Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 147 ข้อตกลงใต้โต๊ะ
ตอนที่ 147 ข้อตกลงใต้โต๊ะ
ลมหนาวและเกล็ดหิมะเหมือนดังคมมีด กําลังตัดไปทางใบหน้าเซี่ยวเฉิน มันเจ็บปวดจนไม่น่าเชื่อ เซี่ยวเฉินอดไม่ได้ที่จะหรี่ตา ป้องกันไม่ให้เกล็ดหิมะเข้ามาใกล้
“ฟิ่ว!”
จิตสังหารอันเข้มข้นและหนาวเหน็บจับไปที่เซี่ยวเฉิน เส้นสายน้ำแข็งแวววับถูกยิงออกมาจากปากลิงน้ำแข็ง เส้นสายน้ำแข็งถูกบีบอัดเป็นอย่างหนาแน่นจนกลายเป็นเข็มอันประณีต
เซี่ยวเฉินรู้สึกถึงลางแห่งความตาย ขณะนั้น เขาต้องการที่จะนําระฆังจักรพรรดิตะวันออกออกมา อย่างไรก็ตาม เขานึกถึงเรื่องที่สงสัยก่อนหน้านี้ และไม่ได้ใช้ในที่สุด
“โล่อัสนีสวรรค์!”
แสงกระแสไฟฟ้ากระพริบรอบตัวเซียวเฉินในขณะที่โล่ห์สายฟ้าล้อมรอบตัวเซี่ยวเฉินเป็นรูปร่าง 2 อย่างไรก็ตาม เส้นสายน้ำแข็งที่หนาแน่นราวกับเข็มเจาะผ่านโล่อัสนีสวร รค์ได้โดยตรงทิ้งหลุมขนาดเล็กที่ใช้ตาเปล่ามองไม่เห็นเอาไว้
โล่อัสนีสวรรค์ค่อยๆหายไป เลือดพุ่งออกมาจากหน้าอกของเซี่ยวเฉิน เซี่ยวเฉินมองไปที่บาดแผลอย่างประหลาดใจ เส้นสายน้ำแข็งเล็กมาก เมื่อมันเจาะผ่านไปในร่า งกายของเขา เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้แต่น้อย
บาดแผลบนหน้าอกของเขาเล็กจนไม่น่าเชื่อ แต่เลือดไหลออกมาอย่างกับก๊อกน้ำแตกพุ่งออกมาอย่างรุนแรง
เซี่ยวเฉินกลายเป็นหน้าซีดและคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ค่ำตัวเองด้วยกระบี่เงาจันทร์ เขานําเม็ดยาหวนคืนโลหิตออกมาและกลืนลงไปทันที จากนั้นหยิบเม็ดยาหวนคืนโลหิตอีกเม็ดออกมา และบดมันก่อนที่จะโรยไปที่บาดแผล
อย่างไรก็ตาม มันเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเม็ดยาหวนคืนโลหิตไม่ได้ผลในเวลานี้ มีพลังฉีเยือกแข็งวนเวียนอยู่บริเวณบาดแผลในหน้าอกของเขา ขัดขวางร่างกายไม่ให้มันฟื้นตัวกลับมา
ดูเหมือนว่าลิงน้ำแข็งจะใช้พลังทั้งหมดของมันเมื่อยิงเส้นสายน้ำแข็งออกไป มันยืนอยู่ตําแหน่งเดิมและพักเป็นเวลานาน เพียงแค่หลังจากที่มันฟื้นฟู และกระโดดขึ้นไปบนอากาศด้วยขาทั้งสี่ข้าง พุ่งไปที่เซี่ยวเฉินจากอากาศ
ใบหน้าซีดเซียวของเซี่ยวเฉินเผยให้เห็นท่าทางที่มั่นคง เขาขว้างรูปสลักทองคําออกไป และราชันย์สิงโตทองคําก็ปรากฏตัวขึ้นมาจากความว่างเปล่า สิ่งมีชีวิตขนาดเท่าภู เขาขนาดเล็กตรึงลิงน้ำแข็งเอาไว้บนพื้นดิน
ราชันย์สิงโตทองคําใช้ขาหน้าอันยิ่งใหญ่ของมันเหยียบย่ำ ลงไปบนลิงน้ำแข็งตัวใหญ่ ลิงน้ำแข็งดิ้นรนอย่างต่อเนื่อง จากนั้นไม่นาน ในที่สุดลิงน้ำแข็งก็หยุดดิ้นรน
เซี่ยวเฉินแพร่เส้นใยสัมผัสวิญญาณออกมา ถอนลมหายใจออกมาหลังจากยืนยันได้ว่ามันตายแล้ว บาดแผลที่หน้าอกของเขาตอนนี้เลือดออกช้าลง หลังจากใช้ยาเม็ดหวนคืนโลหิต มันก็ฟื้นฟูทีละเล็กน้อย บาดแผลไม่ได้เลวร้ายเหมือนก่อนหน้า
