I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 111 เรียกฉันว่าพี่ชาย
ในตอนนี้เอง หลิงหลานก็เห็นหุ่นรบ J8 ติดเครื่องยนต์ฉับพลัน ทันใดนั้นหุ่นรบสีเทาก็มีสีสันขึ้นมา
“นี่เป็นการติดเครื่องฉุกเฉิน ต้องดูว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นหุ่นรบอะไร เวลาในการติดเครื่องยนต์ฉุกเฉินของหุ่นรบระดับพิเศษคือ 4-7 วินาที ส่วนหุ่นรบระดับสูงคือ 7-9 วินาที…” เสี่ยวซื่อเองก็เคร่งเครียดเช่นกัน นี่ส่งผลกระทบว่าหุ่นรบตัวไหนจะแย่งชิงช่วงเวลาสำคัญได้
ควรรู้ไว้ว่าเมื่อเครื่องตรวจจับความร้อนพบพลังงานความร้อน มันก็จะรายงานผลกลับไปที่ห้องควบคุมหุ่นรบ และก็มีเวลาล้าช้าไปประมาณสองวินาที ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป การประลองหุ่นรบนี้จะเปลี่ยนเป็นการต่อสู้ช่วงชิงเวลา ดูว่าหุ่นรบตัวไหนจะมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็ว หุ่นรบตัวไหนจะตอบโต้ได้เร็วยิ่งกว่า
หลังจากที่ J8 ติดเครื่องยนต์ไปได้สองวินาที หุ่นรบ J6 ก็พบจุดความร้อนสีแดงปรากฏขึ้นในเครื่องตรวจจับความร้อน หุ่นรบ J6 ที่หันหลังให้กับจุดสีแดงก็หมุนขาข้างหนึ่งหันตัวกลับไปทันที มันเล็งเป้าไปยังตำแหน่งพิกัดที่จุดสีแดงส่องแสงกระพริบ แต่ว่าเบื้องหน้ากลับไม่มีอะไรเลย….
ต่อให้เป็นแบบนี้ หุ่นรบ J6 ก็ไม่มีความลังเล มันเหนี่ยวไกปืนเลเซอร์ในมือฉับพลัน พลังงานในกล่องพลังงานเปลี่ยนเป็นลำแสงสาดออกไปที่เนินทรายอย่างบ้าคลั่ง แรงกระสุนอันรุนแรงนี้โจมตีไปที่เนินทรายแห่งนั้นโดยตรงจนมันกลายเป็นแอ่งโพรง ทว่าด้านในกลับไม่มีซากหุ่นรบอะไรเลย นอกจากทรายแล้วก็ยังคงเป็นทรายอยู่ดี
“ติดเครื่องยนต์ฉุกเฉิน 5.537 วินาที หุ่นรบ J8 เป็นหุ่นรบระดับพิเศษแน่นอน โชคดีไม่เลวเลยที่ติดเครื่องยนต์เสร็จภายในหกวินาที” เสี่ยวซื่อกล่าวอย่างเฉียบขาด ถ้าหากเพิ่มไปอีกสักครึ่งวินาที หุ่นรบ J8 ย่อมไม่อาจหลบการโจมตีของปืนเลเซอร์หุ่นรบ J6 ได้พ้น
“แย่แล้ว!” หุ่นรบ J6 ที่กำลังโจมตีเนินทรายกระโดดขึ้นไปด้านบนทันที ขณะที่มันอยู่กลางอากาศ ปืนเลเซอร์ในมือก็เล็งตรงไปที่พื้นด้านล่าง มันเหนี่ยวไกปืน พลังงานก็พุ่งออกไปอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกัน ดาบแสงเล่มหนึ่งก็แทงออกมาจากในพื้นทรายตรงไปที่ J6 และด้านล่างก็มีโล่แสงที่แข็งแรงทนทานถูกชักขึ้นมาปะทะกับพลังงานลำแสงของฝ่ายตรงข้าม
เมื่อเห็นพลังงานของปืนเลเซอร์ไม่สามารถโจมตีให้อีกฝ่ายถอยร่นไปได้ ปีกด้านหลัง J6 ก็พลันกางออกเผยให้เห็นจรวดล็อกเป้าหมายประสิทธิภาพสูงหกลูกก่อนจะยิงออกไปทันที
หุ่นรบ J8 ที่เดิมทีตั้งใจจะแทงใส่หุ่นรบ J6 นั้นเห็นจรวดนำวิถีหกลูกนี้เข้าก็รู้ว่าอาศัยโล่แสงเพียงอย่างเดียวไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้
