I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 42 ล่าอาหารและถูกล่า
ยามรุ่งสาง เมื่อแสงอาทิตย์แรกส่องเข้ามาในป่าทึบที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้มอบความอบอุ่นของมันมาให้ โลกสีเขียวที่เดิมทีเงียบงันก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง สิ่งมีชีวิตต่างๆ ภายในป่าทยอยกันคลานออกมาจากรังของพวกมันและเริ่มต้นวิถีชีวิตวันใหม่ของพวกมัน นั่นก็คือล่าอาหารและถูกล่า
บนพื้นมีสัตว์ตัวน้อยผิวย่นที่ไม่รู้จักชื่อตัวหนึ่งกำลังแอบเข้าไปยังพื้นที่เป้าหมายของตัวเองอย่างเงียบเชียบ มันตัวเล็กมาก มีขนาดตัวใหญ่เพียงกำปั้นสองมือของผู้ใหญ่เท่านั้น ทว่ามันกลับลากหางแบนๆ ที่มีความยาวเท่ากับร่างกายของมันสองตัว
มันจำเป็นต้องระมัดระวัง เพราะว่าสัตว์แปดสิบเปอร์เซ็นต์ในป่าแห่งนี้ต่างก็สามารถฆ่ามันได้ง่ายๆ คุณภาพเนื้อของมันดีมาก ถึงแม้ว่าจะตัวเล็กไม่มีเนื้อมากเท่าไร แต่ว่าสัตว์ที่แข็งแกร่งมากมายต่างไม่ถือสาที่จะคว้าสักตัวมาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยในการทานอาหารอย่างอิ่มหมีพีมัน
เป้าหมายสุดท้ายของมันคือพื้นที่ต่ำที่มีน้ำตื้นเขินแห่งนั้น นี่เป็นหนองน้ำซึ่งเหมาะสมกับการดำรงชีวิตของมันมาก เนื่องจากน้ำหนักตัวกับรูปลักษณ์ภายนอกของมันสามารถทำให้มันเดินอยู่ในพื้นที่หนองน้ำแห่งนี้ได้อย่างอิสระและไม่จมลงไป นอกจากพวกสัตว์ที่แข็งแกร่งซึ่งดำรงชีวิตอยู่ในหนองน้ำตามธรรมชาติแล้ว สัตว์ตัวอื่นๆ จะเข้ามาที่นี่ไม่ได้เลย นี่จึงทำให้มันปลอดภัยมากขึ้น
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ที่นี่มีอาหารของมัน นี่ก็เป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดที่มันอยากแอบเข้ามา เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ มันก็แทบน้ำลายสอ ปลาในหนองน้ำอร่อยมากเกินไปจริงๆ นั่นแหละ
ในที่สุด มันก็แอบเข้ามาถึงพื้นที่เป้าหมายได้สำเร็จโดยสวัสดิภาพ
เวลานี้เอง ปลาที่มีความยาวเท่านิ้วมือนับไม่ถ้วนในหนองน้ำกำลังแหวกว่ายจากหนองน้ำนี้ไปยังหนองน้ำอีกแห่งตามใจชอบอย่างเริงร่า เนื่องจากภายในหนองน้ำทุกแห่งต่างมีกระแสน้ำเล็กๆ เชื่อมต่อกันมากมายเหลือคณานับ ถึงแม้ว่ามันไม่สามารถให้ปลาที่มีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ว่ายผ่านไปได้ แต่มันก็ไม่สามารถขัดขวางปลาตัวเล็กพวกนี้ได้ พวกมันกำลังกัดวัชพืชในหนองน้ำอย่างตะกละตะกลามโดยที่ไม่รู้ว่าศัตรูตามธรรมชาติของพวกมันมาถึงแล้วและกำลังเตรียมตัวจะใช้พวกมันเสวยสุขเพื่อเติมเต็มความหิวกระหาย