เซี่ยวเฉินฉีกผ้าออกมาผืนหนึ่งจากเสื้อผ้าของเขา และพันเอาไว้รอบบาดแผล จากนั้นเขาเดินไปด้านข้างของลิงน้ำแข็ง
เห็นลิงน้ำแข็งที่เต็มไปด้วยบาดแผล เซี่ยวเฉินเอามีดคมออกมา และตัดร่างกายของมันจากด้านข้าง เขาพบว่าอวัยวะภายในของมันเสียหายหนักเป็นอย่างมาก มันแม้กระ ทั่งมีเศษกระแสไฟฟ้า
“ดูเหมือนว่าสาเหตุที่ทําให้มันตายอย่างแท้จริงเป็นผลมาจากยันต์คุณสมบัติสายฟ้าระดับสามสิบกว่าอัน” เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างไม่สนใจก่อนที่จะนําแก่นวิญญาณคุณสมบัติน้ำแข็งคุณภาพสูงสุดออกมา
ในขณะนั้น มีเสียงลมประทุขึ้นมา ฉีดาบอันเจิดจรัสพุ่งตรงไปทางเซี่ยวเฉินอย่างรุนแรง
เซี่ยวเฉินรีบเก็บแก่นวิญญาณเข้าไปในแหวนจักรวาล และหัวเราะกับตนเองอย่างไม่ใส่ใจในที่สุดเจ้าก็เคลื่อนไหว
แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะตรวจสอบบริเวณโดยรอบหลายครั้งด้วยสัมผัสวิญญาณ แต่เขาไม่พบใครติดตามเขามาถึง เช่นนั้น เซี่ยวเฉินยังคงคอยระวัง เขารู้ว่ามีใครบางคํากําลัง สะกดรอยตามเขาอยู่แน่นอน
ดังนั้น ในช่วงสําคัญของการต่อสู้กับลิงน้ำแข็ง เขาได้เก็บไพ่ตายบางชิ้นเอาไว้ หากในช่วงเวลาสุดท้ายมันไม่เลวร้ายมากเกินไป เขาคงไม่ได้ใช้ราชันย์สิงโตทองคํา
“แต๊ง!”
ระฆังจักรพรรดิตะวันออกดังขึ้นอย่างอ่อนโยน และลอยออกมาจากร่างกายของเซี่ยวเฉิน มันลอยอยู่เหนือหัวของเซี่ยวเฉินขณะที่ปล่อยพลังฉีสีเหลืองเข้มลงมา ฉีดาบที่มาจากด้านหลังของเขาถูกหยุดลง และหายไปจนไม่เหลืออะไร
เซี่ยวเฉินกระโดดขึ้นไปบนหัวของราชันย์สิงโตทองคํา และเฝ้ามองคนที่ใกล้เข้ามาอย่างเงียบเชียบ ชายชราเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า
นี่คือขอบเขตนักบุญที่หัวหน้าตระกูลจางให้คําสั่งกับเขา เขาถูกเรียกว่าฉางสุน เป็นแขกอาวุโสคนแรกของตระกูลจางแห่งเมืองหยุนหยาง เขามีการบ่มเพาะถึงระดับนักบุญขั้นกลาง
หลังจากที่ผู้บ่มเพาะบ่มเพาะพลังถึงระดับนักบุญ ทุกการเพิ่มขึ้นทุกขอบเขตจะทําให้ได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นหลายเท่า ขอบเขตนักบุญระดับกลางสามารถต่อสู้กับขอบเขตนักบุญระดับต้นนับสิบคนได้อย่างสูสี
เมื่อฉางสุนเห็นระฆังจักรพรรดิตะวันออกอยู่เหนือหัวของเซี่ยวเฉิน และมองเห็นราชันย์สิงโตทองคําขนาดใหญ่ยืนอยู่ การแสดงออกของเขาเปลี่ยนเป็นระมัดระวัง ระหว่างทางชายหนุ่มผู้นี้มอบความประหลาดใจให้กับเขาหลายครั้ง
หากเขาไม่ได้ฝึกฝนทักษะที่ทําให้เขาเก็บซ่อนออร่าของเขาได้ล่ะก็ เขาจะต้องถูกชายหนุ่มผู้นี้พบตัวหลายครั้งหลายหนแล้ว เมื่อเขาเห็นเซี่ยวเฉินอัญเชิญราชันย์สิงโต ทองคํา เขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก เขาไม่คาดคิดว่าเซี่ยวเฉินจะมีสมบัติลับป้องกันอันแข็งแกร่งชิ้นอื่นอยู่อีก
“นี่คือไพ่ตายของเจ้า?”
