I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 397 เลือกอาจารย์!
เฉียวถิงได้ยินคำกล่าว คิ้วก็อดขมวดเข้าหากันไม่ได้ ดูท่ากลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนนี้ก็เตรียมป้องกันพวกเขาไปสอดแนมรายชื่อเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม เฉียวถิงคลายหัวคิ้วอย่างรวดเร็ว กลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนให้ความสำคัญกับรายชื่อตัวเอง กลัวว่าจะรั่วไหลขนาดนี้ นั่นเป็นการแสดงออกว่าไม่มีความมั่นใจ นี่เป็นเรื่องดี นอกจากนี้ ต่อให้เขาไม่รู้รายชื่อของอีกฝ่าย ขอเพียงมีเขาอยู่ ต่อให้สมาชิกที่เขานำทีมเป็นนักรบหุ่นรบชั้นกลางทั้งหมด ชัยชนะก็เป็นของกลุ่มหุ่นรบเหลยถิงอยู่ดี ดูท่าเขาจะใส่ใจการแข่งขันนี้มากเกินไป ทำให้เขาใจไม่สงบอยู่บ้าง
ผู้ที่มาเห็นหัวหน้ากลุ่มไม่ได้โกรธ ก็โล่งใจทันที เขารีบหยิบแผ่นชิปและยื่นมาให้ ปากก็พูดว่า “นี่เป็นข้อมูลของหัวหน้ากลุ่มและหัวหน้าทีมต่างๆ ของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนที่พวกเรารวบรวมตลอดหลายวันมานี้ คนที่ใช้เครื่องหมายจุดสีแดงในนั้นคือ รายชื่อที่เราคาดการณ์ว่าอาจจะได้ออกไปประลองครับ”
คนที่อยู่ข้างกายเฉียวถิงยื่นมือไปรับแผ่นชิปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะส่งให้เฉียวถิงอย่างนอบน้อม เฉียวถิงรับมาก่อนจะแสกนแผ่นชิปตรงหน้าจอของอุปกรณ์สื่อสาร คัดลอกเนื้อหาในแผ่นชิป
แป๊บเดียว หน้าจอเสมือนจริงบนอุปกรณ์สื่อสารของเฉียวถิงพลันปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าเฉียวถิง ข้อมูลในแผ่นชิปแสดงขึ้นในหน้าจอเสมือนจริงจนหมด
ชื่อที่อยู่บนแถวแรกก็คือหลิงหลาน เพียงแต่ข้อมูลด้านต่างๆ ที่อยู่หลังชื่อของหลิงหลานล้วนเป็นเครื่องหมายคำถาม ท้ายที่สุดก็ใช้การคาดการณ์เดาว่าอีกฝ่ายอาจจะเป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูง และก็อาจจะเป็นผู้ควบคุมระดับพิเศษได้เหมือนกันมาเป็นผลการประเมินสุดท้าย
“นี่คือข้อมูลที่พวกนายรวบรวมได้?” เมื่อเห็นด้านหลังเป็นเครื่องหมายคำถามทั้งหน้า รวมถึงการคาดการณ์ที่ไม่แน่นอนนั้น ดวงหน้าของเฉียวถิงพลันอึมครึม เอ่ยถามเสียงเข้ม
ผู้ที่มาปาดเหงื่อเย็นๆ บนหน้าผาก อธิบายอย่างรีบเร่งว่า “หัวหน้ากลุ่ม คือว่าแบบนี้ครับ หัวหน้าอันดับหนึ่งของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนเคลื่อนไหวตามลำพังมาตลอด คนของเราไม่สามารถล่วงรู้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำของเขาจากทางฝั่งคนอื่นๆ ได้เลยครับ แต่ว่าหัวหน้ากลุ่มคนอื่นๆ กับพวกหัวหน้าทีม พวกเรายังสามารถได้รับข้อมูลโดยละเอียด การคาดการณ์ของพวกเราก็ได้มาจากทางหัวหน้ากลุ่มและหัวหน้าทีมคนอื่นๆ อิงตามความเป็นจริงในระดับหนึ่งนะครับ”