สัตว์ตัวน้อยผิวย่นมาถึงหนองน้ำแล้วก็พุ่งเข้าไปในหนองน้ำอย่างฉับไว ปลาหนีกระเจิดกระเจิงด้วยความตื่นตระหนก แต่พวกมันตกใจจนไม่เลือกทางทำให้ว่ายไปถึงทางตัน สุดท้ายก็ได้แต่ถูกสัตว์ตัวน้อยผิวย่นที่ปราดเปรียวว่องไวกินเข้าไป
มันกินปลาตัวน้อยในหนองน้ำนี้แล้วก็คลานออกมาจากในหนองน้ำก่อนจะสะบัดตัว ทำให้หยดน้ำที่แต่เดิมยังปกคลุมผิวหนังของมันไม่เหลือเลยสักหยด และกลับมาสะอาดสะอ้านเหมือนในตอนแรก
มันพักผ่อนอยู่ครู่หนึ่ง อันที่จริงการล่าอาหารไม่ได้ง่ายเลย การกระทำดูเหมือนง่ายมาก แต่ความจริงแล้วมันใช้พลังกายไปมาก ทว่าต่อให้พักผ่อนสักพัก มันก็ยังมองไปรอบด้านด้วยความระมัดระวัง เกรงกลัวว่าจะมีศัตรูที่แข็งแกร่งปรากฏตัวขึ้นมาและกินมันเข้าไป
ไม่นานมันก็ฟื้นฟูกำลังกายกลับคืนสู่สภาพดีที่สุดก่อนจะแอบเข้าไปที่หนองน้ำต่อไป…
อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าภายในหนองน้ำไม่ห่างจากมันมีดวงตามืดมนเย็นเยียบคู่หนึ่งที่จับจ้องมันอยู่นานแล้ว และกำลังเตรียมตัวลอบโจมตีในตอนที่มันลงมือล่าเหยื่อครั้งต่อไป
ตอนที่มันกระโจนเข้าไปในหนองน้ำอีกครั้งเพื่อหวังจะกินปลา เจ้าของดวงตามืดมนเย็นเยียบที่อยู่ไม่ไกลก็เคลื่อนไหว จากนั้นก็เห็นเพียงสายสีดำหนาๆ พุ่งแฉลบผ่านไปที่หนองน้ำฝั่งนี้ แล้วสัตว์ตัวน้อยผิวย่นก็หายตัวไป มีเพียงเสียงกระแทกหนองน้ำดังก้องกังวาลเท่านั้น งูน้ำที่หนาเท่าแขนของผู้ใหญ่ปรากฏตัวขึ้นในหนองน้ำแห่งนี้ มันขดตัวเป็นวงกลม ดูจากลักษณะแล้วมันมีความยาวมากกว่าสามเมตร
ในปากของงูมีหางแบนๆ ของสัตว์ตัวน้อยผิวย่นกำลังสะบัดสุดชีวิต ทว่ามันก็ไม่มีกำลังพลิกสถานการณ์อีกต่อไป มันค่อยๆ ถูกกลืนลงไปในท้องงูน้ำทีละน้อยจนในที่สุดก็หายไป
งูน้ำเงยศีรษะ รอให้อาหารเข้าไปในท้องตัวเองจนหมด ในขณะนี้เองจู่ๆ ก็มีปากขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาที่ข้างกายมัน ฟันอันแหลมคมเปล่งแสงเย็นเยียบออกมา ก่อนจะกัดแน่นลงไปตรงเจ็ดนิ้วนับจากหัวของมัน[1] ในตอนที่งูน้ำยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนอง
งูน้ำไม่ยอมตายไปแบบนี้แน่นอน ก่อนหน้าที่มันจะเผชิญหน้ากับความตาย ร่างกายที่ยาวสามเมตรกว่ารัดอีกฝ่ายอย่างตรึงแน่นพยายามให้ฝ่ายตรงข้ามตายตกตามกัน แต่น่าเสียดายที่มันถูกกัดจุดสำคัญ ไม่อาจยืนหยัดได้นานก็สิ้นใจ ร่างกายก็คลายตัวออกช้าๆ
