั่วเฉา หานซู่หย่ารวมถึงสมาชิกเดิมของทีม 072 ต่างส่งคำพูดมาให้พวกเขาว่า ไว้รอพวกเขาเข้าร่วมกองทัพแล้ว ก็จะเข้าร่วมหน่วยรบหลิงเทียนอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะหานซู่หย่าที่ข่มขู่หลิงหลานอย่างรุนแรงมาก ไม่อนุญาตให้บอกปฏิเสธ!
แน่นอนว่าเรื่องที่หลิงหลานเตรียมตัวไปกองทัพที่ยี่สิบสามก็อาศัยปากของพวกลั่วล่างบอกกับสมาชิกคนอื่นๆ ของทีม 072 นอกจากบางคนที่มีผลคะแนนยอดเยี่ยมตัดสินใจสมัครสอบเข้ากองทัพที่ยี่สิบสามร่วมกับพวกหลิงหลานแล้ว คนอื่นๆ ได้แต่รอให้เรียนจบอย่างแท้จริงแล้วเท่านั้นถึงจะสามารถยื่นคำขอเข้าร่วมกองทัพที่ยี่สิบสามได้
พวกเพื่อนๆ ที่แยกย้ายกระจัดกระจายอยากจะกลับมา หลิงหลานย่อมไม่มีทางปฏิเสธ เมื่อเทียบกับการที่หน่วยรบรับคนนอกที่ไม่คุ้นเคย พวกเพื่อนๆ ที่เติบโตมาด้วยกันทำให้หลิงหลานเชื่อใจมากกว่า เวลานี้หลิงหลานลอบดีใจเหมือนกัน โชคดีที่ตอนนั้นเธอทำภารกิจระดับ SSS นั้นสำเร็จ ทำให้ระดับของทีมพุ่งทะยานไปที่ห้าดาวทันที โควตารับคนจึงเยอะมาก ไม่เช่นนั้น หลายปีนี้เธอต้องเริ่มกังวลว่าจะเพิ่มระดับหน่วยรบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้อย่างไร ถึงจะสามารถรับพวกเพื่อนๆ เหล่านี้ได้
เมื่อจัดการพวกเพื่อนๆ ที่อยู่ด้านนอกเรียบร้อยแล้ว หลิงหลานก็เริ่มกังวลกับสมาชิกภายในในปัจจุบัน หลิงหลานไม่ต้องคิดหนักกับพวกฉีหลงห้าคนจากทีมเดิม การอบรมสั่งสอนมาหลายปีทำให้ความสามารถในการต่อสู้รวมถึงการร่วมมือกันในทีมของพวกฉีหลงห้าคนต่างเข้าขากันอย่างยิ่งยวด
แต่ฉางซินหยวนที่เข้ามาใหม่กลับเป็นปัญหาใหญ่ ถึงแม้เขาพยายามอย่างหนักมาก แต่พรสวรรค์ด้านการควบคุมหุ่นรบยังคงแย่จริงๆ หนึ่งปีมานี้ ถึงแม้พวกฉีหลงยังคงเป็นนับรบหุ่นรบชั้นสูง แต่พวกเขาก็สัมผัสถึงเส้นขีดแบ่งของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษแล้ว รอแค่โอกาสเท่านั้น ก็เหมือนกับหลี่หลานเฟิงที่ทะลวงขีดจำกัดในสงครามบุกจู่โจมทางอากาศ เข้าสู่ระดับผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษได้สำเร็จ
นักรบหุ่นรบชั้นกลางเลื่อนขั้นเป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูงไม่ต้องการการหยั่งรู้อะไรเลย ขอเพียงมีประสบการณ์พอ ฝึกฝนความเร็วมือในการควบคุมไปจนสูงในระดับหนึ่งก็สามารถเลื่อนขั้นได้อย่างราบรื่น โดยพื้นฐานแล้ว หุ่นรบระดับกลางเลื่อนขั้นเป็นหุ่นรบระดับสูงไม่มีเส้นขีดแบ่งที่ยากเป็นพิเศษอะไรเลย