เฉียวถิงได้ยินคำกล่าวก็แค่นเสียงเย็น แล้วมองไปที่ข้อมูลด้านล่าง เหมือนเห็นว่านอกจากหลิงหลานแล้ว คนอื่นๆ ต่างมีข้อมูลสถิติตามความเป็นจริงไม่มากก็น้อย เขาก็คลายความขุ่นเคืองลง แล้วตั้งใจอ่านขึ้นมา
ถัดไปก็คือข้อมูลของอู่จย่ง หลี่อิงเจี๋ยและฉีหลงหัวหน้ากลุ่มทั้งสามคน ข้อมูลที่เขียนไว้ยังถือว่าชัดเจน อุปนิสัยของพวกเขา การโจมตีที่เชี่ยวชาญ ระบุออกมาทีละอย่างจนหมด รวมถึงระดับหุ่นรบของพวกเขาซึ่งเขียนเอาไว้ชัดเจนมากว่าเป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูง แน่นอนว่าไปถึงขั้นไหนของนักรบหุ่นรบชั้นสูงนั้น คนสืบข่าวไม่เคยประมือกับพวกเขา จึงไม่อาจระบุได้แน่ชัด
เฉียวถิงเห็นรายชื่อชุดนี้ ในใจก็พึงพอใจมาก หัวหน้ากลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนเป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูงทั้งหมด หัวหน้าทีมสิบหกคนส่วนใหญ่แล้วก็เป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูงเช่นกัน มีเพียงสี่ห้าคนเท่านั้นที่เป็นนักรบหุ่นรบชั้นกลาง ข้อมูลนี้ไม่อาจเทียบกับกลุ่มหุ่นรบเหลยถิงได้เลย การประลองล้างแค้นครั้งนี้ เหลยถิงต้องเป็นฝ่ายได้รับชนะแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย
ทว่ารายชื่อชุดนี้ก็ทำให้เฉียวถิงตกตะลึงไม่หยุดเช่นกัน อย่างไรเสีย บรรดาหัวหน้ากลุ่มและหัวหน้าทีมของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนยังคงเป็นนักเรียนที่เพิ่งเข้าปีสอง การที่พวกเขาสามารถเลื่อนขั้นเป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูงได้ในตอนที่อายุเท่านี้ย่อมต้องเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ด้านการควบคุมหุ่นรบระดับปีศาจอย่างแน่นอน สิ่งที่น่ากลัวคือกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนไม่ได้มีแค่คนสองคน หากแต่เป็นคนกลุ่มใหญ่….แม่งเอ๊ย ไม่นึกเลยว่าสถาบันศูนย์กลางลูกเสือโดฮาที่เงียบกริบมาหลายปีจะรวบรวมและผลิตอัจฉริยะมากมายขนาดนี้ออกมาทีเดียวในรุ่นนี้เลย
ถ้าเกิดให้เวลากลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนเพิ่มอีกนิด บางทีกลุ่มหุ่นรบเหลยถิงอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายแล้วจริงๆ เฉียวถิงลอบยินดีกับตัวเอง ในใจยิ่งตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะต้องทำลายกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนหมดสิ้นในศึกล้างแค้นนี้…
“ดูเหมือนว่าต้องเพิ่มการเดิมพันหน่อยแล้ว!” ในที่สุดเฉียวถิงก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมรองหัวหน้ากลุ่มของเขาถึงตัดสินใจวางเดิมพันนั้นเพื่อคนเหล่านี้ เพื่อกำจัดตัวตนที่คุกคามตำแหน่งเจ้าผู้ปกครองของกลุ่มหุ่นรบเหลยถิงให้สิ้นซากแล้ว พวกเขาทำได้เพียงกลืนกินอีกฝ่ายทั้งหมดเท่านั้น