เวลานี้เองสิ่งมีชีวิตตัวใหญ่ที่อยู่ด้านข้างก็คลานออกมาจากในหนองน้ำ ทั่วทั้งร่างกายของมันเหมือนกับจระเข้ในโลกมาก ทว่ามันมีขนาดใหญ่กว่าร่างกายของจระเข้ นอกจากนี้แขนขาทั้งสี่ของมันก็ใหญ่และหนากว่าจระเข้ด้วยเช่นกัน
มันเป็นราชาของหนองน้ำแห่งนี้ อาหารที่ชอบที่สุดย่อมเป็นงูน้ำที่มีความเร็วสุดขีดและเชี่ยวชาญในการหลบซ่อน อย่างไรก็ตาม งูน้ำจับตัวได้ยากมาก เมื่อพบร่างของมันก็จะหลบหนีไปในชั่วพริบตา สุดท้ายเมื่อพุ่งเข้าไปในหนองน้ำก็หาตัวมันไม่พบอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นมันเลยได้แต่อดทนอำพรางตัวเฝ้ารอ มันอดทนรอหนึ่งวันหนึ่งคืน ในที่สุดก็ได้สินสงครามของมัน วันนี้มันกินอิ่มได้หนึ่งมื้อแล้ว
มันเงยหน้าอ้าปากกว้างปล่อยให้งูยักษ์ที่ยาวสามเมตรตัวนี้เข้าไปในปากก่อนจะเคี้ยวให้แหลกและกลืนเข้าไปช้าๆ ในตอนที่มันกินเข้าไปได้ครึ่งเดียวและยังมีร่างงูอีกครึ่งหนึ่งที่ส่ายสะบัดอยู่นอกปาก ขอบตาของมันก็พลันจับจ้องไปที่บนฟ้าซึ่งมีเงาดำสายหนึ่งร่วงลงใส่มันอย่างรวดเร็ว
บ้าเอ๊ย ตัวอะไรมารบกวนการกินของราชาหนองน้ำอย่างฉันคนนี้ มันไม่เคยคิดปัญหาเรื่องการซุ่มโจมตีเลย มันเป็นจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารในที่ดินผืนนี้ ไม่มีสิ่งมีชีวิตหน้าไหนกล้าวางแผนทำร้ายมัน…
มันยังไม่ทันจะมองได้ชัดๆ ก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ซึมลึกลงไปถึงไขกระดูกจากปากของมันและไหลผ่านไปทั่วร่างกาย มันส่งเสียงคำรามด้วยความเดือดดาล นี่แสดงถึงความโกรธเกรี้ยวของมัน โมโหที่มีสิ่งมีชีวิตมีตาหามีแววไม่พยายามจะทำร้ายมัน มันอยากจะใช้ฟันแหลมคมของตัวเองกัดสิ่งมีชีวิตตัวนั้นให้แหลกเป็นชิ้นๆ แต่มันก็พบว่าไม่สามารถหุบปากตัวเองได้แล้ว
ไม่สิ ไม่ใช่หุบปากไม่ได้ หากแต่ในปากของมันมีไม้ท่อนหนึ่งสอดเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มันอยากจะสลัดท่อนไม้ในปากทิ้ง จากนั้นก็พบว่าร่างกายของมันขยับเขยื้อนไม่ได้แล้ว
ใช่แล้ว มันเหมือนกับถูกสะกดไว้ก็ไม่ปาน นอกจากแขนขาทั้งสี่ที่กำลังดิ้นรนกวัดแกว่งแล้ว ส่วนอื่นๆ ขยับเขยื้อนไม่ได้เลย มันไม่รู้ว่านี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ความโกรธเกรี้ยวในใจยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มันอยากจะกู่ร้องด้วยความเดือดดาล แต่ก็พบว่าแม้กระทั่งเสียงคำรามด้วยความโมโหก็ไม่สามารถเปล่งออกมาได้เช่นกัน มันรู้ตัวอีกทีก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ร่างกายตั้งแต่ข้างบนจนถึงข้างล่างปวดร้าวจนไม่อาจทานทน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ยุ่งยากจริงๆ” หลังจากเสียงนี้ดังขึ้นก็มีบางสิ่งที่ตัวเล็กอ่อนแอสุดขีดปรากฏตัวขึ้นอยู่บนยอดศีรษะของมัน หลังจากนั้นความทรงจำสุดท้ายก็คือ สิ่งมีชีวิตตัวนั้นยกเท้าที่ผอมบางของมันขึ้นมาและเตะลงมาที่ยอดศีรษะของมันอย่างหนักหน่วง