เสียงของเขาแผ่วเบามากแต่ชัดเจน เขายืนเงียบอยู่ในตําแหน่งเดิมที่เขายืน ออร่าอันพุ่งพล่านถูกปล่อยออกมาตามธรรมชาติ แม้จะมีระฆังจักรพรรดิตะวันออก และราชันย์สิงโตทองคํา เซี่ยวเฉินก็ไม่กล้าประมาท
“ชิ่ว!”
เมื่อดวลกันในเรื่องออร่า แน่นอนว่าเซี่ยวเฉินจะต้องเสียเปรียบ เซี่ยวเฉินไม่ต้องการเสียเวลามากเกินไปในการต่อสู้กับเขา เพียงแค่ความคิด ราชันย์สิงโตทองคําพ่นเพลิง ทองคําไปทางฉางสุน
“ฉึบ!” คลื่นฉีดาบตัดผ่านออกไป และเพลิงทองคําถูกแบ่งเป็นสองส่วน ลอยไปทั้งสองด้าน “ฟุ่บบ!” ร่างกายของฉางสุนหายไป และปรากฏตัวขึ้นด้านข้างของเซี่ยวเฉินเหมือนวิญญาณ ดาบของเขาเป็นประกายแสง และปรากฏอยู่เบื้องหน้าสายตาของเซี่ยวเฉิน
“แต๊ง!”
เส้นสายฉีสีเหลืองเข้มลอยลงมาจากระฆังจักรพรรดิตะวันออกด้านบน ก่อนที่เซี่ยวเฉินจะตอบสนอง มันได้ป้องกันดาบด้วยตัวของมันเอง
“แต็ง! แต็ง! แต็ง!” ในชั่วพริบตา ฉางสุนส่งการโจมตีดาบออกไปหลายร้อยครั้ง ความเร็วของเขาเพิ่มถึงจุดสูงสุด แต่มันถูกป้องกันโดยฉีสีเหลืองเข้มที่มาจากระฆังจักรพรรดิตะวันออกทุกครั้ง
ระฆังจักรพรรดิตะวันออกถูกกล่าวว่ามันเป็นชื่อสมบัติลับ ป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าพันธุ์มนุษย์ แม้ว่าสัญลักษณ์ค่ายกลของมันจะได้รับความเสียหายอย่างสมบูรณ์ มันก็ยังคงทรงพลังอํานาจ เซี่ยวเฉินเผยท่าทางที่สงบในขณะที่เขาคํารามออกมาเสียงเบา
“แต็ง! แต็ง!”
ระฆังจักรพรรดิตะวันออกส่งเสียงดังออกมายาว เหมือนกับเสียงระฆังอันไม่ชัดเจน คลื่นเล็กๆกระจายออกไปโดยรอบ ฉางสุนกระเด็นลอยออกไปด้วยระลอกคลื่นเล็กๆ
เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น เซี่ยวเฉินรู้สึกเวียนหัว เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ เขารีบหยุดเสียงยาวของระฆัง อาวุธลับที่เสียหายไม่สามารถใช้อย่างปกติได้อย่างสิ้นเชิง
เซี่ยวเฉินควบคุมราชันย์สิงโตทองคํากระโดดขึ้นไปในอากาศ เมื่อร่างขนาดเท่าภูเขาขนาดเล็กลงมาที่พื้นก็กดลงไปที่ฉางสุนจนพื้นดินสันไหว
ฉางสุนเคลื่อนไหวรวดเร็วเป็นอย่างมากและเปลี่ยนท่าทางของร่างกายอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขาหลบการโจมตี เขายิงฉีดาบอันเจิดจรัสไปที่เซี่ยวเฉินอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินเป็นผู้ที่ครอบครองระฆังจักรพรรดิตะวันออกที่แทบจะไม่มีทางพ่ายแพ้กระแสของฉีสีเหลืองเข้มลอยลงมาจากเบื้องบน ป้องกันการโจมตีทั้งหมดที่เข้ามาหาเขา
“ผ่าแยกภูผา!”