“นอกจากหัวหน้ากลุ่มคนนี้ของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนที่มีปัญหานิดหน่อยแล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่มีค่าพอให้กังวล” ในที่สุดดวงหน้าที่เดิมทีเคร่งเครียดของเฉียวถิงก็เผยรอยยิ้มออกมา ดูท่าเขาจะกังวลใจเกินเหตุมากไปจริงๆ
“งั้นก็ส่งรายชื่อตามที่กำหนดไว้ในตอนแรกไป!” เฉียวถิงทำการตัดสินใจในที่สุด คนสนิทข้างกายเขาได้ยินคำกล่าวก็รีบส่งรายชื่อที่กำหนดไว้แต่แรกให้กับออปติคัลคอมพิวเตอร์หลัก
“ต่อให้ทุกคนเป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูงหมด คนที่ฉันเลือกก็เป็นสมาชิกที่อยู่ขั้นสูงสุดของนักรบหุ่นรบชั้นสูง ขาดแค่ก้าวเดียวก็สามารถเข้าสู่ขอบเขตผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษได้ กลุ่มหุ่นรบหลิงเทียน ต่อให้ฉันไม่ลงมือ พวกลูกทีมของฉันก็เพียงพอที่จะทำให้พวกนายลำบากแล้ว” มุมปากของเฉียวถิงเผยรอยยิ้มลำพองใจออกมา
……
“ลูกพี่ รายชื่อของเหลยถิงออกมาแล้ว” เสี่ยวซื่อที่จ้องมองการเคลื่อนไหวของเหลยถิงมาตลอดเอาส่วนรายชื่อผู้เข้าประลองโดยละเอียดที่เหลยถิงแจ้งให้กับออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักมาทันที
หลิงหลานที่กำลังศึกษาเลือกว่าจะเอาอาจารย์คนไหนอยู่ได้ยินเสียงร้องเรียกของเสี่ยวซื่อ มุมปากก็เผยรอยยิ้มน้อยๆ ออกมา เหลยถิงยังคงอดทนไม่ไหวอย่างที่คาดไว้ “ให้ฉันดูหน่อย”
เสี่ยวซื่อแสดงรายชื่อในห้วงจิตใจของหลิงหลานโดยพลัน หลิงหลานอ่านรายชื่อชุดนี้ก็ผงกศีรษะอีกครั้ง มันไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายของเธอเลย เฉียวถิงอยากแสดงพลังอำนาจของตัวเองในศึกล้างแค้นนี้จริงๆ ด้วย
“ถึงแม้ว่าเป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูงหมดเลย แต่ว่านักรบหุ่นรบชั้นสูงพวกนี้เลื่อนขั้นมาสองปีกว่าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมหุ่นรบหรือว่าประสบการณ์ต่อสู้ต่างเยอะกว่าลูกทีมของพวกเรามากเลย” พริบตาเดียวเสี่ยวซื่อก็รวบรวมข้อมูลของทุกคนในรายชื่อมา ก่อนจะอดเอ่ยเตือนอย่างจริงจังไม่ได้
“มีผู้ควบคุมระดับพิเศษอย่างหลี่หลานเฟิงกับจ้าวจวินสองคนนำทีม ต่อให้นักรบหุ่นรบชั้นสูงมีประสบการณ์อีกแค่ไหนก็เป็นได้แค่ตัวรับกระสุนในการประลองนี้เท่านั้น” หลิงหลานยิ้มหยันกล่าวว่า “ตอนนี้ส่งรายชื่อที่พวกเรากำหนดไว้ไปด้วยเลย”
เฉียวถิง พอนายรู้ว่ารายชื่อของพวกเรามีผู้ควบคุมระดับพิเศษโผล่มาจะนึกเสียใจที่ตัวเองตัดสินใจเลินเล่อมากไปหรือเปล่านะ? มุมปากของหลิงหลานผุดรอยยิ้ม เธออยากเห็นหน้าถอดสีของเฉียวถิงมาก….