หลิงหลานชักเท้าของเธอออกมาจากศีรษะของราชาหนองน้ำโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนเลย เธอไม่สนใจดูการดิ้นรนเมื่อเผชิญหน้ากับความตายของเจ้าตัวนี้ ดังนั้นก็เลยแสดงความเมตตากระทืบกะโหลกของมันจนแตกเพื่อส่งมันไปสวรรค์โดยที่ไม่ให้มันทนทุกข์ทรมาน
พอเห็นสมองสีขาวเต็มรองเท้าก็ไม่ได้รู้สึกขยะแขยงเหมือนในตอนแรกอีกต่อไป เวลานี้หลิงหลานแผ่กลิ่นอายปีศาจไปทั่วทั้งร่าง เป็นเหมือนกับราชันแห่งผืนป่า ไม่ได้ดูขี้ขลาดและอ่อนแอเหมือนกับในตอนแรกอีกต่อไป
แน่นอนว่าอาศัยความสามารถของหลิงหลานในตอนนี้ หากคิดอยากจะสู้ตัวต่อตัวกับเจ้าตัวนี้ในหนองน้ำก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจทำได้ เนื้อหนังด้านนอกของเจ้าตัวนี้แข็งดั่งเหล็กกล้า หลิงหลานไม่มีอาวุธที่สามารถแทงทะลุผิวหนังของมันได้เลย ผิวหนังนี้ทำให้มันสามารถต้านทานแรงรัดที่งูน้ำโจมตีกลับมาตอนที่เผชิญหน้ากับความตายได้ ทว่าสิ่งมีชีวิตทุกประเภทต่างก็มีจุดอ่อนของมัน ราชาแห่งหนองน้ำตัวนี้ก็มีเช่นกัน
ภายในตัวราชันแห่งหนองน้ำเปราะบางมาก ดังนั้นปกติแล้วราชาแห่งหนองน้ำจะไม่อ้าปาก เนื่องจากมีเพียงช่องทางเดียวที่สามารถโจมตีใส่ภายในตัวมันได้ นั่นก็คือปากของมัน เพราะฉะนั้นหลิงหลานถึงได้แอบซ่อนอยู่ในหนองน้ำ รอคอยการล่าเหยื่อของราชาแห่งหนองน้ำ หลังจากนั้นก็ฉวยโอกาสตอนที่มันกินเหยื่อในชั่วพริบตานั้น ใช้ต้นไม้เล็กๆ ที่เธอตัดลงมาเสียบเข้าไปในปากมันจากด้านบนจนทะลุไปถึงส่วนหาง โจมตีทีเดียวจอด
หลิงหลานทำจนถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากเธอมีปัญหาเรื่องสภาวะอารมณ์อยู่หลายครั้ง เลยถูกราชาแห่งหนองน้ำจับสังเกตจิตสังหารของเธอได้และหลบหลีกในช่วงเวลาสุดท้าย ทำให้เธอพลาดโอกาสสังหารมัน ด้วยเหตุนี้เองหลิงหลายเลยจ่ายค่าตอบแทนของความตายอยู่หลายครั้ง ท้ายที่สุดเธอค่อยเรียนรู้ความสามารถว่าจะล่าเหยื่อโดยสมบูรณ์แบบได้อย่างไร ความยากลำบากในระหว่างนั้นมีมากมายจนเขียนไม่หมดจริงๆ
…………………………………………….
[1] เจ็ดนิ้วนับจากหัว มาจากสำนวนที่ว่าตีงูต้องตีที่เจ็ดนิ้วนับจากหัว ซึ่งเป็นจุดอ่อน จุดตาย