มันหันทิศทางไปที่กลางอากาศทันที อุปกรณ์ขับเคลื่อนของหุ่นรบส่งเสียงดัง ร่างอันแข็งแกร่งใหญ่โตของหุ่นรบก็ทะยานพุ่งไปข้างหน้าได้หลายร้อยเมตร ในขณะเดียวกัน มือซ้ายและมือขวาของหุ่นรบก็ไขว้กันที่ด้านหลัง J8 ชักปืนใหญ่เลเซอร์ออกมาในชั่วพริบตาและเอาดาบแสงไปแบกไว้ที่ด้านหลัง
มือซ้ายของหุ่นรบทุ่มกำลังยกปืนใหญ่เลเซอร์ขึ้นมา ส่วนมือขวาก็ประคองมันไว้ เมื่อเผชิญหน้ากับจรวดหกลูกที่ไล่ตามมา เขาก็เหนี่ยวไกปืนอย่างเด็ดเดี่ยว หลังจากนั้นปากกระบอกปืนใหญ่เลเซอร์ก็สาดพลังงานมหาศาลพุ่งตรงไปที่ท้องฟ้าทันที
เมื่อพลังงานสายนี้สัมผัสโดนจรวดแล้ว จรวดก็ทยอยระเบิดขึ้นมา การระเบิดติดต่อกันทำให้ทั่วทั้งร่างของหลิงหลานสัมผัสได้ถึงการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ความรู้สึกที่ได้ประสบด้วยตัวเองทำให้เธอแทบจะคิดว่าตัวเองอยู่ในสนามรบจริงๆ
ในที่สุดหุ่นรบ J8 ก็จัดการจรวดหกลูกที่สร้างความเสียหายอย่างมากให้เขาลงได้ อย่างไรก็ตาม J6 ก็ได้โอกาสโจมตีอีกครั้งเช่นกัน เขาบินขึ้นสูงไปบนฟ้า ปืนเลเซอร์เล็งไปยัง J8 ที่อยู่บนพื้นก่อนจะยิงอีกครั้ง
ส่วน J8 ที่อยู่บนพื้นก็ถูกเขาโจมตีจนโต้กลับไม่ได้เลยสักนิด ทำได้เพียงวิ่งหนีไปทั่ว แต่หลิงหลานไม่คิดแบบนี้ ตรงกันข้ามเธอคิดว่า J8 ได้ยึดอำนาจในการบุกของการแข่งขันนี้อย่างช้าๆ แล้ว
เนื่องจากหลิงหลานมองเห็นชัดเจนมากว่า จังหวะก้าวเท้าของหุ่นรบ J8 ไม่ได้มั่วซั่วเลย เห็นได้ชัดว่าเป็นการซอยเท้าที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดและปรับใช้ได้หลากหลายมากที่สุด
ถึงแม้ว่า J8 ดูเหมือนจะถูกโจมตีจนหนีหัวซุกหัวซุน แต่ว่าทุกก้าวต่างเหยียบลงบนจุดที่ดีที่สุด ทำให้การโจมตีกลางอากาศของ J6 เสียแรงเปล่า
J6 คล้ายกับรู้เช่นกันว่าอาศัยแค่ปืนเลเซอร์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถโจมตีฝ่ายตรงข้ามได้ เขาชูปีกขึ้นอีกครั้งและยิงจรวดล็อกเป้าหมายประสิทธิสูงชุดใหม่ออกไป จรวดหกลูกตกใส่หุ่นรบ J8 เป็นแนวขวาง
หุ่นรบ J8 ไม่ได้เลือกถอยหนี หากแต่ยกปืนใหญ่เลเซอร์ขึ้นมาอีกครั้ง และคราวนี้เขาก็ยิงปืนใหญ่เลเซอร์ออกไปพร้อมกันสามลูก
สิ่งที่ทำให้คนประหลาดใจคือในตอนที่ยิงปืนใหญ่เลเซอร์ออกไปนั้น มันเรียงเป็นแนวขวางจากสูงถึงต่ำปะทะเข้าใส่จรวดประสิทธิภาพสูงหกลูกนั้นตรงๆ
เมื่อการปะทะกันลูกแรกระเบิดขึ้น จากนั้นอีกสองลูกก็ระเบิดตามมาติดๆ พลังงานที่เกิดขึ้นจากการระเบิดของปืนใหญ่เลเซอร์สามลูกได้ระเบิดจรวดล็อกเป้าหมายลูกอื่นๆ ด้วย คราวนี้การโจมตีของ J6 คว้าน้ำเหลวอีกครั้ง ไม่เพียงเท่านั้น เนื่อจากการสั่นสะเทือนของการระเบิดอย่างรุนแรงทำให้ทรายผืนนี้คลุ้งไปทั่วท้องฟ้า J6 พบว่าเขามองไม่เห็นสถานการณ์ด้านล่างเลย…