ที่แท้คราวนี้หลิงหลานเลือกคนจากความสามารถ ใส่คนที่แข็งแกร่งที่สุดแปดคนของหน่วยรบตัวเองลงไปในรายชื่อ และบวกกับอู่จย่งกับหลี่อิงเจี๋ยสองคนที่เข้าสู่ช่วงปลายของนักรบหุ่นรบชั้นสูงเหมือนกัน รวมถึงเยี่ยซวี่ที่อยู่ช่วงกลางของนักรบหุ่นรบชั้นสูงด้วยแล้ว คนสุดท้ายในรายชื่อ เธอกลับเลือกเกาจิ้นอวิ๋นที่เพิ่งจะเลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมระดับสูงอย่างเหนือความคาดหมาย
สาเหตุที่หลิงหลานทิ้งผู้ท้าชิงคนอื่นๆ ที่แข็งแกร่งมากกว่าในตอนสุดท้าย และเลือกเกาจิ้นอวิ๋นแทนก็เพราะเธออยากดูความสามารถด้านหุ่นรบของเกาจิ้นอวิ๋นว่าเป็นอย่างไรกันแน่ ถึงแม้เกาจิ้นอวิ๋นสอบผ่านด้านกลยุทธ์แล้ว แต่ความสามารถแข็งแกร่งส่วนตัวก็ขาดไม่ได้เช่นกัน หลิงหลานจำเป็นต้องสังเกตเพิ่มอีก
ทั้งสองฝ่ายแทบจะรอจนช่วงเวลาสุดท้ายของเวลาที่กำหนดไว้ถึงค่อยส่งรายชื่อหน่วยรบของตัวเองไป ส่วนเริ่มการประลองเมื่อไหร่นั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถควบคุมได้แล้ว เวลาในการท้าประลองแข่งขันถูกกำหนดโดยออปติคัลคอมพิวเตอร์หลัก ซึ่งจะแจ้งให้กับทั้งสองฝ่ายล่วงหน้าหนึ่งอาทิตย์เท่านั้น
พอส่งรายชื่อไปแล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้อีก ส่วนเรื่องจะโดนฝ่ายตรงข้ามล่วงรู้รายชื่อกับความสามารถของฝ่ายเราก่อนเริ่มการประลองอย่างเป็นทางการหรือไม่นั้น หลิงหลานโยนปัญหาพวกนี้ให้อู่จย่งรับผิดชอบอย่างหน้าไม่อาย หลิงหลานคิดว่า ถ้าเกิดต้องให้เธอจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง เช่นนั้นก็ไร้ความสามารถแล้ว (หลิงหลานใช้วิธีการเหนือชั้นมาปกปิดความขี้เกียจของเธอตลอดกาล)
หลังจากที่หลิงหลานวางเรื่องการท้าประลองแข่งขัน เธอก็ตั้งใจเลือกอาจารย์ควบคุมหุ่นรบอีกครั้ง คาบทฤษฎีความรู้เรื่องการควบคุมหุ่นรบสองเดือนกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว ตั้งแต่เดือนหน้าก็ต้องติดตามอาจารย์หุ่นรบทำการควบคุมหุ่นรบของจริง และสิ่งที่วางอยู่ตรงหน้าหลิงหลานคือ หนังสือยื่นคำขอเลือกอาจารย์อิสระ
ใช่แล้ว นักเรียนของโรงเรียนทหารมีสิทธิ์ยื่นคำขออาจารย์ สามารถเลือกอาจารย์หุ่นรบที่ตัวเองอยากติดตามฝึกปฏิบัติจริงมากที่สุดสามท่านตามลำดับ แต่การยื่นคำขอไม่ได้หมายความว่าจะต้องได้รับการอนุมัติอย่างแน่นอน อาจารย์เองก็สามารถเลือกนักเรียนที่อยากรับจากในหนังสือยื่นคำขอได้เหมือนกัน หลังจากที่อาจารย์อันดับแรกปฏิเสธ หนังสือยื่นคำขอก็จะปรากฏขึ้นในโควตาของอาจารย์ลำดับที่สองโดยอัตโนมัติ ถ้าเกิดอาจารย์ลำดับที่สองปฏิเสธก็โผล่ขึ้นที่อาจารย์ลำดับที่สาม
ถึงแม้แบบแผนการยื่นคำร้องเช่นนี้จะดูเหมาะสมและยุติธรรมมาก แต่ควรรู้ไว้ว่า อาจารย์แต่ละคนต่างมีโควตานักเรียนที่จำกัด โควตาที่ให้มาของอาจารย์เหล่านี้มักจะเต็มก่อนในรายชื่อยื่นคำขอกลุ่มแรก ดังนั้น ความเป็นไปได้ที่อาจจะถูกเลือกโดยอาจารย์ลำดับสองและลำดับสามนั้นแทบจะน้อยนิดมาก นอกเสียจากนักเรียนกลุ่มแรกไม่ถูกใจ…นี่จึงทำให้นักเรียนมากมายพลาดอาจารย์ทั้งสามท่านที่ตัวเองยื่นคำขอไปหมดเลย ท้ายที่สุดได้แต่กลายเป็นจุดจบที่น่าเศร้าถูกออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักสุ่มจัดหาอาจารย์มาให้เท่านั้น