ทันใดนั้น ฉางสุนตะโกนออกมา และรูปลักษณ์ดาบของเขาก็กลายเป็นธรรมดา ทักษะต่อสู้ระดับปฐพี่เจาะไปที่ฉีสีเหลืองเข้ม
ด้วยทักษะต่อสู้ระดับปฐพี่ถูกใช้ออกด้วยขอบเขตนักบุญระดับกลาง มันทรงพลังกว่าหัตถ์จับมังกรของเซี่ยวเฉินมากมายนัก นอกจากนี้พลังทั้งหมดของมันยังพุ่งไปยังจุดเดียว
ระรอกคลื่นปรากฏบนฉีสีเหลืองเข้มขณะที่พลังโจมตีอันยิ่งใหญ่เข้าปะทะกัน เซี่ยวเฉินถูกบังคับให้ถอยกลับไปสองสามก้าวในขณะที่อยู่บนหลังของราชันย์สิงโตทองคําก่อนที่เขาจะทรงตัวได้
เซี่ยวเฉินประหลาดใจ เปลวเพลิงในดวงตาขวาของเขาสั่นไหว และเพลิงสีม่วงก็พุ่งออกมา เพลิงโคจรไปโดยรอบ และกลายเป็นพายุหมุน หมุนไปอย่างต่อเนื่อง
ฉางสุนกางแขนออกมา และถอยกลับอย่างรวดเร็ว หลบเลี่ยงเพลิงสีม่วงที่กําลังหมุนวนอยู่ในทันที ในขณะที่เขาค่อยๆลงบนพื้น เขามองไปที่ระฆังจักรพรรดิตะวันออกเหนือศีรษะของเซี่ยวเฉิน เขาใช้ความคิดเป็นอย่างมาก แต่เขาไม่สามารถเข้าใจอะไรได้เลย
ด้วยการควบคุมระฆังจักรพรรดิตะวันออก และราชันย์สิงโตทองคําในเวลาเดียวกัน พลังปราณในตัวของเซียวเฉินไหลออกไปอย่างรวดเร็ว ไหลออกมาไม่หยุดยั้ง เซี่ยวเฉินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล
“พรึบ!” ไม่รู้ว่าทําไมแต่แต่ระฆังจักรพรรดิตะวันออกเหนือหัวของเขามันกลายเป็นหดตัวและกลับเป็นขนาดเล็ก เป็นระฆังทองแดงที่สวยงาม หลังจากนั้น มันก็ตกไปในมือของเซี่ยวเฉิน
เกิดอะไรขึ้น? เซี่ยวเฉินกลายเป็นมึนงง ข้าได้ซ่อมแซมมันแล้วอย่างแน่นอน มีเพียงแค่สัญลักษณ์ค่ายกลเท่านั้นที่ยังไม่ถูกฟื้นฟูจนสมบูรณ์ แถมข้ายังได้ใส่สัญลักษณ์ของตนเข้าไปแล้ว ทําไมข้ายังไม่สามารถใช้มันในระยะเวลานานได้?
ประกายแวววาวปรากฏในดวงตาของฉางชุน เขาเคลื่อนไหวอีกครั้ง และแสงดาบก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนที่จะผ่าลงมาทางเซี่ยวเฉิน
สถานการณ์เลวร้ายมาก ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เซียวเฉินจะคิดเรื่องนี้ เสียงฟ้าร้องดังขึ้นในท้องฟ้า เซี่ยวเฉินใช้ออกด้วยการวาดกระบี่ของทักษะกระบีสายฟ้าฉับพลัน กระบี่ระเบิดออกมาด้วยประกายสายฟ้า ปะทะเข้ากับแสงของดาบ
“ปัง!”