J6 ยิงปืนเลเซอร์ในมือสุดชีวิตโดยไม่คิดเลยสักนิด ขณะที่เขาตรวจสอบการแจ้งเตือนแหล่งความร้อนด้วยความเคร่งเครียด หวาดกลัวว่าฝ่ายตรงข้ามจะฉวยโอกาสยิงปืนใหญ่เลเซอร์มา
เวลานี้เองเขาก็พลันพบว่าลำแสงสายหนึ่งโจมตีใส่ใต้ท้องเขาอย่างไร้สุ้มไร้เสียง การจู่โจมนี้เข้ามาอย่างกะทันหันมากเกินไป เขาป้องกันไว้ไม่ทัน ไม่มีเวลาให้ร่างของหุ่นรบหลบแล้ว
ในจังหวะชั่วพริบตานั้น J6 สะบัดปืนใหญ่เลเซอร์ในมือไปที่ลำแสงอย่างเฉียบขาด จากนั้นก็ได้ยินเสียงดัง ‘ตูม’ ทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง ปืนเลเซอร์ของ J6 ถูกลำแสงทำลายทันที ทว่า J6 เองก็อาศัยพลังนี้สะบัดลำแสงนั้นออกไป และหลบออกจากสภาพอับจนที่ถูกแทงทะลุท้องนี้ (ตำแหน่งนั้นคือห้องควบคุม ถ้าถูกแทงเข้าไป ต่อให้ไม่ตายก็ทำให้หุ่นรบสูญเสียการควบคุม ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็บ่งบอกว่า J6 พ่ายแพ้แล้ว)
เวลานี้ทุกคนถึงค่อยมองเห็นได้ชัดเจน ที่แท้ในตอนที่ปืนใหญ่เลเซอร์กับจรวดระเบิดทรายนับไม่ถ้วน ทัศนวิสัยก็ถูกบดบังไว้ หุ่นรบ J8 กระทืบเท้าทีหนึ่งพร้อมกับพลังงานของอุปกรณ์ขับเคลื่อน ทำให้มันบินขึ้นไปที่กลางอากาศในชั่ววินาที พริบตาที่มันเข้าใกล้ J6 นั้น J8 ก็ทิ้งปืนใหญ่เลเซอร์โดยไม่ลังเล และตัดสินใจใช้ดาบแสงแทงไปที่ฝ่ายตรงข้าม
ปืนใหญ่เลเซอร์มีพลังงานความร้อน สามารถถูกระบบป้องกันของหุ่นรบจับได้ทันที ทำให้การลอบโจมตีไร้ผล ดังนั้นหุ่นรบ J8 จึงเลือกใช้ดาบแสงที่สร้างจากพลังงานแสงเย็น เนื่องจากมันไม่มีทางถูกตรวจพบ
ทว่าปฏิกิริยาตอบกลับของ J6 รวดเร็วสุดขีด เขาสัมผัสได้ถึงวิกฤติในชั่วพริบตาก็เลยทิ้งปืนเลเซอร์อาวุธในมือไปอย่างเฉียบขาด จนได้รับโอกาสรอดมาได้
อย่างไรก็ตาม J6 ที่ไม่มีปืนเลเซอร์แล้วก็ได้แต่เลือกต่อสู้ระยะประชิดกับ J8 ในการประลองต่อมาเท่านั้น หลิงหลานรู้ว่าหุ่นรบ J6 ต้องพ่ายแพ้ในการประมือครั้งนี้ จากสัญชาตญาณการต่อสู้ของหุ่นรบทั้งสองตัว เห็นได้ชัดว่า J6 อ่อนด้อยกว่า J8 พวกเขาอยู่กันคนละระดับเลย
แน่นอนว่าผู้ชมคนอื่นๆ ไม่ได้มีสายตาแหลมคมแบบหลิงหลาน ถึงยังไงหุ่นรบสองตัวก็ต่อสู้ได้ดุเดือดรุนแรง ยากจะตัดสินแพ้ชนะในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขาต่อสู้ได้สูสีกัน ยอดเยี่ยมมาก สาเหตุที่หลิงหลานสามารถมองออกได้ในแวบเดียวนั้น ทั้งหมดเป็นเพราะพรสวรรค์ของเธอ เป็นความดีความชอบของการรู้แจ้งเห็นจริง เธอมองเห็นจุดอ่อนของ J6 มาตั้งแต่แรกแล้วและก็มองออกเช่นกันว่า J8 ต่อสู้อย่างสบายๆ ในตอนที่ประลองอยู่