ดังนั้น บรรดานักเรียนจึงให้ความสำคัญกับการยื่นคำขออาจารย์นี้มาก เพื่อรับประกันว่าตัวเองสามารถติดตามอาจารย์ที่มีสไตล์การควบคุมใกล้เคียงกับตัวเองได้ พวกนักเรียนจึงทำความเข้าใจเหล่าอาจารย์หุ่นรบต่างๆ นานาในโรงเรียนทหารอย่างละเอียดตั้งแต่ตอนที่เปิดภาคเรียน ไม่เลือกคนที่แข็งแกร่งที่สุด แต่เลือกคนที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด…
ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่หลิงหลานเลือกอาจารย์แล้วเช่นกัน นี่ทำให้หลิงหลานกลัดกลุ้มมาก หุ่นรบที่หลิงหลานชอบอย่างล้ำลึกคือหุ่นรบต่อสู้ระยะประชิด แต่อาจารย์ด้านการต่อสู้ระยะประชิดที่แข็งแกร่งที่สุดในโรงเรียนมีเพียงอาจารย์ที่เป็นผู้ควบคุมไพ่ราชาเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่ผู้ควบคุมไพ่ราชาเพียงหนึ่งเดียวนี้เชี่ยวชาญกลับเป็นวิธีการโจมตีอย่างบ้าระห่ำ ตรงกันข้ามกับการควบคุมที่ประณีตละเอียดอ่อนของหลิงหลานอย่างสิ้นเชิง หากเลือกอาจารย์ท่านนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าพวกเขาสองคนจะเกิดการขัดแย้งกัน อาจารย์ไม่มีทางพอใจที่นักเรียนของตัวเองไม่เรียนวิธีการควบคุมของเขา หากแต่เลือกไปอีกทาง
หลิงหลานมองไปยังอันดับของอาจารย์อย่างช่วยไม่ได้ ถังอวี้ที่อยู่อันดับหนึ่งคนนี้เป็นผู้ควบคุมหุ่นรบชั้นยอดที่ถูกนักเรียนและอาจารย์ทั้งหมดของโรงเรียนทหารยกย่องว่าเป็นศาสตราจารย์ด้านหุ่นรบ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่อาจารย์หุ่นรบของโรงเรียนทหาร เนื่องจากเขาเข้าใจหุ่นรบไพ่ราชาทุกชนิดเป็นอย่างดี ถึงแม้สิ่งที่เขาเชี่ยวชาญมากที่สุดคือการโจมตีระยะไกล แต่ความสามารถด้านการต่อสู้ระยะประชิดก็ยอดเยี่ยมมากเหมือนกัน เนื่องจากการโจมตีระยะไกลเน้นหนักไปที่ความละเอียดอ่อน วิธีการควบคุมของถังอวี้จึงละเอียดอ่อนสุดขีด ซึ่งอยู่ประเภทเดียวกับหลิงหลาน
“อาจารย์ถังอวี้เหรอ?” หลิงหลานขมวดคิ้ว ถ้าเกิดถังอวี้ไม่ได้เพิ่งสอนเฉียวถิงเสร็จละก็ หลิงหลานคงไม่กลัดกลุ้มแบบนี้เหมือนกัน หลิงหลานไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรกับเฉียวถิงจริงๆ…
“ช่างเถอะ ดูคนอื่นต่อดีกว่า” หลิงหลานยังคงตัดสินใจเลือกทิ้งไป แล้วคิดจะสุ่มเลือกจากในหมู่อาจารย์คนอื่นๆ มาสักคนก็พอ อย่างไรเสีย ตอนนี้เธอก็เรียนการควบคุมหุ่นรบกับอาจารย์หมายเลขสามในมิติการเรียนรู้ อาจารย์หุ่นรบฝึกหัดในโรงเรียนทหารไม่ได้สลักสำคัญกับเธอเหมือนนักเรียนคนอื่นๆ ขนาดนั้น
เวลานี้เอง เสี่ยวซื่อที่เงียบมาตลอดอดเอ่ยขึ้นไม่ได้ว่า “ลูกพี่ ในเมื่ออาจารย์ถังอวี้เป็นคนที่ดีที่สุด ทำไมไม่เลือกเขาล่ะ?” เสี่ยวซื่อรับไม่ได้ที่ลูกพี่ของเขาจะไปเรียนกับอาจารย์ที่ไม่ค่อยเก่ง คิดว่านี่มันน่าขายหน้าลูกพี่ของเขามากเกินไปแล้ว