ร่างของเซี่ยวเฉินกระเด็นไปด้านหลัง และตกลงบนพื้นอย่างแรง จากนั้นเขาก็กลิ้งไปบนพื้นอย่างต่อเนื่อง บาดแผลที่หน้าอกเปิดออก มันเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
มันไม่มีโอกาสอีกแล้ว ปรมาจารย์ยุทธ์ระดับต่ำท้าทายขอบเขตนักบุญระดับกลางมันเป็นเพียงแค่การแสวงหาความตาย เซี่ยวเฉินนอนอยู่บนพื้นกําลังยิ้มขมขื่นให้กับตนเอง ตอนแรกข้าคิดว่าด้วยระฆังจักรพรรดิตะวันออกและราชันย์สิงโตทองคํา มันน่าจะมีโอกาสชนะ
หลังจากการต่อสู้เขาก็ตระหนักถึงความผิดพลาดของเขา ความเร็วของศัตรูรวดเร็วกว่าเขาเป็นอย่างมาก ราชันย์สิงโตทองคําไม่แม้แต่จะสัมผัสเขาได้ เพียงแค่เรื่องนี้ เขาก็ไม่สานะอีกฝ่ายได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม การได้รู้ว่ามีใครบางคนไล่ตามเขาอยู่ จุดประสงค์ของเขาก็สําเร็จแล้ว เซี่ยวเฉินคิดกับตนเอง คนผู้นี้ไม่ได้พกเหรียญแสดงตัวตนของเมืองกระบี่
สิ่งที่สําคัญที่สุดคือคนผู้นี้ใช้ดาบที่จะกล่าวก็คือ คนผู้นี้ไม่ได้ถูกส่งมาโดยเก่อหยุนปิน อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
“บ้าคลั่งไปเลย!”
เซี่ยวเฉินออกคําสั่งในใจ ทันใดนั้นราชันย์สิงโตทองคําก็ปลดปล่อยออร่ามุ่งร้ายอันไร้ขอบเขตออกมา ความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างมาก มันสายไปสําหรับฉางสุนที่จะป้องกันหลังจากไล่ตามเซี่ยวเฉิน
“อัสนีร่วงหล่น!”
เซี่ยวเฉินใช้หินวิญญาณระดับต่ําอีกชิ้น พลังปราณของเขาถูกเติมเต็มในทันที ก่อนที่เขาจะจากไป เขาเรียกอัสนีร่วงหล่นลงมาขัดขวางฉางสุนอย่างต่อเนื่อง
ความรุนแรงของอัสนีร่วงรุ่นสามารถพิจารณาได้ว่าเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วสําหรับขอบเขตนักบุญระดับกลาง อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีและทําให้เขา เจ็บปวดได้ เขาตอนนี้กําลังยุ่งกับการต่อสู้กับราชันย์สิงโตทองคํา
เขาไม่มีเวลาพอที่จะหลบเส้นสายฟ้า ไม่นานเขาก็ถูกฟ้าผ่าอีกหลายครั้ง ผิวของเขาเปลี่ยนเป็นสีดํา และเส้นขนทั้งหมดบนร่างกายของเขาก็ชูชันขึ้นจนหมด เขาดูเหมือนอยู่ ในสภาพที่น่าอนาถเป็นอย่างมาก
ฉางสุนหงุดหงิดจนเขาเดือดด้วยความโกรธ อย่างไรก็ตาม เขาทําอะไรกับเซี่ยวเฉินไม่ได้ ความเร็วของราชันย์สิงโตทองคําขนาดใหญ่ตัวนี้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เกาะติดเขาเอาไว้อย่างแน่นหนา เขาไม่มีความสามารถอะไรที่จะจัดการกับเซี่ยวเฉิน
“เวลาใกล้จะหมดแล้ว ราชันย์สิงโตทองคําที่บ้าคลั่งอยู่ได้อีกไม่นาน” เซี่ยวเฉินยิ้มเล็กน้อย เรือสงครามเงินปรากฏและเขากระโดดขึ้นไปบนเรือจากไปอย่างสง่างาม
ก่อนที่เขาจะจากไป เขามองไปที่ราชันย์สิงโตทองคํา เขารู้สึกเสียดาย หลังจากราชันย์สิงโตทองคําบ้าคลั่ง มันก็ไม่มีทางที่จะใช้มันได้อีกครั้ง มันเป็นเรื่องยากอย่างมากที่จะหาวัตถุดิบมีคุณภาพที่ใช้แกะสลัก
ย้อนกลับไปในเมืองกระบี่ เซี่ยวเฉินกลับไปที่ลานที่พักของเขา และนั่งลงไขว้ขวา เขาโคจรทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง
บาดแผลขนาดเล็กบนหน้าอกของเขายังไม่หายดี มีฉีเยือกแข็งกําลังขัดขวางการฟื้นฟู หากเขาไม่สามารถสลายฉีเยื่อกแข็ง เซี่ยวเฉินจะตายเพราะการเสียเลือดมากเกินไปในไม่ช้า