นี่ทำให้หลิงหลานรู้ดีว่าความสามารถด้านการต่อสู้ประชิดตัวของ J6 กับ J8 ยังคงแตกต่างกันมาก การท้าประลองข้ามระดับไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายขนาดนั้นจริงๆ
หลิงหลานก้มหน้าถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะเลือกออกไป อันที่จริงการต่อสู้หุ่นรบแทบไม่ต่างจากการต่อสู้จริงเลย มีการเคลื่อนไหวหลายอย่างที่หลิงหลานมองแวบเดียวก็รู้ว่าดัดแปลงมาจากการต่อสู้ด้วยร่างกายที่แท้จริง เพียงแต่ว่าท่วงท่าที่มาจากการต่อสู้จริงนั้นดูเฉียบคมปราดเปรียวมากกว่า แต่เห็นได้ชัดว่าท่วงท่าที่หุ่นรบใช้ออกมานั้นดูงุ่มง่ามมาก
หลิงหลานเพิ่งจะถอนตัวออกจากฉากต่อสู้ก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ สนามประลองเงียบกริบจริงๆ ทุกคนที่นี่ต่างนั่งนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนที่นั่งราวกับท่อนไม้ก็ไม่ปาน ดูเหมือนพวกเขาจะถูกเกมดูดเข้าไปชมการต่อสู้ในอีกมิติจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ฉากที่เงียบสงบนี้ทำให้เธอรู้สึกขวัญอ่อนอยู่บ้าง เธออดไม่ไหวต้องหันคอตัวเอง ขยับไปมาเพื่อพิสูจน์ว่าเธอยังเป็นคนที่มีชีวิตอยู่
“เธอไม่ดูจนจบเหรอ?” ทันใดนั้นเองชายข้างกายก็ส่งเสียงออกมา คราวนี้มันแทบจะข่มขวัญหลิงหลานที่ไม่ได้เตรียมการป้องกันไว้ แต่ถึงยังไงหลิงหลานก็คือหลิงหลาน หลิงหลานถูกมิติการเรียนรู้เคี่ยวกรำอย่างโรคจิตมาจนถึงตอนนี้ หัวใจดวงน้อยๆ ของเธอแข็งแกร่งทนทานอย่างหาใดเปรียบแล้ว
“ใช่แล้ว นายเองก็ไม่ดูจนจบเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?” หลังจากที่หลิงหลานได้สติกลับมาก็ถามกลับไปโดยไม่คิดทันที
“J6 แพ้อยู่แล้ว ยังมีอะไรให้ดูอีกล่ะ” ชายคนนี้ดูไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
“นายเลือกมุมมองของ J6 เหรอ?” หลิงหลานแทบจะพูดด้วยความแน่ใจ
“เดิมทีฉันอยากดูว่าคนอ่อนแอจะสู้กับคนแข็งแกร่งยังไง…น่าเสียดายที่ J6 ใช้ความได้เปรียบของตัวเองไปอย่างเปล่าประโยชน์” ชายคนนี้เหมือนกับมีคำพูดติเตียนการต่อสู้ของ J6 เยอะมาก
“J6 ยังมีข้อได้เปรียบอะไรด้วยเหรอ?” เห็นได้ชัดว่าสัญชาตญาณการต่อสู้ไม่ทำงาน หลิงหลานคิดไม่ออกเลยว่า J6 มีโอกาสคว้าชัยชนะด้วย
“J6 เป็นนักแม่นปืนชื่อดัง น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นเขาแสดงมันออกมาในการประลองครั้งนี้เลย” ชายคนนี้กล่าวด้วยความเสียใจ ดูท่าเขาคุ้นเคยกับความสามารถของ J6 มาก
“นักแม่นปืน? มีโล่แสงอยู่ นักแม่นปืนน่าจะไม่มีประโยชน์อะไรแล้วนี่นา” หลิงหลานดูออกว่าโล่แสงของหุ่นรบตัวนั้นแทบจะต้านทานอานุภาพของปืนเลเซอร์ได้
“J6 ควรเลือกการซุ่มยิง การต่อสู้ระยะประชิดคือจุดแข็งของ J8” ชายคนนี้เข้าใจการต่อสู้ของคนทั้งสองดี
หลิงหลานนึกถึงสภาพอับจนที่ถูกล็อกเป้าหมายซุ่มยิงในตอนแรกที่เธอเข้าเรียนก็พยักหน้าเห็นด้วย
การซุ่มยิงคือการลอบโจมตีที่ยอดเยี่ยมที่สุด ทำให้คนยากจะป้องกันได้ ถึงยังไงโล่แสงก็ทำได้แค่ป้องกันบางจุดเท่านั้น ไม่ใช่ทั่วทั้งร่างกาย และการซุ่มยิงก็ทำให้คนจับสังเกตไม่ได้ ถ้าหาก J6 เลือกการซุ่มยิงตั้งแต่แรกละก็ การประลองครั้งนี้ก็บอกผลได้ยากแล้วจริงๆ
เมื่อเห็นหลิงหลานสนับสนุนความคิดของเขา ชายคนนี้ก็อารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อย “แต่ถึงยังไงการโค่นล้มก็เป็นเรื่องที่ยากมาก ต่อให้ J6 โชคดีเอาชนะได้ รอบต่อไป J6 ก็จะแพ้อยู่ดี ผลสรุปไม่มีทางเปลี่ยน”
หลิงหลานเข้าใจความหมายในคำพูดของชายคนนี้ ถ้าหากครั้งนี้ J6 อาศัยการซุ่มยิงผ่านไปได้ คู่ต่อสู้รอบถัดไปจะต้องเตรียมอุปกรณ์รับมือการซุ่มยิงแน่นอน พูดอีกอย่างก็คือ การซุ่มยิงของ J6 ใช้ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น พอถึงตอนสุดท้ายก็ยังต้องอาศัยความสามารถตัวเองผ่านไปให้ได้อยู่ดี
“บางที J6 อาจจะเข้าใจเรื่องนี้ดี ดังนั้นเขาเลยเลือกใช้การโจมตีระยะไกลซึ่งๆ หน้าแบบนี้ ฉันคิดว่าถ้าเกิดเขาเอาชนะติดต่อกันได้สองครั้ง เขาจะต้องใช้การซุ่มยิงไพ่ตายของเขาในรอบที่สามแน่นอน” หลิงหลานเอาใจเขามาใส่ใจเรา เธอเองก็ไม่หยิบไพ่ตายออกมาใช้ตั้งแต่แรก ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจวิธีการต่อสู้ของเธอเหมือนกัน
ชายคนนี้อึ้งไป หลังจากนั้นก็ค่อยส่งเสียงอืมเบาๆ แต่หลิงหลานรู้สึกได้ชัดเจนว่าอีกฝ่ายอารมณ์เสียมากขึ้น…
ดูท่าจะไม่ดีนิดหน่อยแล้ว ถ้าเกิดอีกฝ่ายอารมณ์เสียจนควบคุมไม่ได้ขึ้นมา เธอจะเป็นอันตรายหรือเปล่า? หลิงหลานไม่ลืมว่าฝ่ายตรงข้ามคือผู้มีการกลายพันธุ์ทางจิตที่พัฒนาเป็นผีซวีซึ่งสามารถกำจัดสตินึกคิดไปได้
“ฉันต้องไปแล้ว ไว้เจอกันใหม่นะ พี่ชาย!” น่าจะไม่เลวแล้วใช่ไหม ต่อให้มองไม่เห็นหน้า แต่ดูจากคางและริมฝีปากที่ยกขึ้นน้อยๆ ก็รู้แล้วว่าเขาเป็นผู้ใหญ่..
“เอ่อ? พี่ชาย?! อืม ไว้พบกันใหม่นะ!” ชายคนนี้ได้ยินคำเรียกขานของหลิงหลานก็คล้ายกับเซ่อซ่าไป
หลิงหลานไม่สังเกตเห็นเรื่องนี้เลย เธอออกห่างจากชายอันตรายคนนี้ด้วยความกระวนกระวายใจ หลังจากที่ได้ยินว่าไว้พบกันใหม่ เธอก็รีบเดินจากไป สลัดผู้ชายคนนั้นทิ้งไปทันที ก่อนจะออกจากสนามประลองหุ่นรบอย่างรวดเร็ว
ผู้ชายคนนี้พูดด้วยความกลัดกลุ้มว่า “ตอนนี้ฉันดูแก่มากจริงๆ หรือไง? เรียกฉันว่าพี่ชายเนี่ยนะ?…” ชายที่อารมณ์ไม่ดีมากนักตัดสินใจออกจากสนามประลองทันที หลังจากนั้นก็ออกไปจากโลกเสมือนจริง
……………………………………..